Tous les chapitres de : Chapitre 431 - Chapitre 440

462

บทที่ 431

“เดิมทีความรักก็เป็นหนึ่งในความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ เพราะรักมาก เลยเจ็บปวด ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ”“จากนี้ไปผมจะมาคุยกับคุณทุกวัน การปล่อยวางไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การได้มีใครสักคนให้ระบายก็สามารถช่วยคลายความเจ็บปวดในใจได้”ฟู่อี้ชวนพยักหน้า แล้วพูดว่า“ขอบคุณมากครับ เพราะครอบครัวของผมไม่เข้าใจความรู้สึกของผม มีแต่บอกให้ผมยอมแพ้ แถมยังขู่ผมอีก”“เดิมทีผมก็เจ็บปวดมากอยู่แล้ว ครอบครัวยังมาข่มขู่แบบนี้ยิ่งทำให้ผมทุกข์ใจขึ้นไปอีก”……แผนกจิตวิทยาของโรงพยาบาล ห้องให้คำปรึกษา“…เขาพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอ? รู้สึกว่าฉันกดดันเขา ทำให้เขายิ่งรู้สึกแย่และซึมเศร้ามากขึ้น?” คุณท่านฟู่สีหน้าดูไม่ค่อยดีนัก มองไปที่จิตแพทย์พลางถาม“ใช่ครับ คุณฟู่พูดเรื่องพวกนี้กับหมอด้วยท่าทีที่สงบมาก แต่ผมมองออกว่าเขากำลังเจ็บปวดและกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่” หมอตอบ“คุณคือปู่ของเขา เป็นคนที่ใกล้ชิดเขามากที่สุด ผมรู้ว่าคุณหวังดีกับเขา แต่วิธีของคุณบางครั้งอาจจะรุนแรงเกินไป ซึ่งนั่นยิ่งกระตุ้นให้อาการของคนไข้แย่ลงด้วย”คุณท่านฟู่ “…”เฮ้อ เท่ากับว่าเขาถูกหมอ “อบรม” ไปชุดหนึ่ง ว่าไม่ควรพูดแบบนั้นกับเจ้าเด็กบ
Read More

บทที่ 432

“คุณชายอาจจะแกล้งแสดง แต่ก็เป็นไปได้ว่าถูกคำพูดของคุณท่านเมื่อคืนทำให้ตกใจกลัว” พ่อบ้านตอบ“คุณชายกำลังพยายามอย่างมากที่จะเติบโต และก็พยายามหนักสำหรับการสืบทอดธุรกิจ เขาไม่มีทางจะยอมปล่อยให้คุณชายรองได้ไปง่ายๆ แน่”“แล้วประธานฟู่ ก็เป็นตัวการในการ “ฆ่า” แม่ของเขา บางครั้งความแค้นก็สามารถเอาชนะทุกอย่างได้”คุณท่านฟู่เม้มริมฝีปาก คิดทบทวนคำพูดเหล่านั้นใช่ เขาไม่ควรประเมินค่าความแค้นของฟู่อี้ชวนที่มีต่อครอบครัวของฟู่ปั๋วหมิงต่ำเกินไปต้องเห็น “ศัตรู” มีทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ส่วนเขากลับไม่มีอะไรเลย ฟู่อี้ชวนจะยอมรับได้จริงๆ เหรอ?ฉะนั้นเหตุผลที่ฟู่อี้ชวนยอมให้ความร่วมมือในครั้งนี้จริงๆ แล้วคืออะไร…“กลัวก็แต่ว่าเขาจะแกล้งแสดง จากนั้นเก็บกดไว้จนป่วย สุดท้ายระเบิดออกมารุนแรงยิ่งกว่าเดิม จนไม่สามารถควบคุมได้” คุณท่านฟู่ถอนหายใจ พลางพูดด้วยความเศร้าคำพูดแรงๆ เขาสามารถพูดได้ แต่ความเป็นห่วงก็เป็นห่วงจริงๆเขาว่าฟู่อี้ชวนจะเก็บกดจนกลายเป็นบ้าขึ้นมาจริงๆ สักวัน ถึงตอนนั้นก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว…“จิตแพทย์คนนี้ให้จ้างเป็นแพทย์ประจำตัวของฟู่อี้ชวนระยะยาว ค่อยให้คำปรึกษาชี้แนะทุ
Read More

บทที่ 433

“ส่งคนไปจับตาดูที่สถานกักกัน งานก็ค่อยๆ ทยอยส่งกลับให้เขา ก็แค่เปลี่ยนที่นอนกับที่ทำงานเท่านั้น”เมื่อได้ยินดังนั้น พ่อบ้านจึงทำได้เพียงปล่อยไป ก่อนที่จะถามต่อว่า“แล้วเรื่องการดักฟังเครื่องมือสื่อสารล่ะครับ? ยังต้องทำต่อไหม?”“ทำต่อไป” คุณท่านฟู่ตอบฟู่อี้ชวนจะกลับใจเปลี่ยนตัวเองเริ่มต้นใหม่ได้จริงหรือไม่เขายังต้องพิจารณาต่อไป ดังนั้นการดักฟังจึงเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้พ่อบ้านจึงไปปฏิบัติภารกิจลับทันที ขณะเดียวกัน ที่ฝ่ายการตลาดของฟู่ซื่อกรุ๊ปฟู่อวี่เหิงมองดูรูปถ่ายที่ส่งมาให้เขาทางโทรศัพท์ มุมปากยิ้มเล็กน้อยอย่างเงียบๆตอนนี้หลักฐานครบหมดแล้ว ฟู่อี้ชวนออกมาจากโรงพยาบาล ก็ต้องกลับเข้าสถานกักกันอีกครั้งเพราะยังหาสาเหตุที่ฟู่อี้ชวนเข้าไปไม่ได้ เขาจึงสั่งให้คนเฝ้าต่อไปต่อให้เป็นเรื่องร้ายแรงถึงขั้นฆ่าคนวางเพลิง ตาแก่จะไม่มีปัญญาปกป้องฟู่อี้ชวนงั้นเหรอ?และถ้าเรื่องร้ายแรงถึงขั้นนั้นจริงๆ จะแค่ควบคุมตัวในสถานกักกันง่ายๆ ได้ยังไง? ป่านนี้คงถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจนติดคุกหัวโตไปนานแล้วฉะนั้นเรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยความคลุมเครือจริงๆ เขาต้องสืบหาความจริงให้ได้สายตาจับจ้องไปที่บอด
Read More

บทที่ 434

วันนี้วันศุกร์แล้ว พรุ่งนี้วันเสาร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วเขาจงใจล้อเล่นและแกล้งเธอ ซูมั่วกลับเชื่อจริงๆ และเตรียมจะทำอาหารให้เขาจริงๆมุมปากยกขึ้นยิ้มเล็กน้อยโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่ทันสังเกต แล้วกดเปิดแชตเพื่อตอบกลับอีกฝ่ายเวลานี้ ในซุปเปอร์มาร์เก็ตซูมั่วได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ จึงหยิบขึ้นมาดู แต่กลับทำให้เธอรู้สึกลำบากใจ[ยังไงก็ได้ คุณทำอะไรผมก็กินอันนั้นแหละ]ซูมั่วหยุดเดิน แล้วเม้มริมฝีปากเล็กน้อยพิมพ์ข้อความแล้วก็ลบไป แล้วถามอีกฝ่ายว่าไม่กินอะไรของที่อยากกินอาจจะนึกไม่ออกในทันที แต่ของที่ไม่อยากกินต้องตอบได้ใช่ไหมแต่สุดท้ายอีกฝ่ายกลับพูดว่า[ผมไม่เลือกกิน]ซูมั่ว “...”งั้นก็ได้แล้วรสชาติล่ะ? อย่างน้อยต้องมีสินะชอบรสจืดหรือรสเผ็ด? รสหวานอมเปรี้ยวหรือรสเค็ม?ครั้งก่อนที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นเพราะพิจารณาจากที่เขาดื่มเหล้ามาด้วย เลยทำรสชาติค่อนข้างจืดหลีเชิน [ไม่จำเป็นต้องถามละเอียดขนาดนั้นหรอก คุณทำอะไรผมก็ชอบกินทั้งนั้นแหละ]ซูมั่วมองดูตัวอักษร รู้สึกเหมือนตัวเองตาลายเล็กน้อย จึงดูซ้ำไปซ้ำมาอีกสองรอบ แล้วรู้สึก…ในข้อความนี้ มีความรู้สึก “แปลกๆ” แฝงอยู่
Read More

บทที่ 435

“ฉันพูดจากมุมมองของเธอไง เธอกับเขาเป็นพี่น้องที่ผูกพันกันมากนี่นา”หลีโย่วไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้แบบสุดๆ เห็นได้ชัดว่าเธอถูกพี่ชายของเธอรังแกและกดขี่มาตั้งแต่เด็กจนโต“จริงด้วย พี่ชายเธอชอบรสเค็ม รสเปรี้ยวหวาน หรือชอบรสเผ็ดเหรอ?” ซูมั่วมองพริกในมือแล้วถามหลีโย่วงงเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าจู่ๆ เพื่อนถึงถามแบบนี้ทำไม ซูมั่วจึงอธิบาย หลีโย่วจึงพูดว่า“อ้อๆ…”“ไม่ใช่สิ เธอจะทำจริงๆ เหรอ! ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นหรอก พี่ชายฉันไม่ได้ขาดเงิน เขาจงใจทำให้เธอลำบากเธอมากกว่า”“ไม่เป็นไร ก็แค่วันเสาร์เอง เขาไม่ขาดเงินก็จริง แต่ฉันก็ไม่สามารถรับของมาฟรีๆ ได้เหมือนกัน” ซูมั่วตอบ“ไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้หรอก เขาชอบรสชาติอะไร?” เธอพูดข้ามประเด็นนั้นไปหลีโย่วคิดอยู่พักหนึ่ง จริงๆ ก็ไม่รู้เลยพี่ชายของเธอดูเหมือนจะกินได้ทุกอย่าง และก็ไม่ได้แสดงออกว่าชอบอะไรเป็นพิเศษ สำหรับเขาแล้วอาหารก็เป็นแค่ของประทังชีวิตเท่านั้น ไม่ได้เป็นความสุขอะไรเลย“น่าจะรสจืดหน่อยมั้ง เขาอยู่ต่างประเทศกินอาหารฝรั่งมาหลายปี เธอจะทำแค่ผักสดคลุกน้ำสลัดง่ายๆ เขาก็กินได้ทั้งนั้นแหละ” หลีโย่วพูดซูมั่วอดยิ้มไม่ได้ ผักสดคลุกน้
Read More

บทที่ 436

“เลขห้องพักของฉัน แปดศูนย์สามค่ะ!”ลุงยามหน้าประตูค้นหาต่อ เดิมทีคิดว่าตัวเองจะสามารถเข้าไปได้แล้ว แต่อีกฝ่ายกลับพูดว่า“ตอนนี้ผู้ที่พักอาศัยอยู่ห้องแปดศูนย์สามชื่อหลี่ลี่ ในระบบทั้งหมดไม่มีชื่อของคุณเลยครับ”เมื่อได้ยินแบบนั้น ร่างกายของเย่ซินหย่าก็กระตุกขึ้นมาทันทีไม่มีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้พักอาศัยหมายความว่ายังไง??หรือว่าบริษัทไม่ระวังเผลอลบข้อมูลของเธอออก??ถึงเธอจะไม่ได้กลับมาครึ่งเดือน ผู้ช่วยไม่แจ้งผู้อำนวยการเลยเหรอ?แล้วอีกอย่าง ทำไมห้องของเธอถึงกลายเป็นของนังแพศยาหลี่ลี่นั่นไปได้???ความสงสัยและความโกรธพุ่งขึ้นมาในหัวพร้อมกัน เพราะเข้าไปข้างในไม่ได้ และยามก็ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไป เย่ซินหย่าจึงเตรียมจะโทรศัพท์หาผู้ช่วยของเธอ เพื่อสั่งสอนอีกฝ่ายด้วยความโมโหแต่ยังไม่ทันกดโทรออก ก็มีเสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นจากด้านข้าง พร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะและคำพูดเยาะเย้ยถากถางดังเข้ามา“อ้าว นี่มันเย่ซินหย่า ว่าที่ ‘คุณนายฟู่’ ไม่ใช่เหรอ ~”“คุณนายฟู่ เพิ่งออกจากคุกมาเหรอคะ? พ้นโทษแล้วเหรอ? ประธานฟู่สามีของคุณไม่ช่วยคุณออกมาเลยเหรอ?”เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูนั้น เย่ซินหย่าก็เงย
Read More

บทที่ 437

“รีบโทรแจ้งตำรวจเลย! ให้ตำรวจมาจับนังบ้านี่ไป! มันเป็นคนเริ่มลงมือกับพวกเราก่อน!!”นางแบบคนหนึ่งก้มหน้าพูดด้วยความโมโห รู้สึกเหมือนหนังศีรษะจะถูกดึงหลุดออก“เย่ซินหย่า เดี๋ยวรอตำรวจมาถึงแกอย่าคิดหนีนะ!นังเมียน้อยน่ารังเกียจ เหมือนหนูริมถนน ถูกเจ้าของทิ้ง ยังจะกล้ามาลงมือกับพวกฉันอีก แกนี่เกินไปจริงๆ!”เย่ซินหย่าได้ยินคำขู่เหล่านั้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้เธอไม่กลัวแล้ว เพราะเธอคิดว่านี่เป็นแค่การทะเลาะกันภายในกลุ่มพวกเธอเท่านั้น พอตอนนั้นผู้อำนวยการต้องมาไกล่เกลี่ย ไม่มีทางปล่อยให้เป็นเรื่องใหญ่แน่นอน“พวกแกเป็นใครกัน วันนี้ฉันจะตบปากพวกแกให้หนักเลย ใครให้พวกแกปากต่ำ!” เย่ซินหย่าพูดด้วยความโกรธตอนนี้ลุงยามที่ประตูหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจ“แกยังจะกล้าทำตัวกร่างอยู่อีก! รอถูกจับติดคุกตลอดชีวิตเถอะ!” นางแบบคนหนึ่งที่ใบหน้าเจ็บจากการถูกข่วนตะโกนออกมาเธอสงสัยว่าเย่ซินหย่าในตอนนี้เหมือนสุนัขจนตรอกจึงไม่กลัวใคร กัดพวกเธอไม่ยอมปล่อยเหมือนกับสุนัขบ้า ถ้ารู้แบบนี้ก็คงเลี่ยงกันตั้งแต่แรก ซวยจริงๆ!“ขู่ใครงั้นเหรอ? ยังจะติดคุกตลอดชีวิตอีก ฉันเป็นถึงนางแบบเบอร์หนึ่งของ
Read More

บทที่ 438

เธอจบแห่แล้วจริงๆ!เสียงไซเรนของรถตำรวจดังมาแต่ไกล เย่ซินหย่าเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตื่นตระหนก ฝ่ามือเริ่มชาและสั่นไปหมด“เย่ซินหย่า แกตายแน่! ตำรวจมาแล้ว!” โจวอวิ๋นพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะ“ใช่ ค่ารักษาพยาบาล ค่าศัลยกรรม ค่าทำขวัญ แล้วยังจะข้อหาตั้งใจทำร้ายร่างกายอีก แกกลับไปติดคุกต่อเถอะ!” นางแบบอีกคนพูดเสริมเย่ซินหย่าไม่มองพวกเธอ แต่...ทันใดนั้นก็วิ่งออกไปทันที!การกระทำนั้นทำให้สามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบวิ่งตามไปพร้อมกับตะโกนด้วยความโมโหว่า“แกกล้าหนีเหรอ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!”แต่นางแบบทั้งสองคนใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้วิ่งได้ไม่ถนัด ส่วนลุงยามหน้าประตูวิ่งได้เร็วที่สุด แต่เย่ซินหย่าวิ่งไปถึงริมถนนแล้ว และวิ่งฝ่าไฟแดงไปเสียงแตรรถยนต์ดังระงมไม่ขาดสาย พร้อมกับเสียงตะโกนด่า การจราจรเกิดความวุ่นวายอย่างหนัก และทำให้ขัดขวางลุงยามที่วิ่งไล่ตามได้สำเร็จเมื่อเห็นเขาด้านหลังของผู้หญิงบ้าคลั่งคนนั้นหายลับไปจากสายตา ลุงยามก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากหันหลังเดินกลับไปที่เดิมเมื่อรู้ว่าเย่ซินหย่าหนีไปได้ นางแบบทั้งสองคนก็โมโหกระทืบเท้าไม่หยุด พอตำรวจมาถึง ลุงยามจึงเ
Read More

บทที่ 439

เย่ซินหย่าเดินตรงมาถึงล็อกเกอร์พัสดุ และหยิบของส่วนตัวของตัวเองออกมาเมื่อครู่ระหว่างทางที่เดินมาเธอวางแผนแม้กระทั่งว่าจะหนียังไงและจะหนีไปที่ไหนไว้หมดแล้ว เพียงแค่พกเอกสารประจำตัวก็พอค้นกระเป๋าตรวจดูว่าเอกสารประจำตัวต่างๆ ครบหรือไม่ สุดท้ายเธอกลับค้นไปเจอกล่องเล็กๆ กล่องหนึ่งจึงหยิบมันขึ้นมาแล้วเปิดออก สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาคือ…สร้อยคอมรกตสีเขียวเส้นหนึ่งนี่มันมงกุฎดอกกุหลาบที่ฟู่อี้ชวนซื้อให้เธอไม่ใช่เหรอ เส้นนั้นถูกอีกฝ่ายเอากลับไปแล้ว แล้วเส้นนี้คือ…ยี่สิบปีก่อน ซูมั่วให้เธอไว้และก็เป็นที่อีกฝ่ายพยายามเอาคืนจากเธอในภายหลัง แต่เธอบอกว่าไม่เห็นสร้อยเส้นนั้นนานแล้วทำไมยังอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้?เพราะตั้งแต่เด็กตอนที่เห็นซูมั่วใส่มันครั้งแรก เธอก็รู้แล้วว่ามันมีค่ามหาศาลและก็เป็นอย่างที่คิด จากนั้นเมื่อโตขึ้น เธอก็ให้คนตรวจสอบดู พบว่ามรกตเม็ดนี้เป็นมรกตแท้ระดับพรีเมียม สร้อยเส้นนี้สามารถขายได้ในราคาหลายร้อยล้านเย่ซินหย่าจ้องมองสร้อยคออยู่อย่างนั้น จากนั้นความกังวลและความหวาดกลัวก็หายไป พร้อมกับยิ้มมุมปาก และหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆพระเจ้าดีกับเธอไม่น้อย ในช่วงเวลาที่เธอ
Read More

บทที่ 440

แม้สร้อยคอเส้นนี้จะผ่านมายี่สิบปีแล้ว แต่มรกตสีเขียวก็ยังคงเปล่งประกาย ส่วนเพชรธรรมชาติที่ฝังรอบๆ ก็ยังส่องแสงระยิบระยับสะดุดตาถ้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนใช้เงิน เธอก็คงเก็บซ่อนมันไว้ต่อไปแน่นอน แต่ครั้งนี้มันมีประโยชน์พอดีที่เธอมีทุกอย่างในตอนนี้ นั่นเป็นเพราะเธอสู้ด้วยตัวเองทั้งนั้น~หลังจากสงบความตื่นเต้นภายในใจ เย่ซินหย่าก็กอดกล่องไว้แน่นแล้วหลับไป……วันต่อมา วันเสาร์อันสดใสมาถึงแล้วซูมั่วกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มเตรียมวัตถุดิบสำหรับมื้อกลางวันทันทีเธอวางแผนจะทำปีกไก่ซอสมะนาว สเต๊กเนื้อวัวเทริยากิ แล้วก็เมนูกุ้งกระจก นอกจากนั้นยังมีซุปฟักทองใส่กุ้งแห้งอีกหนึ่งอย่างด้วยอาหารสามอย่างกับหนึ่งซุป น่าจะพอสำหรับให้หลีเชินกินแล้ว และยังไม่ดูว่าตัวเอง “เป็นคนขี้งก” อีกด้วยเวลาสิบเอ็ดโมงครึ่ง อาหารทุกอย่างก็เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เลขาของหลีเชินโทรมาหาเธอ บอกว่าเขาจะมาถึงในอีกสิบห้านาทีซูมั่วกำลังตักข้าว ดูปริมาตรภายในกล่องเก็บความร้อน เธอรู้สึกว่าข้าวหนึ่งถ้วยคงไม่พอให้หลีเชินกิน จึงตักเพิ่มอีกหนึ่งถ้วย พร้อมกับกดให้แน่นเพราะเมื่อก่อนฟู่อี้ชวนก็กินข้าวในปริมาณนี้เหม
Read More
Dernier
1
...
424344454647
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status