All Chapters of รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี: Chapter 11 - Chapter 20

แต่ด้วยความสัมพันธ์พี่น้องที่ตึงเครียดระหว่างเซ่าสวินกับเซ่าเยว่ ต่อให้ฆ่าเขาให้ตาย ก็ไม่มีทางไปขอความช่วยเหลือจากพี่เขยแน่นอนจี้หยางไม่ได้ดื้อรั้นเหมือนเซ่าสวินขนาดนั้น จึงแอบไปติดต่อกับเจียงซื่อกรุป โดยแอบอ้างในนามน้องชายภรรยาของท่านประธาน เขาได้พบกับเจียงเฉินหานด้วยตาตัวเอง และใช้เวลาหนึ่งนาทีแนะนำเกมสามเอขนาดใหญ่ซึ่งผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิมที่พวกเขาพัฒนาอย่างรวดเร็ว เดิมคิดว่าจะได้รับเงินลงทุนอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายกลับถูกยามไล่ออกมาโดยตรงจี้หยางถึงกับตะลึงไปเลย ที่ยิ่งเหลือเชื่อกว่านั้นคือ เจียงซื่อกรุปไปลงทุนกับคู่แข่งของพวกเขาเมื่อไม่นานมานี้นี่เหมือนกับพวกเขาถูกตบหน้าอย่างแรงฉาดหนึ่งจี้หยางไม่กล้าถามเซ่าเยว่ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพี่เขย แต่เลือกพูดอ้อม ๆ ว่า “พี่ ผมจะไม่ปิดบังแล้วนะ ครั้งนี้ผมกับเซ่าสวินสู้สุดตัว เพราะทีมเทคโนโลยีหลักของบริษัทเราถูกคู่แข่งซื้อตัวไปด้วยราคาสูง บริษัทเสียหายอย่างหนัก จนเกือบจะล้มละลายแล้ว”“เพราะฉะนั้น ห้าร้อยล้านนี้สำคัญกับเรามาก ไม่อย่างนั้นบริษัทก็จะล้มละลายแล้ว”จี้หยางพูดอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้ท้อแท้ กลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ถ้าอธิบายไปแล้วไม่มีประโยชน์ ก็ไม่ต้องอธิบายหรอกเมื่อครู่ที่อารมณ์แปรปรวน ก็เป็นเพราะเรื่องแท้งลูกด้วยหลังเซ่าเยว่สงบลงแล้ว ก็มองเจียงอวี่เสียนอย่างเฉยเมย “เธอจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ”พูดจบก็หันหลังเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงแผ่นหลังที่เย็นชาให้เจียงอวี่เสียนท่าทางแบบนี้ของเธอ เจียงอวี่เสียนไม่ได้คาดคิด สีหน้าหม่นลงเล็กน้อย “เสแสร้ง”เจียงอวี่เสียนมาโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเพื่อน เมื่อเพื่อนถือยาเดินเข้ามา ก็มองตามสายตาเธอไป “ใครเหรอ?”“หมาที่ตระกูลเจียงเลี้ยงไว้” เจียงอวี่เสียนสีหน้าเหยียดหยาม“อ้อ เธอโดนหมากัดเหรอ?”เจียงอวี่เสียนส่งเสียงชิ “หมาที่ไหนกัดเจ้าของกัน? หมาตัวนี้จะเตะยังไงก็เตะไม่ไป ก็แค่รู้สึกน่ารำคาญนิดหน่อยเท่านั้นเอง”เธอได้ยินจากสวี่หลินว่า เพราะเซ่าเยว่อิจฉาที่เซี่ยอวิ๋นซูกลับมาจากต่างประเทศจนเป็นบ้า ภายนอกทำเป็นทะเลาะขอหย่า แต่เบื้องหลังแอบสืบการเคลื่อนไหวของพี่ชายเธอกลยุทธ์แย่ ๆ อย่างแสร้งปล่อยเพื่อจับแบบนี้ก็ยังใช้ได้ กล้าเชิดหน้าใส่เธอก็สามารถเข้าใจได้แต่ไม่ว่าเซ่าเยว่สร้างเรื่องวุ่นวายยังไง ก็ล้วนเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้นหลังเจียงอวี่เสียนโยนเรื่องเธอทิ้งไป

นี่ก็คือความแตกต่างระหว่างการให้ความสำคัญกับไม่ให้ถ้าเป็นเมื่อก่อน เซ่าเยว่คงจะเสียใจอยู่นานแต่ตอนนี้หย่ากันแล้ว เธอก็ปล่อยวางจากเจียงเฉินหาน ไม่คาดหวังอะไรจากเขาอีกแล้วเมื่อไม่สนใจ ก็จะไม่เจ็บปวดมากนักแต่แน่นอนว่าใจในก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ โชคดีที่เซ่าเยว่สามารถจัดการกับอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ได้ในเวลาอันรวดเร็วกว่าเซี่ยหมิงจะได้รู้จักกับเจียงเฉินหานก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เจียงเฉินหานเป็นถึงบุคคลระดับหัวแถวของเมืองไห่ เขาจะไม่ยอมเสียโอกาสกระชับความสัมพันธ์ใด ๆ เด็ดขาด “พี่สาวผมกำลังจะแข่งแล้ว พี่เจียง พี่ดูตรงนี้กับผมเลยก็ได้ ห้องนี้ผมเลือกมาเอง วิวดีที่สุดแล้ว”หลายปีที่ผ่านมา เจียงเฉินหานไม่ได้แสดงออกว่าเขาสนใจการแข่งรถเลย เดิมทีเซ่าเยว่ยังแอบสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี่ตอนนี้ทุกอย่างมีคำอธิบายที่สมเหตุสมผลแล้วเธอคิดไม่ถึงเลยว่า เซี่ยอวิ๋นซูจะเข้าร่วมการแข่งรถด้วยเจียงเฉินหาน “ได้ เดี๋ยวฉันไปโทรศัพท์ก่อนนะ”ห้องที่เฉิงเหยียนโย่วจองไว้อยู่ข้างหน้า เซ่าเยว่ตั้งใจว่าจะรอจนประตูห้องของพวกเขาปิดก่อน แล้วค่อยเดินไปแบบนี้ก็จะไม่ถูกพบเห็นได้ยินความเคลื่อนไหว เจียงเฉินหานกำลังจ

สีหน้าเจียงอวี่เสียนประหนึ่งว่าเธอถามคำถามโง่ ๆ แบบนี้ออกมาได้ยังไง “ไม่ชอบเซี่ยอวิ๋นซู แล้วจะให้ชอบเธอหรือไง?”เซ่าเยว่ “...”“พี่สะใภ้ เธอสามารถบอกฉันได้ไหม ว่าในตัวเธอมีจุดไหนที่คู่ควรให้ฉันชอบได้บ้าง? ถ้าเธอพูดมาได้สักอย่าง ฉันจะกลับลำมาชมเธอทันทีเลย”คำพูดของเธอทำร้ายคนมาก แต่มักจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจนักแม้เจียงอวี่เสียนจะไม่มีความเย็นชาของเจียงเฉินหาน แต่ทุกประโยคของเธอล้วนเป็นกับดัก นี่คือความโหดร้ายอีกแบบหนึ่งสมแล้วที่เป็นพี่น้องกันเซ่าเยว่ไม่มีทางสื่อสารปฏิกิริยาของเซ่าเยว่ไม่เป็นไปตามที่เจียงอวี่เสียนคาดหวังไว้ ดูไม่บันเทิง ไม่ค่อยสนุก จึงพูดต่อว่า “เธอคงอยากรู้ว่าทำไมเซี่ยอวิ๋นซูถึงแข่งรถเป็นสินะ?”เซ่าเยว่กำลังจะบอกว่าเธอไม่อยากรู้เจียงอวี่เสียนก็ถามเองตอบเองแล้วว่า “เซี่ยอวิ๋นซูเคยดูการแข่งของซัน ก็เลยตกหลุมรักการแข่งรถ ตอนนี้ถือว่าเป็นนักแข่งอาชีพได้แล้วนะ แต่แน่นอนว่ายังห่างชั้นกับซันมาก ในโลกนี้ไม่มีใครเทียบซันของฉันได้หรอก”เซ่าเยว่ชะงักไปเล็กน้อย ในดวงตาฉายแววประหลาดออกมาวูบหนึ่ง“เพราะซัน?”เจียงอวี่เสียนไม่ได้สังเกตสีหน้าของเซ

“ถ้าไม่ทำให้เธออารมณ์ดี เดี๋ยวพอไปเจอผู้ทรงอิทธิพลแล้วเธอทำให้เขาโมโหขึ้นมา จับฉันไปขาย ฉันก็รับไม่ไหวหรอกนะ”เซ่าเยว่ “...”เฉิงเหยียนโย่วพูดจบ ก็ติดต่อเพื่อนสมัยประถมของเธอผ่านไปไม่นาน คนก็มาแล้วอวี๋หลินโจวหน้าตาหล่อเหลา สูง 185 เซนติเมตร รูปร่างสง่างาม สวมสูทพอดีตัว ดูมีราศีอย่างมากโดยปกติแล้ว การแต่งตัวอย่างเป็นทางการจะให้ความรู้สึกเย็นชาและห่างเหิน แต่อวี๋หลินโจวกลับให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิ แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนอ่อนโยนมากความประทับใจแรกของเซ่าเยว่ที่มีต่อเขาก็คือ หัวกะทิ“อวี๋หลินโจว ทางนี้!” เฉิงเหยียนโย่วโบกมือเล็กน้อยอวี๋หลินโจวยิ้มแล้วเดินเข้ามา “ไม่ได้เจอกันนานเลย เพื่อนร่วมโต๊ะเก่า”อวี๋หลินโจวหันมาสบตาอย่างสุภาพและเป็นมิตร “สวัสดี เซ่าเยว่ ฉันชื่ออวี๋หลินโจวนะ”ดูเหมือนว่าเฉิงเหยียนโย่วได้แนะนำเธอให้เขารู้จักล่วงหน้าแล้วเซ่าเยว่พยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ถือว่าเป็นการทักทายแล้วเพราะมีเฉิงเหยียนโย่วอยู่ด้วย เซ่าเยว่จึงไม่จำเป็นต้องรับมือกับอวี๋หลินโจว เพียงแค่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ฟังพวกเขาคุยกันถ้าเฉิงเหยียนโย่วไม่พูด เซ่าเยว่คงไม่มีทางดู