บททั้งหมดของ ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ: บทที่ 221 - บทที่ 226

226

ตอนที่ 221 เมื่อคมหมากย้อนคืน 1

“อย่างไรก็ดี เรื่องเช่นนี้… หากมองอีกแง่ ก็เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดที่ก็เป็นได้” เสียงพูดของหลงเหวินหยางแผ่วลงพร้อมรอยยิ้มบางที่ยากอ่าน“แต่ก็คงเป็นเพียงไมตรีระหว่างเชื้อพระวงศ์ต่างแคว้น หาใช่เรื่องใหญ่โต... หามิใช่เรื่องที่ควรน่าสงสัยใด ๆ หรอกกระมัง” เขาหยุดเพียงชั่วอึดใจ ก่อนกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนราวจะคลี่คลายเรื่อง แต่กลับกลายเป็นคมมีดซ่อนในรอยยิ้ม“ถึงอย่างไร กระหม่อมก็เชื่อมั่นว่าองค์ชายสามผู้ทรงสัตย์มั่นในราชวงศ์คงไม่กล้าก่อการสิ่งใด...ที่อาจดูคล้ายเป็นการลอบติดต่อกับต่างแคว้นอย่างลับ ๆ อันเข้าข่ายกบฏต่อใต้หล้าเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”คำพูดนั้นอ่อนโยน เสียงท้ายประโยคนั้นเบาเพียงลมหายใจ แต่แฝงแรงสะเทือนถึงหัวใจคนฟังทั้งท้องพระโรง คำพูดดูคล้ายปกป้อง ทว่าเมื่อพินิจเนื้อหากลับเป็นการสาดน้ำมันลงบนเปลวเพลิงถ้อยคำ “มิอาจคิดการใหญ่” และ “ชิงความดีความชอบ” ดังก้องในใจผู้ฟังเหล่าขุนนางบางคนเริ่มซุบซิบ บ้างหลุบตา บ้างเหลือบมององค์ชายสามอย่างระแวดระวังแววพระเนตรของฮ่องเต้ที่วางอยู่บนพัดหลวงพลันไหววูบ พระโอษฐ์เม้มแน่น เสียงพระทัยคล้ายหนักอึ้งกว่าเดิมหลงเจิ้งหยางยังก้มศีรษะนิ่งงัน ดวงตาคู่น
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-31
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่ 222 เมื่อคมหมากย้อนคืน 2

“แล้วเกี่ยวข้องสิ่งใดกับเรื่องที่องค์ชายสองกล่าวหาเมื่อครู่” “พวกมันหาใช่โจรภูเขาแท้พ่ะย่ะค่ะ หากแต่เป็นหมากของผู้ใดบางคนที่ถูกส่งมาจากหลงซานเพื่ออำพรางตนภายใต้เงาโจรแอบอ้างเป็นโจรภูเขา แล้วสร้างเหตุปล้น เพื่อโยนความผิดให้ผู้รับผิดชอบการดูแลขบวนของคณะทูต” เสียงขององค์ชายสามนิ่ง ทว่าทุกพยางค์ราวกับคมดาบวาดลงบนกระดานหมาก ขณะเสียงลมหายใจของผู้คนในท้องพระโรงแทบหยุดนิ่ง แววตาของหลงเหวินหยางชะงักแข็งค้างชั่ววูบ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มพลันจางไปอย่างไม่อาจควบคุมไม่ทัน องค์ชายสามสะบัดมือเบา ๆ ขันทีนำหีบไม้เข้ามา เปิดเผยของในนั้น เอกสารตราประทับกรมคลังแห่งต้าเฉิง, ถุงทองคำ, และตราสัญลักษณ์ของตระกูลขุนนาง โจรผู้หนึ่งตัวสั่น ก่อนหมอบกราบร้องเสียงดัง “พะ...พวกข้าได้รับคำสั่งจากท่านผู้มีพระคุณ ให้ปล้นขบวนคณะทูต เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” “ผู้มีพระคุณที่เจ้ากล่าวอ้างถึง คือผู้ใดกัน” สุรเสียงเย็นเยียบดังขึ้นจากบัลลังก์มังกร “เอ่อ…คนตระกูลเซียวพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อคำว่า ‘ตระกูลเซียว’ หลุดจากปากโจร เสียงสูดลมหายใจพลันดังพร้อมกันทั่วโถงราวคลื่นกระแทก เสนาบดีบางคนถึงกับสะดุ้ง พระเนตรของฮ่องเต้แคบลงช้า
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-01
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่ 223 เพลิงพิโรธแห่งพระบัลลังก์ 1

ในความเงียบอันหนักอึ้งนั้น มีเพียงเสียงลมหายใจอันถี่กระชั้นของ องค์ชายสอง หลงเหวินหยางเท่านั้นที่โดดเด่นดังสะท้อนก้องอยู่กลางท้องพระโรงกว้าง ดวงตาคมวาวโรจน์มองตามแผ่นหลังของเสนาบดีฉีที่ค่อย ๆ ก้าวเดินออกจากท้องพระโรงไป ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวผ้าขาว ริมฝีปากสั่นระริก เมื่อแผนการที่สมบูรณ์แบบ บัดนี้ได้ถูกไอ้ลูกฮองเฮาตัวร้ายทำลายลงอย่างสิ้นเชิงด้วยหลักฐานที่มิอาจปฏิเสธได้“ฝ่าบาท... น้องสามทรงกล่าวเหลวไหล เพียงต้องการใส่ร้ายกระหม่อมกับท่านแม่” เสียงของหลงเหวินหยางโพล่งออกมาอย่างลืมตัว เสียงนั้นดังลั่นสะเทือนกล้ามเนื้อในลำคอ มือที่เคยจับพู่กันเขียนฎีกาอย่างมั่นคงและกุมอำนาจพลเรือน บัดนี้สั่นเทาจนแทบจะจับอากาศไม่ได้“ปัง”เสียงกระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะจากเบื้องบัลลังก์ดังก้องสะเทือนถึงอกของทุกผู้คน ฮ่องเต้ยกพระหัตถ์ขึ้นช้า ๆ พระพักตร์มืดครึ้มราวท้องฟ้าไม่มีแสงตะวัน เหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ต่างค้อมกายลงต่ำจนศีรษะแทบจรดพื้น ไม่มีผู้ใดกล้าสบพระเนตรขององค์จักรพรรดิแม้แต่ผู้เดียว“หยุดวาจากันทุกคน” พระสุรเสียงทรงอำนาจดังขึ้น พระเนตรคมกริบของพระองค์หันไปทางขันทีหลวงที่ยืนอยู่ข้างบัลลังก์“หลี่กงกง”
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-04
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่ 224 เพลิงพิโรธแห่งพระบัลลังก์ 2

เมื่อโจรทั้งห้าถูกลากเข้ามาและส่งเสียงร้องอ้อนวอนขอความเมตตา พระสนมชิงอวี่ก็จำต้องสบตาพวกมันเพียงครู่ แม้นางจะปฏิเสธไม่รู้จัก...แต่ลึกในใจนางกลับย่อมรู้ดีว่า คนจากหลงซานเหล่านี้ล้วนแต่เป็นขุมกำลังลับของพระโอรสของนางเอง นางรักษาสีหน้าให้คงที่ ทว่ามุมปากของนางเริ่มเกร็งขึ้นเล็กน้อยอย่างมิอาจควบคุมได้“หม่อมฉันมิได้รู้จักพวกมัน… แม้แต่คนเดียวเพคะ” เสียงตอบของนางสงบ แต่นิ้วมือเรียวใต้แขนเสื้อเริ่มกำแน่นหลงเจิ้งหยางที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แต่กรีดลึกกว่าคมดาบ “ถ้าเป็นเช่นนั้น หากพระสนมบริสุทธิ์ไร้มลทิน ก็ขอให้พระสนมได้โปรดอธิบายเรื่องตราประทับของตระกูลเซียวที่โจรผู้นั้นครอบครอง ถุงทองคำที่มาจากกรมคลังด้วยเส้นทางที่เชื่อมโยงผ่านทางตระกูลของท่าน และคำสารภาพของนางกำนัลและขันทีที่ถูกส่งไปสำนักพิธีการด้วยพ่ะย่ะค่ะ”พระสนมชิงอวี่ชะงักเพียงเสี้ยววินาที ก่อนคลี่ยิ้มบาง นางเพียงแค่นหัวเราะในลำคอ“สตรีในวังมีคนรับใช้มากมาย จะมีใครทราบได้ทุกฝีก้าวกันเล่าเพคะ”เสียงฮือฮาดังก้อง เหล่าเสนาบดีบางคนถึงกับทำปากขมุบขมิบด้วยความตกตะลึง ขณะที่หลงเหวินหยางโอรสของนาง กำหมัดแน่นจนข้อขาวซีดเส้นเ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-04
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่ 225 พิษดอกเหมยและคำสาบานแห่งเลือด

“เหวินหยาง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะรับผิดเรื่องนี้แทนแม่ของเจ้า” สุรเสียงของฮ่องเต้ดังก้องและเย็นชา องค์ชายสองชะงักงันทันที แววตาไหววูบ ไม่กล้าสบพระพักตร์ ความเงียบปกคลุมทั่วโถงจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคน ผู้เป็นพระมารดาหันไปมองหลงเหวินหยาง ที่กำลังสั่นเทาด้วยความกลัวอยู่เบื้องหน้า ภาพโอรสที่กำลังจะถูกลงโทษรุนแรงและสูญสิ้นอนาคตก่อขึ้นในหัวของนาง แผนที่วางไว้จะถูกทำลายไม่ได้เด็ดขาด “เหวินเอ๋อร์...แม่จะไม่ให้ใครแตะต้องเจ้า” ความคิดนั้นแว่วขึ้น หัวใจนางสั่นระรัว มิใช่เพราะกลัวความตาย แต่กลัวเห็นเลือดในอุทรถูกเหยียบย่ำต่อหน้าต่อตา สิ่งเหล่านั้นทำให้กำแพงความเย่อหยิ่งของนางพังทลายลง ในสายตาของนางเต็มไปด้วยความรักและความเด็ดเดี่ยวอันน่าสะพรึงกลัว พระสนมชิงอวี่หลับตาลงช้า ๆ ยอมจำนนต่อโชคชะตาที่มืดมิด นางรู้ว่าไม่ว่านางจะปฏิเสธอย่างไร หลักฐานก็มัดตัวแน่นหนา แต่... หากนางยอมรับความผิดแต่เพียงผู้เดียว อย่างน้อย… หลงเหวินหยาง ผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนางก็ยังมีทางรอด และยังมีความหวัง ที่จะกลับมาทวงอำนาจคืน ก่อนนางจะเงยหน้าขึ้นอีกคราอย่างเด็ดเดี่ยวไร้ความกลัว แววตาคมกริบแต่เปี่ยมด้วยความรันทด มอง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-05
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่ 226 คำสาบานเลือดแห่งโอรส

ลมหนาวพัดแรงจากทิศเหนือ ใบไม้แห้งปลิวว่อนเหนือผืนดินที่เพิ่งถูกกลบใหม่ หน้าหลุมศพมีเพียงร่างชายหนุ่มในอาภรณ์ดำสนิท ยืนอยู่เงียบงันราวรูปสลักหิน ผืนผ้าคลุมไหล่สีดำเข้มปราศจากลวดลาย เป็นสีที่อนุญาตให้ผู้ต้องโทษสกุลราชสวมได้ หากสำหรับเขาแล้ว มันคือสีแห่งอาลัยและความอัปยศที่ไม่อาจประกาศต่อฟ้าดินพิธีศพจัดในบริเวณสุสานวังหลังอย่างเรียบง่าย เสียงสวดส่งวิญญาณดับสิ้นไปพร้อมแสงสุดท้ายของอาทิตย์ยามอัสดง เหลือเพียงเสียงลมหวิวลอดช่องอิฐของสุสานเย็นเฉียบ กลิ่นดินชื้นปนกลิ่นยาพิษอ่อน ๆ ยังไม่ทันจางจากลมหายใจสุดท้ายของมารดา หลงเหวินหยางก้าวเข้าไปใกล้จนปลายรองเท้าแตะขอบดิน มือที่กำแน่นจนเส้นเลือดปูดสั่นเทา เขายกมือแตะป้ายไม้เล็ก ๆ ที่จารึกเพียงว่า “สุสานสตรีวังหลัง” ไม่มีพระนาม ไม่มียศศักดิ์ ห่อเกียรติยศไว้ในความเงียบ ไม่มีคำใดกล่าวถึงมารดาผู้เคยเป็น “ดวงใจแห่งวังหลวง” ข้าง ๆ มีเพียงธูปและดอกเหมยสีขาวเรียงรายอยู่เป็นระยะ หอมอ่อน ๆ ปนกลิ่นดินชื้นเขาก้มมองมือของตน...เย็นเยียบ ดั่งเลือดในกายถูกแช่แข็ง ปลายนิ้วนั้นเคยถูกมารดาจับอย่างอ่อนโยนเมื่อยังเยาว์ เคยแตะมงกุฎไหมทองเมื่อครั้งขึ้นรับตำแหน่งองค์ชายร
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-06
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
181920212223
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status