All Chapters of นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!: Chapter 11 - Chapter 20

27 Chapters

ตอนที่๘

ลานหินอ่อนหน้าประตูวังหลวงของต้าหรงด้านใต้ในวันนี้ สะท้อนแสงอาทิตย์ต้นยามอู่จนเกิดไอร้อนลอยระยับในอากาศ มองไปราวกับเปลวเพลิงกำลังเริงระบำเสียงลมพัดเสียดสีกับธงสีดำที่ปักมังกรทองเหยียบเมฆา อยู่บนแผ่นผ้าที่ยอดเสาสูงโบกสะบัดจนเกิดเสียงหวีดหวิวน่าหวาดหวั่น คล้ายมังกรตัวนั้นกำลังคำรามข่มขู่ผู้คนทหารรักษาพระองค์เดินลาดตระเวนเข้มงวด นางกำนัลกับขันทีเดินเข้าออกประปรายใต้ร่มผ้าแพรสีอ่อน มีสตรีผู้หนึ่งยืนเงยหน้าจ้องประตูวัง ไม่ละสายตาด้วยกิริยาร้อนใจยิ่งนางคือสวีฮูหยิน ในอาภรณ์สีฟ้าครามแกมม่วง ใบหน้าของนางซีดขาว ดวงตาคลอหยาดน้ำตาจนขอบตาแดงช้ำบุตรสาวคนรองกับบุตรชายคนเล็กนางส่งกลับจวนไปแล้ว เหลือเพียงนางยืนรออยู่กับข่งหมัวมัวและสาวใช้อีกสองคน ด้วยเกรงจะเอิกเกริกจนผู้คนเพ่งมองแดดยิ่งแรง เหงื่อยิ่งซึมตามขมับ แต่หัวใจกลับร้อนราวไฟแผดเผามากกว่าแสงแดดยามอู่ข่งหมัวมัวมองแล้วเอ่ยขึ้นเสียงอ่อน “ฮูหยิน…ขึ้นรถม้าสักครู่เถิดเจ้าค่ะ…”สวีฮูหยินส่ายหน้า แลเห็นน้ำตาเป็นเงาอยู่ในดวงตาไม่จาง “ไม่…ข้าจะรอท่านพี่ที่ตรงนี้”ไม่นานนัก ฝีเท้าหนักของคนกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านในอึดใจต่อมาบานประตูวังชั้นนอกถูกผ
last updateLast Updated : 2025-07-07
Read more

ตอนที่ ๙

เวลาบ่ายคล้อย แสงแดดสีทองทอดเงายาวเหนือลานหินกว้างจนสุดสายตาสองสามีภรรยาสกุลสวีเดินตามขันทีเข้าสู่เขตพระราชฐานด้านในสองข้างทางเรียงรายด้วยต้นบ๊วยที่กำลังชูช่อดอกขาวสะพรั่งเต็มกิ่งหากในยามนี้กลับไม่มีผู้ใดคิดใส่ใจความงามนั้นแม้เพียงคนเดียวสวีฮูหยินยังคงก้าวเดินช้ารักษามารยาทสตรีชั้นสูงไว้อย่างดี แต่ลมหายใจของนางใน บ้างจังหวะก็มีสะดุดขาดเป็นห้วง ฝ่ามือเย็นเฉียบราวน้ำแข็ง หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกังวลที่กัดกินทุกครั้งยามก้าวเดินไปข้างหน้า นางเคยชื่นชมความสงบของตำหนักหนิงเฟิ่งเสมอกว่าจะมาถึง พวกเขาใช้เวลาราวครึ่งชั่วยามในที่สุด ประตูสูงประดับลายหงส์สยายปีก ปากคาบรวงข้าวสาลี จึงปรากฏในครรลองสายตาที่แห่งนี้คือเขตตำหนัก ‘หนิงเฟิ่ง’ ของจ้านไทเฮาสตรีผู้ทรงอำนาจสูงสุดแห่งวังหลังแม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องยำเกรงพระนางแสงแดดต้นยามเว่ยแผดจ้าเงาสะท้อนระยิบอยู่บนตัวอักษรสองคำ หนิงเฟิ่ง ที่หมายถึงหงส์ผู้สงบ...ชื่อที่ประกาศถึงพระปณิธานรักความสงบของเจ้าของตำหนักว่ามีมากเพียงใดทว่าในยามนี้ ความสงบนั้นกลับกดทับจิตใจของทั้งสองสามีภรรยาจนแทบสิ้นเรี่ยวแรงหลังสวีฉีฟ่านแจ้งกับขันทีเฝ้าตำหนักไม่นานนัก เสียงฝี
last updateLast Updated : 2025-07-07
Read more

ตอนที่ ๑๐

“…”“…”สองสามีภรรยาสวีมิกล้าตอบคำถามนั้นของจ้านไทเฮาในทันใด แม้พระนางจะวางพระองค์เป็นกันเองเพียงใด แต่จะอย่างไร…ราชวงศ์ก็คือราชวงศ์ มิอาจวางใจได้ทั้งหมดจ้านไทเฮาประทับนิ่ง ดวงเนตรทอดมองร่างทั้งสองที่หมอบอยู่บนพื้นไม่กล้าขยับทั้งกังขาทั้งไม่อยากเชื่อว่าที่ตนเองได้ยินนั้นเป็นความจริงสีพระพักตร์ของพระนางเผยอารมณ์ตื่นตระหนกชัดเจนมิอาจเก็บซ่อนอารมณ์ อาการดังกล่าวนี้แทบไม่เคยปรากฏให้ผู้ใกล้ชิดได้เห็นบ่อยนักทว่าวันนี้ ทุกคนล้วนได้เห็นเต็มสองตา และนั่นย่อมแสดงว่า คุณหนูใหญ่สวีผู้นี้ย่อมมีน้ำหนักในพระทัยจ้านไทเฮามากกว่าที่ใครเข้าใจอึดใจหนึ่ง พระวรกายที่เคยนั่งอิงหมอนค่อยๆ ขยับเหยียดตัวตรง เรียวพระหัตถ์วางบนตั่งหยก แล้วเผลอกำแน่น ดวงเนตรคู่งามเบิกขึ้นเล็กน้อย ริมพระโอษฐ์ขยับเปล่งวาจาถามย้ำ“พวกเจ้าสองผัวเมีย…” สุ้มเสียงนั้นจริงจังไม่หยอกล้ออีกแล้ว จนทุกคนที่ได้ฟังล้วนขนลุก“ใครก็ได้…พูดกับไอเจี่ยอีกครั้งเถอะ…ว่าที่ไอเจี่ยได้ยินเมื่อครู่…มิใช่เรื่องเพ้อฝัน…มิใช่เพราะไอเจี่ยหูฝาดไปเอง…”สองสามีภรรยาเหลือบตามองกันไปมา แล้วสวีฮูหยินก็พยักหน้าให้สามี…เป็นเชิงบอกให้ตอบแทนตน“ไทเฮามิได้ฟังผิดไปพ่
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more

ตอนที่ ๑๐

ทว่า…สำหรับนาง กลับรู้ดี ว่าเป็นเพราะเขารู้จักชินอ๋องดีเกินไป มิใช่แค่รู้จักนิสัยของชินอ๋องดี แม้แต่นิสัยของพระนาง ขุนนางสองแผ่นดินตรงหน้าก็คงถ่องแท้เช่นกันถ่องแท้จนเข้าใจว่าหากเขารีบเอ่ยปาก ‘ขอร้อง’ ต่อหน้ามารดาเช่นนาง อาจกลายเป็นการยั่วไฟโทสะให้ลุกท่วมง่ายกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นตัวของพระนางหรือไป๋อี้หานเองจ้านไทเฮาหลุบตาลงเล็กน้อย ในแววตาฉายความซับซ้อนทั้งเป็นห่วงสวีเจียงหลัว ทั้งโกรธบุตรชาย และทั้งอ่อนใจในคราเดียวกันเพียงชั่วอึดใจ เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สีพระพักตร์ก็เปลี่ยนไป“เจ้ากล่าวว่า…ต้าหลัวบาดเจ็บหนัก…เป็นหรือตายมิอาจทราบ แต่กลับถูกชินอ๋องพาตัวไป…เช่นนั้นหรือ…อาฟ่าน”สุ้มเสียงนุ่มลึกล้ำซึ่งเคยสงบ บัดนี้ไม่หลงเหลือรอยตกพระทัยอีก มีเพียงความเด็ดขาดที่น่าหวาดเกรง“เป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ…”“เช่นนั้น…พวกเจ้าจึงยังไม่รู้เลยสินะ…ว่านางเป็นเช่นไรแล้วบ้างหลังจากอาหานพานางจากไป…”พระเนตรทอดลงต่ำ แววในดวงตาประหนึ่งพายุซึ่งค่อยๆ ก่อตัว“กราบทูลไทเฮา…”เสียงสวีฉีฟ่านสั่นพร่า มือใหญ่ที่คุกเข่ากำจนสั่น“ต้าหลัว…นางบาดเจ็บหนัก…กระหม่อมกับฮูหยินมิอาจตามไปตำหนักชินอ๋องได้…จนปัญญาจริงๆ พ่ะย่
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more

ตอนที่ ๑๒ (1)

เสียงฆ้องนำขบวนดังแว่วมาแต่ไกล ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจังหวะก้าวเท้าพร้อมเพรียงของเหล่าขันทีและนางกำนัล เมื่อเกี้ยวของจ้านไทเฮาเคลื่อนมาถึงเบื้องหน้าตำหนักกวางผิงบรรยากาศทั่วลานพลันตกอยู่ในความเงียบงันแห่งความเคารพและกดดันภายใต้ร่มหยกคราม พระมารดาแห่งแผ่นดินต้าหรงประทับนิ่งเฉกเช่นศิลาสลัก แม้จะมาถึงหน้าตำหนักของบุตรชายคนเล็กแล้ว ก็ยังไม่ทรงขยับกายลงจากเกี้ยวเกียรติยศม่านโปร่งบางพลิ้วไหวตามแรงลม ดวงเนตรใต้ม่านทอดมองนิ่ง ไร้อารมณ์ก่อนจะปิดลงราวไม่รับรู้ทุกสรรพสิ่งรอบกายในพริบตาแต่ผู้ใดเล่าจะล่วงรู้ ว่าเบื้องหลังความสงบนิ่งนั้น กำลังมีความไม่พึงใจลึกล้ำแฝงอยู่ภายในเบื้องหลังขบวนเสด็จจวิ้นอันโหว สวีฉีฟ่าน และฮูหยินสกุลสวี ยืนเรียงรายด้วยสีหน้าเคร่งขรึม โดยเฉพาะสวีฉีฟ่าน สองมือกำแน่นใต้แขนเสื้อ คล้ายสะกดกลั้นความร้อนรุ่มมิให้เผยออกมาจนเสียกิริยาขณะนั้นเอง…หน้าประตูตำหนักฉวีกงกง ขันทีคนสนิทของชินอ๋องยามคนเข้าไปรายงานถึงขบวนของสตรีสูงศักดิ์ที่สุดในแผ่นดินมาเยือน เขารีบรุดออกมาต้อนรับขบวนเสด็จด้วยท่าทางเร่งร้อนแทบหกล้ม“ฉวีเสียนถวายพระพรไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ”ทว่าเกี้ยวเบื้องบนกลับไร้สุรเสียงต
last updateLast Updated : 2025-07-09
Read more

ตอนที่ ๑๒ (จบตอน)

พระเนตรหรี่มองลูกชายด้วยแววที่ยากหยั่งถึง ก่อนจะเหลือบไปยังสองสามีภรรยาสกุลสวีที่ยืนอยู่เบื้องหลังสวีฉีฟ่านกับโจวหรูเจี๋ย รีบออกมาคารวะ ชินอ๋องผู้เป็นเจ้าของตำหนักด้วยกิริยาอ่อนน้อม ทั้งที่สีหน้าทั้งคู่เต็มไปด้วยความวิตก ร้อนรนแทบระงับไม่อยู่จ้านไทเฮาตรัสเนิบช้า“เกรงว่า…ไอเจียจะอบรมบุตรชายได้ไม่ดีนัก เพียงกลับถึงเสวียนหยาง ก็รีบก่อเรื่องรังแกคนเสียแล้ว”ไป๋อี้หานหัวเราะเบาในลำคอ“เสด็จแม่ล้ออาหานเล่นแล้วพ่ะย่ะค่ะ อาหานเพิ่งกลับจากเจียงหนาน ยังไม่ครบสิบสองชั่วยาม จะมีโอกาสรังแกผู้ใดได้หรือ?”จ้านไทเฮาไม่ตอบแต่กลับยื่นพระหัตถ์ให้บุตรชายประคอง ไป๋อี้หานรับมาอย่างรู้งาน แล้วจูงพระมารดาก้าวเข้าตำหนัก ท่วงท่าทั้งสองเปี่ยมบารมี และสายสัมพันธ์ระหว่างมารดากับบุตรระหว่างทางบ่าวไพร่ นางกำนัล และสกุลสวีเดินตามเงียบ ๆ จนถึงบันไดหินหน้าตำหนักใหญ่จ้านไทเฮาหยุดมองสวีฉีฟ่าน ก่อนตรัสนุ่มนวล หากแฝงแรงกดดัน “แต่ที่ไอเจียได้ยินมา วันนี้เจ้าพาบุตรสาวผู้อื่นกลับตำหนักหรือ? หรือว่า…ผู้รายงานสมควรถูกลงโทษที่กล่าวเท็จ?”สวีฉีฟ่านสะดุ้งเฮือก รีบคุกเข่าคำนับ “กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ!”จ้านไทเฮาพยักหน้าเบา
last updateLast Updated : 2025-07-09
Read more

ตอนที่ ๑๓ (1)

ไม่นานนัก ขบวนเสด็จขององค์ชายสาม ไป๋อี้เฉิน ก็มาถึงตำหนักกวางผิง หลังฉวีกงกงออกไปต้อนรับเรือนกายสูงใหญ่ของบุรุษวัยยี่สิบหนาวจึงก้าวเข้ามาภายในห้องโถงรับรอง“อาเฉินถวายพระพรเสด็จย่า”เมื่อถูกเชิญเข้าสู่โถงรับรอง ไป๋อี้เฉินก็รีบคารวะจ้านไทเฮาก่อนเป็นอันดับแรก“ลุกขึ้นเถิด อาเฉิน” จ้านไทเฮาโบกมืออย่างเมตตา“อาเฉินถวายพระพรเสด็จอาพ่ะย่ะค่ะ”“มิต้องมากพิธี มานั่งเถิด”ฝ่ายเจ้าของตำหนักต้อนรับแขกอยู่ด้วยหน้าซึ่งเป็นไปด้วยมารยาทชั้นสูง ขณะเดียวกัน ณ เรือนรับรองอีกมุมในตำหนัก สองสามีภรรยาสวีก็กำลังหารือกันด้วยความกระวนกระวายใจอยากจะพาบุตรสาวคนโตนั้นกลับจวนในทันที“เห็นทีคงยังมิอาจเคลื่อนย้ายได้ จวิ้นอันโหว” ท่านหมอกู้กล่าวกับสีหน้าเคร่งเครียด“อาการคุณหนูใหญ่ในยามนี้สาหัสนัก โดยเฉพาะที่ลำคอ หากกระดูกผิดรูปไปมากกว่านี้ อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต หรือพิการตลอดชีพได้เลย”คำวินิจฉัยนั้นหนักหนาเกินจะตอบโต้ สองสามีภรรยามองสบตากัน ความหนักใจปะทุขึ้นกลางอก พร้อมกับเสียงคำเตือนของชินอ๋องที่ดังก้องในความทรงจำ‘ชื่อเสียงสำคัญ แต่ชีวิตมนุษย์ย่อมสำคัญกว่า’แม้อยากรักษาหน้าตาตระกูล แต่หากต้องแลกกับชีวิตบุต
last updateLast Updated : 2025-07-10
Read more

ตอนที่ ๑๓ (จบตอน)

ประตูไม้บานสลักเปิดผลัวะออก ร่างงามในชุดผ้าไหมสีม่วงครามเข้มพุ่งเข้ามาอย่างลนลาน ม่านโปร่งสีงาช้างปลิวไสวตามแรงลม สวีฮูหยินทรุดตัวลงข้างเตียง ดวงตาแดงช้ำยังมีหยดน้ำตาไหลไม่หยุด"ต้าหลัวของแม่...ในที่สุด เจ้าก็ลืมตาขึ้นแล้วจริง ๆ!"มือเรียวงามของสตรีสูงศักดิ์สั่นระริกยามโอบประคองบุตรสาว ซบหน้าลงแนบไหล่บอบบางพลางสะอื้นจนร่างกายสะท้าน"แม่...ขอโทษ...แม่มิอาจปกป้องเจ้า...ฮึก...!"เจียงหลัวรับรู้ถึงแรงสะเทือนอ่อน ๆ มือนางยกแตะไหล่มารดาเบา ๆ อย่างงุนงง"...ท่านแม่...ที่นี่คือที่ใดหรือเจ้าคะ...ข้าจำได้ว่าเรือนข้ามิได้เป็นเช่นนี้..."น้ำเสียงแผ่วเบานั้นทำให้สวีฮูหยินตื้นตัน น้ำตานองหน้า พลางเอ่ยปลอบ"เจ้าอยู่ในตำหนักกวางผิง ของชินอ๋องไป๋อี้หาน...""ตำหนักกวางผิง? ...ชินอ๋อง?"เจียงหลัวขมวดคิ้ว พยายามทบทวนเหตุการณ์ พลันร้อง ‘อ๋อ’ ขึ้นในใจเหตุการณ์นี้...ในนิยายคือจุดเริ่มของชะตาบรรจบระหว่างนางร้ายกับพระร้าย และเป็นต้นเหตุให้ไป๋อี้หานตกหลุมรักสวีเจียงหลัวจนไม่อาจถอนตัว และสุดท้ายเขาก็มีจุดจบที่ไม่ดีสวีฮูหยินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยอย่างอ่อนโยน "เจ้ายังจำได้หรือไม่ ว่าเหตุใดตนจึงบาดเจ็บ"“...”
last updateLast Updated : 2025-07-10
Read more

ตอนที่14 [1]

ณ ห้องทรงงาน ตำหนักกวางผิงหลังจากจ้านไทเฮาทรงมีรับสั่งให้ไป๋อี้เฉินกลับจวน ด้วยเหตุผลว่าสวีเจียงหลัวบาดเจ็บสาหัส ไม่ควรถูกรบกวนจากบุรุษใด ๆ แม้จะเป็นพระนัดดาแท้ ๆ ของพระองค์เองก็ตามที ส่วนจ้านไทเฮานั้นก็ทรงขอตัวเสด็จกลับตำหนักหนิงเฟิ่งตามไปเช่นกันบัดนี้ ตำหนักกวางผิงจึงกลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกคราภายในห้องทรงงาน เรือนกายสูงใหญ่ในชุดสีเข้มของผู้เป็นเจ้าของตำหนักนั่งนิ่งหลังโต๊ะไม้อู่ถงทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ แผ่นหลังเหยียดตรงดั่งไม้ไผ่ไม่เคยเอน ยามค้อมกายอยู่เหนือเอกสารบัญชีกองทัพ ใบหน้าคมเข้มแลดูนิ่งเฉย ทว่าสายตากลับเฉียบคมราวใบมีดเสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้น ตามด้วยเสียงของเว่ยจง“หวางเยี่ยพ่ะย่ะค่ะ”ชายหนุ่มมิได้เงยหน้า แม้คิ้วขมวดเพียงเล็กน้อยก็ไม่มี มีเพียงน้ำเสียงราบเรียบเอ่ยตอบอย่างเฉยชา“มีอันใด”น้ำเสียงเรียบเย็น หากแต่แฝงแววอำนาจในทุกถ้อยคำ ทำเอาเว่ยจงที่ยืนอยู่ด้านนอกต้องรีบโค้งตัวลงต่ำกว่าเดิม แม้เจ้าตัวจะมองไม่เห็นก็ตามที“เป็นท่านหมอหลวงกู้มาขอเข้าเฝ้า เพื่อถวายรายงานอาการของคุณหนูใหญ่สวีพ่ะย่ะค่ะ”สิ้นคำรายงาน ไป๋อี้หานชะงักพู่กันไว้กลางอากาศในเสี้ยวลมหายใจ ก่อนจะเก็บมัน
last updateLast Updated : 2025-07-11
Read more

ตอนที่14 {จบตอน}

ประโยคหลังนั้นเอ่ยแผ่วเบา และรวดเร็วราวกลัวว่าจะขัดอารมณ์เทพสังหารเบื้องหน้า มือบางประสานแน่นราวจับผ้าเช็ดหน้าที่ไม่มีอยู่จริงไป๋อี้หานจ้องเขาเขม็ง แววตานิ่งไม่ไหวติง“หากเปิ่นหวางจะไปให้ได้เล่า”เสียงทุ้มนั้นเอ่ยช้า ๆ แต่กลับรุนแรงยิ่งกว่าเสียงตวาดฉวีกงกงหน้าเสียไปแล้วเจ็ดส่วน มือที่กำชายเสื้อสั่นเพิ่มอีกเท่าตัว“เอ่อ...เรื่องนั้น...อาจไม่เหมาะนักพ่ะย่ะค่ะ หวางเยี่ย...”คำตอบนั้นเบาแทบไม่พ้นลำคอ และยังไม่ทันเขาจะพูดจบ เสียงต่ำเย็นจัดก็ดังขึ้นอีกครั้ง“ฉวีเสียน!”เสียงขานเรียกชื่อเต็มไปด้วยแรงกดดัน จนกระทั่งฉวีกงกงสะดุ้งจนถอยหลังก้าวหนึ่งอย่างลืมตัว“นี่เข้าต้นยามซวีแล้ว...จ้านไทเฮาทรงมีรับสั่งชัดเจนก่อนกลับตำหนัก ไม่ให้ใครรบกวนคุณหนูใหญ่สวีในยามวิกาล โดยเฉพาะบุรุษ...”ยังไม่ทันจบประโยคดี ร่างสูงตรงหน้าก็หันขวับ แววตาคมปลาบสะบัดขึ้นเฉียบคมดั่งคมดาบเสียงฝีเท้าของสืออวี่ที่กำลังเดินยามอยู่ใกล้ ๆ ถึงกับชะงักลงทันที แม้เขาจะมิได้เข้าไปข้องเกี่ยวใด ๆ ก็ยังอดกลั้นลมหายใจมิได้บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือกลงในฉับพลัน ราวหมึกดำไหลทึบทั่วทั้งตำหนักสืออวี่ ฉีเหล่ย และเว่ยจง ต่างยืนนิ่งอยู่ในมุม
last updateLast Updated : 2025-07-11
Read more
PREV
123
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status