Semua Bab รักครั้งใหม่กับพี่ชายอดีตสามี: Bab 21 - Bab 30

100 Bab

บทที่ 21

แม้จะเดาได้ว่าเขาคงไม่น่าเกลียดแน่ แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าเต็ม ๆ ของเขา ก็ยังต้องประหลาดใจว่าทำไมผู้ชายคนหนึ่งถึงได้มีองคาพยพทั้งห้าที่งดงามได้รูปและมีโครงหน้าอันสมบูรณ์แบบอย่างนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เซ่าเยว่ได้เห็นผู้ชายที่หน้าตาดีขนาดนี้ แต่คราวก่อนคนที่ทำให้เธอตกตะลึงได้ขนาดนี้ ก็เป็นชายตรงหน้าคนนี้เหมือนกันเมื่อสามปีก่อน ตอนที่เธอกับเจียงเฉินหานได้จัดงานแต่งเล็ก ๆ ซึ่งเชิญเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น ชายหนุ่มคนนี้ก็เคยมาปรากฏตัวแล้วเขาชื่อว่าซางจื้อเหนียนเป็นพี่ชายที่มีพ่อเดียวกันแต่คนละแม่ของเจียงเฉินหานในครั้งแรกที่ได้เจอ เซ่าเยว่เกร็งไปทั้งตัว นอกจากแรงโจมตีจากรูปลักษณ์แล้ว ส่วนมากเกิดจากออราความแข็งแกร่งซึ่งแผ่ออกมาจากตัวเขา ที่ทำให้คนประหม่าอย่างอดไม่ได้ผ่านไปสามปี ซางจื้อเหนียนมีมาดของความสุขุมและดูมั่นคงยิ่งขึ้นไปอีก และยิ่งคาดเดาได้ยากขึ้นด้วย แม้จะสวมเสื้อกันลมสีดำแบบยาวที่เรียบง่าย แต่งตัวด้วยชุดลำลอง ทว่าเขากลับเปี่ยมล้นไปด้วยสีสันแห่งความลึกลับลมหายใจของเซ่าเยว่หยุดไปในชั่วพริบตาหนึ่งเธอคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะได้มาพบกับซางจื้อเหนียนในสถานการณ์แบบนี้อวี๋หลินโจว “
Baca selengkapnya

บทที่ 22

ข้างกายของเจียงอวี่เสียนมีหลายคนที่ดูแล้วก็รู้ทันทีว่าถ้าไม่ใช่คนมีเงินก็เป็นคนมีอำนาจ แล้วยังมีอีกหลายคนที่เป็นเพื่อนของเจียงเฉินหาน ทุกคนล้วนพากันแห่มาให้กำลังใจไม่เว้นใครไว้สักคน พวกเขาต่างกำลังโห่ร้องให้กำลังใจเซี่ยอวิ๋นซูเซ่าเยว่เพ่งความสนใจไปที่การแข่งขันอีกครั้งเธอไม่ได้ตั้งใจจะมองหาเซี่ยอวิ๋นซูโดยเฉพาะ ทว่าภาพที่กล้องส่องทางไกลล็อกเป้าไว้กลับเป็นเธอเซ่าเยว่หยุดอยู่สองวินาที ในตอนที่กำลังจะเบนสายตาหนี กลับเผลอไปเห็นสร้อยคอดอกลิลลี่ที่เด้งออกมาจากคอเสื้อของเธออย่างไม่ทันตั้งตัววันนั้นที่บังเอิญเจอตอนวันเกิด กู้อี้ชวนเคยบอกว่า เจียงเฉินหานได้สั่งทำสร้อยคอดอกลิลลี่ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกให้กับเซี่ยอวิ๋นซูแค่เพราะว่าเซี่ยอวิ๋นซูชอบดอกลิลลี่ตอนนี้เธอสวมสร้อยคอเส้นนี้ปรากฏตัวอยู่ในสนามแข่งเซ่าเยว่ขบกรามแน่นเล็กน้อยความชอบของเซี่ยอวิ๋นซู เจียงเฉินหานล้วนแอบจดจำอย่างขึ้นใจ จากนั้นก็พยายามหาวิธีทำเซอร์ไพรส์ให้เธอดูมาถึงตรงนี้ เซ่าเยว่ก็หมดอารมณ์ที่จะชมการแข่งขันแล้วแต่มันก็บังเอิญแบบนี้แหละ ทัศนวิสัยการมองเห็นจากห้องวีวีวีไอพีดีเกินไป แม้จะเป็นระเบียงชมการแข่งขันข
Baca selengkapnya

บทที่ 23

ซางจื้อเหนียนไม่ได้จงใจจะพูดจาเย็นชา ทว่าเส้นเสียงของเขาก็เป็นเหมือนกันกับตัวเขา ทั้งเย็นเยียบและไร้ความรู้สึก น้ำเสียงก็ไร้ความอบอุ่นหลังจากเซ่าเยว่ตกตะลึงไปแล้ว ก็เริ่มกังวลใจอย่างอดไม่ได้ขอให้ซางจื้อเหนียนอย่าจำตนได้ก็จะเป็นการดีที่สุด...เฉิงเหยียนโย่วหันขวับมองไปยังเซ่าเยว่ ดวงตาเป็นประกายวาววับ ท่าทางตื่นเต้นอย่างมากเซ่าเยว่ใช้สายตาบอกกับเธอว่าอย่าพูดเพื่อการเชื้อเชิญซางจื้อเหนียนให้มาดูการแข่งขัน เซี่ยหงเซินจึงได้เตรียมตัวหาข้อมูลไว้ล่วงหน้าแล้ว “ไม่เคยได้ยินชื่อนักแข่งรถคนนี้มาก่อนเลย ถ้ามีเวลาผมจะไปหาข้อมูลดูสักหน่อย”ซางจื้อเหนียนเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ต้องหรอกครับ เธอไม่ได้อยู่ในวงการนี้แล้ว”เขาเพียงแค่พูดคุยไปตามประสา ไม่ได้เบี่ยงความสนใจมาทางเซ่าเยว่เซ่าเยว่โล่งอกไปที ซางจื้อเหนียนไม่รู้จักเธอการแข่งขันในวันนี้แบ่งเป็นสองทีมคือทีมเอและทีมบี เนื่องจากซางจื้อเหนียนไม่สนใจ จึงกลับไปก่อนแล้วเมื่อผู้ทรงอิทธิพลกลับไป ไม่นานทุกคนก็แยกย้ายก่อนกลับอวี๋หลินโจวยังไม่ลืมเตือนเฉิงเหยียนโย่วว่า ถึงบ้านแล้วช่วยบอกเขาด้วยขามาเฉิงเหยียนโย่วมีคนขับรถมาส่งเธอ ขากลับจึงขอติด
Baca selengkapnya

บทที่ 24

พิธีกร “ว้าว! นึกไม่ถึงว่าจะเป็นของขวัญวันเกิด! คงไม่ใช่แฟนให้มาหรอกนะครับ!”เซี่ยอวิ๋นซูกล่าวยิ้ม ๆ “ไม่ใช่ค่ะ แต่เป็นคนคนหนึ่งที่สำหรับฉันแล้วสำคัญมาก พิเศษมาก ฉันชอบมาก และชื่นชมมากให้มาน่ะค่ะ มันมีความหมายต่อฉันมากจริง ๆ ฉันหวังว่าต่อไปไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญแบบไหน ฉันก็จะสวมสร้อยเส้นนี้ไว้เสมอค่ะ”พิธีกรขยี้เก่งมาก “ในเมื่อเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ งั้นคนคนนี้ก็ควรได้เห็นกับตาตัวเอง ทุกคนว่าใช่ไหมครับ?”บรรดาผู้ชมทุกคนตะโกนพูดพร้อมกัน “ใช่!”พลันนั้นบรรยากาศในสนามเปี่ยมไปด้วยความครึกครื้นเซี่ยอวิ๋นซูเพียงแค่ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร หากแต่มองไปยังทิศทางหนึ่งโปรดิวเซอร์แพนกล้องไปตามสายตาของเธอ ล็อกเป้าไว้ในบริเวณหนึ่ง แต่ไม่สามารถโฟกัสไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ ทว่าจับภาพของเจียงเฉินหานได้แล้วทั้งรัศมีออราและรูปร่างหน้าตาของเขาล้วนจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ จึงดูโดดเด่นท่ามกลางฝูงชนเป็นอย่างมากแม้ไม่ได้ขยายใบหน้าเขาให้ใหญ่ขึ้น ทว่าเซ่าเยว่ยังคงมองเห็นเขาบนจอตั้งแต่แวบแรกอยู่ดีความอบอุ่นในแววตาของเจียงเฉินหานแทบจะล้นปรี่ออกมาแล้ว ในชั่วขณะนี้ สายตาของเขามีไว้เพื่อผู้หญิงที่อยู่ท่ามกลาง
Baca selengkapnya

บทที่ 25

เซ่าเยว่ “มันจะไม่ให้เกียรติเธอเกินไปหน่อยไหม?”“เธออยากเจอฉัน แน่นอนว่าต้องมีเป้าหมาย ฉะนั้นหยั่งเชิงซึ่งกันและกันก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก”เฉิงเหยียนโย่ว “ด้วยประสบการณ์กินข้าวคุยงานหลายปีของฉัน คนประเภทนี้ที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อแซ่ เว้นแต่ว่าจะเป็นคนมีฝีมือจริง ๆ อย่างเธอแล้ว ก็เป็นคนที่เสแสร้งวางมาดไปอย่างนั้น และฉันว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า”เฉิงเหยียนโย่วมีประสบการณ์ด้านการทำงานมากกว่าเธอ เซ่าเยว่จึงตกปากรับคำค่ำนี้เฉิงเหยียนโย่วยังต้องไปสังสรรค์เชิงธุรกิจอีก เพิ่งได้มาเหยียบบ้านใหม่ของเพื่อน ก็ต้องกลับไปเสียแล้วคนขับรถมารอรับเธอที่หน้าประตูใหญ่ทางเข้าหมู่บ้านเซ่าเยว่ลงมาส่งเธอ ก่อนขึ้นรถ เฉิงเหยียนโย่วพูดว่า “เซ่าเยว่ ตอนนี้เธอมีบ้าน มีรถ มีเงินเก็บ และมีงานที่ชอบแล้วด้วย ชีวิตของเธอเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ฉันรอดูความสำเร็จของเธออยู่นะ ต่อไปเราสองคนจะรวยไปด้วยกัน”คำพูดนี้อาจฟังดูธรรมดาและเรียบง่าย แต่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เซ่าเยว่รู้สึกเหมือนถูกกระแทก เธอเงียบไปสองวินาที แล้วพูดขึ้นอย่างจริงจังเป็นพิเศษ “อืม เราจะรวยไปด้วยกัน”เฉิงเหยียนโย่วสวมกอดเธออย่างอดไม่ได้พอเธอกลั
Baca selengkapnya

บทที่ 26

เป็นดังที่คาดไว้ ตอนบ่าย เซ่าเยว่ได้รับข้อความที่เจียงเฉินหานส่งมา[ห้าโมงครึ่ง รอฉันที่ตีนเขา]บ้านเดิมสร้างอยู่บนเขานอกชานเมืองที่มีอากาศดีมากทุกครั้งที่กลับไป เจียงเฉินหานก็จะให้เธอไปรอตรงตีนเขาก่อน เขาค่อยขับรถผ่านมารับเธอ แล้วขับไปบ้านเดิมพร้อมกันเจียงเฉินหานมารับเธอก่อนจะเป็นการสะดวกที่สุดแต่ต้องขับรถเพิ่มอีกระยะทางหนึ่ง เจียงเฉินหานรู้สึกว่ามันยุ่งยาก ดังนั้นจึงบอกให้เธอไปรอแทนตกบ่าย เวลาห้าโมงยี่สิบนาทีเซ่าเยว่เร่งเดินทางมาถึงยังป้ายรถเมล์ที่ตีนเขาก่อนเวลา 10 นาที วันนี้ฝนพรำตลอดทั้งวัน แล้วยังอยู่ติดเขาด้วย อุณหภูมิจึงต่ำกว่าในเมือง ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว อุณหภูมิก็ยิ่งต่ำลงไปอีก หนำซ้ำยังเริ่มมีลมพัดขึ้นแล้ว10 นาทีผ่านไป มือและเท้าของเซ่าเยว่หนาวเย็นจนแข็งไปหมดทว่ารถของเจียงเฉินหานก็ยังไม่มาช่วยไม่ได้ เซ่าเยว่ทำได้เพียงคอยต่อไปผ่านไปประมาณห้านาที แสงไฟหน้ารถส่องทะลุหมอกบางยามค่ำคืน มาตกกระทบบนตัวเธอบนเขาไม่ได้มีแค่ครอบครัวตระกูลเจียง เซ่าเยว่จึงเพ่งตามองเล็กน้อยเป็นรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งรถที่เจียงเฉินหานขับคือไมบัค ดังนั้นไม่ใช่คันที่จะมารับเธออาจเป็นเพร
Baca selengkapnya

บทที่ 27

น้อยมากที่เจียงเฉินหานจะเป็นฝ่ายเริ่มเปิดบทสนทนาก่อนเกรงว่าคงจะเห็นรถของซางจื้อเหนียนแล้วหากเป็นคู่รักทั่วไป คำถามนี้อาจเข้าใจได้ว่าเกิดจากความหึงหวงเล็กน้อย และจะทำให้ความสัมพันธ์มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นแต่เสียดายที่เซ่าเยว่กับเจียงเฉินหานนั้นไม่ใช่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับซางจื้อเหนียน เช่นนั้นก็ต้องเป็นเพราะตัวซางจื้อเหนียนคนนี้แน่นอนเพราะในสายตาของเจียงเฉินหาน พี่ชายคนนี้ที่โตกว่าเขาแค่เดือนเดียวอย่างซางจื้อเหนียน เป็นดั่งของต้องห้ามสำหรับเขาหลายปีมานี้ซางจื้อเหนียนอยู่เมืองนอก เจียงเฉินหานจึงไม่เคยมีโอกาสพูดถึงเขาให้เธอฟังมาก่อน หากแต่ในงานเลี้ยงครอบครัว เซ่าเยว่ได้รับทราบถึงสาเหตุบางอย่างจากปากของคุณพ่อเจียงพ่อของพวกเขามักจะเอาพวกเขาสองคนมาเปรียบเทียบกันเสมอคุณพ่อเจียงมักจะพูดเป็นนัย ๆ ว่าชอบลูกชายคนโตมากกว่าสามปีก่อนเจียงเฉินหานขึ้นนั่งตำแหน่งประธานเจียงซื่อกรุป ทำผลงานที่ไม่เลวออกมาได้ ทว่าคุณพ่อเจียงยังคงรู้สึกว่าเขาสู้ซางจื้อเหนียนไม่ได้ด้วยสถานะในตอนนี้ของเจียงเฉินหาน คุณพ่อเจียงก็ยังไม่ไว้หน้า เช่นนั้นตอนเด็ก เจียงเฉินหานคงได้ยินคำพูดในทำนองที่ว่าตัวเอง
Baca selengkapnya

บทที่ 28

วันนี้เขาก็สวมมาแล้วแต่เป็นแหวนคู่รักที่ใส่คู่กับเซี่ยอวิ๋นซูเป็นแหวนสำหรับผู้ชาย โดยรวมดูแล้วก็แทบจะเหมือนกันทีเดียว ถ้าไม่สังเกตโดยละเอียดก็จะไม่พบความแตกต่าง จึงไม่มีใครรู้ว่าแหวนที่เจียงเฉินหานสวมอยู่นั้น ใช่แหวนแต่งงานหรือไม่กันแน่เซ่าเยว่ไม่สนใจใคร่รู้เรื่องแหวนมากนัก จึงมุ่งหน้าเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ผ่านชั้นวางของสไตล์จีนโบราณไป ซางจื้อเหนียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เนื้อแข็ง ดื่มด่ำกับน้ำชาที่ชงโดยคนรับใช้เงียบ ๆทั้งสองคนเข้ามา เขาก็ไม่เงยหน้าขึ้นรอบกายเขาราวกับมีม่านกั้นเขตแดนตั้งอยู่ ซึ่งกันทุกคนไว้ด้านนอกทั้งหมดฐานะและตำแหน่งของเจียงเฉินหานกับเจียงอวี่เสียน เป็นตัวกำหนดว่าพวกเขาจะไม่เห็นคนมากมายอยู่ในสายตา แต่เซ่าเยว่รู้สึกว่า ซางจื้อเหนียนเย็นชาและไม่เห็นใครอยู่ในสายตายิ่งกว่าสองพี่น้องคู่นี้เสียอีกทว่าคนตระกูลเจียงเป็นเช่นไร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้วเซ่าเยว่แค่ทำเรื่องของตัวเองให้ดีก็พอเธอเดินเข้าห้องโถงใหญ่เงียบ ๆ เมื่อหาตำแหน่งที่อยู่ไกลจากซางจื้อเหนียนที่สุดได้แล้วก็นั่งลงส่วนเจียงเฉินหานกลับเลือกที่นั่งข้าง ๆ เธอในเวลาปกติเขาจะอยู่ห่างจากเธอไกลมาก
Baca selengkapnya

บทที่ 29

วันนี้คุณพ่อเจียงและคุณแม่เจียงไม่ได้มาซางจื้อเหนียนอยู่ด้วย หากพวกเขามา คาดว่าคงต้องเป็นเรื่องจนไม่มีความสุขแน่ การหลีกเลี่ยงจึงเป็นเรื่องที่ดีดังนั้นที่นั่งตรงกลางระหว่างเธอกับซางจื้อเหนียน ก็เว้นไว้ให้คุณปู่นั่นเองเซ่าเยว่เหลือบมองเจียงอวี่เสียนแวบหนึ่ง คุณหนูผู้ร่ำรวยคนนี้กำลังจ้องตนตาเขม็งอย่างเกลียดชังเซ่าเยว่รู้สึกน่าขำอย่างบอกไม่ถูก ร่วมรับประทานมื้อค่ำกับคนที่ตัวเองกลัวอย่างจำใจ นี่คงเป็นหนึ่งในความลำบากที่เจียงอวี่เสียนไม่ค่อยได้ประสบพบเจอแหละมั้ง เจียงอวี่เสียนช่วงวาสนาดีจริง ๆนึกมาถึงตรงนี้ คุณปู่เจียงก็มาแล้วเหล่ารุ่นหลานพากันลุกขึ้นยืนปีนี้เจียงเจิ้นอายุ 73 ปี องคาพยพทั้งห้าอันแข็งแกร่งยังมีเค้าลางของความหล่อเหลาในวัยหนุ่มให้ได้เห็น ร่างที่สูง 180 เซนติเมตรไม่ยักจะเห็นว่าหลังค่อม สันหลังยังคงเหยียดตรงเจียงเจิ้นสมัยหนุ่ม ๆ ทั้งแข็งแกร่งและกล้าหาญ ตอนนี้แก่ชราลงแล้ว จึงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมากคนรุ่นหลานจึงไม่กลัวเขาเท่ารุ่นพ่อเจียงอวี่เสียนเห็นคุณปู่ ในที่สุดก็โล่งใจได้สักที “คุณปู่ หนูได้ยินพ่อบ้านบอกว่าระยะนี้คุณปู่สุขภาพไม่ค่อยดี ทำไมหายดีแล้วถึงค่
Baca selengkapnya

บทที่ 30

ซางจื้อเหนียนก็ช่างเขาไว้ก่อน เพราะเธอไม่กล้าไปยั่วโมโหเขาแต่ในสายตาเธอ เซ่าเยว่ก็เป็นแค่แม่บ้านของพี่ชายเธอ เมื่อก่อนให้ทำอะไรก็ยอมทุกอย่าง สามารถทำให้เธอพึงพอใจได้ ทว่าตอนนี้กลับไม่เชื่อฟังเสียแล้วน่าโมโหชะมัด!เจียงเจิ้นสั่งให้พ่อบ้านรินเหล้าให้พวกเขาเจียงเฉินหาน “คุณปู่ พักนี้กระเพาะผมไม่ดี ดื่มเหล้าไม่ได้ครับ”เจียงเจิ้นไม่บังคับ เพียงหันไปถามซางจื้อเหนียนซางจื้อเหนียนไม่ได้ปฏิเสธ“ไม่เจอกันสามปีแล้วนะ” เจียงเจิ้นมองซางจื้อเหนียน ความรักและเมตตาในแววตานั้นยากจะปกปิด ถามไถ่เขาว่าหลายปีมานี้ทำอะไรอยู่ที่ข้างนอกบ้างซางจื้อเหนียนพูดถึงงานที่ต่างประเทศให้ฟังอย่างเรียบง่าย แต่ก็ไม่ขาดในส่วนที่เป็นรายละเอียดเจียงเจิ้นฟังจนพยักหน้าหงึกหงัก ใบหน้าที่ไม่ค่อยยิ้มแย้มก็มีรอยยิ้มเพิ่มขึ้นหลายส่วน ดูออกเลยว่าคุณปู่มีความสุขจริง ๆ ที่ซางจื้อเหนียนกลับประเทศมาเยี่ยมท่านเพิ่งจะหายเป็นหวัด ก็ดื่มอย่างเต็มที่เจียงเจิ้นดื่มกี่แก้ว ซางจื้อเหนียนก็ดื่มเท่ากันทุกครั้งที่คนทั้งสองชนแก้ว แก้วของซางจื้อเหนียนจะอยู่ต่ำกว่าของคุณปู่เสมอปู่หลานคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ดีจริง ๆเมื่อก่อนต
Baca selengkapnya
Sebelumnya
123456
...
10
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status