All Chapters of นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ: Chapter 461 - Chapter 470

540 Chapters

บทที่ 461

เจิ้งเซวียน “นายเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของเธอ เจอกันแทบทุกวัน ต้องไม่รู้สึกว่าเปลี่ยนไปอยู่แล้ว…นี่ไม่ใช่เปลี่ยนนิดหน่อยเลย แต่เปลี่ยนจากเด็กกลายเป็นสาวสวย จนเขาแทบจำไม่ได้…“ฉันกับเธอไม่ได้เจอกันหกปี รู้สึกว่าเปลี่ยนไปก็เป็นเรื่องปกติ” เจิ้งเซวียนตอบกลับหลีเชิน“ตอนมหาลัยนายชอบมาบ้านฉันอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ เจอน้องสาวฉันก็ไม่น้อย ตอนนั้นเธอเรียนอยู่มัธยม หน้าตาเค้าโครงก็แทบจะเป็นรูปชัดเจนแล้วนะ” หลีเชินพูดเจิ้งเซวียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คำที่เกือบจะหลุดปากพูดออกมาก็ต้องอดทนกลืนกลับเข้าไป ไม่อยากเสียเวลามาเถียงกับคนซื่อคนนี้ ไม่งั้นเขาคิดว่าต้องเถียงกันถึงพรุ่งนี้เช้าแน่สิบเจ็ดกับยี่สิบสี่มันจะเหมือนกันได้ยังไง???ผู้หญิงในช่วงวัยนี้ก็เหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน อายุสิบเจ็ดก็เหมือนกับดอกตูม แต่อายุยี่สิบสี่นั่นคือเบ่งบานเต็มที่แล้วอีกอย่าง นายไม่รู้เหรอว่าการแต่งหน้าเป็นในสี่วิชามารของเอเชีย??อย่าว่าแต่เปลี่ยนไปเยอะเลย ขนาดผู้ชายยังสามารถแต่งให้กลายเป็นผู้หญิงได้!!หลีเชินนี่ไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ไอ้เวอร์จิ้นอ่อนประสบการณ์ปลายสาย พอเห็นว่าเจิ้งเซวียนเงียบไปหลายวินาที หลีเชินก็พูด
Read more

บทที่ 462

“แต่ว่านะ คุณซูอาจจะไม่สนใจนาย เพราะนายมันปากกวนส้นตีน หาเรื่องผู้หญิงไปทั่วแบบนี้ คงไม่เป็นโสดทั้งชาติหรอกนะ?”อีกฝ่ายเงียบไม่พูดอะไร ก่อนถูกพูดแทงใจดำจนวางสายไปเจิ้งเซวียนหัวเราะออกมาเสียงดัง รู้สึกว่าสุดท้ายตัวเองก็พลิกกลับมาชนะได้ จากนั้นเขาก็มองเพดาน รู้สึกเบื่อมากจริง ๆแต่…เขาก็ไม่มีอารมณ์ไปท่องราตรี แม่งเอ๊ย นกเขาไม่ขันแล้วแค่ทุกครั้งที่คุยกับนางแบบสาว เขาก็จะนึกถึงเรื่องน่าอายที่เขาทำไว้เมื่อคืน คิดขึ้นมาแล้วก็อยากตายตรงนั้นเลยเลื่อนดูแอปพลิเคชันดูภาพยนตร์บนจอ ก็ไม่มีเรื่องไหนอยากดู สุดท้ายเลยไปเล่นเกมแทน แต่เพราะจิตใจไม่สงบทำให้แพ้ตลอดเจิ้งเซวียนนอนหมดแรงอยู่บนเตียง สายตาว่างเปล่า ศีรษะพาดอยู่ขอบเตียงเขารู้สึกว่านี่คงเป็นเพราะสวรรค์อิจฉาที่เขาเสน่ห์แรงเกินไป เลยให้เขาได้รับกรรมแบบนี้จะนอนก็เร็วเกินไป จะไปจีบหญิงก็ไม่มีอารมณ์ จะให้คุณกับผู้ชายก็ยิ่งแล้วใหญ่ สุดท้ายเขาดันไปเผลอกดเปิดหน้าต่างแชตของซูมั่วโดยไม่รู้ตัวครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาเขียนข้อความ แล้วถามอีกฝ่ายว่าหลับหรือยังอย่าเข้าใจผิดนะ เขาไม่ได้จะทักไปจีบอีกฝ่าย เพราะยังไงเธอก็เป็นลูกค้าของเขาอยู่ เขายัง
Read more

บทที่ 463

เจิ้งเซวียนเอาโทรศัพท์ปิดหน้า รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ขายหน้าแค่กับน้องสาว ตอนนี้ยังต้องเสียภาพลักษณ์ต่อหน้าลูกความด้วยถ้าซูมั่วคิดว่าเขาเป็นคนหื่นกามจะทำยังไง? คงไม่ไปร้องเรียนเขาหรอกนะ ถ้าเป็นแบบนั้นอาชีพทนายของเขาก็คงต้องจบเห่แล้ว…ความคิดสับสนวุ่นวายผุดขึ้นมาในหัว จากนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น เป็นข้อความจากซูมั่วตอบกลับเขามาเขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ข้อความบอกว่า[เธอไม่ค่อยได้พูดถึงคุณกับฉันเลย คิดดูแล้วก็น่าจะครั้งเดียว ก็คือครั้งแรกที่คุณเป็นทนายให้ฉัน เธอพูดถึงพวกคุณรู้จักกัน]เจิ้งเซวียนอ่านแล้ว รู้สึกทราบซึ้งใจมาก จนน้ำตาไหลดูท่าแล้วเสี่ยวโย่วจื่อก็เป็นผู้หญิงที่เข้าใจคนอื่นจริงๆ ถึงไม่ได้พูดแฉเขาจากนั้นซูมั่วก็ส่งข้อความมาอีก[แต่คุณกลับพูดถึงเธอกับฉันบ่อยมากเลยนะ ครั้งแรกที่เจอกันคุณก็บอกให้ฉันเรียกเธอมากินข้าวด้วย แล้วยังบอกอีกว่าถ้าไม่มีเธอคุณก็ไม่กินข้าวกับฉันตามลำพัง]เจิ้งเซวียนพิมพ์ตอบกลับ แต่ก็เป็นแค่การพูดตามมารยาททั่วไปบอกว่ามีคนมาด้วยจะดีกว่า ถ้ากินข้าวกับลูกความตามลำพังกลัวจะถูกคนเอาไปนินทาลับหลัง ทำให้เขาดูเป็นทนายที่รอบคอบและน่าเชื่อถือม
Read more

บทที่ 464

เจิ้งเซวียนรู้สึกผิดปกตินิดหน่อย แต่พอคิดอีกทีพวกเขาไม่ได้เจอกันหกปี คงกลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว เสี่ยวโย่วจื่อจะพูดเรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาให้ซูมั่วฟังได้ล่ะ?เป็นคนที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร ดังนั้นจึงไม่แคร์ และไม่มีความจำเป็นต้องพูดด้วย เธอแค่โฟกัสไปที่ตัวคดีเท่านั้นก็พอเมื่อคิดได้อย่างนั้น เจิ้งเซวียนก็ถอนหายใจไร้เยื่อใยจริงๆ…เสียทีที่ตอนนั้นเขาไปทีไรก็มักจะมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ติดมือไปฝากเธอเสมอ แต่เธอกลับลืมพี่ชายอย่างเขาไปจนหมดแล้ว…ในยามค่ำคืนบางคนมีความสุข บางคนเศร้าหมอง ขณะเดียวกันที่สถานที่จัดงานประมูลแห่งหนึ่งผู้ทำการประมูลกำลังนำของสะสมส่วนตัวออกแสดง เมื่อหน้าจอเปลี่ยนไปเป็นสร้อยคอเฝ่ยชุ่ยหยกเส้นหนึ่ง ชายหนุ่มที่เดิมทีไม่ได้สนใจนักถึงกับชะงักไปทันที“นี่เป็นสร้อยอัญมณีมรกตชั้นยอดจากยุคกลาง เพชรที่ประดับโดยรอบเป็นเพชรเม็ดเล็กเฉพาะถิ่นจากเขตกัวเอ๋อร์เอ่อ”“ครั้งสุดท้ายที่มันถูกนำออกมาประมูลคือเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน และตอนนี้นักสะสมได้ตัดสินใจนำมันออกมาประมูลอีกครั้ง” ผู้ทำการประมูลกำลังอธิบายองค์ประกอบและประวัติความเป็นมาของมันทางหน่วยงานได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเรี
Read more

บทที่ 465

แม่ทนรับความเสียใจอีกต่อไปไม่ไหวจนนอนป่วยติดเตียงเพื่อรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจของเธอ พวกเขาจึงต้องย้ายทั้งครอบครัวไปต่างประเทศโดยไม่มีทางเลือก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธออยู่ในสถานที่เดิมๆ จนเสียสุขภาพจิตเกินไปตอนนี้เวลาผ่านไปยี่สิบปีแล้ว ทุกคนในครอบครัวของเขาก็แทบจะยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้แล้วนั่นก็คือน้องสาวไม่มีวันกลับมา หรือไม่เธอก็อาจจะตายไปแล้วชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดึงสติตัวเองออกจากความเศร้าในอดีตเขากำกล่องผ้าไหมในมือไว้แน่น สีหน้าจริงจัง ดวงตาเป็นประกายด้วยความหวังในเมื่อสร้อยเส้นนี้ออกมาปรากฏตัวอีกครั้ง นั่นก็หมายความว่าน้องสาวอาจจะอยู่ใกล้ๆ ตัวเขา? อยู่ในเมืองจิง?แน่นอน ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมีใครบางคนได้สร้อยนี้มาครอบครองโดยบังเอิญ ถึงได้นำออกประมูลในวันนี้แต่แม้จะมีความหวังเพียงเศษเสี้ยวเขาก็จะไม่ยอมแพ้เขาตามหาน้องสาวมายี่สิบปี น้องสาวเองก็ต้องรอเขามารับเธอกลับบ้านเช่นกันชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรออก ก่อนจะสั่งว่า“ติดต่อกับบริษัทประมูล บอกว่าฉันต้องการพบคนที่ขายสร้อยคอหยกเส้นนี้”......อีกฝั่ง ในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก
Read more

บทที่ 466

แน่นอนว่าเย่ซินหย่าไม่มีทางไปพบกับอีกฝ่าย แม้ว่าผู้รับผิดชอบคนนั้นจะบอกว่าผู้ซื้อไม่ได้เปลี่ยนใจ แต่ใครจะรู้ว่าหน้างานจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?แต่กำลังจะพูดปฏิเสธกลับลังเลอยู่ที่ริมฝีปากอีกฝ่ายเป็นคนที่สามารถควักเงินห้าร้อยล้านซื้อสร้อยคอเส้นนี้ได้อย่างสบายๆ แสดงว่าสถานะทางการเงินและฐานะทางสังคมก็ไม่ได้ต่างจากฟู่อี้ชวนเลยเธอรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายที่เธอจะจับคนต่อไปไม่มีทางเทียบชั้นกับฟู่อี้ชวนได้ ดังนั้น…“คนที่ต้องการจะพบฉันเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง?” เย่ซินหย่าถามถ้าเป็นผู้หญิงจะได้ปฏิเสธไปเลย แต่ถ้าเป็น…“ผู้ชายครับ” อีกฝ่ายตอบ“แล้วเขาอายุเท่าไหร่?” เย่ซินหย่ารีบถามต่อทันทีอีกฝ่ายชะงักไปครู่หนึ่ง ราวกับงุนงงกับคำถาม“ฉันไม่ได้ถามชื่อแล้วก็ไม่ถามภูมิหลังของเขา แค่อายุน่าจะบอกได้ใช่ไหม?” เย่ซินหย่าพูดเพิ่มเติมอีกฝ่ายลังเลเล็กน้อย เพราะทางด้านผู้ซื้อมีสถานะและภูมิหลังที่ทรงอิทธิพลมาก แล้วก็อยากติดต่อกับผู้ขายมากด้วย ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามอย่างมากที่จะให้ทั้งสองฝ่ายได้พบกัน“ผมขอไม่พูดรายละเอียดก็แล้วกัน แต่ค่อนข้างอายุน้อย ประมาณสามสิบปีได้” อีกฝ่ายตอบเย่ซินหย่าได้ยินอย่างนั้นก
Read more

บทที่ 467

คืนนี้เย่ซินหย่าไม่ได้รับโทรศัพท์จากชายหนุ่ม จึงนอนหลับไปอย่างผิดหวัง และเสียใจที่ไม่ได้ขอให้อีกฝ่ายให้เบอร์โทรศัพท์กับเธออยากจัดการปัญหาให้เสร็จโดยเร็ว เธอต้องการรู้ว่าอีกฝ่ายจะมีโอกาส ‘พัฒนาต่อไป’ ได้หรือไม่ เธอจะได้ไม่เสียเวลาไปหาผู้ชายคนอื่นคิดว่าคนคนนั้นจะติดต่อเธอมาตอนไหน ขณะคิดอยู่นั้น ก็มีคนโทรเข้ามา ตอนเช้าแปดโมงครึ่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น สั่นไหวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอยังนอนหลับอยู่ จึงไม่ได้รับสายรอตื่นมาอีกทีก็เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับจากหมายเลขที่ไม่รู้จักถึงสามสายเพราะกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดว่าเป็นมิจฉาชีพเลยไม่รับสาย อีกฝ่ายจึงส่งข้อความแนะนำตัวมาให้ด้วยความใส่ใจบอกว่าเขาเป็นคนที่ซื้อสร้อยคอเส้นนั้น และเมื่อวานติดต่อเธอมาผ่านทางบริษัทประมูลเย่ซินหย่ารีบโทรกลับไปทันที ไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย“ฮัลโหล?”เสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ของชายหนุ่มดังขึ้น ราวกับนักพากย์มืออาชีพเย่ซินหย่าได้ยินถึงกับใจสั่นขึ้นมาทันที รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า พยายามอดทนไม่ให้เสียงตื่นเต้นหลุดออกมาเสียงน่าฟังขนาดนี้ คนจะหน้าตาไม่ดีได้ยังไง?ดังนั้นเขา
Read more

บทที่ 468

ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายคนนั้นยังมีทั้งเงินมีทั้งอำนาจ ทันทีที่รู้ชื่อของเธอ การตามหาโรงแรมเล็กๆ ที่เธอพักอยู่ในตอนนี้คงเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก“ทำไมคุณถึงถามแบบนี้ ชื่อสกุลเป็นข้อมูลส่วนตัวของฉันนะ” เย่ซินหย่าพูดด้วยความระแวดระวังห้าร้อยล้าน นั่นคือความหวังสุดท้ายในการพลิกชีวิตของเธอ เป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตของเธอดังนั้นแม้ว่าในตอนแรกเธอจะมีเจตนาแอบแฝงบางอย่างกับผู้ชายคนนี้ แต่ก็ไม่มีทางโง่จนถึงขั้นทิ้งเงินห้าร้อยล้านไป“คุณอย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่ใช่มิจฉาชีพ” พอได้ยินน้ำเสียงระวังตัวของหญิงสาว ชายหนุ่มจึงรีบอธิบายการมีสติระแวดระวังเป็นสิ่งที่ดี หากอีกฝ่ายเป็นน้องสาวของเขาจริง อย่างนั้นเขาก็จะปลื้มใจมาก ที่อย่างน้อยเธอก็รู้จักปกป้องตัวเอง“แล้วคุณถามชื่อฉันไปทำไม” เย่ซินหย่าย้อนถาม“แล้วก็ ก่อนจะถามชื่อผู้หญิงคนหนึ่งคุณควรจะแนะนำตัวเองก่อนไม่ใช่เหรอ? มันเป็นมารยาทขั้นพื้นฐานของสุภาพบุรุษนะ” เธอโต้กลับทันทีชายหนุ่มได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า“ขอโทษครับ เป็นความละเลยของผมเอง ผมชื่อกู้หวย”พอได้ยินสองคำนั้น เย่ซินหย่าท่องจำในใจอยู่สองรอบ จากนั้นก็จดไว้เพื่อเต
Read more

บทที่ 469

“ดังนั้นผมเลยอยากติดต่อคุณเพื่อสอบถามเกี่ยวกับที่มาของสร้อยเส้นนี้ให้ชัดเจน คุณบอกว่าคุณใส่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก แล้วคุณชื่ออะไร?”เสียงของชายหนุ่มยังคงดังอยู่ในสายโทรศัพท์บนเตียงเย่ซินหย่าถึงกับใจสั่นมือสั่นเพราะคำโกหกกำลังจะถูกเปิดโปง สีหน้าซีดเผือด เธอเชื่อมาตลอดว่าซูมั่วเกิดในตระกูลร่ำรวย เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอการแต่งตัวของเธอนั้น ราวกับเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากเทพนิยายแล้วตอนนี้จะทำยังไงดี เพราะสร้อยเส้นปรากฏ เลยทำให้ครอบครัวของซูมั่วตามมาเจอ นั่นก็หมายความว่าอีกไม่นานพวกเขาก็จะรู้ว่าสร้อยเส้นนี้ไม่ใช่ของของเธอ...ด้วยความร้อนตัวทำให้มือของเย่ซินหย่าเริ่มอ่อนแรง จนแทบจะถือโทรศัพท์ไม่ไหวเธอสามารถหนีไปได้ทันทีตอนนี้ ฉวยโอกาสตอนที่ยังไม่ได้บอกชื่อของตัวเองกับอีกฝ่าย และซูมั่วยังไม่รู้เรื่องนี้แต่ว่า…เธอไม่อยากยอมแพ้นั่นมันเงินตั้งห้าร้อยล้านเชียวนะ! เธอไม่มีทางคืนให้เด็ดขาด!เธอเพิ่งจะเสียฟู่อี้ชวนที่เป็นเหมือนกองเงินกองทองไป ตอนนี้ยังต้องกลายเป็นอาชญากร หนีหัวซุกหัวซุนอีก…เย่ซินหย่ากัดริมฝีปากแน่น เพราะใช้แรงกัด จึงทำให้คาวเลือดกระจายอยู่ในปากเนื้อตัวของเธอ
Read more

บทที่ 470

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยถามอย่างหมดความอดทน อีกฝ่ายก็ตอบกลับมา ตรงกับสิ่งที่เขาคาดไว้ทุกอย่าง“ฉันชื่อเย่ซินหย่า”พอได้ยินชื่อนั้น ความหวังในใจของกู้หวยนั้นก็พังทลาย เขากำหมัดแน่น สีหน้าเริ่มโกรธจัด“คุณโกหกผม สร้อยเส้นนั้นไม่ใช่ของคุณจริงๆ คุณเอามันมาจากไหน?” กู้หวยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“คุณบอกความจริงมาดีกว่า ถ้าให้ความร่วมมือกันดีๆ ผมจะไม่เอาเรื่องคุณ และยังมีเงินรางวัลให้คุณด้วย”พอได้ยินพูดคำข่มขู่นั้น พร้อมกับแรงกดดันจากผู้มีอำนาจ เย่ซินหย่าจึงพยายามควบคุมสติเพื่อประคองตัวเองไม่ให้เสียหลักเงินรางวัล? คิดว่าเธอจะสนใจเงินแค่นั้นงั้นเหรอ?เธอต้องการคือมากกว่านั้น ไม่ใช่แค่เงิน แต่รวมถึงสถานะและตัวตนด้วยเย่ซินหย่าหรี่ตาเล็กน้อย ในสมองของเธอมีแผนการเรียบร้อยแล้ว จึงพูดด้วยน้ำเสียงสงบและเยือกเย็นว่า“สร้อยเป็นของฉัน คุณมีหลักฐานอะไรว่ามันไม่ใช่ของฉัน?”“เป็นคุณที่เพิ่งคุยก็สงสัยฉันแบบนี้ คุณคิดจะเอามันไปจากฉันฟรีๆ ใช่ไหม?”“ฉันจะบอกคุณให้ว่า ฉันไม่มีวันยอมให้คุณข่มเหงเด็ดขาด นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ครอบครัวของฉันทิ้งไว้ให้ฉัน และที่ตอนนี้ฉันเอาออกมาเพราะมีควา
Read more
PREV
1
...
4546474849
...
54
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status