All Chapters of ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว: Chapter 121 - Chapter 130

264 Chapters

บทที่ 121

“อะไรนะ?”หวงจางงุนงงยิ่ง ยามนี้สถานการณ์มาถึงจุดนี้แล้วหรือว่าตู้หมิงเสวียนจะโง่เขลาถึงขนาดมองไม่ออกว่า เรื่องทั้งหมดนี้มีฉินอ๋องคอยชักใยอยู่?เขาไม่รู้เลยว่า ประสบการณ์ของตู้หมิงเสวียนกับพรรคพวกจะต่างจากเขาโดยสิ้นเชิงตู้หมิงเสวียนและสวีรั่วไห่ มี “คนใน” คอยช่วยเหลือจนถึงตอนนี้ พวกเขาก็ยังไม่เชื่อว่าพื้นที่ที่ฉินหมิงยึดกลับมานั้นไร้ที่ติ“บอกสิ่งที่เจ้าสืบพบมาสิ!”“บอกพวกเขาไปเถอะ”ฉินหมิงเตือนไปหนึ่งคำ หวงจางจึงหยิบรายงานออกมาจากกระเป๋าด้วยความจริงจังด้านบนมีรอยนิ้วมือสีแดงของพยานประทับอยู่“ท่านอ๋อง การแบ่งที่ดินเหล่านี้ไม่มีอะไรผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ พื้นที่พวกนั้นมีปัญหาโรคระบาด จำเป็นต้องแยกออกไปพ่ะย่ะค่ะ!”ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกไป ทุกคนในห้องก็เงียบลงมุมปากของตู้หมิงเสวียนกระตุก ทันใดนั้นก็เข้าใจทุกอย่าง“ดียิ่ง เจ้ากับฉินอ๋องร่วมมือกันนี่เอง!”“ข้ารู้อยู่แล้วเชียว! ไม่เช่นนั้นผลการสอบสวนทั้งหมดก่อนหน้านี้จะเป็นโมฆะได้อย่างไร?”“ต้องเป็นพวกเจ้าสมรู้ร่วมคิดกันมานานแล้ว คิดจะกำจัดข้า!”หวงจางเป็นที่รู้จักในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอดตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่
Read more

บทที่ 122

ก่อนที่หวงจางจะทันได้พูดตู้หมิงเสวียนก็เตะสวีรั่วไห่จนล้ม คร่อมทับร่างเขาไว้ ออกหมัดต่อยซ้ายขวาไม่หยุด“เจ้าเดรัชฉาน! กล้ารับเงินผู้อื่นเช่นนั้นหรือ!”สวีรั่วไห่ถูกแรงกระแทกจนมึนงงแต่แล้วเขาก็รู้สึกคล้ายว่ามีมือข้างหนึ่งสอดเข้ามาในแขนเสื้อ ยัดธนบัตรใส่มือเขาทันใดนั้น สวีรั่วไห่ก็เข้าใจทุกอย่างมารดามันเถอะ!ตู้หมิงเสวียน เจ้าต่างหากที่เป็นเดรัชฉาน!คิดจะให้ข้าผิดอยู่คนเดียวเช่นนั้นหรือ?ตอนนั้นไหนว่าจะคอยแบกรับด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับปัดความผิดให้เขาคนเดียว!“ใต้เท้าตู้...!”สวีรั่วไห่พยายามลุกขึ้นแต่ตู้หมิงเสวียนก็รีบจับเขาไว้อีกครั้ง พร้อมกับพูดด้วยความหมายสองแง่สองง่ามว่า“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว!”“รีบเอาเงินออกมาให้ใต้เท้าหวงเถอะ!”สวีรั่วไห่ลุกขึ้นยืน ก่อนจะดึงธนบัตรออกมาจากแขนเสื้ออย่างละล้าละลังเมื่อครู่ตู้หมิงเซวียนกลัวว่าเรื่องจะลามมายังตน จึงใช้วิธีจัดการสุดโต่งนี้สวีรั่วไห่หยิบธนบัตรกองหนาขึ้นมามอง จากนั้นก็ชะงักค้างไปเพราะเงินที่ตู้หมิงเสวียนให้มานั้น ไม่ใช่แค่ห้าร้อยตำลึงด้วยความรีบร้อน กลัวว่าจะไม่พอ อีกฝ่ายจึงยัดธนบัตรทั้งหมดใส่มือมาบัดนี้ อีกฝ่า
Read more

บทที่ 123

หลังจากรออยู่อีกหลายวันหลังจากได้รับข่าวจากหานหมิงรุ่ยว่าหวงจางได้ออกจากหลิงหนานไปเรียบร้อยแล้ว ฉินหมิงก็เรียกเฉาชวนมา“ร้านค้าในเมืองหลินเจียงเตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง”นับตั้งแต่ฟางชิงหย่วนและอู่ชิงเหย่จากไปเมืองเฉียนถังทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ของที่นี่ ล้วนเป็นเฉาชวนที่คอยจัดการแต่ค่ายทหารมีทหารจำนวนมาก เฉาชวนไม่เพียงต้องดูแลค่ายทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการก่อสร้างที่ดินสามพันหมู่ ร้านขายผ้า และโรงย้อมผ้าในเมืองหลินเจียงด้วยเขายุ่งจนหัวหมุน วุ่นวายจนโงหัวไม่ขึ้นแม้แต่ตอนที่ฉินหมิงถามถึงเรื่องนี้ เฉาชวนก็ยังนิ่งไปครู่หนึ่ง“ถ้าท่านอ๋องไม่พูดออกมา กระหม่อมเองก็คงจะลืมไปแล้ว... กระหม่อมฝากเรื่องนี้ให้เสี่ยวเยว่ไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ได้ เช่นนั้นข้าจะไปดูสักหน่อย”ช่วงนี้ ฉินหมิงเองก็สังเกตเห็นว่ากวนเยว่ออกไปทำธุระอยู่บ่อยๆ จริงๆแต่เขายุ่งอยู่กับการรับมือหวงจาง ยุ่งมากจริงๆ จึงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมดูเหมือนว่ากวนเยว่ก็กำลังพยายามอย่างหนักอยู่เหมือนกันมาถึงเมืองหลินเจียง ข้ามถนนไปอีกหลายสาย ฉินหมิงก็เห็นร้านที่ซ่งติ้งเซิงหาไว้ให้ซ่งติ้งเซิงเป็นคนที่มีความพิเศษเฉพาะตั
Read more

บทที่ 124

“อย่างนี้นี่เอง ผ้าพวกนี้สกปรกหมดแล้ว ข้าจะเอาไปปัดฝุ่นหน่อย”กวนเยว่พยักหน้า ยกไม้ปัดฝุ่นมาปัดฝุ่นจากนั้นนางก็ยื่นสมุดบัญชีให้ฉินหมิงมีคนมาซื้อผ้าที่นี่ไม่น้อย ทั้งกำไรในแต่ละวันก็รับประกันความมั่นคง ทั่วไปจะอยู่ที่สิบตำลึงขึ้นไปแน่นอนว่า ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะซ่งติ้งเซิงยื่นมือเข้ามาช่วยเดิมทีในเมืองที่อยู่ภายใต้การดูแลของซ่งติ้งเซิงนี้ มีร้านขายผ้าเพียงร้านเดียวแต่ต่อมา เจ้าของร้านที่ร่ำรวยขึ้นมา เริ่มใช้เส้นสาย อยากย้ายร้านไปอยู่ในที่ที่เจริญกว่าในสมัยนี้ คนธรรมดาสามัญหลายคนไม่ค่อยอยากออกจากบ้านเกิดเมืองนอนแต่มีคำๆ หนึ่งพูดเอาไว้ได้ดี ที่ใดมีกำไรงามไปทุกคน [1] ซ่งติ้งเซิงจึงช่วยจัดการ และส่งคนผู้นั้นไปทำให้กวนเยว่มีโอกาสควบคุมกิจการร้านขายผ้าในเมืองแต่เพียงผู้เดียว“ไม่เลว ไม่เลวเลย...”ฉินหมิงที่เห็นยอดรายได้ก็พยักหน้าอย่างมีความสุขอุตสาหกรรมสิ่งทอตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของพวกเขา ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างมั่นคงแล้วเมื่อชื่อเสียงของร้านขายผ้าแพร่กระจายออกไป ก็จะสามารถรับรายการสั่งซื้อจากเมืองอื่นได้เมื่อถึงตอนนั้น การหารายได้หลายร้อยหรือแม้แต่หลายพันตำลึงต่อวันก
Read more

บทที่ 125

“เคยเจอก็ดี อีกประเดี๋ยวพวกเรายังต้องไปคุยเรื่องซื้อเหมืองแร่กันต่อ”ฉินหมิงต้องการเปิดเหมืองสักสองสามแห่ง กิจการนี้ได้เงินเร็วดีมากยังสามารถจัดหาโลหะให้โรงหลอมโลหะ ให้พวกเขาสามารถผลิตอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ ให้ได้fh;pแต่ความขัดแย้งเรื่องการแย่งชิงที่ดินที่มีมานานนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่นับว่าแก้ไขแล้วเสร็จหากอยากได้เหมืองแร่จากมือราชสำนักมาใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว ด้วยท่าทีของฮ่องเต้เฉียนที่ทำตัวคล้ายว่าเป็นพ่อเลี้ยงของเขา ฉินหมิงจึงรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะซื้อมาก่อนเมื่อมีกำลังมากขึ้น ค่อยมองหาเหมืองอื่นๆ นอกเขตแต่ถ้าไม่ได้ก็แย่งมาเสียเมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว เขาก็ตกตะลึง“โลกใบนี้สวยงามเช่นนี้ แต่ข้ากลับหัวรุนแรงเช่นนี้ ไม่ดี ไม่ดีเลย...”“ต้องเป็นหลิวฉ่วงเจ้าคนบุ่มบ่ามนั่นแพร่เชื้อมาแน่!”ขณะที่ฉินหมิงกำลังครุ่นคิดอยู่ เขาก็รู้สึกถึงมือคู่หนึ่งที่ยื่นเข้ามาในแขนเสื้อของเขาสัมผัสนั้นอบอุ่น แต่ก็เย็นเยียบเล็กน้อย“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ หม่อมฉันอธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับร้านค้าให้พวกเขาฟังหมดแล้วเพคะ”กวนเยว่ดึงฉินหมิงไปตามทาง มุ่งหน้าไปยังหอก
Read more

บทที่ 126

ฉินหมิงไม่เสียเวลาพูดคุยกับพวกเขา เพียงแต่หยิบยกรายการขึ้นมาหนึ่งใบ“ข้าต้องการแร่พวกนี้ หากหอการค้าหลิงหนานยินดีรับรายการคำสั่งนี้ ในอนาคตพวกเราสามารถหารือกันได้บ่อยขึ้น”ตามหลักแล้ว ในอนาคตฉินหมิงย่อมได้เป็นอ๋องแห่งหลิ่งหนานแน่แล้ว หอการค้าหลิ่งหนานย่อมอยากมีความสัมพันธ์อันดีกับเขาทั้งสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาหอการค้าของพวกเขาด้วยแต่เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหมิง โจวฉือก็โบกมือ“ท่านอ๋อง พวกเราไม่สามารถค้าขายกับพระองค์ได้พ่ะย่ะค่ะ”“เพราะเหตุใด?”“พระองค์กำลังทำผิดกฎ ตอนนี้หอการค้ากังวลถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกับราชสำนักกับพระองค์... ไม่มั่นใจเท่าใดนักว่าจะร่วมมือกันได้พ่ะย่ะค่ะ”คำพูดของโจวฉือค่อนข้างสงวนท่าทีแต่ฉินหมิงเข้าใจความหมายของเขา“ทำไม? ทางหอการค้าคิดว่าข้ากำลังยุ่งเกี่ยวกับการค้าผ้า พยายามเข้าครอบครองอุตสาหกรรมทอผ้าของหลิงหนานทั้งหมด ขัดขวางไม่ให้พวกเจ้าทำเงินหรือ?”โจวฉือไม่ได้พูดอะไร เพียงเงียบอยู่อย่างนั้นฉินหมิงเป็นอ๋องเจ้าเมืองของหลิ่งหนาน ทุกอย่างของที่นี่ เขาค่อยๆ เข้าไปกุมอำนาจก็ยังได้แต่เขาไม่ทำทันทีที่มาถึงหลิงหนานก็ล้อมรั้วที่ดินทันที
Read more

บทที่ 127

คิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉินหมิงก็พูดขึ้นว่า“ข้าจะสืบหาเรื่องนี้และหาคำอธิบายมาให้เจ้า แต่ของต้องส่งถึงค่ายทหารก่อน เรื่องทหารเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง รอไม่ได้”“ท่านอ๋อง เช่นนี้... ข้าไม่อาจมอบงานได้นะพ่ะย่ะค่ะ” โจวฉือตอบด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยฝ่ายหนึ่งคือฉินอ๋อง ฝ่ายหนึ่งคือหอการค้าไม่ก็หัวของเขาหลุดออกจากบ่า ไม่ก็ถูกไล่ออกเพราะแหกกฎของหอการค้าสมัยนี้ทำกิจการร้านค้ำลำบาก หอการค้าทุกแห่งจึงต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดในเมื่อคำสั่งมาจากเบื้องบน เขาจึงไม่มีทางฝ่าฝืนได้“อ้อ? ข้าพูดเงื่อนไขกับเจ้า แต่แม้แต่หน้าก็ไม่ไว้ให้กันหรือ?”ฉินหมิงหรี่ตาลง จ้องมองโจวฉือบรรยากาศในร้านเย็นเยียบลงเพราะคำพูดของโจวฉือสีหน้าของฉินหมิงหม่นลง ไม่คิดว่าหอการค้าท้องถิ่นจะดื้อรั้นถึงเพียงนี้กวนเยว่คว้ามือของฉินหมิงเอาไว้แล้วขยิบตาดังคำกล่าวที่ว่า มังกรแข็งแกร่งไม่อาจสู้งูเจ้าถิ่นอีกทั้งพวกเขายังมีทรัพยากรมากมายอยู่ในกำมือแต่ถ้าผู้มีอำนาจยังกลัวผู้ที่อ่อนแอกว่า ฉินหมิงที่มีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ ทั้งยังหนีมาไกลถึงหลิ่งหนานแล้ว ไม่กลัวที่จะไปขัดใจใครทั้งนั้น“เช่นนั้นแบ่งกันครึ่งหนึ่งก่อนได้หรือไม่พ
Read more

บทที่ 128

หากสามารถเอาเงินของพวกเขามาทำการค้าได้ เช่นนั้นก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกมากทั้งยังไม่ต้องลงแรงอะไรมากมายความคิดนี้ เพิ่งเกิดขึ้นตอนที่ฉินหมิงคุยกับโจวฉือเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วันต่อมา แร่ครึ่งหนึ่งของหอการค้าก็มาถึงฉินหมิงเองก็เริ่มจัดเตรียมการผลิตพวกฟางชิงหย่วน ในที่สุดก็เขียนตอบจดหมายฉินหมิงแล้วเช้าวันนี้ เฉาชวนเดินถือจดหมายมาหาฉินหมิง“ท่านอ๋อง นี่คือจดหมายจากใต้เท้าฟางพ่ะย่ะค่ะ”ฉินหมิงเหลือบมองจดหมายอย่างรวดเร็ว พวกฟางชิงหย่วนตอนนี้ไม่มีความคิดที่จะกลับมาแล้วตามคำอธิบายของพวกเขา พื้นที่แห่งนี้ขาดแคลนทุกสิ่งขอเพียงเป็นสิ่งที่ดี เมื่อผลิตออกมาแล้วก็เป็นที่ต้องการเหตุผลที่ขายดีเช่นนี้ ส่วนใหญ่ก็ต้องโทษที่ผลผลิตในยุคนี้ตกต่ำอย่างยิ่งเสบียงทุกประเภท นอกจากในพื้นที่มั่งคั่งอย่างเมืองหลวงแล้ว พื้นที่อื่นล้วนขาดแคลนหมดและเพราะเห็นถึงจุดนี้ ฟางชิงหย่วนจึงวางแผนที่จะใช้เมืองเฉียนถังเป็นฐานทัพ แสวงหาผลกำไรควบคู่ไปกับการขยายกิจการไปยังพื้นที่โดยรอบ“เหล่าฟางนี่ช่างมีพรสวรรค์จริงๆ"ฉินหมิงวางจดหมายลงพลางถอนหายใจถ้าเป็นในยุคอนาคต คนอย่างฟางชิงหย่วนคงกลายเป็นพ่อ
Read more

บทที่ 129

ระหว่างทางกลับ ฉินหมิงรู้สึกว่าม้าศึกไม่ใช่เรื่องใหญ่หลิ่งหนานมีน้ำมีภ฿เขาล้อมรอบ หากทำสงครามในสถานที่เช่นนี้ การมีม้าศึกหรือไม่นั้นไม่สำคัญอาวุธยุทโธปกรณ์ดีสำคัญที่สุดส่วนม้าศึกนั้น อย่างน้อยที่สุดก็เป็นแค่ใช้ป้องกันราชสำนัก...เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฉินหมิงก็ส่ายหัว ค่อยๆ รวบรวมความคิดเมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าตนเองเดินเข้ามาในเมืองแล้วเมืองหลินเจียง เมื่อเทียบกับเมืองที่เจริญแล้วเหล่านั้น ยังดูล้าหลังกว่าอยู่บ้างเมื่อฟ้ามืดลง บ้านเรือนทุกหลังก็ดับไฟ เตรียมตัวเข้านอนแต่บางจุดบนถนนก็ยังคงประดับไฟสว่างอยู่อย่างเช่นร้านขายผ้า อย่างเช่นหอการค้าสาขาย่อยตอนที่ฉินหมิงเดินผ่านหอการค้าสาขาย่อย ชะโงกหน้ามองเข้าไปข้างในโจวฉือหลับตาลงครึ่งหนึ่ง นั่งสับผงกอยู่ด้านในเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากข้างนอก เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองเมื่อพบว่าเป็นฉินหมิงก็รีบหลับตาลงทันที ไม่สนใจเขาอีกฉินหมิงเข้าใจ ดูเหมือนว่ากลยุทธ์ซ่อมทางขึ้นเขาลอบข้ามเฉินชัง[footnoteRef:1]ของเขา จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกขุ่นเคืองใจ [1: กลยุทธ์ซ่อมทางขึ้นเขาลอบข้ามเฉินชัง คือ กลยุทธ์ทางการทหารของจีนโบราณ หมายถึงการแสร้งทำเ
Read more

บทที่ 130

ก่อนจากไป กวนเยว่ดึงหญิงงามคนนั้นมา แนะนำให้ฉินหมิงรู้จัก“นี่คืนคนงานหญิงคนใหม่ของข้า ชื่อว่านซู"“ว่านซู...”ฉินหมิงเลิกคิ้วในยุคสมัยนี้ที่ชื่อมักถูกเรียกเพื่อใช้แทนความอุดมสมบูรณ์ ชาวนาหลายคนจึงนิยมใช้ชื่ออย่างชุ่ยฮวา[footnoteRef:1] หวงหลี[footnoteRef:2] ต้าเจี่ยว[footnoteRef:3] เป็นต้น [1: ชุ่ยฮวา ผักกาดขาวดอง] [2: หวงหลี นกขมิ้นเหลืองหรือนกขมิ้นป่า] [3: ต้าเจี่ยว เท้าใหญ่ หรือใช้เป็นส่วนหนึ่งของสำนวนจีน “มือใหญ่เท้าใหญ่” ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือ มือเติบ] ตั้งชื่อว่านซูได้ไพเราะเช่นนี้ หาได้ยากนางพูดเจนชัดเจนเหตุผล ดีกว่าหญิงสาวชาวบ้านทั่วไปมากแม้ว่าความเป็นเหตุเป็นผลของนางจะเป็นเรื่องธรรมดาในยุคสมัยนี้ แต่ฉินหมิงกลับพิจารณาอีกฝ่ายอย่างละเอียดสุดท้ายกวนเยว่ก็ทนไม่ไหว จึงดึงฉินหมิงไปข้างๆ แล้วพูดว่า“ท่านจะทำอะไรเพคะ ชีวิตนางยากลำบากพออยู่แล้ว อย่าถามอีกเลยเพคะ”“อืม”ฉินหมิงพยักหน้า ก่อนจะจากไป เขาเหลือบมองไหปลาร้าและแขนอันบอบบางของว่านซูดูไม่เหมือนคนทำงานหนักมาหลายปีระหว่างทางกลับ กวนเยว่ก็หยิกฉินหมิงไปหนึ่งที“พูดมาเลย ท่านสนใจนางแล้ว อยากได
Read more
PREV
1
...
1112131415
...
27
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status