ต้นยามเหม่า [1]บุรุษเจ้าของจวนลืมตาตื่นขึ้นมามองใบหน้าของหญิงสาวที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากของนางอย่างแผ่วเบา ตามด้วยใช้นิ้วชี้ลูบไปตามเรียวปากของสตรีตรงหน้า‘ปากเล็ก ๆ ของเจ้าช่างเก่งกาจยิ่งนัก’ บุรุษหนุ่มได้แต่คิดในใจ เพราะกลัวว่าสตรีตรงหน้าจะตื่นขึ้นมาได้ยิน ก่อนที่เขาจะกดปากตนเองลงไปจุมพิตปากเรียวบางเบา ๆ แล้วลุกขึ้นแต่งตัวถึงหลัวหยางโหวจะเพิ่งได้นอนไปไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ทว่าเมื่อแสงจากพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงพอให้เห็นข้าวของทุกอย่างในห้องนอน โดยที่ไม่ต้องใช้แสงจากเทียนไข บุรุษที่ยังมีเรื่องต้องไปจัดการก็ไม่อาจรั้งนอนต่อไปได้ และอีกอย่างเขารู้ว่าเรื่องเมื่อคืนต้องไปถึงหูมารดาของเขาเป็นแน่ ดังนั้นบุรุษหนุ่มจึงไม่คิดอยู่ทานอาหารเช้าให้มารดาได้ซักถาม และนอกเหนือไปกว่านั้นเขาไม่อยากอยู่ให้หญิงสาวทวงคำตอบจากเขาทว่าในช่วงเวลาที่หลัวหยางโหวกำลังแต่งตัวอยู่นั้น หญิงสาวที่ขยับตัวหาไออุ่นจากบุรุษที่เคยนอนอยู่ข้าง ๆ กลับลืมตาตื่นขึ้น เมื่อนางคลำหาคนร่างสูงแต่กลับพบว่าเตียงนอนนั้นว่างเปล่ามีเพียงนางนอนอยู่คนเดียว หลิวหลิงลี่ก็รีบลุกขึ้นนั่งพร้อมกวาดสายตาหาหลัวหยางโหว ทั้งท
Terakhir Diperbarui : 2025-07-20 Baca selengkapnya