All Chapters of ตำแหน่งองค์รัชทายาท ผมไม่เอาแล้ว: Chapter 71 - Chapter 80

100 Chapters

บทที่ 71

แม้ว่าไม่อยากยอมรับแต่เมื่อเทียบกับเซียวฉีเหนียนแล้ว ฉินหมิงมาที่เมืองเซี่ยซา พวกเขาทหารเหล่านี้คล้ายมีศูนย์รวมใจก็มิปานในที่สุดก็รู้ว่าสมควรเริ่มลงมือจากที่ใดเพื่อควบคุมโรคระบาด“ข้ายังมีธุระ ทิ้งหมอยี่สิบคนนี้ไว้ พอให้พวกเจ้าใช้แล้ว“ฉินหมิงไม่มีวันบอกหลี่โหย่วจงว่า ตนเองเพิ่งยึดทรัพย์เซียวฉีเหนียนไปจากนั้นนำเงินบรรเทาภัยพิบัติหนึ่งแสนตำลึงที่ราชสำนักมอบให้ไปด้วยแน่นอน ฉินหมิงย่อมสมควรรับเงินเหล่านี้ไปฉินหมิงเป็นผู้ที่มาควบคุมโรคระบาด หากเขาไม่สามารถเอาไปได้ ก็ไม่มีใครในราชสำนักสามารถเอาไปได้แล้วลูบปลายคาง ฉินหมิงมีความหวังว่าจะได้รับเงินอยู่บ้าง“ท่านอ๋อง เกิดเรื่องใหญ่แล้วกระนั้น?”หลิวฉ่วงวิ่งเข้ามาหยุดข้างกายฉินหมิง กระซิบเสียงแผ่วหนึ่งประโยคเขาเป็นคนฉลาดมาก เมื่อรู้ว่าฉินหมิงต้องการเดินทาง ก็พอเดาได้แล้ว“อืม พาคนไปดูแลไว้ในค่ายให้ดี ออกเดินทางก่อนฟ้าสว่าง““เข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปแจ้งพวกเขา”หลิวฉ่วงอยู่ภายในค่ายทหารมานานหลายปี เขารู้เรื่องกำลังทหารแต่ละพื้นที่ดีฉินหมิงจับตัวเซียวฉีเหนียนไปแล้วครึ่งวันคำนวณเวลาดูแล้ว ไม่แน่ว่าทหารรอบเมืองเซี่
Read more

บทที่ 72

กองทหารชุดนี้มีจำนวนไม่มากนัก เพียงหนึ่งร้อยกว่าคนแม่ทัพผู้เป็นหัวหน้าสวมเกราะ ร่างกายกำยำล่ำสันใบหน้ารูปเหลี่ยมที่คล้ายเกิดมาพร้อมกับสีหน้าหม่นหมองขมปร่า“ข้าคือซุนเฉิงแม่ทัพรักษาการณ์สองดินแดนหูกว่าง”“สองวันก่อนฉินอ๋องนำกำลังฝ่าด่านเข้ามา ได้ยินว่าร่วมมือกับแม่ทัพฟางเหวินเลี่ยงแห่งเมืองเฉียนถังของพวกเจ้า ต่อยตีทหารของ ข้าจึงตั้งใจมาตรวจสอบเป็นพิเศษ”ซุนเฉิงไม่ใช่แม่ทัพประจำการที่ชายแดน ประจำการอยู่ภายในแคว้น จึงไม่มีหน้าที่สำคัญนักดีชั่วอย่างไรเขาก็เป็นแม่ทัพคนหนึ่งเมื่อได้ยินว่ามีคนกล้าละเมิดศักดิ์ศรีของตนถึงเพียงนี้ เขาจึงมาด้วยตนเองอยากจะมาเจรจากับวังโซ่วเหยียนเจ้าเมืองเฉียนถังที่อยู่เบื้องหลังของฟางเหวินเลี่ยง เพื่อทวงความเป็นธรรม!“อ้อ ท่านแม่ทัพซุนหรือ”หวู่ชิงเหย่ไม่แม้แต่จะช้อนตามอง พอฟังจบก็เอ่ยอย่างเคารพว่า“ข้าได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานแล้ว เมื่อสองวันก่อนใต้เท้าวังได้รับข่าวแล้ว จึงสั่งให้ข้ามารอท่านอยู่ที่นี่โดยเฉพาะ”“เจ้าคือ...?”ซุนเฉิงกวาดตามองชุดเครื่องแบบของหวู่ชิงเหย่สองสามครั้งดูท่าแล้วก็คงเป็นแม่ทัพท้องถิ่นคนหนึ่งหวู่ชิงเหย่ไม่ตอบคำถามนั้
Read more

บทที่ 73

ในเขตหูซี ยังมีเมืองเซี่ยซาที่เต็มไปด้วยโรคระบาดหรือว่าพวกเขานำโรคระบาดมาแพร่ที่นี่?อันที่จริงก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่าเซียวฉีเหนียนเป็นคนนำโรคระบาดมาสู่เมืองหลินเจียงเพียงแต่ในเวลานั้นคนมากมายล้วนหลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งขุนนางในราชสำนักก็เป็นเช่นนี้ ตราบใดที่ไฟยังไม่ลามมาถึงตัว ก็จะเอาแต่นั่งรับชมอยู่วงนอก ไม่คิดเคลื่อนไหวแต่หากมีทีท่าว่าเรื่องจะกระทบกับพวกเขาเมื่อไร ก็จะรีบออกมาคัดค้านทันทีไม่นานนัก พวกเขาก็ถูกพาเข้ามา“ท่านแม่ทัพฟาง ท่านอ๋องได้ยินมาว่าท่านล่วงเกินแม่ทัพรักษาการณ์ซุนเฉิงของเขตหูกว่าง ขอให้ท่านไปกล่าวคำขอโทษ”“ขอโทษ? ขอโทษใคร?”คำพูดประโยคนี้แฝงความหมายมากมายเหลือเกินฟางเหวินเลี่ยงดึงสติกลับมาไม่ได้ไม่รู้ว่าตกลงเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่ผ่านไปพักใหญ่ ฟางเหวินเลี่ยงจึงค่อยนึกออกว่าซุนเฉิงคือใคร“พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ข้าและซุนเฉิงไม่มีอันใดข้องเกี่ยวกัน ห่างกันนับหลายร้อยลี้ สิบกว่าปีมานี้เจอกันไม่กี่ครั้ง จะไปยั่วโทสะเขาทำอันใด?”“เช่นนั้นก็ไม่รู้แล้ว”ทหารกลุ่มนั้นยักไหล่ใส่ พูดทิ้งไว้หนึ่งประโยคแล้วหนีไป“เสียสติไปแล้ว!”ฟางเหวินเลี่ยงสบถออก
Read more

บทที่ 74

ก็แค่นี้เอง หม่อมฉันยังสามารถนำทัพได้อีกด้วย! ไม่สู้ให้หม่อมฉันลองดูหน่อยดีหรือไม่?”กวนเยว่ซุกหน้าลงในอ้อมอกของฉินหมิง พลางออดอ้อนอย่างอ่อนหวานนางอยากนำทัพออกศึกแต่ตอนที่ฉินหมิงมอบหมายให้สามองครักษ์รับหน้าที่ดูแลความมั่นคงในพื้นที่ คล้ายไม่พิจารณานางเลยแน่นอนว่า เรื่องนี้ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจอยู่ภายในใจหลายส่วน“รอภายภาคหน้ามีโอกาส ข้าจะให้เจ้านำทัพออกศึกแน่นอน”ฉินหมิงไม่อาจหักใจให้กวนเยว่ไปพัวพันกับกองทัพได้ก่อนเดินทางมาที่นี่เขาเคยให้คำมั่นสัญญากับนางเฉินไว้แล้ว จะไม่ปล่อยให้กวนเยว่ต้องตกอยู่ในอันตราย“คนหลอกลวง”อารมณ์ของหญิงสาวมักเปลี่ยนไปไม่มั่นคงเมื่อครู่ยังกอดฉินหมิงอย่างออดอ้อนได้ยินคำพูดของฉินหมิงแล้ว กวนเยว่กลับกัดเขาทีหนึ่ง หันหลังแล้วกระทืบเท้าจากไปด้วยความโมโหฉินหมิงตรวจดูสภาพโรงงานของตนหนึ่งรอบแล้ว จากนั้นกวักมือเรียกซ่งติ้งเซิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล“มีอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง?”ซ่งติ้งเซิงรีบวิ่งเหยาะๆ เข้ามาหาอย่างรวดเร็วผ่านการร่วมทุกข์ร่วมสุขในช่วงวิกฤตโรคระบาดมาแล้ว ตอนนี้เขาก็นับว่าเป็นคนของฉินหมิงไปครึ่งหนึ่งแล้วเช่นกันฉินหมิงถามเขาว่า“ช่วง
Read more

บทที่ 75

ช่วงบ่ายของวันถัดมา ฉินหมิงเดินทางเข้าจวนของวังโซ่วเหยียนภายในเมืองเฉียนถังวังโซ่วเหยียนอายุราวห้าสิบปีเศษ รูปร่างใต้ชุดขุนนางนั้น อ้วนฉุจนเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าแตกต่างจากครั้งก่อนที่ส่งคนมาเจรจาแทน ครั้งนี้ฉินหมิงมาด้วยตนเองนั่นทำให้วังโซ่วเหยียนทำได้เพียงรีบออกมาต้อนรับเขาเคยได้ยินชื่อเสียงของอดีตรัชทายาทผู้นี้มาก่อนแม้ว่าเขาจะเป็นขุนนางที่มีความเกี่ยวดองกับเซียวซูเฟย แต่ตัวเขาเองก็มีฐานะต่ำ ไม่กล้าอวดเบ่งต่อหน้าฉินหมิงเลยแม้แต่น้อย“ใต้เท้าวัง”ฉินหมิงเดินเข้าจวน เอ่ยทักทายปราศรัยยิ้มแย้มวังโซ่วเหยียนได้แต่พูดอย่างระอา “ท่านอ๋อง ที่มาในวันนี้ยังเป็นเรื่องขอเจรจาที่ดินอีกกระนั้น?”“ใช่แล้ว” ฉินหมิงตอบอย่างตรงไปตรงมาฉินหมิงนั่งอย่างผ่าเผยพลางลิ้มรสชาภายในห้องโถง ระหว่างนั้นก็บีบมือนุ่มๆ ของหญิงสาวหน้าตางดงามผู้รินชาให้เขาจากนั้นจึงพูดด้วยเสียงเรียบเฉยว่า“เรื่องนี้ข้ามิได้มาเจรจา แต่มาแจ้งให้ทราบ หวังว่าใต้เท้าวังจะให้ความร่วมมือบ้าง หาไม่แล้ว เกรงว่าพวกเราคงอยู่กันลำบากในวันหน้า”วังโซ่วเหยียนถึงกับเลิกคิ้วขึ้นมีคนมาเจรจาเช่นนี้ด้วยหรือ? โอหังเกินไปแล้วเ
Read more

บทที่ 76

“ทุกคนค่อยๆ พูดคุยกันตามเหตุผล อย่าทะเลาะกันเลย ใช้อารมณ์ไม่ใช่เรื่องดีเท่าใดนัก”แม้จะเอ่ยเช่นนั้น แต่ท่าทีของเขายังมุ่งมั่นอย่างมากดังเดิมไม่ยอมแบ่งพื้นที่ให้ฉินหมิง“ใต้เท้าวัง เจ้าอย่าลืมบุญคุณกันง่ายดายถึงเพียงนั้นเลย”ฉินหมิงยกชาขึ้นจิบอีกคำ พูดกับวังโซ่วเหยียนด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปวังโซ่วเหยียนชะงักไป“กระหม่อมทำอันใด?”“ข้าควบคุมโรคระบาดไว้ได้ ไม่ให้ลามมาถึงเมืองของเจ้า หรือเจ้าไม่ควรขอบคุณข้าหรือ?”วังโซ่วเหยียนเพียงยิ้มบางๆ ก่อนส่ายหัวตอบกลับเรียบๆ“ท่านนี่คือพูดเหลวไหลไร้สาระ โรคระบาดที่เมืองหลินเจียงก็ไม่ได้ลุกลามอะไรแต่แรก ต่อให้ท่านไม่มาจัดการ ก็ยังมีซ่งติ้งเซิงอยู่นี่”เดิมทีเขาก็เป็นขุนนางคลุกคลีในราชสำนักมาหลายปีเพียงไม่กี่คำ ก็สามารถลบล้างผลงานที่ฉินหมิงแสดงออกมาได้อย่างหมดจด“ช่างเถอะ พูดกับเจ้าไปก็ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องใช้วิธีจริงจังกันหน่อยแล้ว”ฉินหมิงโบกมือ ทั้งยังไม่โกรธวังโซ่วเหยียนและฟางเหวินเลี่ยงรู้สึกหนักอึ้งภายในใจฟางเหวินเลี่ยงถึงกับโพล่งออกมาอย่างโกรธเคืองว่า“ท่านอ๋องยังกล้าคิดจะทำลายเมืองเฉียนถังของกระหม่อมหรือ?”“นั่นรุนแรงเกิ
Read more

บทที่ 77

หลังฉินหมิงหาโรงเตี๊ยมพักผ่อนได้แห่งหนึ่งแล้วซุนเฉิงที่กำลังมีโทสะพลุ่งพล่านก็พาทหารจำนวนหนึ่งเข้าใกล้เมืองเฉียนถังเพราะครั้งนี้เขามีโทสะอยู่ ทั้งยังกังวลฟางเหวินเลี่ยงจะตอบโต้กลับซุนเฉิงจึงพาทหารจำนวนมากเกินมาตรฐานไปเล็กน้อยมาด้วยมีราวหนึ่งพันกว่านายนี่อยู่ในขอบเขตอำนาจของเขา สามารถรวมกำลังพลสูงที่สุดได้แน่นอนว่า เรื่องนี้ทำได้เพราะเว่ยกว่างซวินหลับตาข้าง ลืมตาข้าง“เปิดประตู!”หลังพาทหารเข้ามาแล้ว ซุนเฉิงก็มาหยุดต่อหน้าทหารรักษาการณ์แล้วตะคอกทหารรักษาการณ์พยายามอธิบายแต่เขาก็ไม่กล้าห้ามเพราะเว่ยกว่างซวินที่เดินทางตามซุนเฉิงมาทางด้านหลังสวมชุดขุนนางระดับผู้บัญชาการทหารมณฑลต่อให้สายตาแย่อย่างไร ก็สามารถสังเกตเห็นใบหน้าเปี่ยมโทสะของพวกเขาได้“ท่าน...ท่านแจ้งชื่อก่อน ข้าจะไปแจ้งใต้เท้าวัง”ซุนเฉิงสืบเท้าขึ้นไป อยากตบหน้าทหารอืดอาดคนนี้สักทีเว่ยกว่างซวินห้ามเขาไว้แล้ว พูดกับทหารว่า“เปิดประตู พวกเรามาตรวจสอบ”คนระดับผู้บัญชาการมลฑล มีทหารอยู่ในมือนับหมื่นนายไว้ใช้งานด้วยฐานะของเว่ยกว่างซวิน มาตรวจสอบค่ายทหารก็นับว่ามีเหตุผลภายในคูเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตำแหน่
Read more

บทที่ 78

ฟางเหวินเลี่ยงเป็นเพียงแม่ทัพรักษาการณ์อยู่แถบชายแดน ไฉนเลยจะรู้มากถึงเพียงนั้นได้ยินดังนี้ เขาเพียงทอดสายตามองวังโซ่วเหยียนด้วยความสงสัยวังโซ่วเหยียนพูดเนิบๆ ว่า“นั่นเพราะมีคนมากมายกล้าเล่นลูกไม้กับท่านอ๋อง สุดท้ายล้วนพบว่าตนเองสู้เขาในที่มืดไม่ได้”“สุดท้ายทุกคนทำได้เพียงสู้กับเขาอย่างเปิดเผยในที่สว่างอย่างไรเล่า”ฟางเหวินเลี่ยงรู้สึกว่าเหลวไหลอยู่บ้างเขาพ่นลมออกจมูกแล้วพูดว่า“ไฉนเลยจะร้ายกาจเพียงนั้น ยกยอกันเกินจริงจนเขากลายเป็นเทพเซียนไปแล้ว!”“ทุกคนล้วนเป็นคนธรรมดา ใครเก่งกว่าใครกันเล่า?”วังโซ่วเหยียนไม่ต่อต้าน เพียงแต่ความกังวลภายในใจเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆขณะเดียวกันเขาหวังว่าเซียวซูเฟยจะตอบกลับมาเร็วหน่อยทว่าวังโซ่วเหยียนไม่รู้ ต่อให้เซียวซูเฟยรู้ว่าเขาเผชิญหน้ากับความลำบาก ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยเขาอย่างไรเสียทางฝั่งเซียวฉีเหนียนก็เกิดเรื่องใหญ่มากกว่าในฐานะครอบครัวเดียวกัน เซียวซูเฟยย่อมช่วยเซียวฉีเหนียนก่อนแน่นอน นี่เป็นเรื่องต่อมาจดหมายจากหลิ่งหนานอยากส่งไปเมืองหลวง ภายใต้เงื่อนไขของยุคสมัยนี้ คาดว่าต้องใช้เวลาเดินทางนับสิบวันไปจนถึงครึ่งเดือนถึงตอนนั้นเร
Read more

บทที่ 79

“อ้อ...ได้ ได้”หวู่ชิงเหย่หน้าแดงก่ำ ยกจอกสุราขึ้นดื่มรวดเดียวหมดประโยคหยอกล้อที่เพิ่งนึกออกเมื่อครู่นี้ตอนนี้กลับติดอยู่ในลำคอ พูดไม่ออกแม้คำเดียวคนเรายามรู้สึกกระอักกระอ่วน มักจะแกล้งทำเป็นยุ่งหวู่ชิงเหย่เองก็เช่นกัน เขายื่นมือคลำไปคลำมาบนโต๊ะคีบเนื้อมากินหนึ่งชิ้น แล้วก็ตามด้วยถั่วลิสงอีกเม็ดจนกระทั่งเขาสังเกตเห็นลูกน้องที่ออกไปสืบข่าวกลับมาจึงถือโอกาสลุกขึ้น จับมือไพล่หลังรีบเดินออกไปนอกประตู“แค่กๆ สถานการณ์ในเมืองเป็นเช่นไร?”“ท่านแม่ทัพ ซุนเฉิงมาแล้ว เขายังพาผู้บัญชาการทหารมณฑลมาด้วยคนหนึ่งขอรับ”“ผู้บัญชาการทหารมณฑล? อ๋อ...เว่ยกว่างซวินสินะ!”“ท่านรู้จักเขาด้วยหรือขอรับ?”“เคยได้ยิน”หวู่ชิงเหย่พอมีธุระให้ทำ ก็ลืมความกระอักกระอ่วนเมื่อครู่นี้ไปหมดสิ้นเขารีบก้าวฉับไวไปหยุดข้างกายของฉินหมิง ก้มหน้ากระซิบเบาๆ ว่า“ท่านอ๋อง คนมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ซุนเฉิงหัวหน้าหน่วยย่อยคนหนึ่ง อีกคนคือผู้บัญชาการมณฑลเว่ยกว่างซวิน”ฉินหมิงที่กำลังดื่มสุราอยู่ปล่อยมือที่กอดเอวบางของหญิงงามออก พยักหน้าช้าๆ“ไป”“คุณชาย ยังไม่ได้จ่ายเงินเลยเจ้าค่ะ”พอเห็นฉินหมิงทำท่าจะลุกเดิน
Read more

บทที่ 80

ต่อให้เป็นคนสนิทที่ตามอยู่ข้างกายฟางเหวินเลี่ยง แต่ละเดือนได้กินของคาวแค่ไม่กี่ครั้งก็ถือว่ามากเพียงพอแล้วหวู่ชิงเหย่ขมวดคิ้ว ตะโกนลั่นด้วยความโกรธ“ยังจะกล้าบอกอีกว่าพวกเจ้าไม่ได้ตามจับตาดูท่านอ๋อง? เงินแค่นี้ยังไม่อยากจ่าย!”“ไม่ใช่ขอรับ พวกเรามาเพื่อคุ้มกันท่านอ๋องจริงๆ…”คนเหล่านั้นนั้นรีบโบกมือพลางถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยสีหน้าหวาดกลัว“เหลวไหล!”“พูดน่าฟังเหลือเกิน ตอนนี้ท่านอ๋องเดือดร้อน ไม่มีเงินจ่ายจะถูกกักตัวไว้แท้ๆ พวกเจ้าก็ยังไม่ยอมช่วย ฟางเหวินเลี่ยงสั่งให้พวกเจ้าคุ้มกันเช่นนี้หรือ?”“คือ...”ฉินหมิงตบไหล่หวู่ชิงเหย่เบาๆ แล้วกระโดดเข้ามารับบทผู้มีจิตใจดี“เหล่าหวู่ อย่าร้อนใจ สหายเหล่านี้คงไม่มีเงินติดตัวมาก อาจจะกำลังรอให้คนที่บ้านเอามาให้ก็ได้”“จัดคนไว้สองสามคน คอยเฝ้าพวกเขาที่นี่ ช่วยกันรวบรวมเงินมาจ่ายให้เสร็จ พวกเราค่อยไปทำธุระกันต่อ”“พ่ะย่ะค่ะ!”หวู่ชิงเหย่ก็จับพวกที่คอยสะกดรอยฉินหมิงมัดไว้เรียบร้อยหลังจากจัดคนคอยเฝ้าดูแลแล้ว เขาก็เดินตามฉินหมิงออกจากโรงเตี๊ยมอันที่จริงฉินหมิงก็ไม่ได้คิดจะให้พวกนั้นจ่ายเงินจริงๆ เพียงแต่ต้องการสั่งสอนพวกเขา ฉวยโอก
Read more
PREV
1
...
5678910
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status