ยอดเขาหลิงอวิ๋นยามย่ำรุ่งยังคงแวดล้อมด้วยม่านหมอกสีขาวนวลราวสายไหม สายลมบางเบาพัดพาใบสนให้สั่นไหวเบา ๆ คล้ายเสียงกระซิบของภูตพรายในแดนสวรรค์ ดอกเหมยที่เบ่งบานอยู่ตามซอกผาหินส่งกลิ่นหอมเย็นจาง ๆ เคล้ากับกลิ่นไอของเหมันต์ที่ยังไม่เลือนจากยอดเขาสูงเสียดฟ้าแห่งนี้ท่ามกลางธรรมชาติอันสงบนิ่ง มีตำหนักไม้หลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ริมหน้าผา บนระเบียงตำหนักนั้น หญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่อย่างสงบนิ่งพิงเสาไม้หอม นางคือ "ลั่วชิง" เซียนหญิงผู้เร้นกายจากโลกมนุษย์มาเนิ่นนาน ชุดยาวสีขาวดุจหิมะสะอาดตา ผ้าคลุมโปร่งบางแนบแน่นกับลำตัวเพราะลมจากหน้าผา แววตานิ่งลึกคล้ายผืนน้ำสงบใต้เงาจันทร์ จ้องมองไปยังเส้นขอบฟ้าที่เริ่มแต้มแสงทองของอรุณรุ่ง ผมของนางดำขลับยาวสลวยเลยสะโพก ขึ้นมวยบางเบาด้วยปิ่นหยกเงาวับ ใบหน้ารูปไข่ ผิวขาวละเอียดราวหิมะบนยอดเขา คิ้วเรียวยาวพาดเฉียงเหนือดวงตากลมโตสีดำสนิท ดวงตานั้นแม้จะดูสงบเยือกเย็น หากแต่ลึกลงไปกลับซ่อนร่องรอยของความโศกเศร้าและความผูกพันบางประการ ปลายจมูกเล็กโด่งอย่างเหมาะเจาะ ริมฝีปากบางสีจางคล้ายกลีบเหมยยามหนาวจัด ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นความงามที่ไม่เย้ายวนหากแต่น่าเกรงขามในห้ว
Terakhir Diperbarui : 2025-06-06 Baca selengkapnya