Lahat ng Kabanata ng ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว: Kabanata 351 - Kabanata 360

“ท่านอ๋อง บอกตามตรง ข้าน้อยตอบตกลงช่วยท่านเป็นเรื่องจริง แต่ข้าน้อยก็มีข้อเรียกร้องเล็กน้อย หวังว่าท่านจะตอบตกลง”เมื่อฉินหมิงได้ยิน ก็พยักหน้าทันทีมีข้อเรียกร้องเป็นเรื่องดีกลัวก็แต่พวกเก็บงำความรู้สึก บางครั้งไม่มีข้อเรียกร้องอะไรเลย กลับเสนอหน้ามาขอช่วยเหลือคนเช่นนี้คาดเดายากที่สุดหลี่โหย่วไฉยื่นข้อเสนอเช่นนี้ หลังจากสองฝ่ายแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน อันที่จริงเท่ากับผูกมัดตนเองกับฉินหมิงในทางอ้อม“พูดมาเถิด เจ้าต้องการอะไร?”“คืออย่างนี้ท่านอ๋อง ข้าน้อยอยากเป็นหัวหน้าผู้ค้าเกลือของที่นี่ ต่อไปท่านมีสินค้า สามารถมอบให้ข้าน้อย……”ในที่สุดหลี่โหย่วไฉก็เผยจุดประสงค์ที่แท้จริงแม้ตอนแรกเขาทำงานกับตระกูลเซียว แต่ในความเป็นจริง ทรัพยากรที่เขามีนั้นไม่มากในแวดวงผู้ค้าเกลือ ก็เป็นเพียงบุคคลเล็กๆที่ทำหน้าที่กระจายสินค้าเท่านั้นในเมืองกูซู มีผู้ค้าเกลือระดับเดียวกับเขาสองสามคนแต่เจียงหนานไม่ได้มีแค่เมืองกูซูยังมีเมืองหลักอื่นๆ ด้วย และภายใต้เมืองหลัก ยังมีอีกหลายอำเภอ ทุกเมืองล้วนมีคนอย่างเขาหลายคนทั้งเจียงหนานรวมกัน ก็มีหลายร้อยคนแล้ว และคำตอบของเขา ก็ไม่เกินความคาดหม

“ท่านพูดถูก ทำเช่นนี้จึงจะสามารถบุกตลาดได้เต็มรูปแบบ”บ่ายวันนั้น หลังจากเลยช่วงเวลามื้ออาหารไปแล้ว หลี่โหย่วไฉก็รีบกลับมาทางนี้ทันที“ท่านอ๋อง หอสุราต่างๆ ล้วนมีเสียงตอบรับที่ดี ให้ข้าน้อยเริ่มส่งสินค้าให้พวกเขาตั้งแต่พรุ่งนี้เลยหรือไม่?”ในเมื่อผลลัพธ์ออกมาดี พวกเขาย่อมสามารถเริ่มทำกำไรแล้วฉินหมิงกับซุนเหมี่ยวสบตากันแวบหนึ่ง ทั้งสองต่างรู้สึกพึงพอใจมาก“อย่าเพิ่งค้าขายกับพวกเขา ส่งต่อไปก่อน พรุ่งนี้ต้องเริ่มไปส่งในตัวเมืองอำเภอถัดไป ใช่แล้ว คนของตระกูลเฉาที่เจ้าพูดถึงมาหรือยัง?”สิ่งที่ฉินหมิงต้องการคือ ครองตลาดในพื้นที่นี้ให้ได้โดยเร็วชื่อเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญมากเขาเตรียมส่งเกลือให้ทดลองใช้อีกสักระยะ หลังจากที่หอสุราทั้งหมดคุ้นเคยกับเกลือบริสุทธิ์แล้ว ค่อยไปทำการค้าขายนี่แหละคือการวางเหยื่อล่อปลาใหญ่“ท่านอ๋อง ข้าน้อยส่งข่าวไปให้คนของตระกูลเฉาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว หากพวกเขามา คืนนี้ก็จะน่าจะถึงแล้ว”ฉินหมิงมาเจียงหนานครั้งนี้ ไม่ได้ปกปิดใดๆ เลยและถึงขั้นสามารถบอกว่ามาอย่างเอิกเกริกด้วยซ้ำย่อมดึงดูดความสนใจของกลุ่มอิทธิพลในดินแดนเจียงหนานไม่น้อยก็อย่างตระกูลเฉา อัน

เจียงหนานมีกลุ่มอิทธิพลใหญ่มากขนาดนี้ ต่อให้พวกเขาสองคนพูดจนปากเปียกปากแฉะ ก็ไม่มีทางทำให้ใครมายืนข้างเดียวกับพวกเขาได้“ไม่เชื่อหรือ?”ซุนเหมี่ยวเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง แล้วชี้นิ้วไปทางฉินหมิง“ท่านอ๋องมีความสามารถ ทำให้ร้านของพวกเจ้าขายของไม่ออกภายในสามวัน จะลองดูหน่อยหรือไม่?”เฉาเฉินเงียบแล้วเขารู้ว่าฉินหมิงอาศัยอะไรของสิ่งนั้นก็คือเกลือบริสุทธิ์ที่น่าอัศจรรย์ที่จริงใช้ทักษะในยุคนี้ก็สามารถผลิตเกลือบริสุทธิ์ได้บางส่วน แต่ไม่มีประโยชน์ เพราะเกลือบริสุทธิ์ที่พวกเขาผลิตนั้น มีราคาสูงกว่าเกลือหยาบหลายสิบเท่า เมื่อไม่มีใครซื้อไหว ก็ย่อมไม่สามารถนำออกสู่ตลาดแต่ฉินหมิงไม่เหมือนกัน ของเขาแค่แพงกว่าสามอีแปะ อีกทั้งดูเหมือนจะทำกำไรได้มากด้วย “ต่อรองไม่ได้หรือ?”ในที่สุดเฉาเฉินก็เอ่ยปาก เขาจ้องฉินหมิงเขม็งพยายามมองหาอารมณ์อื่นๆ จากบนใบหน้าของฉินหมิงแต่น่าเสียดาย สีหน้าของฉินหมิงนิ่งสงบราวกับน้ำนิ่ง มองไม่เห็นอารมณ์ใดเลย“ตระกูลเซียวเกือบทำร้านขายผ้าทั้งหมดในหลิ่งหนานกับเจียงหนานพัง เรื่องนี้ต่อรองไม่ได้”น้ำเสียงฉินหมิงเด็ดขาด ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธในที่สุดเฉาเฉินก็เข้าใจเ

“อืม”“โอ๊ย ท่านช่างใจกว้างเหลือเกิน ท่านอย่าห้ามข้า ข้าขอคารวะท่านสามจอก! เชิญท่านตามสบายเลย!”ลู่หย่วนกระดกเหล้าติดต่อกันสามจอกใหญ่แต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้เมาเพราะค้าขายตลอดปี เขาก็เคยร่วมโต๊ะกินข้าวกับผู้คนมากมาย ย่อมต้องคอแข็งอยู่แล้วแต่เวลานี้เขากลับแสดงท่าทีคล้ายมึนเมาเล็กน้อยเขาอาศัยฤทธิ์สุรา รีบเตะเฉาเฉินที่ใต้โต๊ะทีหนึ่ง“เจ้า……”เฉาเฉินหันไปมองด้วยความสงสัย กลับพบว่าลู่หย่วนกำลังไปขยิบตาให้เขาเขาเพิ่งคุยกับฉินหมิงเสร็จ และวันนี้ยังพาเฉาเฉินมาด้วยจุดประสงค์ก็เพื่อให้เขาสั่งซื้อเกลือจากฉินหมิงด้วยแต่สหายผู้นี้ของตนเองค่อนข้างดื้อดึง เอาแต่นั่งเงียบอยู่ตรงนั้นทำให้ลู่หย่วนเห็นแล้วร้อนใจมาก จึงอดไม่ได้ที่จะเร่งเร้าอย่างเปิดเผยและลับๆฉินหมิงเป็นผู้ขาย ย่อมไม่ลดตัวไปขอให้ตระกูลเฉาไปซื้อของของตนเองอีกครั้งดังนั้นเขาจึงเอาแต่หยอกล้อกับหญิงงามข้างกาย และลู่หย่วนที่รู้กาลเทศะ แล้วก็ดื่มเหล้าไปพลางมีเพียงเฉาเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ ราวกับเป็นคนนอกเวลานี้ ซุนเหมี่ยวสังเกตเห็นความผิดปกติ ขณะที่กำลังสั่งให้คนขนเกลือบริสุทธิ์มาก็ใช้โอกาสนี้กล่าวโดยตรง“เฉาเฉิน พวกเจ

ฉางไป๋ซานที่อยู่ข้างกายฉินหมิง ก็เป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดเช่นนี้“เหล่าฉาง”ฉินหมิงเปิดหน้าต่าง ตะโกนเรียกฉางไป๋ซานที่กำลังเล่นไพ่โกวอยู่ข้างล่าง ดูไม่เหมือนยอดฝีมือเลยสักนิดฉางไป๋ซานรีบวิ่งขึ้นมา“มีอะไรหรือท่านอ๋อง?”“เจ้าลองดูนี่”ฉินหมิงดันจดหมายไปที่ตรงหน้าฉางไป๋ซาน“โอ้! บาทาล่าวายุซ่งจาง ฝ่ามือโค่นขุนเขาหงเทา กระบี่ปลิดชีพหลิวเซ่อ……บุคคลมีชื่อเสียงทั้งนั้นเลย”เมื่อหลายปีก่อน ฉางไป๋ซานเคยบุกเหนือล่องใต้ในยุทธภพ และฝึกฝนตนเองอยู่พักใหญ่มองดูรายชื่อที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธภพนานแล้วพวกนี้ รู้สึกคิดถึงขึ้นมาทันที“พวกเขาโจมตีขบวนขนส่ง ทหารธรรมดาไม่สามารถจัดการได้แล้ว เจ้าสามารถฆ่าได้กี่คน?”ฉินหมิงมองไปทางฉางไป๋ซาน ในใจเริ่มคิดว่าครั้งนี้ตนเองจะให้ฟางชิงหย่วนออกไปดีหรือไม่ เพื่อดูว่าสามารถหายอดฝีมือระดับแนวหน้าจากโลกภายนอกมาช่วยบ้างได้หรือไม่ต้องขอให้ฉางไป๋ซานช่วยทุกครั้งที่มีปัญหา แม้ไม่ได้ลำบากใจที่จะเอ่ยปาก แต่ต่อให้ฉางไป๋ซานแข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่สามารถใช้งานหนักเช่นนี้ฉางไป๋ซานครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วกล่าวกะทันหัน“ท่านอ๋อง คนพวกนี้กระหม่อมสามารถ