All Chapters of ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว: Chapter 131 - Chapter 140

264 Chapters

บทที่ 131

แม้จะไม่เต็มใจเป็นอย่างยิ่ง ทว่าทุกคนก็ยังคงรีบติดตามหวังเป่าไปยังตำหนักหย่างซิน ภายในตำหนักหย่างซิน ฮ่องเต้เฉียนสีหน้าเต็มด้วยโทสะมีเซียวซูเฟยนั่งอยู่เคียงกายดูจากท่าที เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้าพวกเขาจะมาถึง เซียวซูเฟยก็ได้ใส่ไฟให้อีกระลอกหนึ่งแล้ว“ฝ่าบาท”หวงจางถอนหายใจ ก้าวขึ้นหน้านำผู้คนทั้งหลายทำความเคารพ ฮ่องเต้เฉียนไม่ได้ตอบคำ เพียงจ้องมองหวงจางอยู่ครู่หนึ่งบรรยากาศในที่แห่งนี้ตกอยู่ในความเงียบงันไปโดยพลัน หัวใจของตู้หมิงเซวียนเต้นโครมครามคลั่ง เขาเกรงว่าหวงจางจะปัดความรับผิดชอบทิ้ง ถึงตอนนั้นตนกับสวีรั่วไห่คงล้วนไม่อาจหลบเลี่ยงผ่านไปเนิ่นนานกว่าที่สุดแล้วฮ่องเต้เฉียนจะมีสีหน้าเรียบนิ่ง สิ้นเสียงฝุบดัง ก็ทำเอาเอกสารบนโต๊ะกระจัดกระจายกันอยู่บนพื้น “หวงจาง นี่น่ะหรือผลการสืบสวนของเจ้า? เขตพื้นที่ระบาดโรคถึงสามพันหมู่ ไร้ข้อผิดพลาดแน่หรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”หวงจางไม่มีลังเล เพียงพยักหน้ารับ“เจ้าสืบได้ความตามนี้จริง หรือกำลังปกป้องฉินอ๋องอยู่กันแน่!?”เซียวซูเฟยแค่นเสียงเย็นชาขึ้นระลอกหนึ่ง ก่อนจะเริ่มใส่ไฟเติมเชื้อเพลิงอยู่ข้างๆ ตู้หมิงเซวียนอกสั่นขวัญหาย
Read more

บทที่ 132

หรือหวงจางผู้ที่เที่ยงธรรมไม่เอนเอียงให้แก่ผู้ใดมาโดยตลอด จะกำลังปกป้องฉินหมิงอยู่?“ท่านทั้งหลาย ฉินอ๋องล้อมรั้วที่ดินไว้ถึงสามพันหมู่ ข้าหลวงที่รุดไปตรวจสอบกลับไม่พบสิ่งใดผิดปกติ เจ้าว่าเป็นไปได้หรือ?”หลังปล่อยให้เรื่องราวคุกรุ่น ฮ่องเต้เฉียนก็เอ่ยปากถามเหล่าขุนนาง“ทรงกล่าวได้ถูกต้อง! ฉินอ๋องอาจใช้กลวิธีลับบางอย่างเพื่อปกปิดความจริงก็เป็นได้!”“ใต้เท้าหวงก็อาจถูกตบตาเข้าให้แล้ว”นับแต่ฉินหมิงจากไป ในราชสำนักก็แทรกซึมไปด้วยขุนนางขั้วอำนาจของเซียวซูเฟยเมื่อฮ่องเต้เฉียนเปิดประเด็น ก็ย่อมมีผู้เห็นพ้องด้วยเป็นจำนวนมาก “ฝ่าบาท... หรือท่านคิดว่าโรคระบาดนี้ไม่อาจเป็นเรื่องจริงไปได้?”เฉินซื่อเม่าก้าวขึ้นหน้า เขาเป็นคนแรกที่ค้านต่อคำกล่าวเหล่านี้“จะเป็นจริงไปได้อย่างไรเล่า? พื้นที่ตั้งสามพันหมู่ นับวันเขามีแต่ยิ่งเหิมเกริมขึ้นทุกทีแล้ว!”ฮ่องเต้เฉียนไม่แม้แต่จะเก็บคำพูดของเฉินซื่อเม่าไปใส่ใจ เมื่อเห็นเหล่าขุนนางในท้องพระโรงเริ่มออกความเห็นไม่หยุดหย่อน ท้ายสุดเขาจึงเบนสายตาไปยังผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์อย่างจิ้นอ๋อง“ฉินเยว่ เจ้าเห็นว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร?”เห็นได้ชัดว
Read more

บทที่ 133

ไม่ช้า ข่าวเรื่องการลดอำนาจอ๋องอย่างเจาะจงเป้าหมายก็แพร่สะพัดออกจากเมืองหลวงเฉินซื่อเม่าก็ไม่ได้ปิดบัง ส่งข่าวไปยังฟากฉินหมิงโดยตรงครึ่งเดือนให้หลัง ในที่สุดการก่อสร้างและการผลิตรอบแรกของฉินหมิงก็สำเร็จลุล่วงทว่าเรื่องยุ่งยากต่างทยอยกันเข้ามาไม่ขาด“ทางราชสำนักจะส่งคนมารับไม้ต่อคุมสามหน่วยพิทักษ์”วันนั้นฉินหมิงนำข่าววางไว้ตรงหน้าของเฉาชวนและหลิวฉ่วงทั้งสองกวาดตามอง ก่อนจะเพียงร้องอ่อออกมาคำหนึ่ง ไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกเสียด้วยซ้ำ“พวกเจ้าไม่กังวลบ้างหรือ?”ฉินหมิงคิ้วขมวดปราดมองทั้งสองด้วยความเคลือบแคลง หลิวฉ่วงตบหน้าอกป้าบหนึ่งแล้วจึงกล่าว“กลัวไปไย มีพวกเราอยู่ พรมแดนทางใต้ยังต้องกลัวป้องกันไม่อยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ท่านอ๋อง อาวุธยุทโธปกรณ์ของพวกเราจัดหาใกล้ครบครันแล้ว ส่วนสามหน่วยพิทักษ์ก็คนหลวงกินเสบียงหลวงมาตลอด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเราสักเท่าใด”เฉาชวนก็อธิบายเสริมต่อเช่นกันราชสำนักเข้าใจผิดจุดไปจริงๆ ทว่าก็จริงอยู่ที่พวกเขาทำได้เพียงลงมือกับสามหน่วยพิทักษ์ เพราะนอกจากสามหน่วยพิทักษ์แล้ว ก็เหลือเพียงค่ายทหารอู่เวยค่ายทหารอู่เวยดำรงอยู่ด้วยตัวเองมาตลอด ปัจจ
Read more

บทที่ 134

สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็ยังเกิดขึ้นจนได้หากจะได้รายชื่อผู้ค้าทั้งหมดที่แอบร่วมมือกับเขาโดยไม่ผ่านหอการค้าหลิ่งหนานได้ภายในเวลาอันสั้นแล้วเล่าก็มีเพียงจากร้านขายผ้าของกวนเยว่เท่านั้น เพราะในร้านขายผ้ามีสมุดบัญชีของฉินหมิงวางไว้มากมาย“ย่ามันเอ๋ย กลัวสิ่งใดได้สิ่งนั้น”“ไปเรียกฉางไป๋ซานมา!”ฉินหมิงสบถเสียงต่ำ ก่อนหันหลังเดินก้าวใหญ่มุ่งหน้าไปยังอีกฟากหนึ่งของถนนหลายวันมานี้กวนเยว่ยังคงเปิดร้านอย่างสงบสุข ไม่ได้พบปัญหาแต่อย่างใดเมื่อฉินหมิงมาถึง นางยังคงนั่งอยู่ในร้าน สวมชุดที่ตัดเย็บจากผ้าทอของร้านนี่เป็นวิธีการหนึ่งที่นางคิดขึ้นมาได้ภายใต้การชี้แนะของฉินหมิงอย่างไรนางก็หน้าตาสะสวย อีกทั้งรูปร่างดี จึงไม่ยากเลยที่จะนำชุดจากร้านขายผ้ามาใส่ให้ดูงามล้ำได้ ปกติแล้วนางก็มักจะแต่งกายงดงาม เป็นเสมือนไซซีแห่งร้านขายผ้าช่วยเป็นหน้าเป็นตาโฆษณาได้อย่างง่ายดาย“ท่านมาแล้วหรือ”เห็นฉินหมิงเดินเข้ามา กวนเยว่ก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างนิ่งๆ แกมแฝงด้วยความฉงนสงสัยโดยปกติช่วงเวลานี้ ฉินหมิงมักจะอยู่ในค่ายทหาร“เรียกคนมารวมกันให้หมด วันนี้หากไม่มีข้าอนุญาต ห้ามผู้ใดก้าวออกจากร้านแม้แต่ก้า
Read more

บทที่ 135

โจวฉือกุมใบหน้าพลางถอยหลังไปหลายก้าว ชั่วขณะหนึ่งดวงตาก็พร่าเห็นดาวพราวระยับอันที่จริงที่ฉินหมิงร้องขอพบหัวหน้าหอการค้า เขาได้รายงานขึ้นไปนานแล้วทว่าหัวหน้าหอการค้าผู้นั้นประเดี๋ยวมาประเดี๋ยวหาย วันทั้งวันตระเวนไปทั่วหามีใครรู้แน่ชัดว่าจะมาหรือไม่จวบจนบัดนี้ กระทั่งโจวฉือก็ยังไม่ได้รับแม้แต่จดหมายตอบกลับมีก็แต่เพียงผู้จัดการร้านค้าไม่กี่คนของสมาคม ที่หลังเจรจาการค้ากันแล้วจึงตัดสินใจระงับการจัดส่งให้กับฉินหมิงด้านหัวหน้าหอการค้ากลับส่งข่าวคราวมาว่า ได้ไปข่มขู่เหล่าผู้ค้าท้องที่ซึ่งลอบทำการค้าขายกับฉินหมิงทำให้ร้านขายผ้าของฉินหมิงถึงกับเป็นอัมพาตตอนนี้กล่าวได้ว่าพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แล้วโจวฉือครุ่นคิด ท้ายที่สุดก็ยังไม่อยากล่วงเกินฉินหมิงให้โกรธเคือง จึงกัดฟันกล่าวเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง“ท่านอ๋อง หากท่านส่งมอบเครื่องทอผ้ามาแต่เนิ่น ๆ ดีกว่า ทุกฝ่ายทำเงินร่วมกันได้ถึงจะเป็นหนทางที่ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ”“มิเช่นนั้นสินค้าบนตลาดของพวกเรา ก็จะประสบชะตาขายไม่ออกเช่นเดียวกับท่าน”ตามเหตุผลแล้ว วิธีนี้นับว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดน่าเสียดายก็แต่ผู้ที่เขาพบเคือฉินหมิง“พว
Read more

บทที่ 136

เพิ่งเข้ามาในตรอก นางก็ถูกผลักกระแทกกำแพงอย่างรุนแรง“รู้หรือไม่ว่าทำให้ข้าผู้เป็นอ๋องโกรธจะต้องแลกด้วยสิ่งใด?”ถูกฉินหมิงหยาบกระด้างใส่เช่นนี้ ว่านซูก็หวาดหวั่นขึ้นมา จึงรีบเอ่ย“หม่อมฉันเป็นผู้รับผิดชอบของโจวฉือ”“หากมีเรื่องใดล้วนเอ่ยกับหม่อมฉันได้ หม่อมฉันสามารถตัดสินใจแทนหอการค้าได้บางส่วนเพคะ”ว่าพลาง เมื่อเห็นว่าฉินหมิงไม่ตอบสนองใดๆ นางจึงเบียดตัวเข้าใกล้ฉินหมิง หมายแสดงความเป็นมิตรหากเป็นสามัญคนธรรมดาที่ถูกนางยั่วเย้า อย่าว่าแต่จะจับนางเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเช่นฉินหมิงเลย เกรงว่าแม้แต่ใจก็ยังอาจละลายไปด้วยน่าเสียดายก็แต่คนที่นางพบคือฉินหมิงฉินหมิงยื่นหัวแม่มือออกไป หยิกไปยังต้นขานางอย่างแรงโดยไม่คิดถนอม ก่อนกล่าวเสียงกร้าว “เจ้าถือสิทธิ์ในฐานะอะไรจึงจะมาต่อรองกับข้า?”“หม่อมฉัน...คือหัวหน้าหอการค้าคนปัจจุบันเพคะ”ว่านซูเอ่ยขึ้นอย่างหวาดๆทว่าคำพูดนี้กลับเป็นสิ่งที่ฉินหมิงคาดไม่ถึง“หืม?”คิ้วฉินหมิงเลิกขึ้นน้อยๆ ไม่นานก็สงบจิตใจลงได้ หัวหน้าหอการค้าแล้วอย่างไร ทำผิดก็ต้องได้รับโทษอยู่วันยังค่ำคิดได้เช่นนั้น เขาจึงยื่นมือไปหยิกเอวนุ่มนิ่มของนางคราหนึ่ง“ท่าน.
Read more

บทที่ 137

“ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่าหอการค้าหลิ่งหนานจะยอมช่วยท่าน?”“หากไม่ช่วย คืนนี้ข้าก็จะกักตัวเจ้าไว้ ใช้ชดเชยความเสียหายของข้า”“ท่านทำเช่นนี้ก็เท่ากับไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือทางการค้า เช่นนั้นพวกเราจะร่วมมือกันได้อย่างไร”“ข้าเคยพูดถึงความน่าเชื่อถือทางการค้าสี่คำนี้กับเจ้าตอนไหนหรือ?”“ค่ำนี้ชดเชยให้ข้า หรือจะช่วยกันทำการค้าดีเล่า เลือกเสียสิ”เผชิญหน้ากับคนที่ไร้หลักการเช่นเขาแล้วว่านซูกลับเผยยิ้มหวานละไมขึ้นมา “ท่านอ๋องมีภัย หอการค้าหลิ่งหนานของพวกเราย่อมต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วย ทว่าทรัพยากรในยามศึกท่านก็ต้องซื้อด้วยเงิน อย่างไรเสียเสบียงอาหารและแร่ก็หาใช่ของที่ลอยมาตามลม”ฉินหมิงพยักหน้าอย่างพึงใจ“ไม่เลว พวกเจ้าทำการค้านับว่ารู้จักพลิกแพลงอยู่ไม่น้อย”ว่าจบ เขาก็นำสิ่งที่ทำสรุปรวบรวมด้วยตนเองขึ้นมาวางบนโต๊ะที่จริงเพียงแค่เครื่องปรุงรสเหล่านี้ที่เขารวบรวมไว้ ก็คุ้มค่ามากพอแล้ว ทว่าหอการค้าหลิ่งหนานตะกละตะกลามไปมากเสนอเงื่อนไขให้ตั้งมากมาย ฝ่ายนั้นกลับไม่ค่อยจะพอใจสักอย่างว่านซูผู้นี้ก็หลักแหลมเป็นยิ่งถึงขั้นหวังให้ตนได้ทำศึก เพื่อให้หอการค้าหลิ่งหนานได้กอบโกยลาภจา
Read more

บทที่ 138

ฉินหมิงปล่อยตัวว่านซู อีกฝ่ายกอดอกตนไว้มั่น มองเขาด้วยสีหน้าเต็มด้วยความระแวดระวัง“ไปได้แล้ว” ฉินหมิงเก็บของให้เรียบร้อย โดยเฉพาะรายการที่เขาจดสรุปเอาไว้เอง แล้วหันหลังเดินจากมา ในรายการนั้นจดเต็มไปด้วยสิ่งของมากมายที่ยังไม่ปรากฏให้เห็นในยุคนี้ ในฐานะคนยุคปัจจุบันประสบการณ์กว้างขวางที่มีวุฒิปริญญาโท เขายังมีสิ่งมากมายที่ล้วนอยากจะทดลองน่าเสียดายก็ตรงที่ยิ่งใช้เวลาอยู่ในยุคนี้นานขึ้นเท่าใด ฉินหมิงก็ยิ่งสัมผัสได้ชัดว่าบางครั้งเทคโนโลยีก็หาใช่อุปสรรคทว่าอุปสรรคที่แท้จริงก็คือผู้คนว่านซูจัดเสื้อผ้าตนให้เรียบร้อย เตรียมเร่งฝีเท้าเดินจากไปพลันจู่ๆ ฉินหมิงก็หันกลับมา ทำเอานางสะดุ้งตื่นไปที“ท่าน...ท่านคิดจะทำสิ่งใดอีก!”ว่านซูถอยหลังไปหลายก้าวเห็นสีหน้าหวาดหวั่นบนใบหน้านางแล้ว ฉินหมิงก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ ทว่าไม่ได้ก้าวเข้าใกล้อีก ว่านซูหันกายกลับ ทิ้งสายตาซับซ้อนไว้เพียงปราดหนึ่ง ก่อนจะวิ่งออกจากตรอกในสภาพเสื้อผ้ากระกระเซิงยับ......วันถัดมา ณ เมืองเฉียนถังบนถนนเส้นที่คึกคักที่สุด มีร้านขายผ้าแห่งหนึ่งซึ่งปิดประตูงับหน้าต่างเงียบสนิทมาหลายวันแล้วซึ่งก็คือหนึ่งใน
Read more

บทที่ 139

เมื่อคืนนี้ หลังฉางไป๋ซานแจ้งข่าวของฉินหมิงแล้ว ฟางชิงหย่วนก็เร่งเดินทางทั้งวันคืนกลับไปยังเมืองเฉียนถังบัดนี้สองดวงตาเขาเต็มด้วยเส้นเลือดฝอยเมื่อได้ยินถ้อยคำของวังโส่วเหยียน เขาก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาที่ล่องลอยในที่สุดก็กลับมาจับศูนย์รวมได้“ใต้เท้าวังมีธุระใดกับข้าหรือ?”“ไม่มีธุระใดหรอก ข้าเพียงได้ยินว่าพักนี้พวกเจ้าปิดร้านไป เข้าวันที่สิบได้แล้วกระมัง? เกิดเรื่องใดขึ้นงั้นหรือ? จะเล่าให้ข้าฟังก็ได้ หากพอช่วยได้ข้าย่อมต้องช่วย”คำกล่าวปั้นแต่งนี้ของวังโส่วเหยียน ไม่ได้แทรกซึมเข้าสู่ใจของฟางชิงหย่วนแม้แต่น้อยเขายกมือขึ้นโบกปัดน้อยๆ“ไม่รบกวนท่านจะดีกว่า”ว่าจบก็หันกายเตรียมจะกลับไปยังร้านขายผ้าวันนี้เขายุ่งเหลือเกิน ไม่มีเวลาว่างมาเสวนากับวังโส่วเหยียนที่นี่“จะเป็นการรบกวนไปได้อย่างไรเล่า?” เมื่อเห็นเขาปลีกตัว คนเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างวังโส่วเหยียนก็รีบเข้าขวาง“น้องฟาง พักนี้กิจการของพวกเจ้าไปได้ไม่ค่อยสวยนักหรือ?”“หาได้เป็นเช่นนั้น”ฟางชิงหย่วนขมวดคิ้ว เดินอ้อมพวกเขาไปด้วยความระอาใจ ใช้กุญแจที่พกติดตัวไว้เปิดประตูร้านขายผ้าออก“เช่นนั้นไยจึงปิดร้านถึงสิบวันเล่า? ร้าน
Read more

บทที่ 140

ก็เพื่อเป็นการแสดงอำนาจกดข่มฉินหมิงพลางสบโอกาสนี้ยืนยันอำนาจทางการทหารและบารมีของตนต่อทั่วทั้งหลิ่งหนานไม่ว่าจะเมื่อใด สำหรับเหล่าทหารแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือทรัพยากรและเบี้ยทหารเซียวเทียนเช่อได้รับพระบรมราชานุญาตกำกับควบคุมทรัพยากรหลิ่งหนานด้วยตนเอง และเลี้ยงดูสามหน่วยพิทักษ์ชายแดนนั่นก็เป็นการลดอำนาจอ๋องโดยอ้อมแล้วฉินอ๋องเพียงแย้มยิ้มออกมาจางๆ ไม่ได้พูดเอ่ยสิ่งใดหยางเหลียนรองขุนศึกที่อยู่เบื้องหลังของเซียวเทียนเช่อ ก้าวขึ้นหน้าอธิบาย“ท่านอ๋อง ทรงอย่าขุ่นข้องหมองใจไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ยามนี้พวกเรากำลังต้านการรุกรานจากหนานหมาน อีกทั้งราชสำนักก็จัดสรรทรัพยากรและเบี้ยทหารให้เพียงสามหน่วยพิทักษ์ หาได้ให้แก่ท่านไม่”หากเซียวเทียนเช่อโปร่งใสตรงไปตรงมา เจ้าหยางเหลียนคนนี้ก็เสมือนมีดโกนอาบน้ำผึ้ง ถ้อยคำเมื่อครู่ของเขาเป็นการตอกย้ำสิทธิ์ถือครองทรัพยากรซ้ำๆ ทั้งสบโอกาสบอกแก่ฉินหมิง ว่าราชสำนักหาได้สนับสนุนเขาภายภาคหน้าหากหลิ่งหนานต้องการความสงบ ก็ย่อมต้องฟังความเห็นของเซียวเทียนเช่อสถานการณ์เช่นนี้ ที่จริงฉินหมิงได้คาดการณ์ไว้แต่ต้นแล้วเมื่อตนถูกลดสถานะแล้ว ต่อไปก็เป็นการล
Read more
PREV
1
...
1213141516
...
27
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status