Semua Bab บ่าวหญิงของศิษย์รัก: Bab 11 - Bab 20

81 Bab

บทที่ 11 : นางอยากสลับสถานะที่เคยเป็น

แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านรอยแตกของห้องเก็บของของห้องพักเล็ก ๆ ที่เสี่ยวซุ่ยใช้เป็นห้องพัก กลิ่นข้าวต้มร้อน ๆ และเสียงเคาะหม้อดังแว่วจากครัวด้านล่าง ปลุกให้เสี่ยวซุ่ยตื่นก่อนแสงอาทิตย์จะพ้นแนวไม้ นางลุกจากเสื่อผืนบาง ๆ ที่ปูไว้บนพื้นไม้เก่า ก่อนจะคลานไปล้างหน้าในอ่างไม้ใส่น้ำในห้อง แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า จากชุดนอนเป็นเสื้อผ้าทำงานของบ่าว แล้วออกจากเรือนพักของบ่าวมาช่วยงานกิจวัตรประจำวันเริ่มซ้ำเดิมทุกวัน ไม่มีหน้าที่ใหม่ในช่วงนี้ นางต้องตื่นมากวาดลานหน้าบ้าน ซักผ้าห่มของแขก ต้มน้ำร้อน นำอาหารไปให้แขก ล้างถ้วยชาม ทำความสะอาดพื้น แต่ละหน้าที่ซึ่งในอดีตคือเรื่องต่ำต้อย ที่ผู้เซียนสูงส่งอย่างลั่วชิง ไม่ต้องทำเองก็มีศิษย์คอยทำให้ ไม่ก็ใช้เวทมนตร์คาถาทำอย่างง่ายดาย ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่นางทำได้ชำนาญขึ้นทุกวัน ๆตอนแรกมือนางเต็มไปด้วยรอยถลอกจากการซักผ้า หลังนางระบมเพราะนั่งคุกเข่าเช็ดพื้นนานเกินไป ข้อนิ้วนางเปื่อยเพราะแช่น้ำร้อนล้างถ้วยทั้งวัน แต่บัดนี้มือเล็ก ๆ ของเสี่ยวซุ่ยเริ่มหยิบจับได้มั่นคงมากขึ้น กล้ามเนื้อที่เคยไร้พลัง เริ่มมีความเคยชินกับแรงกด และการก้มเงยซ้ำ ๆแม้จะยังไร้พลังปร
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-22
Baca selengkapnya

บทที่ 12 : นางพยายามวางท่าเป็นอาจารย์

แสงแดดยามสายลอดผ่านผ้าม่านบางในห้องหนังสือ กลิ่นชาดอกไม้จาง ๆ ยังคงลอยในอากาศ ทว่าบัดนี้มันไม่ได้มอบความผ่อนคลายเช่นเคย สำหรับเสี่ยวซุ่ยแล้ว กลิ่นนั้นเหมือนกลิ่นแห่งแรงกดดันให้รู้สึกหนักอกหนักใจเสียเต็มประดาหลังจากเอ่ยคำว่าตนเองเป็น “ศิษย์ผู้ไร้ความสามารถ” อย่างจำยอม ซูหรงก็ไม่ได้ปล่อยให้นางลุกขึ้นทันที หากแต่เดินกลับไปยังโต๊ะหนังสือ หยิบกระดานไม้ ขนนก และจานหมึกมาวางเบื้องหน้านาง“เราจะเริ่มบทเรียนแรก” ซูหรงเอ่ยเสียงเรียบ สายตาเต็มไปด้วยความเย็นขา ทำเอาเสี่ยวซุ่ยเย็นวาบถึงสันหลัง “เจ้าต้องเรียนรู้การอ่านออกเขียนได้ หากจะอยู่ที่นี่ต่อในฐานะศิษย์ของข้า”เสี่ยวซุ่ยเงยหน้าขึ้นมา แต่ยังคุกเข่าอยู่กับพื้น ดวงตากลมมองกระดานไม้ตรงหน้าอย่างลังเล มือเล็ก ๆ เอื้อมไปหยิบพู่กัน จุ่มลงหมึกสีดำ พลางรอคำสั่งจากซูหรง“เขียนคำนี้” ซูหรงพูด พลางใช้ปลายพู่กันจิ้มลงบนกระดาษบาง แสดงให้เห็นอักษรจีนตัวหนึ่ง คำว่า "ซือ" (师) ซึ่งหมายถึง อาจารย์เสี่ยวซุ่ยชะงัก มือที่จับพู่กันสั่นน้อย ๆ นางเคยเขียนยันต์ระดับสูง นำพลังสวรรค์ลงสู่โลกมนุษย์ ทว่าน่าขันนักที่ในยามนี้ ร่างกายของบ่าวหญิงที่นางใช้ กลับไม่สามารถเขียนต
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-22
Baca selengkapnya

บทที่ 13 : นางจะทำอะไรก็ช่าง แต่ข้าว่าข้ายังสอนหมอนี่ได้นะ

ค่ำคืนในโรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋นควรจะสงบเช่นทุกวัน หากแต่คืนนี้มิใช่คืนธรรมดา...เสียงเก้าอี้ล้มดังสนั่นภายในห้องโถง เสียงถ้วยชาจากโต๊ะหนึ่งถูกเหวี่ยงจนแตกกระจาย ตามด้วยเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวจากจอมยุทธ์ในชุดขาวกับจอมยุทธ์อีกคนที่สวมชุดดำ ต่างฝ่ายต่างยืนจังก้ากลางโรงเตี๊ยม ประหนึ่งสนามประลองย่อม ๆ“เจ้าไม่ต้องมาสามหาว! เจ้าเด็กจากสำนักคุ้มภัยอ่อนหัด!”“ข้าสามหาวก็ยังดีกว่าสำนักที่ไร้สัตย์อย่างพวกเจ้า!”เสียงเชือดเฉือนดังกระทบกันไม่แพ้แววตา ทั้งสองคนล้วนเป็นผู้มีฝีมือในยุทธภพ และแม้โรงเตี๊ยมจะมีชื่อว่าเป็นกลาง แต่ความบาดหมางที่สั่งสมกันมาของแต่ละสำนัก ก็ยากจะสยบลงด้วยแค่การนั่งกินอาหาร นอนพัก แล้วเดินทางต่อไปในวันรุ่งขึ้น เมื่อสมาชิกสองสำนักที่ไม่ถูกกันมาพบกัน ทั้งคู่จึงพร้อมจะผาดฟันกันให้ตายกันไปข้างเฉินอี้ยืนกำชายผ้ากันเปื้อนแน่น เขากวาดตามองไปรอบห้อง เห็นแขกคนอื่นต่างหลบมุม นางบ่าวคนหนึ่งถึงกับซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ ราวกับกลัวจะโดนลูกหลง“ข้าควรเข้าไปห้าม” เขาพูดกับตนเองเบา ๆ แต่ไม่ทันขยับ ก็รู้สึกถึงแรงรั้งแผ่วเบาที่ชายเสื้อ และเมื่อหันไปมองก็พบกับเสี่ยวซุ่ยยืนอยู่ข้างหลังเขา เงยหน้าขึ้น
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-22
Baca selengkapnya

บทที่ 14 : นางทำให้ข้ารู้สึกถึงความหวั่นไหวกับความรักงั้นเหรอ?

หลังจากเหตุชุลมุนจบลงและแขกทุกคนแยกย้ายกลับห้องพัก โรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋นกลับคืนสู่ความสงบดังเดิม เฉินอี้ช่วยพี่หลินเก็บโต๊ะถ้วยชามจนเรียบร้อย ส่วนเสี่ยวซุ่ยล้างจานชุดสุดท้ายอย่างเงียบ ๆ ในครัว มือเล็ก ๆ แม้จะเปื้อนน้ำ แต่ในดวงตากลับยังคงฉายภาพเมื่อครู่ที่ชายหนุ่มใช้ท่วงท่าที่นางแนะนำไปจัดการสถานการณ์ได้อย่างไร้ที่ติถึงกระนั้นนางก็ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไปนัก กลัวว่าจะทำให้เขาสงสัยว่าบ่าวหญิงธรรมดาเช่นนางจะรู้จักวิชายุทธ์ขั้นสูงได้อย่างไรจนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงสองยาม เฉินอี้ที่ทำความสะอาดโต๊ะทุกตัวเสร็จ ก็เดินอ้อมหลังครัวมาตรงลานริมน้ำ ที่ใช้ตากผ้าในตอนกลางวัน เขายืนอยู่ที่นั่นเงียบ ๆ ราวกับรอใครบางคนเสี่ยวซุ่ยที่เพิ่งออกจากประตูครัวหลังล้างจานเสร็จ สะดุ้งน้อย ๆ เมื่อเห็นเขายืนตรงนั้น แต่เฉินอี้ยิ้มให้ แล้วกวักมือเรียกนาง“คืนนี้ลมเย็นดีนะ... ข้ารอเจ้าอยู่น่ะเสี่ยวซุ่ย” เฉินอี้เริ่มเอ่ยขึ้นเบา ๆ เมื่อนางเดินเข้ามาหา“รอข้า?” นางถามกลับหลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง“ใช่ ข้าอยากจะขอบคุณเจ้าจริง ๆ... ถ้าไม่มีเจ้าวันนี้ โรงเตี๊ยมอาจพังไปทั้งหลังก็ได้ ข้าคิดไปเองว่าตัวเองพอจะจัดการได้ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-22
Baca selengkapnya

บทที่ 15 : นางมั่นใจว่านางจัดการได้ทุกอย่าง

อีกมุมหนึ่งในยามค่ำคืนสงบที่โรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋น แสงจันทร์ทอดเงายาวผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง ซูหรงยังคงนั่งอยู่ใต้โคมไฟในห้องส่วนตัวของนาง เบื้องหน้าคือกาน้ำชาที่เย็นลงแล้ว หนังสือเปิดค้างอยู่ แต่ไม่มีผู้ใดสนใจตัวอักษรอีกต่อไป เสียงเปิดประตูไม้เบา ๆ ดังขึ้น นางไม่จำเป็นต้องเงยหน้าก็รู้ว่าใคร “เจ้าเสร็จธุระแล้วหรือ?” ซูหรงเอ่ยขึ้น ก่อนจะจ้องมองสามีที่เพิ่งเปิดประตูเข้าม อวี้ไป่เฉินหยุดยืนเงียบครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามา วางถุงผ้าลงบนโต๊ะใกล้ประตูอย่างระมัดระวัง แล้วหันมาเงียบ ๆ ก่อนจะยิ้มให้จาง ๆ ซูหรงหลุบตาลง ลูบนิ้วเบา ๆ ที่ขอบถ้วยชา “รู้ได้เช่นไรว่าข้ามีธุระ ไม่ใช่แค่ออกไปเดินชมจันทร์” “เจ้าซ่อนจดหมายไว้ใต้ชายเสื้อ เหมือนทุกครั้งที่เจ้า แอบติดต่อใครบางคนโดยไม่บอกข้า ที่ผ่านมาข้าแสร้างทำเป็นไม่รู้ แต่การเกิดเรื่องจอมยุทธ์บุกมาหาเจ้าเมื่อวันก่อน ข้าคงจะนิ่งไว้ไม่ได้อีก” นางเงยหน้าขึ้น ดวงตาคมปลาบสบสายตาเขา อวี้ไป่เฉินสะดุ้งเล็กน้อย มุมปากกระตุกเบา ๆ ราวกับรู้ตัวว่าถูกจับได้อีกครั้ง เขาถอนหายใจ หยิบจดหมายออกมาจากชายเสื้อ ยื่นให้ภรรยา “ถ้าเจ้าอยากดู ก็เชิญตามสบายเลย” ซูหรงรับจดหมายมา
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-23
Baca selengkapnya

บทที่ 16 : นางบอกว่าจะสอนให้ข้ารู้จักคำว่ารัก

แสงแดดอุ่นยามสายส่องลอดใบไม้บนต้นที่ลู่ไหวตามลมเบา เสี่ยวซุ่ยยืนเก็บผ้าอยู่ริมลำธาร ผ้ากองโตที่ตากไว้ตั้งแต่เช้าก็เริ่มแห้งแล้ว ขณะที่ผ้าชุดสุดท้ายกำลังถูกเก็บลงตะกร้าผ้า ดวงตาของนางยังทอดมองลงไปบนผืนน้ำ ราวกับกำลังรอให้มันพัดพาความคิดที่วุ่นวายไปด้วยในหัวนางไม่อาจหยุดคิดถึงภาพเมื่อคืนได้ เฉินอี้ยืนใต้แสงจันทร์ ดวงตาเขาที่มองมาด้วยความอ่อนโยน คำพูดซื่อตรงที่เล่าความหลังให้นางฟัง รอยยิ้มที่ยังติดอยู่ในความทรงจำ ทั้งหมดนั้นยังวนเวียนไม่ไปไหนเลยวันนี้นางรู้สึกอ่อนแรง ทว่าไม่ใช่เพราะการทำงาน แต่อ่อนแรงเพราะหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกซึ่งไม่สมควรมี นางรู้แก่ใจว่าลั่วชิงผู้นี้ไม่ควรหวั่นไหวกับอะไร ทว่าหัวใจของเสี่ยวซุ่ยนั้นไม่ได้คิดอย่างนั้น มันกำลังเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อพบกับเฉินอี้ หรือนึกถึงเขาเมื่อผ้าแห้งหมด เสี่ยวซุ่ยเก็บผ้าใส่ตะกร้า กำลังเดินกลับเข้าตัวโรงเตี๊ยม แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังมาจากชั้นบน จากหน้าต่างที่เปิดไว้ “เสี่ยวซุ่ย เก็บผ้าเสร็จขึ้นมาที่ห้องข้า” เป็นเสียงของซูหรง นิ่ง เรียบ และแฝงด้วยอะไรบางอย่างที่ทำให้นางรู้ว่าคงหนีไม่ได้ นางยืนมองเสี่ยวซุ่ยที่หน้าต่างพลาง
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-23
Baca selengkapnya

บทที่ 17 : นางเริ่มมีความรู้สึกหลายอย่างปะปนกันในใจ

หลายวันผ่านไป เสี่ยวซุ่ยเริ่มปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ได้ ตอนนี้นางแทบไม่เหลือเค้าของเทพเซียนในอดีต นางตื่นแต่เช้ามืด ปัดกวาดลานไม้ ขัดถ้วยชาม หรือซักผ้าริมลำธาร แม้แต่เมื่อถูกพี่หลินดุบ้างก็เพียงก้มหน้ารับคำเงียบ ๆ ไม่โต้เถียงช่วงเวลาว่างหลังเสร็จงานครัว งานซักผ้า ล้างจาน หากไม่ได้ถูกเรียกไปฝึกเขียนอักษร เสี่ยวซุ่ยมักนั่งปะชุนผ้า หรือนั่งดูเฉินอี้ลองฝึกท่าก้าวเท้าหมุนตัวของเขาซ้ำ ๆ เสียงพูดคุยระหว่างทั้งสองดูสนิทสนมขึ้นในทุกวัน ๆ แม้เสี่ยวซุ่ยจะดูขวยเขินอยู่ในหลายครั้ง แต่ก็พอจะประคองสติสนทนาได้อยู่บ้างคืนหนึ่ง ขณะเดินกลับจากลานตากผ้า เสี่ยวซุ่ยถูกเรียกตัวขึ้นไปยังห้องของซูหรงเช่นเคย ทว่าในครั้งนี้ ดวงตาของอดีตศิษย์ที่ตอนนี้สวมบทเป็นอาจารย์ กลับดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา“เจ้าทำได้ดีมากเสี่ยวซุ่ย ข้าเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเจ้าแล้ว การทำงานดีขึ้นทุกอย่าง นี่ถือเป็นสัญญาณของการเติบโต เจ้าผ่านประเมินแล้วล่ะ” ซูหรงแสดงความชื่นชม ขณะที่เสี่ยวซุ่ยก็คุกเข่ารับคำ พลางก้มหน้า แต่ไม่เหมือนคราวก่อน ๆ นางไม่ได้ต่อต้านอะไรอีกแล้ว“และในฐานะอาจารย์...” ซูหรงเว้นคำเล็กน้อย พลางยิ้มราวกับจะเย้ยหยั
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-23
Baca selengkapnya

บทที่ 18 : นางเหมือนจะอยากอวดให้ข้าภูมิใจ

เสียงนกร้องคลอเคลียยามเช้า ลำแสงอ่อน ๆ จากท้องฟ้าสาดลงมากระทบผืนดินเบื้องล่าง ริมลำธารเบื้องหลังโรงเตี๊ยม น้ำเย็นเฉียบไหลผ่านปลายนิ้ว เสี่ยวซุ่ยที่ดูเหมือนตอนนี้จะได้ตำแหน่งบ่าวซักผ้าประจำโรงเตี๊ยม นั่งคุกเข่าลงตรงหินซักผ้า ถูชุดผ้าปูเตียงของห้องพักในโรงเตี๊ยมอย่างตั้งใจ พอแดดเริ่มแรงขึ้นเล็กน้อย นางก็ยกผ้าขึ้นตากเรียงราย แล้วเดินกลับเข้าโรงเตี๊ยม เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนขึ้นไปห้องของซูหรงเพื่อเข้ารับการฝึกอ่านเขียนในช่วงสาย ซูหรงนั่งรอนางอยู่ริมหน้าต่าง โต๊ะไม้เตี้ย ๆ สำหรับนั่งพื้นเขียน มีสมุดกระดาษไผ่กางไว้ และพู่กันเรียงเป็นระเบียบ กลิ่นหมึกจาง ๆ ลอยคลออยู่ในอากาศ เสี่ยวซุ่ยกราบคารวะอาจารย์ครั้งหนึ่ง ก่อนที่ซูหรงจะอนุญาตให้นั่งท่าปกติที่โต๊ะ “เจ้ามาตรงเวลา... น่าชื่นชม” ซูหรงเอ่ยเรียบ ๆ แต่น้ำเสียงแฝงด้วยความพึงใจเล็กน้อย “ศิษย์ขอขอบคุณท่านอาจารย์เจ้าค่ะ” เสี่ยวซุ่ยตอบเสียงเบา ตอนนี้นางเริ่มพูดคำว่าศิษย์และอาจารย์ ได้อย่างลื่นไหล ไม่ติดขัดอีกต่อไป และแม้จะรู้ว่านั่นคือคำที่ถูกบังคับให้นางใช้ แต่มันกลับไม่รู้สึกแปลกเท่าไรนักแล้ว นางเลิกฝืนที่จะพูดคำอื่นให้ร่างกายทรมานอีก
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-23
Baca selengkapnya

บทที่ 19 : นางอยากจะดูเขาประลองยุทธ์

ค่ำวันนั้น แสงไฟจากโคมหน้าร้านโรงเตี๊ยมยังคงส่องสว่าง ทว่าริมถนนเริ่มเงียบเสียงลง มีเพียงแมลงกลางคืนและเสียงกรอบแกรบจากเปลวไฟในตะเกียง ทว่าจู่ ๆ ก็กลับมีเสียงฝีเท้าหนักแน่นคู่หนึ่งหยุดอยู่หน้าประตูโรงเตี๊ยม ทำลายความสงบเหล่านั้นลงเสียดื้อ ๆประตูไม้ถูกเลื่อนเปิดอย่างนุ่มนวล เฉินอี้ซึ่งกำลังจัดถ้วยชาให้แขกที่เหลืออยู่ในห้องโถงเงยหน้าขึ้น ชายผู้มาใหม่เป็นบุรุษร่างสูง ใบหน้าคมเข้มไร้รอยยิ้ม สวมเสื้อคลุมยาวสีหม่น ติดเข็มกลัดเป็นตราสำนักจอมยุทธ์คุ้มภัย ข้างหลังของเขาแบกกระบี่เล่มยาวที่หุ้มไว้ด้วยผ้าคลุมสีดำสนิท“เจ้าคือเฉินอี้หรือไม่?” ชายผู้นั้นเอ่ยเสียงทุ้ม เฉินอี้มองอีกฝ่ายครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า“ข้าเอง... มีอะไรหรือ?”เมื่อเฉินอี้ตอบรับ ชายผู้นั้นก็ท่าคำนับเล็กน้อย พร้อมด้วยดวงตานิ่งสงบ“ข้าคืออู๋เป่ย หัวหน้าหน่วยที่ห้าแห่งสำนักคุ้มภัยเทียนเฟิง และเป็นอาจารย์ของจอมยุทธ์เสื้อขาวที่ก่อเรื่องในร้านเมื่อวันก่อน ข้ามาเพื่อกล่าวคำขอโทษแทนศิษย์ ขอโทษที่เขาขาดความสำรวม และทำให้เจ้าต้องเสียเวลาไกล่เกลี่ย” “แค่ไม่เกิดเรื่องเสียเลือดก็ถือว่าดีแล้ว ข้าไม่ได้เก็บมาใส่ใจหรอก” เฉินอี้ตอบพลางยิ้มบาง ๆ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-24
Baca selengkapnya

บทที่ 20 : นางคงไม่ได้แอบดูข้าร่ายรำกระมัง

ลมกลางคืนพัดเอื่อย ๆ แสงจันทร์ส่องลงมากระทบพื้นดินที่ลานหลังโรงเตี๊ยม เสี่ยวซุ่ยนั่งอยู่บนพื้นไม้ข้างบานหน้าต่ใต้ต้นไม้ สายตาจับจ้องไปยังหมู่ดาวเบื้องบนเงียบ ๆ เงาของต้นไม้ไหวตามแรงลม ราวกับนางทบทวนความรู้สึกในใจตนเอง ทว่าเสียงฝีเท้าค่อย ๆ ดังใกล้เข้ามา ทำให้นางละสายตาจากดวงดาวเสียก่อน“ยังไม่นอนรึ” เสียงเฉินอี้เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา เสี่ยวซุ่ยสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ตอบกลับไป“เจ้าค่ะ”เฉินอี้เดินเข้ามาใกล้ ใบหน้าของเขาเงียบสงบ แต่แววตานั้นกลับบอกว่าเขานอนไม่หลับเช่นกัน“พรุ่งนี้ข้าต้องประลองห้ากระบวนท่า ข้าไม่คิดจะแพ้หรอก ต้องใช้ท่านั้นหลบไปเรื่อย ๆ ถ้าพลาดก็เพียงแต่อดทนให้ได้ ไม่ล้มลงก็พอ”“แต่ถ้าท่านเจ็บล่ะ?” เสี่ยวซุ่ยเอ่ยพลางเบือนหน้าไปอีกทาง “ข้า... หมายถึง ถ้ามีใครเจ็บขึ้นมามันก็ไม่ดีใช่ไหมเจ้าคะ…”“เจ้าเป็นห่วงข้า?” เฉินอี้ยิ้มจาง ๆ ขณะนั่งลงข้าง ๆ นาง เสี่ยวซุ่ยชะงัก หน้าแดงก่ำ รีบก้มหน้าเร็วจี๋“ก็...ก็แค่คิดว่า... ถ้ามีคนเจ็บ นายหญิงอาจจะต้องมาเสียเวลารักษาพยาบาล นางอาจจะหงุดหงิด แล้วเดี๋ยวข้าก็จะโดนพาลใส่ตอนนางสอนหนังสือให้อีกน่ะเจ้าค่ะ”คำตอบของนางทำเอา เฉินอี้หัวเราะเบา ๆ ก่อน
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-06-24
Baca selengkapnya
Sebelumnya
123456
...
9
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status