Semua Bab ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว: Bab 21 - Bab 30

“วิธีอะไร?”ฉินหมิงมองไปทางฟางชิงหย่วนด้วยความอยากรู้ตามที่เขารู้ ฟางชิงหย่วนเป็นคนรอบคอบและระมัดระวังอย่างมาก ปกติก็ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาสักเท่าไรโดยเฉพาะความขัดแย้งในราชสำนัก เขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลยฉินหมิงรู้จักนิสัยของเขา และรู้ซึ้งถึงความสามารถของเขาเช่นกันปกติเวลาฉินหมิงจัดการราชกิจต่างๆ มักจะเลี่ยงไม่ให้เขาเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งภายในราชสำนักกลับไม่คาดคิดว่า วันนี้เขาจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากเองและยังจะช่วยตนทวงเบี้ยทหารที่ค้างจ่ายฟางชิงหย่วนหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวเสียงเบา“ที่จริงไม่ใช่ราชสำนักไม่ยอมจ่ายเงินก้อนนี้ แต่ถูกโยกไปใช้ที่อื่นแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“อะไรนะ?”ข้อมูลนี้ทำให้หัวใจฉินหมิงสั่นสะท้าน!แม้แต่เบี้ยทหารก็กล้าเอาไปใช้ขุนนางของต้าเฉียนช่างเก่งจริงๆ!ไม่กลัวทหารก่อกบฏบุกเข้าเมืองหลวงหรือ?“ใครเอาไปใช้”“จ้าวจิ่นรองเสนาบดีฝ่ายขวากรมกลาโหม กับเซียวผิงซานจากกรมพิธีการพ่ะย่ะค่ะ”คำพูดของฟางชิงหย่วน ทำให้ฉินหมิงขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยจ้าวจิ่นเป็นขุนนางที่เพิ่งถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ เขาไม่เคยทำตัวโดดเด่นในกรมกลาโหมส่วนเซียวผิงซานคนนี้

“เจ็ดหมื่นกว่าตำลึงเงิน ต่อให้หักสามส่วนก็สามารถจัดการปัญหาเฉพาะหน้าของพวกเจ้า ลองพิจารณาดูก็แล้วกัน”เมื่อเผชิญหน้ากับหลิวฉ่วงที่เกรี้ยวกราด ฉินหมิงกลับเอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่ได้ถือสาที่อีกฝ่ายเสียมารยาทเฉาชวนกับหวู่ชิงเหย่รีบห้ามหลิวฉ่วง และกดเขานั่งลงบนเก้าอี้เฉาชวนที่รับผิดชอบแนวหลังค่อนข้างมีความอดทน เขาเอ่ยปากกล่าว“ท่านอ๋องสามารถทวงเงินก้อนนี้คืนมาได้จริงหรือ?”“แน่นอน”ฉินหมิงพยักหน้าอย่างจริงจัง“ก็ได้ สามส่วนก็สามส่วน”เฉาชวนรับผิดชอบแนวหลัง ไม่เหมือนหลิวฉ่วงกับหวู่ชิงเหย่เขารู้ดีว่าในค่ายทหารแทบไม่มีข้าวกินแล้วฉินหมิงกำลังมอบโอกาสสุดท้ายให้พวกเขาหากเขายินดียื่นมือเข้ามาช่วย ค่ายทหารก็มีโอกาสรอด“ได้ อีกเดี๋ยวพาคนไปกับข้า”“ไปที่ไหน?”ทั้งสามอึ้งไปครู่หนึ่งฉู่หมิงกล่าวเสียงเรียบ“ค่ายใหญ่ของเมืองหลวง จับคน”เซียวผิงซานเป็นน้องชายของเซียวซูเฟย ย่อมไม่ต้องพูดถึงคนที่หนุนหลังส่วนจ้าวจิ่นถูกผลักดันขึ้นมา ก็ย่อมมีคนหนุนหลังเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าทำงานให้ใครแต่สิ่งหนึ่งที่ฉินหมิงสามารถมั่นใจได้จ้าวจิ่นกินเงินก้อนนี้คนเดียวไม่ไหวแน่นอนในเมื่อมีค

เมื่อหวังเป่าได้รับข่าว ก็ตกใจจนกระโดดลุกขึ้นจากเตียง“เกิดเรื่องตั้งแต่เมื่อไร?”“เมื่อกี้นี้เอง!”“แย่แล้ว! พวกเจ้ารีบไปหาเฉาเจิ้งหยางที่กองกำลังรักษาการณ์ บอกเขาว่าต้องพาคนกลับมาให้ได้!”หลังจากคิดแล้วคิดอีก หวังเป่ารู้สึกว่ายังไม่มั่นใจจึงสั่งเพิ่มว่า“ให้คนไปขอหนังสือรับรองกับรองเสนาบดีกรมกลาโหมหวงโหยวจงก่อน แล้วนำไปมอบให้เฉาเจิ้งหยาง!”หลังจากมอบหมายงานให้พวกเขาเสร็จแล้ว หวังเป่าจึงจะรีบมุ่งหน้าไปยังตำหนักเฟิ่งอี๋“พระสนม เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”หวังเป่ารีบรายงานสถานการณ์ทันทีเซียวซูเฟยฟังยังไม่ทันจบ ก็สั่งให้นางกำนัลนำเครื่องแต่งกายของตนเองมา“เจ้าบ้านี่! เขาคิดจะทำอะไร!?”“ข้าจะไปเอาคนกลับมาด้วยตนเอง! ให้เฉาเจิ้งหยางพาคนมา!”“พ่ะย่ะค่ะ!”หวังเป่าติดตามเซียวซูเฟยมานานหลายปี เดาได้แต่แรกแล้วว่านางจะทำเช่นนี้จึงได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วก่อนไป เซียวซูเฟยสั่งให้หวังเป่าอยู่ในวัง“เจ้าไปหาซุนเหลียนอิงตอนนี้เลย ให้เขานำเรื่องนี้ไปทูลฝ่าบาท!”“พ่ะย่ะค่ะ!”เมื่อขอบฟ้าเริ่มเผยแสงสีขาวของยามรุ่งสางเซียวซูเฟยก็มาถึงค่ายทหารอู่เวยแล้ว“นี่เป็นหนังสือคำสั่งของกรมกลาโ

การปรากฏตัวของฉินหมิง ทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจโดยเฉพาะฟางชิงหย่วนที่เป็นคนบอกข่าวให้เขารู้ก่อนหน้านี้ เวลานี้บีบแขนเสื้อแน่น บนใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลหากรู้แต่แรกว่าท่านอ๋องจะบ้าบิ่นถึงเพียงนี้ เขาคงจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองแล้วอย่างน้อยท่านอ๋องก็ไม่ทำให้เรื่องราวบานปลายถึงขั้นนี้“ถวายบังคมพระสนม…”เวลานี้เอง เสียงของขุนนางคนหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังทุกคนละสายตาจากฉินหมิงก็มองเห็นเซียวซูเฟยที่แต่งหน้าอ่อนๆ แต่ยากจะปกปิดความอิดโรยบนใบหน้า เดินเข้ามาในท้องพระโรงจินหลวนพร้อมกับหวังเป่า“เซียวซูเฟยมาได้อย่างไร?”“เมื่อคืนคนที่โดนจับคือเซียวผิงซาน คิดว่าหลังจากนางแจ้งฝ่าบาท วันนี้ฝ่าบาทจึงให้นางมาเข้าประชุมด้วย”ขุนนางที่อยู่เบื้องล่างหลายคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์เดิมทีชื่อเสียงของเซียวซูเฟยในราชสำนักก็ไม่ดีอยู่แล้ววันนี้ยังถึงขั้นมาร่วมการประชุมโดยไม่สนใจเสียงรอบข้างเหล่าขุนนางที่ไม่พอใจ ต่างก็รู้สึกว่านี่ไม่สอดคล้องกับกฎของราชสำนัก ที่ห้ามฝ่ายในแทรกแซงเรื่องการเมืองแต่ช่วยไม่ได้ อิทธิพลของเซียวซูเฟยในราชสำนัก แทบจะครองความได้เปรียบทั้งหมดต่อให้รู้สึกไม่พอใจเพียงใด แ

แต่ฮ่องเต้ต้าเฉียนร้ายยิ่งกว่า ฉินหมิงยังไม่ทันเอ่ยปาก เขาก็ชิงออกคำสั่งทันที “เด็กๆ คุมตัวฉินหมิง! ส่งให้กรมอาญาพิจารณาโทษ!”จางหมิงที่พาทหารองครักษ์ของพระราชวังมารออยู่ตรงข้างนอกนานแล้ว พุ่งเข้ามาอย่างแทบรอไม่ไหวทันทีก่อนหน้านี้เขาพลาดท่าให้ฉินหมิงตอนนี้คือโอกาสดีที่จะได้ล้างแค้นยิ่งกว่านั้นฮ่องเต้เฉียนยังเป็นคนเอ่ยปากเองวันนี้มาตกอยู่ในกำมือของเขา จะต้องทำให้อดีตองค์รัชทายาทท่านนี้ ได้ลิ้มรสความเจ็บปวดสักหน่อย!“ท่านอ๋อง ตามกระหม่อมมาเถิด”เขาเดินเข้าไปหาฉินหมิงด้วยรอยยิ้มร้ายกาจเหล่าขุนนางพากันขมวดคิ้วเห็นได้ชัดว่าการตัดสินใจของฮ่องเต้เฉียน เต็มไปด้วยอารมณ์ส่วนตัวก่อนหน้านี้ฉินหมิงเคยล่วงเกินเขาหลายครั้งความสัมพันธ์พ่อลูกห่างเหินกันขึ้นเรื่อยๆหากวันนี้ส่งฉินหมิงไปกรมอาญาตามที่เซียวซูเฟยต้องการอาจไม่สามารถเดินออกมาจากกรมอาญาได้อีกเลยฉินหมิงมองดูการกระทำของพวกเขา ทันใดนั้นก็หัวเราะในเมื่อฮ่องเต้เฉียนทำตามอารมณ์เช่นนั้นก็ทำให้เรื่องราวบานปลายกว่านี้!เขารู้ว่าสมุดบัญชีของกรมคลัง มีการบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดเมื่อมีสิ่งนี้อยู่ในมือ ต่อให้ที่โรงเ