All Chapters of นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ: Chapter 421 - Chapter 430

462 Chapters

บทที่ 421

“เพราะครอบครัวเป็นต้นเหตุ ช่วงมัธยมปลายเขาเลยป่วยเป็นโรคทางจิตอย่างรุนแรง มีนิสัยมืดมน เกือบฆ่าตัวตาย ตอนนั้นฉันพาเขาไปหาจิตแพทย์แล้ว แต่เขาต่อต้านมาก”“ครั้งนี้ฉันลองติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาไปใหม่อีกครั้ง เพื่อให้มาเกลี้ยกล่อมเขา”คุณหมอพยักหน้า แล้วเอ่ยถามทันที“คนไข้ไม่ได้รับการรักษาจนหายดีมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายตนถึงตอนนี้สินะครับ”“ไม่ใช่ หลังจบมัธยมปลายอาการของเขาก็ค่อย ๆ ดีขึ้น อารมณ์ก็มั่นคงมากขึ้น นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีมานี้เลยที่อาการกำเริบหนัก ครั้งก่อนก็จิตใจกระทบกระเทือนจนปวดกระเพาะ” คุณท่านฟู่ตอบ“เมื่อกี้นี้คุณบอกว่าช่วงมัธยมปลายคนไข้ต่อต้านจิตแพทย์ แล้วเขาอาการดีขึ้นได้ยังไงครับ?” คุณหมอถามคุณท่านฟู่ชะงักไป เม้มปากเล็กน้อยอาการดีขึ้นได้ยังไง...ฟู่อี้ชวนบอกว่าเย่ซินหย่าคอยอยู่เคียงข้างเขามาสามปี คอยโน้มน้าวเขา เกลี้ยกล่อมเขา ถึงทำให้เขาค่อย ๆ ดีขึ้นพวกเขาเป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ประจวบเหมาะกับต่างเพศ ภายใต้การเกิดความรัก แน่นอนว่าต้องได้ผลดีกว่าจิตแพทย์“เป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง” คุณท่านฟู่ถอนหายใจแล้วว่า“เป็นคุณแม่? ญาติ? หรือว่า?” คุณหมอถาม
Read more

บทที่ 422

“...ถ้าเป็นแบบนั้นก็เดาได้ยากจริง ๆ ” พ่อบ้านว่า“ถ้าคุณชายแต่งงานกับเย่ซินหย่าตั้งแต่แรก งั้นคุณชายก็คงไม่ได้เจอคุณซู ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะหลงรักคุณซูเลย”คุณท่านฟู่เงียบไปแล้วกล่าวขึ้นมาว่า “เพราะงั้นก็ยังเป็นความผิดของฉัน ฉันเป็นคนสร้างโศกนาฏกรรมของพวกเขาสองคนขึ้นมาด้วยตัวเอง”มองคุณท่านที่จมอยู่กับการตัดสินใจที่ผิดพลาดในอดีตจนเดินออกมาไม่ได้แล้ว พ่อบ้านก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า“ตอนนั้นคุณท่านก็ไม่คิดว่าผลมันจะออกมาเป็นแบบนี้ แถมเดิมทีก็เป็นสัญญาแต่งงานที่มีระยะเวลาจำกัดเพียงสองปีเท่านั้น“พวกเราต่างคิดว่าผลลัพธ์ที่ดีคือคุณชายกับคุณซูต่างรักใคร่ซึ่งกันและกัน ส่วนผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดก็แค่ยกเลิกการแต่งงาน แล้วคุณชายก็เลือกคู่ครองใหม่”ใครจะคิดว่าคุณชายจะทำร้ายซูมั่ว แล้วมาหลงรักเอาทีหลัง ทั้งคู่กลายเป็นคู่รักคู่แค้น พัวพันกันจนถึงตอนนี้คุณท่านฟู่ไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเรื่องในอดีตได้ และเขาเองก็ไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้ดังนั้นมานึกเสียใจเอาตอนนี้กับเรื่องเมื่อตอนนั้นไปก็ไร้ประโยชน์ ไม่สู้ไปนั่งคิดว่าถ้าต้องรับมือกับอนาคต ควรจะจัดการกับสถานการณ์ยาก
Read more

บทที่ 423

พวกซูมั่วกินข้าวค่อนข้างช้า เลยขึ้นไปชั้นบนทีหลัง เมื่อเห็นความเป็นห่วงของรุ่นพี่แล้ว เธอเลยตอบกลับไปว่า[ไม่ได้เป็นเพราะฟู่อี้ชวนหรอก เมื่อหลายวันก่อนเขาถูกฉันแจ้งความจนโดนส่งสถานกักกัน ในช่วงสั้น ๆ นี้มาวอแวอะไรฉันไม่ได้หรอก]แม้ว่าเธอจะหงุดหงิดใจเพราะคนเฮงซวยนั่นจริง ไหนยังจะความกังวลเรื่องอนาคตอีก แต่ไม่อาจบอกเรื่องพวกนี้กับรุ่นพี่ได้การที่เธอมาทำงานที่บริษัทของอีกฝ่ายก็ทำให้อีกฝ่ายลำบากมากพอแล้ว ไหนถูกแย่งพาร์ตเนอร์ ไหนบริษัทเกือบจะถูกซื้ออีกขณะเดียวกันก็ยังต้องมาถูกฟู่อี้ชวนต่อย ถูกทำร้ายร่างกายซูมั่วหลุบตาลง กรรมของตัวเองก็มีแต่ตัวเธอเองที่ต้องแบกไว้ ไม่อาจผลักไปใส่คนอื่นได้เพราะนี่เป็นเธอที่หาเหาใส่หัวเอง เป็นผลกรรมจากความโลภมากของเธอเองภายในออฟฟิศเมื่ออ่านข้อความตอบกลับของซูมั่ว โจวจิ่งอันก็นิ่งไปซูมั่วแจ้งตำรวจมาจับฟู่อี้ชวน? นี่มันเรื่องตั้งแต่วันไหนกัน? ทำไมเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย?เขาง่วนอยู่กับการพิมพ์ รัวนิ้วเร็วเสียจนพิมพ์ผิดหลายครั้งถ้าไม่ใช่เพราะกังวลว่าเขาอยู่กับซูมั่วตามลำพังในบริษัทแล้วจะยิ่งทำให้เธอมีข่าวลือมากขึ้น ขณะเดียวกันซูมั่วก็กำลังจงใจหลบ
Read more

บทที่ 424

เขาไม่กล้านึกถึงผลลัพธ์ที่ตามมาเมื่อเผชิญหน้ากับความเป็นห่วงของรุ่นพี่ ซูมั่วก็ซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเธอก็ยังปฏิเสธเขาอยู่ดีเธอร่ายปัจจัยเบื้องต้นที่ตัวเธอจะไม่เดินทางไปไหนไกลได้เพียงลำพัง แล้วบอกว่าเธอจะระวังคอยเดินในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านและมีกล้องวงจรปิด สุดท้ายเธอก็จะใช้กฎหมายมาปกป้องตัวเธอเอง[ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงและความใส่ใจของรุ่นพี่นะ ฉันจัดการเองได้จริง ๆ แล้วก็บอกกับทางคุณปู่ฟู่ไปอีกครั้งแล้วด้วย ไว้ฟู่อี้ชวนออกมา พวกเขาก็จะเพิ่มกำลังคนมาคอยควบคุมไว้][ครั้งนี้ฟู่อี้ชวนต้องอยู่ในห้องขังสิบวัน คุณปู่ฟู่ไม่ได้ให้คนไปช่วยเขาออกมา คอยยืนอยู่ฝ่ายฉัน]เห็นซูมั่วส่งข้อความมาให้เขาติด ๆ กันหลายข้อความ โจวจิ่งอันวางโทรศัพท์ลง ไม่ได้ตอบกลับไปทั้งที่ในช่วงเวลาแบบนี้ หากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะหวาดกลัวและกังวลไปแล้ว ทว่าซูมั่วกลับแตกต่างออกไปเธอใจเย็นเกินไปแล้ว และยืนหยัดได้ด้วยตัวเองมาก ถึงขั้นที่จัดการทุกอย่างเสร็จแล้วถึงมาบอกเขาด้วยซ้ำแล้วถ้าเขาไม่ถาม คาดว่าซูมั่วก็คงไม่พูดออกมา...มุมปากของโจวจิ่งอันแฝงไปด้วยรอยยิ้มขมเฝื่อน รู้สึกว่าตอนนี้เขาไม่หลงเหลือแม้กระทั่ง
Read more

บทที่ 425

อันที่จริงเดิมคุณปู่ฟู่ก็ตกลงยอมร่วมหุ้นให้เงินลงทุน เพียงแต่ใช้บัญชีของบริษัท ไม่ใช้บัญชีส่วนตัว ซึ่งเรื่องนี้ก็สมเหตุผล ด้วยเดิมทีนั้นที่ลงทุนไปเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุดถ้าเป็นแบบนั้น บริษัทของรุ่นพี่ก็จะจัดการรวบรวมเงินทุนได้อย่างราบรื่นตามเดิม จากนั้นถึงจะได้เปิดบริษัทเธอก็จะร่วมก่อตั้งกิจการกับเขา กลายเป็นหุ้นส่วนชุดแรก เมื่อเวลาผ่านไปสองปี ติ่งเซิ่งก็พัฒนาไปได้ดี ชีวิตของเธอเองก็คงไม่เลวเช่นกันเธอจะกลายเป็นมนุษย์เงินเดือนในเมืองใหญ่ เสพสุขกับชีวิต ไม่ไปคิดถึงเรื่องโชคชะตาของฟู่อี้ชวน เพราะคุณปู่ฟู่จะช่วยเลือกภรรยาอีกคนให้เขาเองกิจการของติ่งเซิ่งก็จะไม่ต้องเกี่ยวข้องกับฟู่ซื่อ ทั้งสองบริษัทจะไม่มีการไปมาหาสู่กันและกัน แน่นอนว่าเธอก็จะไม่ได้เจอฟู่อี้ชวน และชั่วชีวิตนี้ทั้งคู่ก็จะไม่มีทางมาข้องเกี่ยวกันได้เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ ...เธอถึงกับจินตนาการถึงโลกคู่ขนานที่สมบูรณ์แบบมาก ๆ ขึ้นมา ในโลกใบนั้นเธอใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี พึ่งพาตนเอง แล้วก็ไม่มีเรื่องกวนใจหรือเรื่องกังวลใจถ้าเป็นแบบนั้นได้จริงก็จะดีสิ...เกิดเสียงดัง “แป๊ก” ดวงไฟสว่างจ้า หมดเวลาพักกลางวันแล้วซูมั่วค่อย ๆ
Read more

บทที่ 426

ทว่าระหว่างที่กำลังออกแรงพลิกตัวอยู่นั้น จู่ ๆ เรี่ยวแรงในกายก็เหือดหายอีกครั้งจนเขาควบคุมตัวไม่ได้ ถึงกับร่วงหล่นลงไปบนพื้นอย่างจังเกิดเสียงดัง “ตุบ” เสียงกระแทกพื้นดังลั่น ฟู่อี้ชวนไม่รู้สึกเจ็บปวดตรงไหนเลยสักนิด เขาพยายามลุกขึ้นยืนต่อไปตอนนั้นเอง เพราะบอดี้การ์ดที่ต้องควรตรวจตราความเคลื่อนไหวภายในห้องพักผู้ป่วยทุก ๆ สิบนาทีจับสังเกตความผิดปกติได้อย่างว่องไว จากนั้นก็รีบเปิดประตูเข้ามาทันทีตอนที่เห็นประธานฟู่พลิกตัวจนหล่นลงไปอยู่ที่พื้น ทั้งสองคนก็รีบเข้ามาประคองเจ้าตัวขึ้นทันที แล้วพาเจ้าตัวกลับไปยังเตียงพยาบาลฟู่อี้ชวนขัดขืน ทั้งผลักทั้งดัน ทว่าไม่มีแรงผลักเลยสักนิดเดียว ทำได้เพียงพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเท่านั้น“ปล่อย...ฉัน ฉันจะไป หาซูมั่ว...”ไม่ได้หยุดไปเพราะติดอ่าง มันเป็นเพราะเขามีแรงเปล่งเสียงไม่พอ พูด ๆ ไปก็ไม่มีเสียงแล้ว ทำได้เพียงหยุดพักสักหน่อยแล้วเพิ่มแรงเสียงอีกครั้งเมื่อได้ยินว่าประธานฟู่จะไปตื๊อคุณซูอีก บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็มองตากัน ใช้กำลังหามเจ้าตัวกลับขึ้นไปนอนบนเตียงให้เรียบร้อย“พวกนาย แม่งเอ๊ย ไม่ได้ยินที่ฉันพูด...เหรอ?” ฟู่อี้ชวนถลึงตาใส่ด้วยความโก
Read more

บทที่ 427

“ไม่เลย สมอง ว่างเปล่า”คุณหมอพยักหน้า รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นแบบนี้แค่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะยาระงับประสาทยังสลายไปไม่หมด“สภาพจิตใจคุณเป็นยังไงบ้าง อยากหลับไหม?” เขาเอ่ยถามฟู่อี้ชวนส่ายหน้า “ไม่อยากหลับ”คุณหมอยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า“เยี่ยมมาก งั้นพวกเรามาคุยกันดีกว่า เชิญทำตัวตามสบาย ก็แค่คุยกันสนุก ๆ เหมือนเป็นเพื่อนกันเท่านั้น”เมื่อได้ยินแบบนั้น ฟู่อี้ชวนก็เข้าใจทันทีว่าความรู้สึกแปลกพิกลของเขาในตอนแรกมันมาจากไหนสรุปก็คือคนคนนี้ไม่ใช่หมอทั่ว ๆ ไป แต่แม่งเป็นจิตแพทย์!เขาก็ว่าทำไมมาถึงก็ถามเยอะแยะขนาดนั้น ดังนั้นเลยปั้นสีหน้าดำทะมึน ไล่อีกฝ่ายไปว่า“คุณไปเถอะ ผมไม่อยากคุยกับคุณ”จิตแพทย์เห็นว่าเมื่อครู่นี้เจ้าตัวยังสงบนิ่งอยู่เลย แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนสีหน้าเสียแล้ว ทว่าก็ยังพูดออกไปอย่างเป็นมิตรว่า“ผมไม่ได้จะ...”“ผมบอกให้คุณออกไป!” ฟู่อี้ชวนตัดบทเขาทันที เสียงตะโกนอย่างเดือดดาลหายไปในคำสุดท้ายจิตแพทย์เห็นว่าอยู่ ๆ เขาก็เดือดดาลขึ้นมา เนื่องจากตอนแรกทำความเข้าใจสถานการณ์ของอีกฝ่ายที่ปฏิเสธการรักษาทางจิตมาจากทางบ้านของผู้ป่วยแล้ว เลยคิดว่าน่าจะเป็นเพราะอีกฝ่ายรู้ฐานะของเข
Read more

บทที่ 428

“ใครแม่งเป็นห่วงมัน ถ้าไม่ใช่เพราะถ้ามันตายแล้วจะทำให้การเลี้ยงดูของฉันเสียเปล่า ฉันไม่สนใจมันหรอก!” คุณท่านฟู่ได้ยินแบบนั้นเข้าก็พูดออกมาอย่างขุ่นเคืองพ่อบ้านได้ยินแบบนั้น เหงื่อก็ผุดออกมาจากหน้าผาก พอคุณท่านถูกทำให้โกรธ ก็จะปากไม่ตรงกับใจชอบพูดจาทำร้ายคนฟังพวกเขาสองคนพูดกันแล้ว อารมณ์ของฟู่อี้ชวนก็สงบลง เขาวางมือที่ประคองศีรษะไว้กึ่งหนึ่งลง ทว่ายังคงไม่มองพวกเขาอยู่เหมือนเดิม“ผมไม่ได้ป่วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเพราะว่าห้องพักผู้ป่วยเงียบสงบ แม้ว่าฟู่อี้ชวนจะเสียงเบา น้ำเสียงยามพูดแหบแห้งไม่ต่างอะไรกับเป็ดแก่ ทว่าคุณท่านฟู่ก็ยังคงได้ยินมันชัดเจนอยู่ดีเขาโมโหจนพ่นหนวดเคราพลางถลึงตาใส่ พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า“แกไม่ได้ป่วย งั้นใครกันที่ล้มไปนอนกับพื้นจนลุกไม่ขึ้น? ใครกันที่ตัวแข็งทื่อเกร็งไปทั้งตัว? หายใจไม่ทันจนเกือบหยุดหายใจ?”ฟู่อี้ชวนเงียบไป ดวงตาจดจ้องอยู่ที่บัวพื้นแถวมุมกำแพง ไม่ตอบอะไร“ต้องฉีดยากล่อมประสาทถึงจะทำให้แกสงบลงมาได้ ไหนยังฉีดยาคลายกล้ามเนื้อให้แก ไหนยังจะยาระงับประสาทที่ให้ไปพร้อมกันอีก” คุณท่านฟู่พูดขึ้นมาอีกครั้ง“ถ้าแกไม่ได้ป่วย งั้นใครกันที่ป
Read more

บทที่ 429

ฟู่อี้ชวนกัดริมฝีปาก กำผ้าปูเตียงแน่น แต่เพราะว่าไม่มีเรี่ยวแรง เลยได้แต่กำไว้หลวม ๆ“ผมรู้...” เขาตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“ดังนั้นผมเลยต้องไถ่โทษ ชดเชย ใช้ชีวิตทั้งชีวิต...”“หยุดเลย” คุณท่านฟู่ตัดบทเขาทันที“ถ้าแกอยากไถ่โทษจริง สู้ให้เงินเยอะ ๆ หน่อย ให้อสังหาริมทรัพย์สักหน่อยม่ดีกว่าเหรอ คนอย่างแกมันจะมีค่าอะไร? ออกจากฟู่ซื่อไป แกคิดว่าแกยังมีราคาอยู่อีกเหรอ?”ฟู่อี้ชวน “...”คำพูดของคุณปู่ช่างแทงใจดำเหลือเกิน แต่มันก็... ถือว่าเป็นความจริงอย่างหนึ่งจริง ๆ“ฉันจะช่วยแกร่างและกำหนดการแบ่งทรัพย์สินใหม่ ฉวยจังหวะที่กำลังอยู่ในช่วงหย่านี่แหละ จะได้จ่ายให้มั่วมั่วทีเดียวพอดี” คุณท่านฟู่กล่าวสำทับพูดจบ เขาก็หันไปมองพ่อบ้านแล้วสั่งไปว่า“ไปคำนวณจำนวนทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของมันมา แล้วก็พวกหุ้นในบริษัทด้วย ถ้ายังไม่พอก็แบ่งจากทางฉันเข้าไปอีกหน่อย”“ครับ” พ่อบ้านพยักหน้าพลางตอบ“พอชดเชยเป็นเงินจนสมน้ำสมเนื้อแล้ว ต่อจากนี้ไปแกก็ลืมเธอไปซะ อย่าไปวุ่นวายกับเธออีก ถือเสียว่าบุญคุณความแค้นพวกนั้นระหว่างพวกแกสองคนสะสางกันหมดแล้ว” คุณท่านฟู่พูดกับฟู่อี้ชวนอีกครั้งเมื่อได้ยินคุณปู่ตัดสิ
Read more

บทที่ 430

เมื่อพูดจบ เขาก็ถอนหายใจออกมา จากนั้นจึงหมุนตัวแล้วเดินออกไปภายในห้องพักผู้ป่วยหลังประตูห้องปิดลง ทั้งห้องพลันเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง เสียงสลัวด้านนอกหน้าต่างมืดไปแล้วฟู่อี้ชวนปิดเปลือกตา อ้าปากหายใจ ที่หางตาหลั่งรินน้ำตาลงมาเป็นครั้งสุดท้ายทำไมกัน ทำไมคุณปู่จะต้องให้เขาเลือกระหว่างบริษัทกับซูมั่วด้วย?เขาไม่ได้ไม่เหลียวแลบริษัทเพราะผู้หญิง เขาไม่ได้ทำการตัดสินใจครั้งสำคัญ ๆ ผิดพลาด ยิ่งไม่ได้ทำให้กำไรของบริษัทต้องร่วงเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฟู่อี้ชวนก็สัมผัสได้ถึงความโกรธ ความน้อยเนื้อต่ำใจ ขณะเดียวกันก็ยังมีคำกล่าวโทษคุณปู่ไม่ผิดเลยงั้นเหรอ?ตอนนั้นใครกันที่บังคับให้เขาแต่งงานกับซูมั่ว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่ เขาจะไปหลงรักซูมั่วได้ไหม?ยิ่งไม่ต้องมีความรู้สึกไม่อยากปล่อยมือย่างในตอนนี้ด้วยเขาไม่ยอม ความรักที่ยังไม่ได้เริ่มต้น แต่ก็ต้องหลีกทางให้คนอื่นทั้งแบบนี้แล้ว เขาทำไม่ได้เขาขับฟู่ปั๋วหมิงทั้งครอบครัวออกไปจากบ้านใหญ่ได้ ทำให้ฟู่ปั๋วหมิงไม่มีวันได้เหยียบเข้ามาที่สาขาใหญ่ได้ นี่ล้วนเป็นผลจากการที่เขาชิงมาถ้าไม่ชิง เช่นนั้นตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลฟู่คงตกเป็นของผู้ชาย
Read more
PREV
1
...
4142434445
...
47
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status