Semua Bab อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Bab 111 - Bab 120

242 Bab

บทที่ 111

เมื่อกลับถึงตำหนักเว่ยยาง เจียงหวนก็เก็บปิ่นปักผมที่เจียกุ้ยเฟยมอบให้ทันทีตอนแรกคิดว่าเก็บให้พ้นตา จะได้ไม่กวนใจ เก็บไว้ในมุมให้หนูแทะเป็นอาหารแต่คิดไปคิดมา หากหลงกลของเจียกุ้ยเฟยและถูกกล่าวหาว่าไม่ให้ความเคารพนางสนมขึ้นมาปัญหาในภายภาคหน้าคงจะใหญ่โตท้องฟ้ามืดลงเรื่อย ๆ เจียงหวนล้มตัวนอนบนเตียง ทบทวนเรื่องราวทั้งหมดในวันนี้แต่ทำอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเจียกุ้ยเฟยกำลังทำอะไรกันแน่สุดท้ายก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวเช้าวันรุ่งขึ้น เจียงหวนเพิ่งจะแต่งตัวเสร็จ หมอม่อจากตำหนักฉือหนิงก็เข้ามา“ไทเฮามีรับสั่งให้พระสนมจวงผินไปเข้าเฝ้าเพคะ”หัวใจของเจียงหวนเต้นแรงไทเฮาไม่ทรงโปรดนางมาตลอด จู่ ๆ ก็เรียกไปเข้าเฝ้าแบบนี้…ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นางคิดว่าวังหลวงต้องไม่ถูกโฉลกกับนางเป็นแน่ มีแต่เรื่องแต่ราวทุกวัน ยังไม่ทันจะได้พักสบาย ๆ ปัญหาก็เข้ามาอีกแล้วตำหนักฉือหนิงให้บรรยากาศเคร่งขรึมกว่าตำหนักฉางเล่อ กลิ่นกำยานอบอวล ไทเฮานั่งอยู่บนที่ประทับเจียกุ้ยเฟยก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน กำลังทุบไหล่ให้ไทเฮาอย่างสนิทสนม“หม่อมฉัน ถวายพระพรไทเฮา” เจียงหวนทำความเคารพอย่างนอบน้อมไทเฮาไม่ได้สั
Baca selengkapnya

บทที่ 112

“ฝีมือการใช้มีดของน้องหญิงสุดยอดยิ่งนัก ไม่แปลกที่ฝ่าบาททรงโปรด”ภายในห้องเครื่อง เจียกุ้ยเฟยยืนอยู่ข้างเจียงหวน กลิ่นเครื่องหอมจากตัวนางฉุนจนเจียงหวนเวียนหัวมีดทำครัวในมือเจียงหวนหยุดชะงัก เกือบบาดนิ้วตัวเองนางสูดหายใจเข้าลึก ๆ หั่นหัวไชเท้าเป็นเส้นต่อในใจด่าบรรพบุรุษของเจียกุ้ยเฟยไปสิบแปดชั่วโคตรพระสนมกุ้ยเฟยผู้นี้เกิดปีจอหนังทากาวหรืออย่างไร?จะยืนใกล้อะไรขนาดนั้น ศีรษะแทบจะมุดลงไปในเขียงอยู่แล้วไหน ๆ ก็หน้าหนาขนาดนั้น ลองเฉือนดูสักหน่อยดีหรือไม่ความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมา เจียงหวนก็ต้องตกใจกับตัวเองนางกลายเป็นคนใจคอคับแคบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?“สีหน้าของน้องหญิงไม่ค่อยสู้ดีเลย?” เจียกุ้ยเฟยแสร้งทำเป็นห่วงใย “หรือว่าจะเหนื่อย?”“ขอบพระทัยพระสนมที่ทรงเป็นห่วง หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ”แม้ปากจะพูดเช่นนั้น แต่การเคลื่อนไหวของมือกลับเร็วขึ้นอย่างบ้าคลั่ง อยากรีบจบความทรมานนี้โดยเร็วเจียกุ้ยเฟยไม่ได้อยู่ว่างเช่นกัน สั่งให้พ่อครัวหลวงทำสำรับเพิ่มอีกสองสามอย่างเวลาค่อย ๆ ล่วงเลยไป ไม่ทันรู้ตัวก็เป็นเวลาเที่ยงวันในที่สุด สำรับทั้งหมดก็เป็นอันจัดเตรียมเสร็จสิ้นในตอนที่ก
Baca selengkapnya

บทที่ 113

อยากให้แบ่งปันความโปรดปรานโดยเท่าเทียมมิใช่หรือ?ตำหนิว่านางไม่มีทายาทมิใช่หรือ?เช่นนั้นก็ให้พระสนมกุ้ยเฟยผู้งดงามอ่อนหวานปรนนิบัติไปก็แล้วกันนางจงใจถอยออกมาครึ่งก้าว และยังเก็บซิ่งเหรินซู[1]ที่อยู่ด้านในแขนเสื้อให้อยู่ลึกเข้าไปอีกในเมื่อต้องการให้ “พี่น้องปรองดอง” นางก็ไม่จำเป็นต้องมอบขนมนี้ให้เขาแต่เพียงผู้เดียวอีกอย่างไรเจียกุ้ยเฟยก็คงเตรียมขนมที่ถนัดอย่างขนมรังนกทองคำ หรือไม่ก็ขนมไข่มุกหยกขาวกรอบไว้อยู่แล้วกระมัง?ไม่แน่ว่าจะป้อนเข้าปากด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำ!ความคิดนี้ทิ่มแทงนางเหมือนหนามเล็ก ๆ ทำให้รู้สึกอึดอัด“น้องหญิงจวงผินยืนทำอันใด?” เจียกุ้ยเฟยแสร้งทำเป็นประหลาดใจ “รีบนั่งสิ”เจียงหวนฝืนใจนั่งลงตรงข้ามฮั่วหลิน ทั้งสามคนนั่งล้อมโต๊ะขนาดไม่ใหญ่นัก บรรยากาศแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูกสายตาของฮั่วหลินราวกับมีอุณหภูมิ มองมาที่หน้าของเจียงหวนเป็นระยะ ๆเจียงหวนจ้องข้าวขาวในชาม ค่อย ๆ นับทีละเม็ด ไม่ยอมเงยหน้าสบตากับเขา[เหตุใดวันนี้นางไม่คีบอาหารให้เรา?][แม้แต่จะมองก็ยังไม่มอง]เสียงในใจของฮั่วหลินดังมาเป็นระลอก ๆ เจียงหวนได้ยินอย่างชัดเจนแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
Baca selengkapnya

บทที่ 114

“หม่อมฉันไม่ได้โกรธจริง ๆ เพคะ”มุมปากของเจียงหวนยกโค้งเป็นรอยยิ้มงดงาม แต่มองอย่างไรก็รู้ว่าเป็นรอยยิ้มที่ฝืนแทนที่จะบอกว่าเป็นนางสนม มิสู้บอกว่าเป็นเพียงแม่ครัวของฮ่องเต้ยังจะถูกต้องกว่ายิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่โบราณมา ฮ่องเต้ก็มีสามวังหกตำหนัก ฮั่วหลินจะรักจะโปรดปรานผู้ใด ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนางฮั่วหลินเคาะนิ้วมือเรียวยาวลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา จังหวะไม่เร็วไม่ช้า“เช่นนั้นเหตุใดวันนี้ไม่คีบสำรับให้เรา?”“ก็มีเจียกุ้ยเฟยคอยปรนนิบัติอยู่แล้วมิใช่หรือเพคะ”เจียงหวนกะพริบตาพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจ “หม่อมฉันจะกล้าแย่งความสนใจได้อย่างไร”ในคำพูดนี้มีความหึงหวงที่แม้แต่ตัวนางเองก็ยังไม่ทันรู้ตัว[ปากแข็ง][ตาแดงขนาดนี้ยังจะบอกว่าไม่โกรธอีก][เราเข้าใจแล้ว สรุปคือ เจียกุ้ยเฟยกับไทเฮาร่วมมือกันรังแกนาง][ดี หากเป็นเรื่องอื่นคงไม่เป็นไร เราแบกรับเองคนเดียว แต่หากรังแกนาง เราจะไม่ยอมเด็ดขาด][มิหนำซ้ำยังกล้าล้ำเส้นขนาดนี้? หากไม่สั่งสอนสักหน่อยคงไม่รู้สำนึก!]เมื่อคิดดังนี้ สีหน้าของฮั่วหลินพลันเย็นยะเยียบ หว่างคิ้วปกคลุมด้วยความเย็นชา“วันนี้เจียกุ้ยเฟยมาพร้อมกันกับเจ้าได้อย่างไร น
Baca selengkapnya

บทที่ 115

“ไม่ทราบว่าจะให้ผู้ใดหรือ?” เสียงของเขามีความยินดีอย่างเห็นได้ชัด เสมือนจับจุดอ่อนนางได้เจียงหวนอับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี พยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนเขา ย่อตัวลงเก็บขนมที่แตกกระจาย“ตอน ตอนแรกก็จะให้ฝ่าบาทเพคะ…”จบแล้ว เผลอพูดออกไปแล้วเปลี่ยนเป็นบอกว่าให้สุนัขกินยังทันหรือไม่?มือของเจียงหวนสั่นอย่างรุนแรงประหนึ่งเป็นโรคสันนิบาตลูกนก เก็บอยู่หลายครั้งแต่ก็เก็บไม่ขึ้นจู่ ๆ ฮั่วหลินก็ย่อตัวลง ใช้มือหนาของเขาจับมือนางไว้“แตกแล้วก็ไม่ต้องเอาหรอก”“ไม่ได้!” เจียงหวนหลุดปากพูดออกมา “หม่อมฉันทำมาตั้งนาน”นางว่าจบก็รู้สึกนึกเสียใจหนักกว่าเดิมนี่ก็เท่ากับยอมรับว่าตั้งใจทำมาเพื่อเขาไม่ใช่หรือไร?ดวงตาของฮั่วหลินเป็นประกายเขาเก็บซิ่งเหรินซูที่ยังสมบูรณ์ชิ้นหนึ่งขึ้นมากัดหนึ่งคำฮั่วหลินค่อย ๆ เคี้ยวอย่างละเอียด สายตาจ้องไปที่หน้านางตลอด “ขนมฝีมือเจ้า เราชอบที่สุดแล้ว”เป็นครั้งแรกที่คำพูดของฮั่วหลินตรงไปตรงมามากกว่าเสียงในใจเจียงหวนมองเขาอึ้ง ๆ ความอัดอั้นที่อยู่ภายในใจ สลายหายไปเกินกว่าครึ่ง นางมองเศษขนมที่ติดอยู่บริเวณมุมปากของฮั่วหลิน เอื้อมมือไปหยิบขนมให้อีกชิ้นโดยไม่รู้ตัว
Baca selengkapnya

บทที่ 116

หลังจากที่เจียงหวนกลับไป ภายในห้องทรงพระอักษรก็กลับคืนสู่ความเงียบฮั่วหลินมองสำรับหน้าตาประณีตบนโต๊ะ หว่างคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเขาจำลำดับการจัดวางสำรับเมื่อครู่ของเจียกุ้ยเฟยได้อย่างชัดเจนเริ่มจากผัก ตามด้วยเนื้อ จากนั้นเป็นน้ำแกง แม้แต่ตำแหน่งที่วางก็ยังเหมือนกับของเจียงหวนแบบไม่ผิดเพี้ยนนางไม่มีทางรู้รายละเอียดเหล่านี้ได้เอง เว้นเสียแต่ว่า…นางส่งคนมาสอดแนมอยู่รอบตัวเขาดวงตาฮั่วหลินฉายประกายเย็นยะเยียบ ส่งเสียงเรียกต่ำทุ้ม “หวังเต๋อกุ้ย”ขันทีเฒ่าโค้งตัวเดินเข้ามาทันที “ฝ่าบาท”“ตรวจสอบ”เสียงของฮั่วหลินราบเรียบ กระนั้นกลับเจือไว้ซึ้งความน่าเกรงขามที่ไม่อาจโต้แย้ง“ผู้ใดในห้องทรงพระอักษรไปมาหาสู่กับตำหนักฉางเล่อบ่อย สืบมาให้ชัดแล้วกำจัดให้หมด”หวังเต๋อกุ้ยสั่นกลัว เข้าใจความหมายของฮ่องเต้พอดีฝ่าบาทไม่มีทางพูดเรื่องนี้โดยไร้สาเหตุ ต้องเพราะรอบกายมีสายตาที่ไม่ควรมีอย่างแน่นอนเขาบกพร่องต่อหน้าที่เอง ปล่อยให้ผู้อื่นแฝงตัวเข้ามาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวได้เป็นครั้งแรกที่หัวหน้าขันทีผู้ยิ้มแย้มอยู่เสมอ เผยสีหน้าเย็นชาออกมา“กระหม่อมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” หวังเต๋อกุ้ยรับ
Baca selengkapnya

บทที่ 117

เพิ่งจะเกิดเรื่อง ไทเฮาก็สั่งให้ไปเข้าเฝ้า คิดว่าต้องเป็นเรื่องของห้องทรงพระอักษรในวันนี้แน่นอนยามที่เจียกุ้ยเฟยมาถึง ไทเฮากำลังชงชา“มาแล้วหรือ? นั่งสิ”ไทเฮาทำการแบ่งชาอย่างชำนาญโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองเจียกุ้ยเฟยทำความเคารพแล้วนั่งลงอย่างระมัดระวัง ปลายนิ้วสั่นเล็กน้อยขณะรับถ้วยชา“ได้ยินว่าวันนี้ฝ่าบาททรงจัดการคนที่เจ้าส่งไปแฝงตัวที่ห้องทรงพระอักษรหรือ?”เป็นเพราะเรื่องนี้จริงด้วย เจียกุ้ยเฟยรีบคุกเข่าลงทันทีหากมีเพียงคนของนางที่ถูกจับได้ก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับเดือดร้อนถึงไทเฮาด้วย…“หม่อมฉันไร้ความสามารถเพคะ”“ลุกขึ้น” จู่ ๆ ไทเฮาก็ยิ้มออกมา “ข้าไม่ได้โทษเจ้า”เจียกุ้ยเฟยเงยหน้าขึ้นอย่างไม่มั่นใจ สบตากับสายตาที่แฝงความหมายของไทเฮา“ในเมื่อฮ่องเต้รู้แล้ว เช่นนั้นพวกเราก็ไปอย่างเปิดเผยจะดีกว่า”เจียกุ้ยเฟยงุนงง “ความหมายของไทเฮาคือ?”“เข้ามาใกล้ ๆ ข้าจะพูดให้ฟัง”เจียกุ้ยเฟยโน้มตัวเข้าไปหาทันที แผนการครั้งใหม่ค่อย ๆ ก่อตัวตกค่ำ นอกตำหนักเฉียนชิงฮั่วหลินเพิ่งจะตรวจฎีกาเสร็จ กำลังจะสั่งให้คนไปเรียกเจียงหวนมาทานมื้อค่ำหวังเต๋อกุ้ยก็เดินเร่งรีบเข้ามา สีหน้าแปลกประหลาด
Baca selengkapnya

บทที่ 118

ภายในตำหนักเว่ยยาง เจียงหวนเพิ่งจัดจานให้กุ้งมรกตเสร็จ เนื้อกุ้งขาวใส คลุกน้ำสีมรกตน่ากิน“พระสนม ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเพคะ” เสี่ยวเจาบอกเสียงเบา “พวกเราไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทได้แล้ว”เจียงหวนกำลังจะตอบ แต่แล้วนางกำนัลคนหนึ่งกลับวิ่งลนลานเข้ามา ลืมแม้แต่จะทำความเคารพ“พระสนม…ฉางกุ้ยเหรินไปที่ตำหนักเฉียนชิง บอกว่า ได้รับคำสั่งจากไทเฮาให้ไปถวายงานเพคะ”ถ้อยคำนี้ทิ่มเข้ากลางใจเจียงหวนเหมือนเข็มนางพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ปิดกล่องสำรับในมือช้า ๆยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห!“เช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้ไม่ต้องไป”ว่าจบก็นำอาหารแต่ละจานออกมาวางเต็มโต๊ะเสี่ยวเจางงงัน “แต่ฝ่าบาทบอกให้ท่าน…”“ฝ่าบาททรงยุ่งอยู่”เจียงหวนยกยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลง“พวกเรากินกันเองเถอะ”เหอะ บุรุษก็เป็นเช่นนี้มีแต่คนหลายใจที่ต่อหน้าอย่างหนึ่ง ลับหลังอย่างหนึ่งนางจะเป็นเครื่องทำอาหารไร้หัวใจ ฟู่ นางไม่โกรธเจียงหวนหีบกุ้งเข้าปาก แต่กลับไม่รับรู้ถึงรสชาติใด ๆ ตอนกลางวันก็บอกว่าชอบขนมฝีมือนางที่สุด แต่เพียงครู่เดียวก็หันไปกิน ‘ขนม’ ฝีมือคนอื่นนางกินเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เสมือนจะกลืนความน้อยอกน้อยใจทั้งหมดลงไปกุ้งผัด
Baca selengkapnya

บทที่ 119

นางรู้ ภายในเวลาไม่เกินครึ่งวัน ข่าวเรื่องที่นางสูญเสียความโปรดปรานก็จะแพร่ไปทั่วทั้งวังหลังเมื่อถึงเวลานั้น จะมีคนเข้ามาซ้ำเติมและเย้ยหยันนางมากกว่านี้“ถอยไป” นางฝืนยืดหลังขึ้นตรง เล็บจิกเข้าไปในแขนของหมอม่อเฉินเจาอี๋ไม่ยอมลดละ “ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้ น้องหญิงไปปรนนิบัติฝ่าบาท กระไรกัน ปรนนิบัติจนเข่าอ่อนเลยหรือ?”นางกำนัลรอบตัวเฉินเจาอี๋ปิดปากหัวเราะคิกคัก ไม่ให้เกียรติฉางกุ้ยเหรินแม้แต่น้อยดวงตาขอฉางกุ้ยเหรินฉายแววอาฆาต กระนั้นก็ยังคงปั้นหน้ายิ้มออกมา“พี่หญิงล้อข้าเล่นแล้ว ข้าเพียงแต่ข้อเท้าเคล็ดเท่านั้น”เฉินเจาอี๋มองไปที่หัวเข่าของฉางกุ้ยเหรินอย่างแฝงความหมาย“ถ้าเช่นนั้น น้องหญิงก็พักผ่อนเถิด อย่าเดินเพ่นพ่าน”ฉางกุ้ยเหรินแค่นเสียงเย็น “คงไม่รบกวนให้พี่หญิงเป็นห่วง”นางว่าจบก็พาคนเดินจากไปทุกย่างก้าวราวกับเหยียบบนคมมีด ถึงอย่างนั้นก็ยังคงรักษาท่าทีสูงส่ง กระทั่งเข้าสู่ตำหนักบรรทมถึงค่อยทรุดลงกับพื้นอีกด้านหนึ่ง ภายในตำหนักฉือหนิง ไทเฮากำลังเสวยมื้อเช้าปึง—ประตูตำหนักถูกผลักเปิดอย่างแรง ฮั่วหลินสืบเท้าเข้ามา ด้านหลังมีข้ารับใช้ตามมาอย่างหวาดกลัวไทเฮาค่อย ๆ เ
Baca selengkapnya

บทที่ 120

หลังจากที่ฮั่วหลินกลับไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ตำหนักฉือหนิงก็เรียกตัวหมอหลวงเป็นการเร่งด่วนเจียงหวนกำลังทำโจ๊กเมล็ดบัวอยู่ในห้องครัว ไอน้ำร้อนระอุทำให้แก้มนางเป็นสีชมพู“พระสนม!” เสี่ยวเจาวิ่งเข้ามา “มีข่าวจากตำหนักฉือหนิง ไทเฮาทรงหมดสติอย่างฉับพลัน หมอหลวงตรวจแล้วบอกว่าเป็นเพราะโทสะโจมตีพระทัย พระสนมจากทุกตำหนักต่างไปถวายการดูแลเพคะ”ช้อนหยกในมือเจียงหวนกระทบกับขอบหน้า ฮั่วหลินเพิ่งจะไปเข้าไป ไทเฮาก็ประชวรทันที ช่างบังเอิญยิ่งนักนางพลันนึกถึงคำพูดของฮั่วหลินเมื่อวานที่ว่า “จะไม่ให้ไทเฮาสมปรารถนา” หัวในราวกับถูกขนนกปัดผ่านเบา ๆหรือว่าฮ่องเต้จะทรงใช้อำนาจเบ็ดเสร็จจริง ๆ?เสี่ยวเจาเห็นเจียงหวนไม่ยี่หระก็อดถามไม่ได้ว่า “พระสนมจะไม่ไปดูหน่อยหรือเพคะ?”เจียงหวนค่อย ๆ คนโจ๊ก “จะรีบร้อนทำอันใด ใช่ว่าไทเฮาจะไม่มีคนปรนนิบัติสักหน่อย”อีกอย่าง ผู้ที่ไทเฮาไม่ทรงปลื้มที่สุดก็คือนางหากไปถึงแล้วไทเฮากริ้วจนกระอักโลหิตขึ้นมา นางก็เตรียมตัวนอนในโลงศพได้แล้วเรื่องน่าอึดอัดแบบนี้ นางย่อมไม่เอามาใส่ตัวเองแต่เสี่ยวเจายังคงยืนอยู่ที่เดิม มิหนำซ้ำยังลดเสียงลง“ยังมีเรื่องประหลาดอีกเรื่องด้วยเ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
1011121314
...
25
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status