บททั้งหมดของ ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: บทที่ 661 - บทที่ 670

696

บทที่ 661

ฉู่หนิงส่งหลิงเฮ่าหรานจากไป กลับถึงจวนอ๋องก็พลบค่ำแล้วภายในจวนกำลังเตรียมอาหารค่ำ กลิ่นหอมของเนื้อทำให้ฉู่หนิงที่เพิ่งกลับถึงท้องร้องจ๊อกๆ“หอมจัง!”ฉู่หนิงลูบท้อง “ข้ายังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลย ชักจะเริ่มหิวแล้ว”เพิ่งสิ้นเสียง ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ “ท่านอ๋องก็มีเวลาที่รู้จักหิวด้วยหรือ?”เสิ่นหว่านอิ๋งในชุดกระโปรงยาวสีน้ำเงินก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม น้ำเสียงเจือการหยอกล้อหลายส่วนฉู่หนิงมองดูหญิงงามตรงหน้า แสยะยิ้มที่มุมปาก พลางเดินไปเข้าโอบไหล่ของนาง แล้วหัวเราะเบาๆ “ข้าก็เป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์ก็ต้องหิว”“คิดว่าหว่านอิ๋งคงเตรียมอาหารค่ำอันเลิศรสไว้ให้ข้าแล้วกระมัง?”เวลานี้เอง สาวใช้เสี่ยวชิงปิดปากหัวเราะเบาๆ “พระชายารู้นานแล้วว่าท่านอ๋องยังไม่ได้กินมื้อเที่ยง จึงสั่งให้ห้องครัวเตรียมอาหารค่ำไว้แล้วเจ้าค่ะ”ฉู่หนิงหัวเราะฮ่าๆ แล้วพาเสิ่นหว่านอิ๋งมาถึงที่โถงรับรองบนโต๊ะมีอาหารและสุราจัดวางไว้แล้ว ไม่เพียงมีไก่ขอทานที่ฉู่หนิงชอบที่สุด ยังมีหมูผัดเปรี้ยวหวาน ปลาน้ำแดงฉู่หนิงรับถ้วยกับตะเกียบที่เสี่ยวชิงยื่นให้มา เขาพลางกิน พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หว่านอิ๋งเข้าใจข้าที่สุด”
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 662

เสิ่นหว่านอิ๋งรู้สึกตกใจ บนใบหน้าปรากฏแววความประหลาดใจ “ท่านสงสัยว่ามือลอบสังหารเป็นคนของพวกตระกูลใหญ่?”“สงสัย?”ฉู่หนิงพลางเคี้ยวไก่ในปาก พลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน “แรกเริ่มแค่สงสัย แต่ตอนนี้ข้ามั่นใจแล้วว่า แปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจวเป็นคนลงมือกับข้าเจ้าลองคิดดู เหตุใดพวกเขาจึงมาปรากฏตัวในเมืองหลวงเวลานี้ และยังร่วมมือกับเฉินกั๋วเวยร้องเรียนข้า?”คนฉลาดอย่างเสิ่นหว่านอิ๋งเข้าใจทันทีแปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจวจะต้องมาถึงเมืองหลวงตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งยังมีการติดต่อกับเฉินกั๋วเวยนานแล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ส่งมือลอบสังหารมาไม่แปลกใจที่ฉู่หนิงยืนกรานจะฆ่าขุนนางกรมการคลัง ต้องเป็นเพราะคิดถึงจุดนี้ จึงเกิดความคับแค้นใจแน่ๆแรกเริ่ม ทำความสะอาดกรมการคลังเพียงเพื่อระบายความคับข้องใจของตระกูลเสิ่นกับจวนอ๋องแต่หลังจากพบว่าเฉินกั๋วเวยสมคบคิดกับตระกูลใหญ่ และแปดตระกูลใหญ่แห่งปิงโจวมาถึงเมืองหลวงก่อนกำหนด เรื่องราวทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้วแค่การฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอให้ฉู่หนิงลงมือเหี้ยมโหดเช่นนี้ แต่สำหรับพวกคนที่ใช้วิธีต่ำช้า หรื
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 663

“ฉู่หนิงเชิญตระกูลใหญ่ทั้งหมดไปหารือกันที่จวนฉู่อ๋องในวันพรุ่งนี้?”กลางดึก ณ พระราชวัง ตำหนักอิงอู่เชิงเทียนสองแถวส่องแสงสว่างไปทั่วท้องพระโรงราวกับเป็นเวลากลางวัน แสงเทียนที่พลิ้วไหวสะท้อนลงบนพระพักตร์ที่แสดงความประหลาดใจของฮ่องเต้เดิมทีคิดว่าฉู่หนิงจะหาวิธีที่ดีเรียกเงินที่ถูกยักยอกคืนมา ไม่คาดคิดว่าเจ้าหนูนี่ยังจะไปเจรจากับเหล่าตระกูลใหญ่อีกแต่เป็นเช่นนี้ก็ดี หากการเจรจาสำเร็จ เรียกเงินคืนได้บางส่วน เพียงพอให้เราสร้างสุสานหลวงก็พอ“ดูเหมือนฉู่หนิงยังไม่กล้าล่วงเกินตระกูลใหญ่ทั้งหมด!”ฮ่องเต้หัวเราะเบาๆ พลางส่ายพระเศียร “ช่างเถิด ได้คืนมาเท่าไรก็เท่านั้น เราเองก็ไม่ต้องการเห็นทั้งเมืองหลวงวุ่นวายเพราะเรื่องนี้”การทำความสะอาดกรมการคลังครั้งใหญ่ ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว ส่วนการเรียกเงินคืนนั้น เป็นผลพลอยได้ที่คิดไม่ถึง ไม่ว่าได้คืนมาเท่าไร ก็เพียงพอสำหรับการสร้างสุสานหลวงอย่างแน่นอนแต่องครักษ์เงาที่ก้มหน้ากลับกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ฝ่าบาท เหมือนทางตระกูลใหญ่ไม่อยากคืนเงิน คนของพวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวในเมืองแล้ว การหารือในวันพรุ่งนี้ น่าจะไม่ได้ผลลัพธ์อะไร”ฮ่องเต้พลันเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 664

ฉู่หนิงหัวเราะร่า พลางโอบเอวบางอันน่าทะนุถนอมของนางแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เรื่องเช่นนี้ จะพอได้อย่างไร?”เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายศีรษะ มองไปที่หน้าอกเขาด้วยความกังวลเล็กน้อย “อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายสนิท อย่าเพิ่งร่วมรักมากเกินไปจะดีกว่า”หากไม่ใช่เพราะความห่างทำให้คิดถึงกันมากขึ้น หากไม่ใช่เพราะฉู่หนิงรบเร้าทั้งคืน เมื่อคืนนางไม่อยากยอมเขาด้วยซ้ำ ฉู่หนิงรู้ว่านางเป็นห่วงตนเอง จึงได้แต่ยกมือทำท่ายอมแพ้ “ได้ๆๆ ข้าฟังเจ้าทุกอย่าง”ท่าทางที่ตลกของเขา ทำเอาเสิ่นหว่านอิ๋งอดขำไม่ได้ นางหัวเราะเบาๆ พลางจัดเสื้อผ้าให้เขาไปด้วย “พอแล้ว เลิกล้อเล่นได้แล้ว อีกเดี๋ยวคนของตระกูลใหญ่จะมา ท่านไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถิด” ฉู่หนิงพยักหน้าเบาๆ แล้วหยิบผ้าแพรที่บางเบาผืนหนึ่งขึ้นมาคลุมไหล่เสิ่นหว่านอิ๋ง “เมื่อคืนเจ้าคงเหนื่อยแย่แล้ว วันนี้พักผ่อนให้เต็มที่เถิด เรื่องข้างนอกปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”เมื่อกล่าวจบ ฉู่หนิงก็ก้าวเดินจากไปเสิ่นหว่านอิ๋งกระชับเสื้อบนกาย มองแผ่นหลังที่เดินจากไปของฉู่หนิง บนใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มสายหนึ่งแม้ฉู่หนิงมักจะทำตัวเหมือนไม่เอาจริงเอาจังต่อหน้าผู้อื่น แต่กับต
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 665

คำพูดเดียวของฉู่หนิงทำเอาทุกคนตกตะลึงทวงเงินอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ เกินความคาดหมายของทุกคนเดิมทีคิดว่าฉู่หนิงจะใช้เหตุผลและความรักชาติมาเกลี้ยกล่อมเมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาสามารถใช้เสบียงกับเบี้ยทหารที่ตนเองเคยบริจาคมาเป็นโล่ได้แต่ไม่คาดคิดว่าฉู่หนิงไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย แถมยังขอให้พวกเขาคืนเงินโดยตรงสายตาของหวงฝู่เกาในฐานะผู้นำตระกูลใหญ่เย็นลงโดยพลัน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ฉู่อ๋องพูดเช่นนี้ไม่ถูก พวกเราเคยเอาเงินของราชสำนักไปตั้งแต่เมื่อไร?” เรื่องเช่นนี้ ตีให้ตายก็ไม่ยอมรับเมื่อหัวหน้าตระกูลคนอื่นตั้งสติได้ ก็พากันเห็นด้วย “ถูกต้อง ท่านบอกว่าพวกเราเอาเงินไป พวกเราก็เอาเงินไปอย่างนั้นหรือ? ท่านมีสิทธิ์อะไร?”“ฉู่อ๋องอาศัยแค่ปากเปล่าก็อยากให้พวกเราเอาเงินออกมา บนโลกนี้ยังมีเรื่องดีเช่นนี้ด้วยหรือ?”“พวกเราตระกูลใหญ่ไม่เพียงไม่ได้เอาเงินของราชสำนัก กลับกัน หลายปีมานี้ยังบริจาคเงินและเสบียงให้ราชสำนักไม่น้อย ต่อให้ต้องคืน ก็ต้องเป็นราชสำนักคืนให้พวกเรา”“ถูกต้อง ฉู่อ๋องอย่าสลับขาวเป็นดำ!”เสียงของทุกคนดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ามีเพียงเช่นนี้ จึงจะทำให้จิตใจที่กระสับ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 666

เขาเป็นเสนาบดีกรมการคลัง หนึ่งในหกกรมที่เป็นเสาหลักของต้าฉู่เชียวนะทุกคนมองฉู่หนิงอย่างหวาดกลัวด้วยสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อ ภายในใจเต็มไปด้วยความสงสัยและหวาดหวั่นฉู่หนิงไร้ยำเกรงกฎฟ้ากฎเมืองเช่นนี้ เขาจะฉวยโอกาสนี้ลงมือกับตนด้วยหรือไม่?วันนี้ตระกูลใหญ่ทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ เมื่อไรที่ตายกันหมดที่นี่ ฉู่หนิงก็สามารถฉวยโอกาสเข้าควบคุมสถานการณ์เมื่อหวงฝู่เกาสังเกตเห็นปฏิกิริยาของทุกคน สีหน้าเคร่งขรึมลงทันที และจ้องเขม็งไปที่ฉู่หนิง “ท่าน……ถึงกับกล้าฆ่าขุนนางของราชสำนักโดยพลการ!” การตายของเฉินกั๋วเวย ฉู่หนิงไม่มีทางกราบทูลฮ่องเต้ก่อนแน่นอน ไม่เช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่รู้ข่าวเลยฆ่าเสนาบดีกรมการคลังลับหลังฮ่องเต้ นี่คือโทษประหาร!ใครจะรู้ว่าฉู่หนิงกลับหัวเราะฮ่าๆ พลางหยิบหยกแขวนชิ้นหนึ่งออกมา พร้อมกับกล่าวเสียงดัง “เสด็จพ่อประทานหยกแขวนแก่ข้า มีอำนาจประหารก่อนค่อยรายงาน!ครั้งนี้ ข้าจะช่วยเสด็จพ่อเรียกคืนเงินคลังที่ถูกยักยอก หากมีใครไม่ทำตาม เฉินกั๋วเวยก็คือจุดจบของพวกเจ้า!”เมื่อคำพูดนี้ออกมา เท่ากับเป็นการแจ้งเตือนครั้งสุดท้ายไม่คืนเงิน ก็เอาหัวมา!สีหน้าทุกค
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 667

การแปรพักตร์ของหลิงลี่เสวียนเกินความคาดหมายของทุกคนเหล่าตระกูลใหญ่เป็นปึกแผ่นเดียวกันมาโดยตลอด เหตุใดครั้งนี้ตระกูลหลิงจึงแทงข้างหลัง?เมื่อเผชิญหน้ากับการบีบคั้นของฉู่หนิง สีหน้าหวงฝู่เกามืดมนลงอย่างสมบูรณ์แม้คิดไว้แล้วว่าฉู่หนิงเรียกทุกคนมารวมตัวกัน อาจจะมีแผนรับมือแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าแผนรับมือก็คือชักจูงตระกูลหลิงแปรพักตร์แม้ในบรรดาเหล่าตระกูลใหญ่ ตระกูลหลิงจัดอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูง แต่เพราะมีเสนาบดีกรมอาญาหลิงเฮ่าหรานอยู่ในราชสำนัก ตระกูลหลิงจึงถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองหลวงการที่หัวหน้าตระกูลหลิงยอมคืนเงินในเวลานี้ จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของตระกูลอื่นๆ ไม่ได้ จะปล่อยให้ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นไปทั้งข้องไม่ได้!หวงฝู่เกาจ้องหลิงลี่เสวียนเขม็งด้วยสายตาเย็นเยียบ “ดี ดีมาก ในเมื่อตระกูลหลิงของเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะไม่บังคับเจ้า แต่เจ้าต้องคิดถึงผลที่ตามมาให้ดี และเตรียมพร้อมรับมือกับไฟโทสะของทุกคน!”หลิงลี่เสวียนก้มหน้าเงียบเมื่อคืนตอนที่หลิงเฮ่าหรานพูดถึงเรื่องนี้ อันที่จริงแรกเริ่มเขาก็ปฏิเสธแต่เมื่อหลิงเฮ่าหรานพูดถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ อีกทั้งยังบอกว่าเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 668

หากไม่ย้ายออกภายในเวลาที่กำหนด พวกเขาก็จะไปร้องเรียนกับทางการ ตอนนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นขวัญเสียจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ขอฉู่อ๋องโปรดตัดสินใจด้วยเถิด”ไม่เพียงเล่นงานจวนฉู่อ๋อง ตระกูลเสิ่นก็ถูกดึงเข้าไปด้วยร้านข้าวสารมากมายภายในเมือง ล้วนเป็นของที่ตระกูลเสิ่นเช่ามา ตอนนี้ผู้อื่นจะเรียกร้านคืน ตระกูลเสิ่นจึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่นฉู่หนิงหรี่ตาลงโดยพลัน มีประกายแสงสายหนึ่งแลบผ่านอำนาจของเหล่าตระกูลใหญ่ ไม่ควรมองข้ามจริงๆ!แต่คิดว่าด้วยตระกูลใหญ่มากมายเช่นนี้ ไม่ได้มีความสามารถแค่นี้แน่นอน น่าจะมีกลยุทธ์อย่างอื่นอีกแน่นอนเขาเหลือบมองพวกหวงฝู่เกาแวบหนึ่ง กลับเห็นอีกฝ่ายกำลังยิ้มเย้ย หัวหน้าตระกูลคนอื่นๆ ก็กำลังทำหน้ารอดูเรื่องสนุกเช่นกันเห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของคนเหล่านี้ จุดประสงค์ก็เพื่อบีบให้ตระกูลเสิ่นกับจวนฉู่อ๋องยอมปราณีประนอม โดยที่พวกเขาไม่ต้องคืนเงินเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฉู่หนิงกดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ “นี่ก็คือไม้เด็ดของทุกท่านหรือ?”ครั้งนี้ เซี่ยอวี่เวยก้าวออกมากล่าวเสียงเรียบ โดยไม่รอหวงฝู่เกาเอ่ยปาก “ท่านอ๋องพูดอะไรเช่นนี้ พวกเขาไม่อยากเช่าร้านให้ตระกูลเสิ่นเอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 669

กลยุทธ์ของเหล่าตระกูลใหญ่ มาอย่างรวดเร็วและแม่นยำไม่ปล่อยให้ฉู่หนิงกับตระกูลเสิ่นมีโอกาสตั้งตัวเลย พวกเขามีทางเลือกเพียงสองทางคือ เลิกทวงเงินกับตระกูลใหญ่ หรือจวนฉู่อ๋องกับตระกูลเสิ่นถูกกีดกัน จนไม่สามารถอยู่รอดในเมืองหลวงแต่ฉู่หนิงไม่ได้ใส่ใจกับการกระทำของเหล่าตระกูลใหญ่เลย กลับกันยังเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำเอาเถ้าแก่ร้านทั้งสี่ที่มารายงานร้อนใจจนนั่งไม่ติด พวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง แล้วประสานมือคารวะ“ท่านอ๋อง ต้องรีบตัดสินใจเรื่องนี้นะ ปล่อยให้ยืดเยื้อต่อไปไม่ได้แล้ว”“ใช่แล้วท่านอ๋อง หากถูกตระกูลใหญ่ทั้งหมดกีดกัน เกรงว่าจวนอ๋องกับตระกูลเสิ่นยากจะอยู่ต่อไปได้”“ร้านค้าของตระกูลเสิ่นล้วนเป็นการเช่ามา ตอนนี้อีกฝ่ายจะเรียกคืน ขอท่านอ๋องโปรดช่วยเหลือด้วยเถิด”“เกลือหยาบอยู่ได้แค่อีกสองวัน เมื่อไรที่เกลือหยาบหมด จวนอ๋องจะไม่สามารถทำแม้แต่กับข้าว”ทั้งสี่ร้อนรนยิ่งนัก สีหน้าดูกังวลสุดขีดใครจะรู้ว่าฉู่หนิงกลับกวาดมองทุกคนแวบหนึ่ง แล้วยิ้มที่มุมปาก “เหตุใดพวกเจ้าดูร้อนใจยิ่งกว่าข้าเสียอีก?” เถ้าแก่ที่ยืนอยู่ฝั่งขวารีบอธิบาย “คือ……พวกเราก็แค่เป็นห่วงจวนอ๋องกับตระกูลเสิ่น
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 670

ทั้งสี่ที่หลบเลี่ยงไม่พ้น เปล่งเสียงคำรามยาวทีหนึ่ง ก่อนจะกัดฟันชกหมัดใส่หร่านหมิง“เพี๊ยะ……”“อ๊า!”หลังจากมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นสี่สาย แขนของทั้งสี่ก็ห้อยตกลงมา เลือดสาดกระเซ็น ร่างกายลอยกระเด็นออกไปข้างหลัง“จับตัวพวกมันไว้!”หร่านหมิงถลึงตา เดิมทีตั้งใจจะลงมือเอง แต่เมื่อนึกถึงคำสั่งของฉู่หนิงเมื่อครู่ สุดท้ายก็ข่มเจตนาฆ่าไว้ ให้องครักษ์จวนอ๋องเข้าไปจับพวกเขาเหล่าองครักษ์พุ่งเข้าไป ลากทั้งสี่ที่บาดเจ็บสาหัสออกไปจนหมดฉู่หนิงถึงจะพยักหน้าเบาๆ แล้วถาม “เกลือบริสุทธิ์จะถึงคืนนี้ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด เจ้าพาทัพอาชาขาวออกไปรับที่นอกเมือง”หร่านหมิงเกาศีรษะอย่างไม่เต็มใจนัก “ท่านอ๋อง กระหม่อมอยากคุ้มกันที่ข้างกายท่าน นี่เป็นสิ่งที่แม่ทัพจ้าวอวี่กำชับมาโดยตลอด”ฉู่หนิงมองบนทีหนึ่ง “เจ้าจะฟังข้า หรือฟังจ้าวอวี่? อีกอย่างนะ ข้าอยู่แต่ในจวนอ๋อง เจ้าคิดว่ามีคนกล้ากล้าลงมือกับค่าที่ชวนออกมาลงมือกับข้าที่จวนอ๋องหรือ?”“เออ……” หร่านหมิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงจะพยักหน้า “ก็ได้ คืนนี้กระหม่อมจะพาคนออกไปรับที่นอกเมือง”ฉู่หนิงโบกมือ “ส่งศพของสี่คนนั้นไปที่ตระกูลหวงฝู่ก่อน”“พ่ะย่ะค่ะ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
656667686970
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status