Lahat ng Kabanata ng คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว: Kabanata 51 - Kabanata 60

หลังจากตื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็ออกจากบ้านไปทำงานตามปกติตอนเที่ยง ขณะที่เธอกำลังทานอาหารอยู่ เฟิงจิ่งซินก็โทรเข้ามานี่เป็นครั้งแรกที่เฟิงจิ่งซินโทรหาเธอหลังจากแอบหนีออกจากรีสอร์ตบ่อน้ำพุร้อนหรงฉือกดรับสาย“คุณแม่…”“อืม” หรงฉือตอบถามว่า “ทานข้าวหรือยังจ๊ะ?”“เพิ่งทานเสร็จค่ะ!”เช้าวันนั้นที่บ่อน้ำพุร้อน เฟิงจิ่งซินได้รับโทรศัพท์จาก “น้าอู๋อู๋” บอกว่าพ่อกับน้าอู๋อู๋กำลังจะไปเที่ยวกัน และถามเธอว่าอยากไปด้วยไหม เธอจึงตอบตกลงทันทีจากนั้นก็อาศัยจังหวะที่หรงฉือไม่ทันสังเกต แอบหนีออกไปพวกเขาไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน และกลับเข้าเมืองเมื่อวานตอนบ่าย แต่เมื่อคืนพวกเขาไม่ได้กลับบ้าน ตอนมาถึงโรงเรียนเมื่อเช้า พอนึกถึงหรงฉือ เธอก็รู้สึกผิดเล็กน้อย กลัวว่าหรงฉือจะโกรธจึงโทรมาแต่เมื่อได้ยินแม่เอ่ยถามว่าเธอทานข้าวหรือยังก่อน และดูเหมือนไม่ได้โกรธที่เธอแอบออกไปวันนั้น เธอก็โล่งใจทันทีเพราะเธอรู้ว่าแม่ไม่มีทางโกรธเธอได้จริงๆ แน่นอน!แต่ช่วงหลังๆ มานี้เธอก็พบว่าแม่ไม่โทรหาเธอทุกวันเหมือนแต่ก่อน และไม่คอยถามว่าเธอไปไหนเหมือนเมื่อก่อนเธอกลับรู้สึกว่าแม่เป

เขามองไปที่หรงฉือ เมื่อได้ยินน้ำเสียงของประธานถานที่ดูเหมือนไม่ค่อยชอบหลินอู๋จึงเอ่ยถามว่า “ประธานถานบาดหมางใจกับตระกูลหลินหรือเปล่าครับ?”ประธานถานส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ก็ไม่เชิงบาดหมางใจกันหรอก เพียงแต่ว่า... ซิงอวี๋ เด็กผู้หญิงที่มีปากเสียงกับคุณหลินเมื่อคืนวานเป็นลูกสาวของเพื่อนเก่าผมเอง ผมเห็นเธอเติบโตมาตั้งแต่เด็ก ซิงอวี๋อาจนิสัยดื้อรั้นไปบ้าง แต่ไม่ใช่เด็กไร้เหตุผล”“คู่หมั้นของเธอ ก็เจ้าหนุ่มแซ่หลานคนนั้นแหละ เมื่อสองปีก่อนเขาเคยสนิทกับผู้หญิงคนหนึ่ง จนถึงขั้นว่าจะถอนหมั้นกับซิงอวี๋เลยทีเดียว แต่ต่อมาไม่รู้ผู้หญิงคนนั้นไปรู้จักกับเฟิงถิงเซินได้ยังไง แล้วก็เลิกยุ่งกับเจ้าหนุ่มหลาน…”คำพูดของประธานถานบ่งบอกเป็นนัยว่าก่อนหน้านี้หลินอู๋เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเด็กชื่อซิงอวี๋กับคู่หมั้นของเธอ แต่ต่อมาเมื่อหลินอู๋เกาะคนใหญ่คนโตได้ เธอก็ถอนตัวออกมาแต่สิ่งที่ทำให้ประธานถานไม่พอใจไม่ใช่เรื่องในอดีต ทว่าเป็นเหตุการณ์เรื่องวุ่นวายเมื่อคืนเขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “ที่จริงเพื่อนเก่าของผมกับซิงอวี๋ก็จะมาร่วมงานนิทรรศการวันนี้ด้วย แต่เพราะเรื่องเมื่อคืนที่เฟิงถิงเซินโผล่มาในงาน

จุดประสงค์ในการร่วมงานนิทรรศการเทคโนโลยีครั้งนี้ของพวกเขาก็เพื่อทำความรู้จักกับผู้คนแน่นอนว่า หลังจากเฟิงถิงเซินมาถึง พวกหลินลี่ไห่กับหลินลี่หลานก็เฝ้าสังเกตเฟิงถิงเซินในระหว่างที่ทำความรู้จักกับผู้คนเพราะพวกเขาอยากรู้ว่าเขาจะมีท่าทีอย่างไรเมื่อเห็นหรงฉือจากนั้นไม่นานพวกเขาก็พบว่าเฟิงถิงเซิน... ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลยเห็นเมื่อหรงฉือราวกับเหมือนเห็นคนแปลกหน้าคนหนึ่งและไม่แม้แต่จะเสียเวลามองเพิ่มอีกสักนิดว่ากันว่าตอนนั้นหรงฉือใช้วิธีสกปรกเพื่อบีบบังคับให้เฟิงถิงเซินแต่งงานด้วยเฟิงถิงเซินไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอเลยหลังแต่งงานก็แทบจะไม่กลับบ้านสิ่งเดียวที่เขามีให้เธอคือความรังเกียจดูเหมือนข่าวลือจะเป็นความจริงการประชุมใหญ่ของงานนิทรรศการกำลังจะเริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่จัดงานจึงประกาศให้บุคคลสำคัญของแต่ละบริษัทไปยังห้องประชุมใหญ่เพื่อเข้าร่วมการประชุมสรุปตัวแทนของบริษัทฉางโม่ที่ได้เข้าไปในห้องประชุมใหญ่คืออวี้มั่วซวินกับหรงฉือหรงฉือกับอวี้มั่วซวินเดินนำอยู่ข้างหน้าเมื่อเห็นหรงฉือก็สามารถเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ได้ พวกหลินอู๋กับหลินลี่หลานก็ตกใจมากหลินลี่หลานพูดกับหลิน

พอได้รับข่าว หลายคนก็รีบตรงไปยังแถวหน้าในทันทีแต่พอพวกที่นั่งแถวหลังๆ มาถึง หนานจื้อจือก็ถูกล้อมรอบไว้ด้วยกลุ่มคนที่นั่งแถวหน้าไปแล้วแม้หลินอู๋จะอยู่แถวหน้า แต่เธอก็ไม่ได้พูดคุยกับหนานจื้อจือ หลินลี่หลานมองเห็นดังนั้นก็รู้สึกกระวนกระวายใจ แล้วโบกมือเรียกหลินอู๋หลินอู๋เห็นแล้วก็เดินเข้าหา “คุณอา”เธอเข้าใจความหมายของหลินลี่หลานดี ดังนั้นก่อนที่หลินลี่หลานจะเอ่ยอะไร เธอก็พูดขึ้นก่อนว่า “ตอนนี้รอบๆ คุณหนานเต็มไปด้วยคนใหญ่คนโต ต่อให้หนูแทรกเข้าไปได้ก็ได้พูดกับคุณหนานแค่ไม่กี่คำ ถิงเซินบอกว่าเดี๋ยวค่อยหาโอกาสคุยกับคุณหนานแบบส่วนตัวทีหลังก็เหมือนกัน”“ก็จริง…”จากนั้นหลินลี่หลานถึงรู้ตัวว่าเธอใจร้อนเกินไปกลุ่มคนที่อยู่รายล้อมเฟิงถิงเซินล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลที่ปกติทำยังไงก็เข้าไม่ถึง หลินลี่หลานหวังให้หลินอู๋ได้รู้จักคนเหล่านี้มากขึ้นจึงผลักเธอเบาๆ เพื่อให้กลับไปตรงนั้นแต่หลินอู๋ตอบกลับด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “หนูรู้จักพวกเขาหมดแล้วค่ะ”เพราะมีเฟิงถิงเซินอยู่ด้วย บรรดาผู้มีอำนาจเหล่านั้นจึงปฏิบัติต่อเธอด้วยความสุภาพมากเช่นกันหลินลี่หลานรู้ดีว่าเฟิงถิงเซินใส่ใจหลิน

ยิ่งไปกว่านั้น หลินอู๋ก็อาจโดนผู้คนมากมายประณามได้จะเห็นได้ว่าหลินลี่ไห่ลำเอียงเข้าข้างหลินอู๋อย่างเห็นได้ชัดหลินลี่ไห่ไม่อยากมีความเกี่ยวข้องกับหรงฉือในสถานการณ์แบบนี้ แต่กับอวี้มั่วซวินคนนี้ เขากลับไม่อาจเมินเฉยได้นั่งไง เขาพาหลินอู๋กับหลินลี่หลานเดินเข้าไปหาอวี้มั่วซวินตอนที่หรงฉือไปเข้าห้องน้ำเขาแนะนำตัวเองว่า “สวัสดีครับประธานอวี้ ผมชื่อหลินลี่ไห่ เป็นพ่อของเสี่ยวอู๋... และเสี่ยวฉือ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”อวี้มั่วซวินจับมือเขาอย่างสุภาพ “ที่แท้ก็คุณหลินนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”หลินลี่ไห่มองหลินอู๋แวบหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “เสี่ยวฉือเป็นคนค่อนข้างหัวรั้น และมีความเข้าใจผิดกับเสี่ยวอู๋อยู่ ผมในฐานะพ่อก็หวังมาตลอดให้พวกเธอเข้ากันได้ดี แต่เสี่ยวฉือกลับไม่เคยยอมฟังอะไรเลย...”อวี้ม่อซวิ่นทำหน้าเหมือนเข้าใจ “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง...”“ใช่ครับ” หลินลี่ไห่ถอนหายใจก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า “แต่ถึงอย่างไร เสี่ยวฉือได้รู้จักคนที่ทั้งเก่งทั้งหล่ออย่างคุณ ในฐานะพ่อผมก็ดีใจมากกับเธอมาก ได้ยินว่าเสี่ยวฉือไปทำงานที่บริษัทของคุณด้วย ยังไงก็ขอฝากดูแลเธอด้วยนะครับ”ฟังๆ ดูก็เหมือนเป็นห