All Chapters of ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว: Chapter 141 - Chapter 150

264 Chapters

บทที่ 141  

เซียวเทียนเช่อเห็นพวกเขากำลังทะเลาะกัน ก็ไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด กลับยกมือกอดอก ปล่อยให้สถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไป พูดได้ว่าเดิมทีวันนี้พวกเขาตั้งใจจะมาอวดเบ่งอำนาจ ครั้นได้เห็นถึงปัญหาความขาดแคลนเสบียงของค่ายทหารอู่เวยก็ยิ่งเยาะเย้ยซ้ำเติมเข้าไปใหญ่ แต่สิ่งที่พวกเขาคิดอาจจะคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อย หลิวฉ่วงแสยะยิ้ม “ข้าอดยากอย่างนั้นหรือ?” “ข้ากินดีกว่าเจ้าตั้งเยอะ ทั้งยังมีสตรีรูปงามคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายทุกวัน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยข้า?” “ยังจะมาปากแข็งอีก” ใบหน้าของหยางเหลียนเต็มไปด้วยสีหน้าดูถูก “ตอนนี้ใคร ๆ ในราชสำนักต่างก็รู้กันทั่วว่าค่ายทหารอู่เวยของพวกเจ้าได้ถูกส่งตัวไปยังหลิ่งหนานพร้อมกับอ๋องฉินแล้ว” “หรือว่าจริง ๆ แล้วอ๋องฉินทรงเลี้ยงดูทหารไว้เอง!” พวกเขาไม่เชื่อ ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่เดือน ฉินหมิงสามารถดูแลค่าทหารอู่เวยได้เป็นอย่างดี แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ ชาวหนานหมานกำลังรุกราน สงครามใกล้จะปะทุเต็มที หากไม่คาดหวังให้สามหน่วยพิทักษ์รักษาเขตแดน อย่าว่าแต่พื้นที่สามพันหมู่ในมือของอ๋องฉินเลย แม้แต่เมืองอื่น ๆ ในหลิ่งหนานก็อ
Read more

บทที่ 142  

ทั้งสองคนกลายเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันอีกครั้ง สำหรับเรื่องนี้ฉินหมิงทำได้แค่ทอดถอนใจ สตรีคือสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก นับตั้งแต่ที่ว่านชูกลับมา ดูเหมือนนางจะตั้งใจยกเสบียงทั้งหมดให้กวนเยว่ เพื่อแสดงความจริงใจ เพราะเหตุนี้กวนเยว่จึงมาส่งของทุกวัน “เจ้า...ไปเอาเสบียงมากมายเหล่านี้มาจากไหน?” สีหน้าของเซียวเทียนเช่อดูแข็งทื่อไปเล็กน้อย แม้แต่หยางเหลียนที่เยาะเย้ยฉินหมิงด้วยกันเมื่อครู่ก็ยังมีสีหน้าเหมือนกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น เป็นไปได้อย่างไร! “ไม่จำเป็นต้องบอกท่าน ท่านแม่ทัพเซียว” ฉินหมิงกล่าวเสียงราบเรียบ หลิวฉ่วงทนไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งเข้าไปผลักกลุ่มคนเหล่านั้น “ไม่ได้ยินที่เสี่ยวเยว่พูดหรือ?” “ไสหัวออกไป!” เซียวเทียนเช่อมองฉินหมิงด้วยความสงสัยอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดก็กล่าวว่า “ฝ่าบาททรงเลี้ยงดูค่ายทหารได้สมบูรณ์เช่นนี้ ช่างน่าชื่นชมยิ่งนัก ไม่รู้ว่าสงครามครั้งนี้ ฝ่าบาททรงต้องการปกป้องเขตแดนไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ต่อให้แผนการใดแผนการหนึ่งล้มเหลว เซียวเทียนเช่อก็ยังมีทางออกเสมอ พูดถึงตรงนี้ ความกดดันทั้งหมดทั้งมวลก็ล้วนมาจากการรุกรานของหนานหมาน เขาวางแผ
Read more

บทที่ 143  

ฉินหมิงนึกถึงร่างเงาอันเย้ายวนและอ่อนช้อยของว่านชูขึ้นมา รวมถึงความรู้สึกที่อยากตีก้นของนางก่อนหน้านั้น... แม้ว่าใบหน้าจะแดงก่ำ แต่เขาก็ยังยืนยันว่า “ไม่งดงาม” จะเอาใจสตรี ต้องโน้มน้าวเป็น บางครั้งการพูดความจริงก็ไม่ได้ทำให้พวกนางยอมแลกความจริงใจกับเจ้า ตรงกันข้ามอาจจะทำให้พวกนางหาโอกาสก่อเรื่อง เพิ่มความอึดอัดใจมากเดิม “จริงหรือ?” “จริงแท้แน่นอน!” “เหอะ หม่อมฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะสู่ขอนางมาเป็นพระชายารองของท่านดีหรือไม่ เช่นนี้พวกเราสองคนก็จะได้เจอกันทุกวัน คิดไม่ถึงว่าท่านจะหัวสูงถึงเพียงนี้” กวนเยว่ทอดถอนใจเบา ๆ ฉินหมิงผงะทันที ก่อนจะรีบกล่าวว่า “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ?” “หม่อมฉันพูดว่าพระชายารอง...” “ไม่ใช่ประโยคนี้!” “หม่อมฉันถามท่านว่านางดงามหรือไม่” “งดงาม!” ฉินหมิงรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ทันที นัยน์ตาเปล่งประกายความคาดหวังระยิบระยับ แต่วินาทีต่อจากนั้น มือข้างหนึ่งกลับหยิกแขนของเขาอย่างรุนแรง “รู้อยู่แล้วว่าท่านจะต้องโลภตัณหา!” “ข้าเปล่า เจ้าพูดเองว่าจะสู่ขอนางมาเป็นพระชายารอง ” “หม่อมฉันแค่ลองหยั่งเชิงท่านไม่ได้หรือ?” กวนเยว่โกรธเป็นฟื
Read more

บทที่ 144  

หลิวฉ่วงเงียบสงัดไป มองเฉาชวนสลับกับมองทางแผนที่ เขานึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง หลังจากนั้นก็แสยะยิ้มเย้ยหยัน และกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “สามพันคน ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้เสด็จมาก็สามพันคน!” “ดี เจ้าไปจัดการกองทัพเถอะ เฉาชวนอยู่ต่อ” “อื้อ” หลิวฉ่วงพยักหน้าอย่างหนักแน่น แล้วหมุนตัวเดินจากไป ภายในค่ายเหลือเพียงฉินหมิงและเฉาชวนสองคน เฉาชวนจึงโพล่งออกไปว่า “กระหม่อมไม่จำเป็นต้องใช้คนมากมายขนาดนั้น สามพันก็เพียงพอแล้ว กองทัพที่มีกำลังคนนับหมื่นคนของเรา ท่านเฉลี่ยแบ่งให้หลิวฉ่วงสองพันคนได้หรือไม่?” เฉาชวนค่อนข้างรอบคอบ รู้ว่าหลิวฉ่วงอยากให้ตนแบ่งกำลังทหารส่วนหนึ่งมาให้เขา ดังนั้นนับตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เขาต้องการเพียงสามพันคนเท่านั้น ฉินหมิงชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะยกยิ้มและกล่าวว่า “เจ้าเดาดูสิว่าข้ากำลังป้องกันสิ่งใด?” เฉาชวนลังเลครู่หนึ่ง อันที่จริงในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ควรสงสัยในความคิดของฉินหมิง แต่เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของหลิวฉ่วง สุดท้ายแล้วเขาก็กล่าวว่า “ท่านทรงกังวลว่าเซียวเทียนเช่อจะหลอกล่อหนานหมานมารุกรานแนวป้องกันนี้ของเราและถล่มค่ายทหารอู่
Read more

บทที่ 145  

กวนเยว่นำวัตถุทรงกระบอกยาวที่ฉินหมิงมอบให้มาวางลงตรงหน้า เมื่อมองทะลุกระจกใสด้านบนสุดเข้าไป จะเห็นเพียงการเคลื่อนไหวของทุกคนในยามค่ำคืนอยู่ไกล ๆ แม้ว่าจะห่างกันถึงหนึ่งพันจั้ง แต่ทุกอย่างในสายตาของกวนเยว่กลับชัดเจนขึ้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ “นี่คืออะไร? มองเห็นชัดขนาดนี้เชียว” กวนเยว่มองไปทางฉินหมิงด้วยสีหน้าเบิกบานใจ ในฐานะที่เป็นเด็กสาวที่เติบโตอยู่ในค่ายทหาร นางรู้ดีว่าการมองการณ์ไกลในสนามรบนั้นหมายความว่าอย่างไร ฉินหมิงกล่าวอธิบาย “สิ่งนี้เรียกว่ากล้องส่องทางไกล โดยใช้หลักการของเลนส์เว้าและเลนส์นูน ก็สามารถประดิษฐ์ออกมาได้แล้ว” ความสามารถในการผลิตในยุคสมัยนี้ค่อนข้างจำกัด ต่อให้ฉินหมิงจะรู้วิธีการประดิษฐ์กล้องส่องทางไกล แต่ส่วนประกอบกลับหาได้ยากยิ่ง สุดท้ายแล้วฉินหมิงก็ไปเจอกับแร่ธาตุโปร่งใสที่มีเนื้อสัมผัสที่ไม่เลวมากจำนวนหนึ่ง เขาจึงลงมือหล่อหลอมด้วยตัวเองอยู่หลายวัน จนในที่สุดก็ประดิษฐ์กล้องส่องทางไกลออกมาได้หลายตัว “สภาพถนนหนทางบนภูเขาค่อนข้างซับซ้อน มีกล้องส่องทางไกลติดตัว ต่อให้เป็นชนเผ่าหนานหมานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศในการต่อสู
Read more

บทที่ 146  

เขาพูดถึงสถานการณ์ของแนวหน้าไม่หยุด ฉินหมิงก็ทำได้เพียงแต่นั่งอยู่เงียบ ๆ ไม่เร่งรัด ให้เขาได้พูดอย่างละเอียดที่สุด “เซียวเทียนเช่อและหยางเหลียนล่ะ?” “พวกเขาสองคนทำดีแล้ว ดึงกำลังคนจากสามหน่วยพิทักษ์ ซึ่งต่างก็เป็นทหารระดับหัวกะทิกว่าหนึ่งหมื่นคน มาแสร้งทำเป็นต่อต้าน” “หลิวฉ่วงบอกกระหม่อมว่า จากที่เขาเฝ้าสังเกตท่าทีของสองคนนั้น ดูเหมือนจะตั้งใจยืมมือคนอื่น!” เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ฉางไป๋ซานก็ทุบโต๊ะหนึ่งครั้งอย่างแรงด้วยความโกรธเคือง “เจ้าบ้าเซียวเทียนเช่อผู้นี้ไม่ใช่คนแล้ว ในสนามรบก็ยังเล่นตุกติกกันได้!” “ฝ่าบาท ให้กระหม่อมพาคนบุกเข้าไปเถอะ!” ในฐานะที่เป็นหัวหน้าองครักษ์ของฉินหมิง ฉางไป๋ซานผู้มีทักษะการต่อสู้ระดับสูง และมีองครักษ์ที่อยู่ใต้บัญชาอีกหลายร้อยคน ปกติแล้วพวกเขาจะคอยปกป้องจวนอ๋อง แต่เนื่องจากต้องวิ่งวุ่นส่งสารในสนามรบ ทุกคนต่างก็ฉุนโกรธอยู่ไม่น้อย แต่ละวันต้องทักทายคนในตระกูลของเซียวเทียนเช่อนับครั้งไม่ถ้วน! “อย่าเพิ่งร้อนใจ อู่ชิงเหย่ไปแล้ว เจ้ารอไปพร้อมกับข้าเถอะ” เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ฉินหมิงที่ถือไม้เท้ายาวในมือส่ายศีรษะอย่างช้า ๆ “ฝ่าบาท ชาวห
Read more

บทที่ 147  

“ไม่ใช่แน่นอน นี่คือสัญญาณที่กำลังถ่ายทอดให้พวกเจ้าต่างหาก” ฉินหมิงชี้ไปยังพลุบนท้องฟ้า ยุคสมัยนี้ยังไม่มีตึกระฟ้าสูง แสงสว่างไสวจากพลุสามารถส่งสัญญาณได้ในระยะไกล “แต่ละสีจะหมายถึงคำสั่ง กองกำลังทหารทั้งหมดที่อยู่ในทุ่งโล่งกว้างเช่นนี้จะสามารถติดต่อกันได้” “คนน้อยไม่เป็นไร แต่เราจะรวมกันได้เร็วยิ่งขึ้นผ่านวิธีนี้ ซึ่งจะทำให้เรามีพละกำลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากขึ้น” ฉินหมิงค่อย ๆ พูด ด้วยใบหน้าที่สะท้อนแสงสว่างไสวจากแสงไฟ สายลมที่พัดโชยอย่างแรง ทำให้ฉางไป๋ซานถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมยิ่งนักฝ่าบาท” เขาคิดมานานแล้ว ด้วยนิสัยของฉินหมิง ไม่มีทางอยู่เบื้องหลังไปได้ตลอดแน่นอน แต่ฉางไป๋ซานคาดเดาไม่ออกว่าฉินหมิงกำลังทำอะไร ดังนั้นจึงได้แต่กลัดกลุ้มอยู่ในใจตลอดเวลา ในที่สุดก็มีคำตอบ เขาตื่นเต้นมาก “รออีกแค่วันเดียว ไข่มุกกองโตของข้าจะมาส่งแล้ว” หากอยากให้พลุของฉินหมิงมีสีสันสดใส จำเป็นจะต้องไข่มุกเข้าไปด้านใน ไข่มุกคือชื่อเรียกทั่วไป จริง ๆ แล้วมันคือธาตุโลหะหลากหลายชนิด แค่เติมเข้าไปในดินปืน ก็จะปรากฏสีสันที่แตกต่างกันแล้ว เพียงแต่วัสดุ
Read more

บทที่ 148  

นี่คือหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาเห็นว่านซูเป็นเช่นนี้ “ไปแล้วนะ” ว่านซูแค่นเสียงเย็น จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมาอีก มีเพียงเสื้อคลุมยาวพู่ระบายรอบเอวที่พลิ้วไหวไปด้านหลังตามแรงลม “ไว้ท่านชนะพวกเขาแล้ว กลับมาหม่อมฉันมีรางวัลลึกลับจะให้ท่าน” น้ำเสียงอ่อนโยนดังขึ้น หูของฉินหมิงกระตุก ครั้นได้ยินประโยคนี้ก็พลันตะลึงงันก่อนจะตรัสว่า “รางวัลอันแสนหวาน? รางวัลอันแสนหวานอะไรกันนะ?” เมื่อได้ยินประโยคนี้ เขาก็คิดไม่ดีขึ้นมาทันที มีรางวัลอันแสนหวานเร็วขนาดนี้เชียว? ว่านซูเค้นเสียงหัวเราะ ไม่ได้สนใจเขา หมุนตัวเร่งฝีเท้าจากไป “ออกเดินทาง!” ฉินหมิงกลับมายังสนามฝึก นำกำลังคนเดินทางออกจากค่ายทหาร ตรงไปยังทิศทางของด่านหนิงหมิง อีกด้านหนึ่ง บริเวณด้านนอกของด่านหนิงหมิง ทหารผู้กล้าของชาวหมานเกือบสามหมื่นคนนั่งอยู่บนพื้นที่ถูกปูด้วยหนังสัตว์ นับว่าเป็นการยึดครองที่แห่งนี้แล้ว ผู้นำของกองกำลังขนาดใหญ่นี้คือนักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา มีชื่อว่าทู่ฉี เดิมทีเขานำกองกำลังมาเพียงหนึ่งหมื่นคน เตรียมการชิงรางบุกโจมตีด่านหนิงหมิง แต่หลังจากที่ได้สัมผัสจริง ๆ เขา
Read more

บทที่ 149  

ทู่ฉีเล่าเรื่องราวชีวิตของฉินหมิง ความรักและความเกลียดภายในราชสำนักของต้าเฉียนอีกรอบ แม่ทัพระดับสูงอีกสองคนต่างตั้งใจฟังอย่างมาก “โง่เง่าสิ้นดี แม้แต่ราชสำนักเช่นนี้ก็ยึดมาไม่ได้” สุดท้ายแล้วแม่ทัพระดับสูงของชาวหมานผู้มีรูปร่างผอมสูงข้างกายผู้หนึ่งมีนามว่าหูหลานก็ถ่มน้ำลายทิ้ง และกล่าวอย่างไม่เพอใจ แม่ทัพระดับสูงผู้มีรูปร่างอ้วนท้วมและแข็งแรงมากอีกคนหนึ่งมีนามว่าฮุยหมิงก็ได้แต่ส่ายหน้า “พวกเขาเองก็กำลังฉวยโอกาสจากพื้นที่ขนาดใหญ่ หากยังต่อสู้กันเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วพวกเราอาจจะยึดครองพื้นที่ของพวกเขาก็ได้!” “พูดถูก!” ทู่ฉีมีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องสำเร็จอยู่ในใจ “จะเอาอย่างไร จะทำหรือไม่?” “ต้องไปอยู่แล้ว!” เช่นนั้นก็ตามนี้ คืนนั้นทู่ฉีในฐานะกองหน้าก็ได้ถือโอกาสในยามรัตติกาลพาหูหลานแอบเข้าไปด่านตรวจบริเวณชายแดนของด่านหนิงหมิง พวกเขาหายเข้าไปในความมืด ไม่นานก็บุกทะลุแนวป้องกันของด่านตรวจสอบชายแดนเข้าไปได้ จากนั้นก็นำกองกำลังจำนวนหนึ่งตะบึงเข้าไปทางด้านหลังของด่านหนิงหมิงอย่างรวดเร็ว “รายงาน! มีหลายด่านของพวกเราถูกซุ่มโจมตี มีทหารม้าจำนวนหนึ่งบุกทะ
Read more

บทที่ 150  

ซ่า......! น้ำมันก๊าดเหนียวหนืดจำนวนหนึ่งค่อย ๆ ไหลลงมาตามกำแพงเมืองอย่างช้า ๆ กรงเล็บเหล็กที่ยึดมั่นแล้วจำนวนไม่น้อยหลุดออกจากตะขอและหลุดออกไป บนความสูงหลายสิบจั้ง ทหารชาวหมานที่กำลังปีนป่ายจำนวนมากต่างร่วงหล่นลงมากระแทกพื้นอย่างรุนแรง ร่างกายเละเทะ เป็นตายร้ายดีเท่ากัน แต่ท่านแม่ทัพฮุยหมิงที่ควบคุมสงครามครั้งนี้กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ยังคงโบกมือออกคำสั่งอย่างต่อเนื่อง “บุกเข้าไปอีก!” “ขอรับ!” ครั้นเหยียบย้ำไปบนศพของเพื่อนพ้อง ทหารผู้กล้านับไม่ถ้วนเหล่านั้นก็เหมือนกับฝูงมดขนาดใหญ่ ใช้ศพของสหายรองฝ่าเท้า พุ่งเข้าไปอย่างต่อเนื่อง เฉาชวนหยิบตะบันไฟออกมา เสี้ยววินาทีที่สัมผัสกับกำแพงเมืองนั้น ไฟก็ลุกพรึ่บขึ้นทันที พริบตาเดียวก็ลุกโหมไปทั่วทั้งกำแพงเมือง ทหารที่ปีนป่ายอยู่บนกำแพงต่างร่วงหล่น แต่กลับยังคงออกแรงปีนป่ายอย่างมุมานะ “เฉาชวน ออกมาเดี๋ยวนี้! เมื่อเห็นกำแพงเมืองถูกเปลวไฟลุกโชน กลายเป็นสีดำไหม้เกรียม ฮุยหมิงก็พลันโบกมือออกคำสั่งให้ทหารที่แบกก้อนหินขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งด้านหลังบุกขึ้นหน้า ด้านหลังของเขา มีคนแบกวัสดุไม้จำนวนหนึ่งมาประกอบอย่างรวดเร็ว พร
Read more
PREV
1
...
1314151617
...
27
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status