Tous les chapitres de : Chapitre 441 - Chapitre 450

462

บทที่ 441

หลีเชินพยักหน้า หลังจากอ่านและเซ็นเอกสารในมือฉบับสุดท้ายเสร็จถึงได้หยัดกายขึ้นยืนเขาไปล้างไม้ล้างมือแล้วเดินมาถึงห้องรับแขกในห้องชุด สุดท้ายพบว่าเลขายังอยู่ที่เดิม กระทั่งถึงขั้นจ้องมองอาหารอย่างใจลอย“ทำไม คุณอยากกินเหมือนกันเหรอ?” หลีเชินเลิกคิ้วถาม“ไม่ ไม่ครับ ผมแค่ประทับใจแล้วก็ประหลาดใจกับฝีมือการทำอาหารของคุณซูเท่านั้นเอง กับข้าวสามอย่างซุปอีกหนึ่งอย่าง อาหารแต่ละจานก็จัดอย่างประณีตและรสชาติดี กลิ่นหอมเตะจมูกดีครับ” เลขาหันมาพูดอธิบายและชื่นชมวินาทีที่หลีเชินเดินเข้าห้องรับแขกมาก็ได้กลิ่นหอมแล้ว เมื่อเดินเข้าไปอีกสองก้าว พบว่าอาหารที่ซูมั่วเตรียมไว้ให้ตัวเขานั้นมีหลากหลายจริง ๆมีทั้งปีกไก่ สเต๊กเนื้อวัว มีทั้งกุ้ง ขนาดซุปก็มีด้วย“ทำแบบง่าย ๆ” ที่ตกลงกันไว้ล่ะ?ช่างเป็นคนที่ซื่อสัตย์จริง ๆเลขาออกไปแล้ว หลีเชินจึงนั่งลงบนโซฟา ต่อมรับรสถูกกระตุ้น ความอยากอาหารเพิ่มสูงขึ้น รู้สึกหิวจัดจนกระเพาะส่งเสียงดังโครกครากเขาไม่ค่อยอยากอาหารมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว ในสายตาเขาอาหารก็เป็นแค่สิ่งที่เอาไว้รักษาชีวิต หรือไม่ก็มีไว้สำหรับเลี้ยงลูกค้าเอาโปรเจกต์เท่านั้น แต่ในเวลานี้ เ
Read More

บทที่ 442

หลีเชินไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปอย่างไรอย่างที่ไม่ค่อยพบเจอได้บ่อยนัก คุยกับเขาให้เหมือนคุยกับหลีโย่วไม่ได้หรือยังไง? ทำไมต้องสุภาพตลอดเวลาด้วยแต่ว่าคำที่พิมพ์ก็ถูกเขาลบออกไป เพราะรู้สึกว่าตนเอง “สมควรรับผลกรรมที่ก่อขึ้นเอง”ประการแรกมี “ประธานหลี” ฐานะนี้อยู่ ประการที่สองก่อนหน้านี้เขายังหยอกเย้าเธอสารพัดวิธี แม้กระทั่งเพื่อนทั้งสองคนยังเป็นไม่ได้ดังนั้น การปฏิบัติอย่างสุภาพเช่นนี้ ก็เป็นสิ่งที่เขา “สมควร” ได้รับแล้วหลีเชินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง รู้สึกเสียใจอยู่บ้างว่าทำไมก่อนหน้านี้ตนเองต้องทำตัวร้ายกาจขนาดนั้นในหัวสมองมีภาพใบหน้าของซูมั่วผุดขึ้นมา ทั้งยังมีน้ำเสียงระมัดระวังและสุภาพของเธออีก ท้ายที่สุด หลีเชินก็ได้ข้อสรุปออกมาหนึ่งข้อนี่จะโทษเขาไม่ได้จริง ๆ ทางด้านจิตวิทยามีคำหนึ่งเรียกว่า “อาการมันเขี้ยว” ความหมายของมันก็คือเมื่อเห็นของที่น่ารักก็อยากจะเข้าไปหยอกเย้ากับซูมั่วเขาก็เป็นแบบนี้ มันเหมือนกับลูกแมวเหมียวน่าสงสารตัวหนึ่ง เมื่อถูก “รังแก” ก็จะยื่นกรงเล็บออกมา แต่ว่าไม่เผยปลายเล็บในระหว่างที่เขากำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์นั้น ในขณะเดียวกัน ภายในห้องกักขังเดี่ยวฟู่อี้ชวน
Read More

บทที่ 443

[ฉันจะแทงปู่แก!]แม่ง เขาทนไม่ไหวจริงแล้ว ๆ ขณะเดียวกันในความโกรธยังมีความอิจฉา รวมถึงความเศร้าเสียใจและความน้อยอกน้อยใจอยู่ด้วยทำไมซูมั่วถึงทำอาหารให้หลี่เซิน? ทั้งยังห่อข้าวกล่องให้อีก นี่ไม่ใช่การไปกินข้าวข้างนอกหลีเชินกำลังทำงาน การที่ไปส่งในระหว่างที่กำลังทำงาน หรือเธอเป็นคนไปส่งเอง?หลีเชินไอ้ทุเรศ แม่ง แกมีสิทธิ์อะไร แกมีสิทธิ์อะไร!!! ระหว่างที่เขากำลังประมวลผลนั้น หลีเชินไม่ได้ตอบกลับมาตรง ๆ แต่ใช้ข้อความประโยค [ฉันจะแทงปู่แก ของเขา ตอบกลับมาว่า[คุณฟู่รสนิยมของคุณค่อนข้างวิปริตเลยทีเดียวนะ แต่คุณปู่ของผมเสียชีวิตไปแล้ว แล้วก็เผาร่างไปแล้วด้วย คุณจะขุดมันขึ้นมาก็คงไม่ดีเท่าไหร่มั้ง][อืม ในเมื่อคุณต้องการแบบนี้ให้ได้ ถ้าอย่างนั้นจะไป...กับหินจารึกหน้าหลุมศพก็ได้นะ]เมื่อได้เห็นข้อความทั้งสองประโยคนี้ ฟู่อี้ชวนก็ได้ระเบิดอารมณ์อออกมา ก่อนใช้เท้าข้างหนึ่งเตะโต๊ะทำงานชั่วคราวที่เดิมก็ไม่ได้แข็งแรงอยู่แล้วจนพลิกคว่ำ“แม่งเอ๊ย! บัดซบ! ไอ้เวรหลีเชิน!!!” ฟู่อี้ชวนสบถคำด่าด้วยความโกรธเคืองเขาเบิกตากว้างด้วยความโกรธเคือง แทบอยากจะเข้าไปประเคนหมัดสักสองหมัดให้อีกฝ่ายที่หลีซ
Read More

บทที่ 444

การเปิดเผยว่าท่านประธานยังคงจับตาดูการเคลื่อนไหวของเธออยู่ตลอดเวลา ถ้าหากอีกฝ่ายเอาเรื่องนี้ไปพูดกับคุณท่านขึ้นมา ท่านก็จบเห่แล้ว“ประธานฟู่ นี่คงทำได้แค่ตามสืบแบบลับ ๆ แต่มันยากมากนะครับ” หลี่หยวนพูดด้วยความลำบากใจฟู่อี้ชวนย่อมรู้อยู่แล้ว เพราะหลี่หยวนไม่มีคุณสมบัติพอจะไปถามหลีเชิน แล้วก็ไม่สามารถเอาไปถามซูมั่วได้ด้วยเช่นกัน เพราะเป็นแบบนั้นก็หมายความว่าเขายัง “ใส่ใจ” เธออยู่“ถามอ้อม ๆ เอาสิ ดูสิว่าสามารถแทรกซึมเข้าไปในหลีซื่อได้ไหม หลัก ๆ คือต้องสืบว่าซูมั่วได้คบหากับหลีเชินหรือเปล่า” ฟู่อี้ชวนกล่าวหลีหยวนรู้ว่านี่ทำได้ค่อนข้างยากลำบากทีเดียว ถึงหลี่ซื่อไม่ได้อยู่ในยุครุ่งโรจน์ แต่ก็อยู่ระดับเดียวกับฟู่ซื่อ เขาออกมาแล้ว หลังออกมาจากสถานกักกัน ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาทนายความทันทีการตัดสินของศาลอุทธรณ์ยังต้องดำเนินต่อไป ความหมายของประธานฟู่ชัดเจนมากจะต้องเขียนคำให้การต่อสู้คดี และปัดความผิดทั้งหมดที่ทางฝั่งเขาเคยทำ โยนใส่เย่ซินหย่าซะขณะเดียวกันมีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน แต่ประธานฟู่ยังต้องเขียนหนังสือรับสารภาพเพื่อขอให้ยกโทษให้กอปรกับการไกล่เกลี่ย ไม่อยากทำให้ความสัมพ
Read More

บทที่ 445

น่ากลัวมาก...ถ้าเธอแพ้ในการพิจารณาคดีชั้นศาลอุทธรณ์ และถูกบังคับให้กลับมาคืนดีกับฟู่อี้ชวน งั้นสิ่งที่รอเธออยู่ก็คือความตายใช่ไหม?เธอไม่เคยคิดเลยว่าการหย่าจะยากขนาดนี้ เดิมทีคิดว่าแค่เอาข้อตกลงก่อนแต่งงานออกมา แล้วศาลชั้นต้นตัดสินให้หย่าก็จบแล้ว ผลคือยังมีอุปสรรคมากมาย...เธอไม่เข้าข่าย ‘การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง’ และ ‘การใช้ความรุนแรงในครอบครัวหลายครั้ง’ ตามที่เจิ้งเซวียนพูดประการแรกแม้เธอจะกระดูกร้าว แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่กำหนดประการต่อมาหลักฐานที่เธอเก็บไว้ก็มีแค่ตอนที่กระดูกร้าวครั้งนั้นส่วนตุ่มพุพองที่เท้า ก็แค่ไปโรงพยาบาลเพื่อรับยามาเท่านั้น และถ้าพูดกันตามตรงนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ฟู่อี้ชวนก่อ แต่เป็นเย่ซินหย่าพิษจากแก๊สรั่วก็ด้วย เป็นสิ่งที่เย่ซินหย่าทำทั้งหมดเหมือนกัน จากกล้องวงจรปิดก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟู่อี้ชวนเลย...ซูมั่วตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ราวกับกำลังจะจมน้ำ หายใจไม่ออก รู้สึกเจ็บปวดในใจหรือว่าชีวิตนี้เธอจะหลุดพ้นจากฟู่อี้ชวนไม่ได้แล้วเหรอ?พระเจ้า ทำไมต้องลงโทษเธอขนาดนี้ ผลกรรมอันขมขื่นสองปีนั้นเธอก็รับมาแล้ว ผ่านมานานทำไมยังไม่ให้หลุดพ้นอีก..
Read More

บทที่ 446

สายตาของเธอแน่วแน่ ตอนนี้แม้แต่หนึ่งปีเธอก็ไม่ต้องรอแล้ว สามารถหย่าได้ทันทีในการพิจารณาคดีชั้นศาลอุทธรณ์เลย!เธอพูดเรื่องนี้ออกมา คราวนี้กลายเป็นเจิ้งเซวียนที่ผ่านไปนานแล้วกลับไม่พูดภายในสำนักงานเขานั่งไขว่ห้าง อ้าปากค้างกลายเป็นรูปตัวโอ สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อให้ตายสิ! ฟู่อี้ชวนมีปัญหาจริง ๆ ด้วย!!นกเขาไม่ขันเหรอฮ่า ๆ ๆ ๆ~งั้นเขาไปหาเมียน้อยได้ยังไง? ทั้งคู่ใช้มือช่วยกันเหรอ?ประธานฟู่ซื่อกรุ๊ปผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้สืบทอด และเป็นทายาทสายตรงเพียงคนเดียวคาดไม่ถึงว่ากลับมีปัญหาด้านนั้น!ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ตระกูลฟู่คงไม่มีหน้าไปสู้หน้าใครแล้ว ทั้งยังจะกลายเป็นเรื่องตลกของคนในวงการธุรกิจไปอีกร้อยปีด้วยคำพูดพวกนี้หยาบคายเกินไป ไม่เหมาะที่จะพูดกับซูมั่วผู้ใสซื่อ ใบหน้าของเขาแสดงสีหน้าที่หลากหลาย แล้วซักถามแบบซุบซิบ“เขามีข้อบกพร่องทางร่างกายเหรอ? งั้นนี่ก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนเลย!”“มีข้อบกพร่องหรือเปล่าฉันไม่รู้ค่ะ” ซูมั่วตอบกลับถึงยังไงเธอก็ไม่เคยลอง“แต่เราไม่ได้นอนห้องเดียวกันจริง ๆ อาจเป็นเพราะรังเกียจก็ได้ พวกเรานอนแยกห้องมาตลอ
Read More

บทที่ 447

ที่ปลายสาย หลีเชินที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง “...”“ใช่ที่ไหนกัน ฉันกับซูมั่วคืนดีกันแล้ว ตอนนี้ความสัมพันธ์ก็ไม่เลวเลยด้วย” หลีเชินแก้ตัว“ฮ่า ๆ ใครจะเชื่อนาย...” เจิ้งเซวียนแสดงความดูแคลนและกลอกตา“สาวน้อยคนนั้นยอมไปทรมานที่แผนกสูตินรีเวชโดยไม่คิดจะบอกกับนายสักคำ”หลีเชินได้ยินแบบนี้ก็เม้มปาก และเงียบไปการจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเขามันยากขนาดนั้นเลยเหรอ? ก็แค่เรื่องที่พูดประโยคเดียว ทำไมซูมั่วถึงยอมไปโรงพยาบาลแต่ไม่ยอมพูดกับเขาล่ะ...พวกเขาก็ถือว่ารู้จักกันแล้ว ความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นแล้ว แม้จะไม่ใช่เพื่อนกัน แต่ในฐานะพี่ชายของเพื่อนสนิท การขอความช่วยเหลือสักหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนี่“เพราะงั้นนายอย่าแก้ตัวเลย ต่อให้ตอนนี้นายจะกลับตัวกลับใจแล้ว แต่ก็ยังทำให้สาวน้อยมีปมในใจอยู่ดี” เจิ้งเซวียนพูด ‘กล่าวโทษ’ อีกฝ่ายต่อหลีเชิน “...”“เดี๋ยวฉันจะไปพูดกับเธอด้วยตัวเอง” เขาพูด“เฮ้ยอย่า! ถือว่าฉันเป็นคนมาขอความช่วยเหลือจากนายเถอะ อย่าไปบอกเธอเชียว” เจิ้งเซวียนพูดห้าม“นายน่ะ แอบช่วยก็พอ ถือว่าฉันติดหนี้บุญคุณนาย ไว้ฉันจะเลี้ยงข้าวนายนะ~”เขาเห็นซูมั่วแล้วสงสารจริง ๆ
Read More

บทที่ 448

เสียงพูดยังไม่ทันจะจบ ทันใดนั้น หลีเชินก็หรี่ตา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร“นายกล้าเหรอ”เจิ้งเซวียนชะงักไป คิดไม่ถึงว่าจะถูกน้ำสียงน่าหวั่นเกรงแฝงความเย็นชาทำให้ตกใจจนนิ่งงันไปชั่วขณะเมื่อเขารู้สึกตัว ก็ตะโกนพูด“เฮ้ย ฉันแค่สมมติเฉย ๆ ทำไมนายมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้เนี่ย”“ไม่มีการสมมติแบบนั้น ซูมั่วเป็นเพื่อนของน้องสาวฉัน ถ้านายจะจีบเธอ ก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจนายแล้วกัน” หลีเชินพูดข่มขู่อย่างเย็นชาเจิ้งเซวียน ‘...เหตุผลแค่นี้เหรอ?’นายในฐานะพี่ชายคนหนึ่งจะดูแลน้องสาวก็เป็นหลักการที่ถูกต้อง แต่ทำไมถึงต้องดูแลแม้แต่เพื่อนของน้องสาวด้วยล่ะ?ไม่ปกติแล้ว ไม่ปกติมาก ๆ“นี่ นายมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ ไม่ใช่ว่านายชอบซูมั่วเข้าแล้วหรอกนะ?” เจิ้งเซวียนพูดหลีเชินยังไม่ทันปฏิเสธตามปกติ ทางฝั่งเจิ้งเซวียนก็พูดต่ออีกครั้ง“ช่างเถอะ ตามสบายเลย ฉันขี้เกียจซักไซ้แล้ว”นี่คือชอบเข้าแล้วแต่ปากไม่ยอมรับ หรือว่าเขายังไม่รู้ตัวกันแน่?จิ๊ ๆ ผู้ชายแบบนี้ ต่อให้ง้างปากเขาเขาก็ไม่พูดหรอกเพราะงั้นหลีเชินขอให้โชคดีก็แล้วกันนะ อย่ารอจนสุดท้ายพอรู้ตัว เธอก็ไปคบกับคนอื่นแล้วล่ะ“เมื่
Read More

บทที่ 449

[เมื่อก่อนอาหารเย็นของคุณก็เป็นแบบนี้เหรอ?]อีกด้านหนึ่ง ฟู่อี้ชวนแทบจะตอบกลับทันที[ไสหัวไป! หลีเชิน เวรเอ๊ยแกมันไม่ใช่คน! กิน ๆ ๆ กินให้ตายไปเลย! ขอให้อาหารเป็นพิษ จนพรุ่งนี้ตายแล้วถูกหามไปทั้งคนทั้งโลงเลย!]มองคำพูดที่เต็มไปด้วยเจตนาร้ายพุ่งออกมาจากหน้าจอ หลีเชินก็......ถึงขั้นเหมือนแมวถูกเหยียบหางเลยเหรอ? เขาก็แค่ถามคำเดียวไม่ใช่เหรอ?ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดนี้ของเขาก็ไม่ได้มีเจตนาโอ้อวด ก็แค่ถามเฉย ๆ เท่านั้นแต่ดูเหมือนเจ้าฟู่คนนี้จะเข้าใจผิดไปโดยสิ้นเชิง แถมยังพ่นคำพูดออกมาด่าเขาไม่หยุดตอนเที่ยงหลีเชินยังมีอารมณ์ ‘แกล้ง’ อีกฝ่ายสักสองประโยค แต่ตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี ขี้เกียจทะเลาะกับเขาเหมือนเด็กประถม จึงบล็อกเขาอีกครั้งทันทีเขาส่ายหัว แล้วคิดในใจฟู่อี้ชวนนับวันยิ่งไม่มีน้ำใจลูกผู้ชายเลยจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าคนแบบนี้จะเป็นคู่แข่งของตน...จิ๊ รู้สึกว่าระดับของเขาถูกดึงให้ต่ำลงเลยขณะเดียวกัน ในสถานกักกันฟู่อี้ชวนดูภาพมื้อเย็นที่ซูมั่วทำให้หลีเชินแล้วอีกฝ่ายเอามาอวดซ้ำ ๆ จิตใจเขาก็เสียศูนย์อีกครั้งทำไมยังมีอีก??! แถมไม่ใช่แค่มื้อเดียวด้วย!!!เวรเอ๊ย ซูมั่วทำเองแล้วไป
Read More

บทที่ 450

ยิ่งทนไม่ไหวก็ยิ่งต้องให้เขาทน แบบนี้ถึงจะจำขึ้นใจ ไม่อย่างนั้นถ้าช่วยเขาออกมาง่าย ๆ ไม่ใช่ว่าจะเป็นการตามใจเขามากเกินไปเหรอ?“นายน่ะ ตามใจเขายิ่งกว่าฉันที่เป็นปู่แท้ ๆ อีก เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ โตขนาดนี้แล้วด้วย ยังเป็นเด็กไม่หย่านมหรือไง?” คุณปู่ฟู่พูดอีกครั้งพ่อบ้านได้ยินแบบนี้ก็ไม่กล้าพูด ถึงยังไงเขาก็ดูแลคุณชายมาตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่าต้องปกป้องเขาทุกด้านอยู่แล้วแต่คำสั่งของคุณท่านอยู่ตรงนี้ เขาก็ไม่อาจช่วยได้คำขอของฟู่อี้ชวนถูกปฏิเสธกลับมา เขาขอคุยโทรศัพท์กับคุณปู่อย่างไม่ยอมแพ้คุณท่านฟู่ตกลง อยากจะดูว่าฟู่อี้ชวนมีเหตุผลอะไร“คุณปู่ครับ ผมปรับปรุงตัวเองใหม่อย่างจริงจังแล้ว และทบทวนการกระทำของผมแล้ว ผมผิดไปแล้วครับ ที่หุนหันเกินไปและสุดโต่งเกินไป...”ฟู่อี้ชวนยอมรับผิดและขอโทษคุณปู่ฟู่อย่างจริงใจก่อน“จิตแพทย์บอกว่าอารมณ์ของผมคงที่แล้ว ไม่ส่งผลกระทบต่องานประจำวันเลยครับ และผมก็ให้ความร่วมมือกับการรักษาของเขาอย่างดี...”เขายกหมอมาเป็นหลักฐานยืนยัน“ถึงแม้ผมจะมีโน้ตบุ๊กที่สามารถทำงานจากระยะไกลได้ แต่ก็ไม่สะดวกเท่าที่บริษัทครับ นอกจากนี้ทางฝั่งฟู่ซื่อมีโปรเจกต์ใหญ่ที่กำลัง
Read More
Dernier
1
...
424344454647
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status