“ใต้เท้าเฉิน ท่านหมายความว่าอย่างไร ท่านอยากให้ข้าน้อยให้ชี้ตัวฉู่อ๋องหรือ?”ในโถงกรมคลัง หลิวโส่วเริ่นที่ตั้งสติได้ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเฉินกั๋วเวยแสยะยิ้ม “ใต้เท้าหลิวดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองติ้งเซียงมาช้านาน อีกทั้งอยู่ใกล้ชิดฉู่อ๋องมาระยะหนึ่งแล้ว ย่อมทราบชัดเจนถึงการกระทำของฉู่อ๋อง”“หากเจ้ากล้าลุกขึ้นมาชี้ตัวเขาในเวลานี้ เชื่อเถิดว่าเมืองปิงโจวคงจะเป็นเช่นแต่ก่อน”“บัดนี้เป็นคราวบ้านเมืองปั่นป่วน แคว้นต้าฉู่มิอาจทนต่อการปั่นป่วนจากฉู่อ๋องเช่นนี้ได้ มิฉะนั้นย่อมเป็นโอกาสแก่แคว้นอื่น”“ใต้เท้าหลิว หากเจ้ากลับใจละทิ้งความชั่ว วันหน้าพวกเราย่อมไม่ทำให้เจ้าต้องเสียเปรียบ มิเช่นนั้น...”หลิวโส่วเริ่นไม่รอให้เขาพูดจบก็ยิ้มเยาะ “มิเช่นนั้น เจ้าจะปลิดชีวิตข้าในวันนี้ ใช่หรือไม่?”เฉินกั๋วเวยหรี่ตาไม่ตอบคำ แต่สีหน้ากลับค่อย ๆ เผยจิตสังหารออกมาในขณะนั้น เซี่ยซาน รองเสนาบดีกรมคลังซึ่งเงียบมาตลอดก็ลุกขึ้น จ้องหลิวโส่วเริ่นแล้วกล่าวอย่างเฉยชาว่า“ใต้เท้าหลิว ใต้เท้าก็เป็นคนฉลาด เหตุใดต้องพูดวกวน วันนี้ถ้าท่านอยากมีชีวิต มีทางเดียวคือซัดทอดฉู่อ๋อง!”ขณะที่พูด ขุนนางกรมคลัง
อ่านเพิ่มเติม