All Chapters of นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ: Chapter 361 - Chapter 370

540 Chapters

บทที่ 361

ซูมั่ว “...สองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด เธอฝืนโยงมันเข้าด้วยกันเท่านั้น”หลีโย่วหยิบหลักฐานออกมาอีกครั้ง“เมื่อกี้ตอนที่ฉันจะให้เธอซื้อเสื้อผ้า ตอนที่เราสองคนคุยกัน พี่ชายฉันก็รออยู่ตลอดไม่ไปไหน เขากำลังรอคำตอบของเธอไง!”ซูมั่ว “...พวกเรากำลังคุยกันอยู่ ประธานหลีก็ต้องไม่ไปไหนแน่นอนอยู่แล้ว แบบนั้นมันเสียมารยาทนี่”หลีโย่วไม่เห็นด้วย“ถ้าเขาอยากจะซื้อให้ฉันจริง ๆ ตอนแรกที่ฉันตอบตกลง เขาก็ควรจะลงจากรถสิไม่ใช่รออยู่ในรถ! เพราะงั้นเขากำลังรอคำตอบจากเธอต่างหาก”ซูมั่ว “...เธอเข้าใจผิดไปจริง ๆ นั่นไม่ใช่การรอ และมันก็แค่ไม่กี่สิบวินาทีเองด้วย”เห็นว่าเพื่อนโต้แย้งตนได้หมด แต่หลีโย่วก็ยังเชื่อการคาดเดาของตัวเอง จึงเอามือทั้งสองข้างเท้าเอวพูด“ตอนแรกที่พี่ชายของฉันพูดคำนั้น ก็หันไปพูดทางเธอเหมือนกันฉันอยู่ตรงเบาะข้างคนขับ ซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของรถ ถ้าจะพูดกับฉันจริง ก็ควรหันมาทางฉันสิ”ซูมั่ว “ไม่ใช่ว่าเธอกำลังจะเดินมาเหรอ? หันไปทางหน้าต่างช่วยให้ได้ยินเสียงชัดขึ้น นั่นก็คือพูดกับเธอไง”หลีโย่ว “...”ไม่ไหวเลย มั่วมั่วพูดไปเรื่อยเกินไปแล้ว! เห็นอยู่ชัด ๆ นี่ว่าเป็นความจริง แ
Read more

บทที่ 362

ทางด้านหลีเชินไม่ได้ปฏิเสธคำพูดนี้ และคำพูดที่พูดออกมาในวินาทีต่อมา กลับทำให้การคาดเดาในใจของซูมั่วกลับตาลปัตร“อาจเพราะมีฉันอยู่ด้วยซูมั่วก็เลยสงวนท่าที ตอนพวกเธอซื้อของ ถ้าซูมั่วชอบอะไรเธอก็จ่ายเงินไปก่อนนะ แล้วมาเบิกคืนจากฉันทีหลัง”ตอนนี้หลีโย่วยกมุมปากขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่แล้ว ทำหน้าทำตาคลุมเครือมองซูมั่วที่อยู่ด้านข้างซูมั่วถูกเธอปิดปากไว้ ตอนนั้นก็ยังส่ายหน้า แต่ตอนนี้การเคลื่อนไหวหยุดลง รู้สึกสับสน ทึ่มทื่อเล็กน้อย จากนั้นก็รู้สึกสงสัยและไม่เข้าใจถ้าบอกว่าหลีเชินทำเพื่อหยอกล้อเธอ แล้วทำไมยังต้องให้หลีโย่วซื้อของให้เธอแล้วมาเบิกเงินคืนจากเขาทีหลังด้วย?ยิ่งไปกว่านั้นน้ำเสียงของอีกฝ่าย...ตอนพูดก็ราบเรียบมาก และจริงจังมาก ไม่ใช่มีเสียงสูงท้ายประโยคเหมือนจะหยอกล้อเพราะงั้น...หลีเชินเขาคิดจะซื้อของให้เธอจริง ๆ เหรอ? แต่ทำไมล่ะ?ระหว่างเธอกับเขาก็เลิกแล้วต่อกันแล้ว แม้แต่อาหารฟรีหนึ่งปีที่เธอติดค้างอีกฝ่ายก็ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ“โธ่เอ๊ย งั้นฉันล่ะ? ของฉันเบิกจากพี่ได้ไหม?” หลีโย่วจงใจถามผลที่ได้กลับมาเป็นไปตามคาดพี่ชายเธอพูดแฝงความรังเกียจเล็กน้อย“เมื่อกี้ไม่ใช่ว่า
Read more

บทที่ 363

“ถ้าเธอตัดสินใจซื้อของให้ฉันโดยพลการ ฉันจะรีบส่งพัสดุไปบ้านเธอเลย” ซูมั่วพูดอีกครั้งหลีโย่ว “...”“ได้ ๆ ๆ ฉันแพ้เธอแล้วจริง ๆ”หลีโย่วถอนหายใจยาว สีหน้าแฝงความจนใจและหมดหนทางซูมั่วพอใจแล้วทั้งสองคนเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ขณะที่ชอปปิง ในที่สุดซูมั่วก็ถามคำถามที่ติดค้างในใจมานานออกมา“...ทำไมจู่ ๆ พี่ชายเธอถึงอยากซื้อของให้ฉันล่ะ?”“เขาก็ไม่ได้แกล้งฉันแล้วด้วย ไม่จำเป็นต้องมาชดใช้อีก”หลีโย่วมองกระเป๋า พลางตอบอย่างไม่คิด“ใครบอกว่าไม่ได้แกล้งเธอ ตอนเช้ายังให้เธออยู่กลางแดดแล้วหยอกเธออยู่เลย”“แถมในห้องส่วนตัวยังจงใจโยนคำถามให้เธอ ทำให้เธอต้องตอบอย่างไม่มีทางเลือก นี่ไม่ถือว่าแกล้งเหรอ?”“นี่ไม่นับสิ เขาไม่ได้แกล้งฉันต่อหน้าคนอื่นซะหน่อย” ซูมั่วพูดที่ติ่งเซิ่ง นั่นอยู่ต่อหน้าเหล่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ทั้งยังเป็นช่วงก่อนประชุมสำคัญด้วยยิ่งไปกว่านั้นเพราะถูกแกล้งมาหลายครั้ง เธอจึงเริ่มมี ‘ภูมิคุ้มกัน’ ถึงขั้นรู้สึกว่าสองอย่างที่หลีโย่วพูดมาล้วนไม่นับเป็นการแกล้งเลยด้วยซ้ำ“ไม่มีคนรอบข้างเห็น เลยไม่ถือว่าแกล้งเหรอ? ฉันก็ยังอยู่นี่ไง” หลีโย่วหันหน้าไปพูดซูมั่ว “...”
Read more

บทที่ 364

“ใช่ครับ” อีกฝ่ายตอบกลับเสียงเบาผ่านไมโครโฟนของหูฟังฟู่อี้ชวน ‘ดูท่าการนัดบอดคงไม่สำเร็จสินะ? ซูมั่วไม่ถูกใจอีกฝ่ายเหรอ? ไม่งั้นหมอนั่นต้องไป ‘เดต’ ด้วยกันกับซูมั่วแล้วแน่ ๆ’คิดมาถึงตรงนี้ มุมปากของเขาก็ยกขึ้นเยี่ยมมาก เขาคงไม่ต้องลงมือจัดการคู่แข่งความรักคนนี้แล้ว เดาว่าหน้าตาคงไม่เข้าตาซูมั่วถึงยังไงเธอก็แต่งงานกับเขามาสองปี คงชินกับหน้าตาของเขาแล้วและเขาเองก็คิดว่าหน้าตาตัวเองไม่ได้ด้อยไปกว่าดาราเลย ทั้งยังมีงานอดิเรกเป็นการออกกำลังกายมานาน รูปร่างไม่เลวด้วยเหตุนี้ซูมั่วจึงได้รับอิทธิพลโดยไม่รู้ตัว และมาตรฐานผู้ชายที่ชอบก็สูงขึ้นด้วยเหมือนกันก็นี่ไง ไม่ใช่ว่าโจวจิ่งอันก็ตามจีบใหม่ไม่ติดเหรอ?“ขอโทษครับคุณฟู่ เราไม่สามารถถ่ายรูปด้านหน้าของผู้ชายคนนั้นได้ เพราะตอนเขามาส่งพวกเธอที่ห้างก็อยู่ในรถตลอด” ในสาย คนสะกดรอยตามพูดต่อเมื่อฟู่อี้ชวนได้ยิน ก็ได้ข้อสรุปว่าถึงแม้จะมาส่งพวกซูมั่ว แต่ก็ไม่ได้ลงจากรถ ยิ่งแสดงว่าระหว่างคนคนนั้นกับซูมั่วไม่มีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ได้เลยสักนิดยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่มีแม้แต่มารยาทพื้นฐานของสุภาพบุรุษเลย นัดบอดกับผู้หญิงยังไม
Read more

บทที่ 365

แม้ว่าก่อนหน้านี้สองพี่น้องร่วมกันหลอกเขาว่าหลีเชินกำลังคบกับซูมั่วอยู่ แต่เขาไม่เชื่อถ้าคบกันแล้วจริง หลังจากนั้นทำไมพวกเขาสองคนถึงไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลย?ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจับมือเดต ครั้งนี้หลีเชินไม่แม้แต่จะลงจากรถด้วยซ้ำ แค่พาคนมาส่งแล้วก็ไประบุตัวคนจากป้ายทะเบียนรถได้แล้ว เดิมทีฟู่อี้ชวนไม่ได้คิดจะสืบต่อ แต่...ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ยังติดต่อเจ้าของร้านอาหารแห่งนั้นไปปกติข้อมูลทั้งหมดของลูกค้าจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่สู้ไม่ได้ที่เขาชื่อฟู่อี้ชวน เป็นซีอีโอของฟู่ซื่อกรุ๊ปไม่ว่าจะเป็นเจ้าของร้านอาหารหรูแค่ไหนก็ต้องเอาใจและหวั่นเกรงอยู่หลายส่วน ยอมหลีกทางให้เขา เพื่อประโยชน์ของตนในอนาคต“ยอดเงินส่วนที่เหลือของบิลนี้คุณหลีเป็นคนจ่ายจริง ๆ ครับ” อีกฝ่ายตอบชื่อตรงกัน ฟู่อี้ชวนถามอีกครั้ง“ตอนแรกสุดเขาจองที่นั่งสองคนเหรอ? แล้วมาเพิ่มอีกคนหนึ่งทีหลังใช่ไหม?”“ไม่ครับ ห้องส่วนตัวประธานหลีไม่ได้จอง แต่เป็นคุณผู้หญิงแซ่ซูคนหนึ่งครับ” เจ้าของร้านตอบได้ยินแบบนี้ ฟู่อี้ชวนก็ตะลึงจนชะงักไป นี่มันเหนือความคาดหมายของเขาซูมั่วเป็นคนจองเหรอ? นี่มันหมายความว่ายังไง? ไม่ใช่ว่าหลี
Read more

บทที่ 366

เขาเป็นคนจองโรงแรม ระดับย่อมไม่ต่ำ ดังนั้นอุปกรณ์กล้องวงจรปิดจึงครบครันมาก และคุณภาพก็คมชัดเช่นกันที่ดึงออกมาคือกล้องวงจรปิดของทางเดิน ห้องจัดเลี้ยงเพื่อความเป็นส่วนตัว จึงไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด ดังนั้นฟู่อี้ชวนจึงเห็นเพียงด้านหลังของซูมั่วในภาพจากกล้องวงจรปิดเธอส่งกระติกเก็บความร้อนในมือให้เย่ซินหย่า ทั้งสองไม่มีการยื้อยุดหรือมีความขัดแย้งใด ๆ หลังจากนั้นกระติกเก็บความร้อนก็ตกลงบนพื้นฟู่อี้ชวนดูภาพเล่นซ้ำนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงขั้นดูแบบสโลว์โมชั่นกว่าสิบเท่าแต่เพราะมุมมองจึงมองเห็นไม่ชัดว่าเย่ซินหย่ามีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย ราวกับเธอรับไว้ไม่ได้เองสมมติว่าเธอแค่ไม่ระวังจนรับไม่ทัน และตนก็เห็นว่าตอนนั้นฝากระติกเก็บความร้อนไม่ได้มีรอยร้าว ดังนั้น...ซูมั่วเป็นคนเปิดฝาไว้ก่อนจริง ๆ เหรอ?แต่ทำไมซูมั่วถึงบาดเจ็บหนักกว่าเย่ซินหย่าเป็นร้อยเท่าเลยล่ะ นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิดตอนนั้นเขาคิดว่าซูมั่วตั้งใจทำร้ายเพราะหึง แต่ไม่สำเร็จ จนรับกรรมเองตอนนี้ไม่มีความหึงหวงแม้แต่น้อย งั้น...หรือว่าเป็นความคิดของคุณปู่?เขาสั่งให้ซูมั่วไปทำร้ายเย่ซินหย่า เพื่อขวางไม่ให้พวกเขากลับม
Read more

บทที่ 367

“ตอนนั้นเธอถูกน้ำร้อนลวกขนาดนั้น แต่หลังจากได้ข้อตกลงการหย่ากลับเพิ่งมาบอกฉันถ้าฉันรู้ตั้งแต่แรก แกคงเจอดีไปนานแล้ว”ฟู่อี้ชวนตกตะลึง ที่แท้ซูมั่วก็ไม่ได้ไป ‘ฟ้อง’ คุณปู่ทันทีที่ได้รับบาดเจ็บ? แต่ไปบอกทีหลัง?“แกฉีกศักดิ์ศรีของฉันเป็นชิ้นแล้วยังเหยียบลงบนพื้นอีก ตอนนั้นเพื่อแก ฉันยังขอร้องให้มั่วมั่วว่าให้โอกาสแกอีกครั้งหนึ่งเถอะ แกเดาสิว่าเธอพูดว่าอะไร?”คุณปู่ฟู่พูดขึ้นอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงเดือดดาล“เธอบอกว่าขอให้ฉันให้โอกาสเธอด้วยเหมือนกัน โอกาสที่จะมีชีวิตรอด!”ฟู่อี้ชวนฟังมาถึงตรงนี้ก็ตกตะลึงไปโดยสมบูรณ์ซูมั่ว...ตอนนั้นพูดแบบนี้จริงเหรอ?เธอขอให้คุณปู่ปล่อยเธอไป เธอยังอยากมีชีวิตรอด...นี่มันเป็น ‘คำขอ’ ที่น่าเวทนาแค่ไหน และเจ็บปวดแทบขาดใจแค่ไหนกัน...แต่เขาไม่เคยอยากเอาชีวิตเธอเลย เรื่องแก๊สรั่วเขาก็ไม่ได้เป็นคนทำ อย่างมากเขา เขา...เขาไม่ทันสังเกตเห็นทันเวลา ทำให้ทิ้งซูมั่วไว้คนเดียวที่บ้านแต่ว่า!หลังจากที่เขาได้ยินคำเตือนของหมอ เขาก็รีบกลับมาที่บ้านโดยเร็ว เพียงแต่คลาดกันกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพอดี!เขาอธิบายได้ ทั้งหมดนี้เขาอธิบายได้!เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะ ‘ฆ่
Read more

บทที่ 368

มิน่าล่ะซูมั่วถึงมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเขา หลีกเลี่ยงราวกับเห็นงูพิษ แม้แต่จะพูดกับเขาสักประโยคก็ยังไม่อยากพูดที่คุณปู่พูดว่าเชื่อซูมั่ว ความจริงเขาก็ยืนอยู่ข้างเธอเหมือนกัน แต่ว่า...เพราะตอนนั้นเขาอุ้มเย่ซินหย่าออกไป และทิ้งเธอที่บาดเจ็บหนักกว่าไว้ และถึงขั้นพูดจาทำร้ายจิตใจ...เขาไม่กล้า เขาไม่อยาก เขากลัวกลัวว่าทั้งหมดจะเป็นฝีมือของเย่ซินหย่า กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็น ‘คนบาป’ โดยสมบูรณ์ถ้าเป็นแบบนั้น เขาจะยังขอร้องให้ซูมั่วให้อภัยเขาได้เหรอ?ตัวเขาเองก็ไม่อาจให้อภัยตัวเองได้ด้วยซ้ำกล้องวงจรปิดที่ส่งกลับมาของโรงแรมทำให้เขาไม่อาจระบุและยืนยัน ‘ความจริง’ ได้ เขาจึงสามารถทำตัวต่ำช้าเพื่อฉกฉวยความสบายใจเล็กน้อย โดยเลือกที่จะหนียังเหลือเรื่องแก๊สรั่วอีกเมื่อแฮ็กเกอร์กู้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดได้แล้ว เขาก็จะรู้ทุกอย่างแต่... ตอนนี้เขารู้แล้วจะยังมีประโยชน์อะไร?ซูมั่วจากเขาไปนานแล้ว และเดิมทีซูมั่วก็ไม่ได้รักเขาอยู่แล้วสมองที่ควบคุมไม่ได้เข้าสู่สภาวะสุดโต่งซึ่งตรงข้ามกับตอนที่เขาใช้เหตุผลโดยสิ้นเชิง ฟู่อี้ชวนบังคับให้ตัวเองตั้งสติเพราะเขาต้องการภาพกล้องวงจรปิ
Read more

บทที่ 369

“ความเป็นส่วนตัวอะไรกัน ผมแค่ถามว่าใครเป็นคนซื้อกระเป๋าเองไม่ใช่เหรอ?” ชายคนนั้นพูดพนักงานเก็บเงินยิ้มเล็กน้อย แล้วอธิบาย“เพราะกระเป๋าในเคาน์เตอร์แบรนด์ของฉันล้วนราคาสูง จึงห้ามให้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับลูกค้าแก่บุคคลภายนอกค่ะ”อีกฝ่าย “...”นี่มองเขาเป็นโจรปล้นเหรอ? หรือมองว่าเป็นแมงดาที่อยากไปเกาะขาคนรวยกัน?แต่เขาก็ไม่ได้เถียงกับอีกฝ่ายเช่นกัน เพราะหากทะเลาะกันขึ้นมา พนักงานเก็บเงินคนนี้ก็คงจะแจ้งพวกเธอว่ามีคนมาสอบถามเรื่องของพวกเธอ แล้วเขาก็จะถูกเปิดโปงเขาออกจากเคาน์เตอร์ไปข้างนอก ส่วนด้านใน เหล่าพนักงานขายต่างมองเขา รู้สึกว่าคน ๆ นั้นน่าสงสัยมาก และตัดสินใจว่าถ้ามาอีกครั้งก็จะโทรแจ้งตำรวจทันทีชายคนนั้นโทรหาผู้ว่าจ้าง หลังจากรับสาย เขาก็รายงานสถานการณ์ตัวเองไม่มีเงินไม่มีสถานะทางสังคม แต่ผู้ว่าจ้างมีเงินและมีสถานะทางสังคม ยิ่งไปกว่านั้นการที่เขาออกหน้า ยังสามารถป้องกันไม่ให้เรื่องการตามสืบรั่วไหลไปถึงตัวเป้าหมายและเพื่อนของเธอด้วยฟู่อี้ชวนเปิดลำโพงโทรศัพท์ หลังฟังจบ ก็แค่ส่งเสียง ‘อืม’ อย่างหดหู่ครั้งหนึ่ง และไม่ได้พูดอะไรอีกสักคำสั่งให้คนไปประสานงานกับผู้จัดการเคาน์เ
Read more

บทที่ 370

ผู้จัดการร้านได้ยินก็เข้าใจ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปรียบเทียบและเลือกซื้อไม่ถึงสองนาที เธอก็ถือกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดที่ออกใหม่ในฤดูร้อนใบหนึ่งมา ขณะเดียวกันก็เป็นกระเป๋ามุกสีขาวที่แพงที่สุดในร้าน และอธิบายอย่างกระตือรือร้น“คุณฟู่คะ ฉันช่วยเลือกกระเป๋ารุ่นแกรนนีให้คุณผู้หญิงท่านนั้นค่ะ มันเป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชันที่แบรนด์จีเอสเปิดตัวใหม่ในฤดูร้อนปีนี้ ตอนนี้ที่เคาน์เตอร์ของฉันมีเพียงใบเดียวค่ะ”“ดีไซเนอร์ของกระเป๋าใบนี้ชื่อชาร์ลสัน แนวคิดในการออกแบบของเขาคือ...”ได้ยินทางฝั่งผู้จัดการร้านพูดยาวเหยียด ฟู่ก็อี้ชวนขมวดคิ้ว และพูดขัด“หยุด ผมไม่มีความสนใจในเบื้องหลังและการออกแบบของกระเป๋าใบนั้น”เสียงของผู้จัดการร้านหยุดชะงักทันที เผยรอยยิ้มกระอักกระอ่วน และพูด“...ถ้างั้น? เอารุ่นนี้เลยไหมคะ?”“แค่เธอชอบก็พอ สิ่งที่ผมต้องการคือให้เธอรับไว้ด้วยความพอใจ” ฟู่อี้ชวนพูดผู้จัดการร้านเข้าใจ และพูดรับรอง“โปรดวางใจได้ค่ะ กระเป๋ารุ่นนี้มีความหรูหราแต่ก็ยังมีความน่ารักสง่างาม เหมาะกับบุคลิกของคุณผู้หญิงท่านนั้นเป็นอย่างมากค่ะ”ฟู่อี้ชวนไม่ได้พูดอะไรอีก ในเมื่อเป็นสายตาของผู้จัดการร้าน งั้น
Read more
PREV
1
...
3536373839
...
54
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status