All Chapters of อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Chapter 141 - Chapter 150

242 Chapters

บทที่ 141

แต่หากไม่รับไว้ องค์หญิงคงมิยอมปล่อยไปโดยง่ายเป็นแน่ฝ่าบาทเพียงตรัสว่ามิให้รับเครื่องประดับจากองค์หญิง สิ่งนี้ไม่นับเป็นเครื่องประดับคงจะมิเป็นปัญหาอันใดกระมังอย่างมากก็ค่อยทำอาหารเลี้ยงปลอบใจภายหลัง“เช่นนั้นก็ ขอบพระทัยองค์หญิงเพคะ”เมื่อเจียงหวนรับไว้นั้น พลันได้รับท่าทีฮึดฮัดเบา ๆ ที่เต็มไปด้วยความภูมิใจของอายีน่ากลับมา“ในเมื่อมอบของให้เจ้าแล้ว เช่นนั้นข้าก็ควรจะ...”เจียงหวนพลันรีบร้อนกล่าวออกมาว่า “เมื่อวานองค์หญิงบอกเล่าเกี่ยวกับอาหารของโม่เป่ยให้หม่อมฉันฟังมากมาย หม่อมฉันได้จดเอาไว้หมดแล้วเพคะ ทั้งยังปรับปรุงสูตรอาหารเล็กน้อยเพื่อที่จะนำมาเป็นสำรับอาหารมื้อเช้าอีกด้วย”ของที่อายีน่าส่งมาให้นั้นมีค่ามากเกินไป หากรับมาเฉย ๆ โดยมิมีสิ่งใดตอบแทน ทำเอาเจียงหวนรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่งท่าทีที่มิอยากกลับตำหนักของอายีน่าเมื่อวานนี้ องค์หญิงคงจะชื่นชอบอาหารที่นางทำไม่น้อย“ในเมื่อองค์หญิงเสด็จมาเยือนเช่นนี้ ไม่สู้รั้งอยู่ชิมอาหารดูสักหน่อยหรือเพคะ?”เมื่อได้ยินว่ามีอาหารใหม่ ๆ นั้น นัยน์ตาสีเขียวมรกตของอายีน่าพลันแปล่งประกายขึ้นมาในทันที แต่เมื่อนางตระหนักถึงท่าทีที่ไม่
Read more

บทที่ 142

หลายวันต่อมา ห้องเครื่องเล็ก ๆ ภายในตำหนักเว่ยหยางพลันกลับคืนสู่ความเงียบสงบอย่างหาได้ยากควันไฟที่เคยลอยโพยพุ่งกลับถูกแทนที่ด้วยฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายเหนือสนามฝึกม้าของวังหลวง และตามมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของเจียงหวนดังออกมาเป็นระยะ สลับกับเสียงดุด่าของอายีน่าที่มักจะบ่นสอนนางด้วยความเหนื่อยหน่ายใจว่า“เจียงหวน หลังตรง! นี่เจ้าเป็นบะหมี่หรืออย่างไร? เพียงแค่ลมพัดผ่านเล็กน้อยเจ้าก็จะล้มลงเสียแล้ว?”“ขาหนีบเอาไว้ หนีบเอาไว้เข้าใจหรือไม่! มิใช่ให้เจ้าใช้เข่าแทงไปที่ท้องม้า มันหาใช่ศัตรูของเจ้าไม่!”“มองไปข้างหน้า เจ้าเอาแต่มองหูม้าทำไมกัน? มันบอกทางเจ้าได้หรือ?”เจียงหวนที่สวมชุดขี่ม้าพอดีตัวนั้น ยามนี้นางกำลังกอดคอม้าเอาไว้แน่นด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด ทั่วร่างแทบจะตัวติดไปกับหลังม้าแล้ว“อ๊ากก! ช้าหน่อย ช้าลงหน่อย!”นางเลือกม้าตัวเมียที่ชื่อว่าถ่าเสวี่ย ว่ากันว่ามันเป็นม้าที่เชื่องที่สุดในสนามฝึกแล้ว ทว่า ในสายตาของเจียงหวนในยามนี้ มันน่ากลัวยิ่งกว่าม้าพันธุ์ที่ดุร้ายจากแคว้นโม่เป่ยอีกต่างหากทุกครั้งที่ถ่าเสวี่ยส่งเสียงหายใจฟึดฟัดหรือสะบัดหางไปมาเพียงเล็กน้อย นั่นก็ทำใ
Read more

บทที่ 143

ผู้ที่เคยสรรหาอาหารมาส่งให้กับเขามากมายอยู่เสมอ ยามนี้กลับหายหลบเข้าไปในกลีบเมฆก็ไม่ปานในคราแรก เขายังคิดว่าเจียงหวนอาจจะมีธุระหรือรู้สึกเหนื่อยต้องการพักผ่อนทว่า เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งวัน...สองวัน...มิต้องเอ่ยถึงขนมหวานทำมือ แม้แต่เงาของเจ้าของร่างฮั่วหลินก็ยังไม่เห็นยามที่เขาเอ่ยถามกับหวังเต๋อกุ้ยนั้น หวังเต๋อกุ้ยก็เอาแต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ กล่าวว่าเจียงหวนกำลัง...ยุ่งอยู่?ฮั่วหลินนึกหงุดหงิดเสียจนโยนฎีกาเล่มหนึ่งลงบนโต๊ะ พร้อมทั้งพู่กันที่จุ่มน้ำหมึกจนชุ่มเขียนจรดลงไปด้วยอักษรตัวใหญ่ว่า “ผ่าน”กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับองค์หญิงแคว้นโม่เป่ยหรือ ว่าจะต้องทำเช่นไรถึงจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าตายได้?ในหัวของฮั่วหลินพลันอดคิดถึงสายตาที่ราวกับเต็มไปด้วยประกายไข่มุกของเจียงหวนไปไม่ได้ที่ ทั้งยังมีใบหน้าที่มองอย่างไรก็นึกรู้สึกรำคาญใจของอายีน่าอีก“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ เจียกุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ พระสนมตรัสว่าลงมือเคี่ยวน้ำแกงโสมมามอบให้กับพระองค์ด้วยตนเอง” หวังเต๋อกุ้ยรวบรวมความกล้ารายงานออกไปฮั่วหลินได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปม ก่อนจะกล่าวออกมาโดยไม่ต้องคิดเลยว่า “ไม่พบ ไล่ให้นางกลับไปเสีย!”ยามนี้
Read more

บทที่ 144

ทางด้านของเจียงหวนนั้น หาได้รับรู้ถึงความอิจฉาของฮั่วหลินไม่ นางยังคงไปเรียนขี่ม้าอย่างมีความสุขกับอายีน่าทุกวันวันนี้ยามที่นางขี่เจ้าถ่าเสวี่ย ภายใต้การจับตามองอย่างใกล้ชิดของอายีน่านั้น นางสามารถสั่งให้มันเริ่มวิ่งเหยาะ ๆ ได้แล้วแม้ว่าร่างกายยังคงแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ไปบ้าง อย่างน้อยนางก็สามารถควบคุมทิศทางม้าได้ด้วยตัวเองแล้ว เสียงกรีดร้องที่เคยดังขึ้น พลันกลายเเป็นเสียงถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาแทนการพัฒนาที่เชื่องช้านั้น กลับเพียงพอที่จะให้อายีน่าพลั้งปากเอ่ยคำว่า “พอใช้ได้” ออกมา จากที่มักจะเอ่ยวาจาเสียดสีเป็นปกติทุกครั้ง“หยุด! หยุด! เจียงหวน ให้เจ้าวิ่งเหยาะ ๆ หาใช่ให้เจ้าบังขับม้าให้วิ่งเร็วขึ้นไม่! เจ้ารู้วิธีบังคับบังเหียนหรือไม่!” เสียงตะโกนของอายีน่าพลันดังไปทั่วสนามม้าอีกครั้งเจียงหวนได้แต่ร้องคร่ำครวญอยู่ภายในใจ พลางพยายามที่จะรั้งบังเหียนด้วยความว้าวุ่นแต่ในขณะเดียวกันนั้น พลันมีเสียงฝีม้าที่ดังจากระยะไกลวิ่งทะยานเข้ามา อาชาสีดำทั่วตัวขนาดใหญ่ รูปร่างปราดเปรียวราวกับสายฟ้าสีดำที่พุ่งเข้ามายังสนามม้าแห่งนี้ บนหลังม้านั้น พลันมีบุรุษรูปงามในชุดอาภรณ์เสื้อคลุม
Read more

บทที่ 145

ยุทธวิธี “บังเอิญเจอ” ของฮั่วถิงนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งเสียจน ทำเอาผู้คนนึกอึดอัดเสียจนหายใจไม่ออกเขาทำตัวราวกับเป็นก้อนเมฆสีดำที่อยู่ในสนามม้า ไม่ว่าอย่างไรก็สลัดไม่พ้น ทั้งยังลอยตัวอยู่เหนือการควบคุมของเจียงหวนและอายีน่าเจียงหวนรู้สึกว่านางหาได้มาเรียนขี่ม้าไม่ แต่กำลังฝึกฝนการหลบเลี่ยงขั้นสูง ที่ต้องคอยหลบเลี่ยงจากการรบกวนจากฮั่วถิงอยู่ตลอดเวลาพระเจ้า! ได้โปรด ช่วยส่งสายฟ้าลงมาผ่าคนน่ารำคาญผู้นี้ให้กลับไปยังบ้านเกิดของตนเองหน่อยเถิดหรือไม่ก็ให้ถ่าเสวี่ยจู่ ๆ ก็ตื่นตระหนกตกใจเตะเขาออกไปให้ไกลเสียเจียงหวนได้แต่ลอบถอนหายอยู่ภายในใจ พร้อมทั้งพยายามที่จะตั้งสมาธินางพยายามเมินเฉยต่อสายตาที่เอาแต้จ้องมองนางไม่ห่าง ทั้งยังต้องพยายามควบคุมถ่าเสวี่ยให้วิ่งเหยาะ ๆ เลี้ยวไปมาอีกด้วยดูจากสีหน้าของอายีน่าที่ดำราวกับก้นหม้อแล้วนั้นนางออกแรงกำเชือกที่กุมบังเหียนของตนเองเสียจนเรียวนิ้วขาวซีด ดวงตาสีมรกตพลันลุกโชนไปด้วยความเกรี้ยวกราดน้ำเสียงดุดันที่เอ่ยด่าทอเจียงหวนออกมานั้น นางพยายามเป็นอย่างมากที่จะสะกดกลั้นความรังเกียจที่มีต่อฮั่วถิงเอาไว้ เพื่อมิให้มันยระเบิดออกมา“ให้เจ้าฝึกเลี้ย
Read more

บทที่ 146

ทันใดนั้น สายบังเหียนที่ผูกม้าไว้ก็ขาดสะบั้นอย่างรุนแรงม้าสีน้ำตาลแดงราวก้อนน้ำมันถูกจุดไฟ ดวงตาสีแดงก่ำ พุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่งไปยังใจกลางคอกม้า มุ่งหน้าไปยังทางที่อายีน่าอยู่สีหน้าของอายีน่าเปลี่ยนไปทันที พฤติกรรมที่บ้าคลั่งของม้า บ่งบอกว่าได้รับความกดดันอย่างยิ่ง“องค์หญิง ระวังเพคะ!” เจียงหวนกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวอายีน่าเป็นเด็กหญิงจากทุ่งหญ้า ปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วจนน่าประหลาดใจขณะที่ม้าสีน้ำตาลแดงกำลังจะพุ่งเข้าใส่ นางก็ดึงสายบังเหียนอย่างกะทันหัน บังคับม้าให้หันเปลี่ยนทิศได้ทันขณะเดียวกัน ร่างกายของอายีน่าที่ยืดหยุ่นอย่างเหลือเชื่อก็เอียงไปด้านข้างทีด้านหลังที หลบการชนประสานงาของม้าสีน้ำตาลแดงได้อย่างหวุดหวิดกระนั้น แม้อายีน่าจะหลบได้แล้ว แต่ความตื่นตระหนกที่เกิดจากม้าสีน้ำตาลที่ควบคุมไม่ได้ ราวกับก้อนหินที่ร่วงลงไปในทะเลสาบอันสงบนิ่ง ก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ไปทั่วคอกม้าทันทีผู้ดูแลคอกม้าเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงเรียกครูฝึกม้ามาจัดการม้าที่วิ่งหนี แต่ก็สายเกินไปแล้วมองเห็นเพียงท่าเสวี่ยที่อยู่ใต้ร่างเจียงหวน ส่งเสียงร้องดังยาวด้วยความหวาดกลัว ขนทั่วร่างลุก
Read more

บทที่ 147

นัยน์ตาของอายีน่าหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าเพิ่งจะรอดพ้นจากอันตราย กระโดดลงจากหลังม้าราวกับคนบ้า พุ่งไปหาเจียงหวนทันที“เจียงหวน! เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”นางคุกเข่าลงข้างๆ เจียงหวน อยากเอื้อมมือออกไปแตะตัวแต่ก็ไม่กล้าดวงตาสีมรกตแดงก่ำไปด้วยเลือด นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นนางไม่เคยเกลียดความประมาทของตัวเองมากเท่านี้มาก่อนเมื่อนึกย้อนกลับไป กลิ่นแปลกๆ ที่ได้กลิ่นบนผ้าเช็ดหน้าระหว่างพักนั้น ไม่ใช่เพราะคิดไปเอง!มีคนตั้งใจจะทำร้ายนาง แต่ด้วยความผิดพลาด เจียงหวนจึงพลอยเดือดร้อนไปด้วยฮั่วถิงพลาดเป้า ความกังวลที่แสร้งทำอย่างระมัดระวังบนใบหน้าก็หยุดนิ่งไปในพริบตา เปลี่ยนเป็นสีหน้าบูดบึ้ง แสดงความไม่พอใจและตกตะลึงออกมาเห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเจียงหวนยอมจะเลือกหักขาตัวเอง แทนที่จะปล่อยให้เขาได้สัมผัสตัวนางการต่อต้านอย่างดุเดือดนี้ เปรียบเสมือนมีมือที่มองไม่เห็นพุ่งมาตบหน้าเขาแต่เขาตอบสนองเร็วมาก ทันทีนั้นก็แสดงสีหน้าวิตกกังวลอย่างยิ่งออกมา ตะโกนใส่ข้าราชบริพารในวังที่กำลังหวาดกลัวเสียงดังชัด“พวกเจ้าตาบอดกันหมดแล้วหรือ? พระสนมจวงตกม้าบาดเจ็บ เลือดไหลจะหมดตัวอยู
Read more

บทที่ 148

“นี่ เห็นไหม? มู่จวิ้นอ๋องกังวลมากเลย”“ใช่น่ะสิ เมื่อครู่ที่พุ่งออกไปช่วงพระสนมจวงเร็วอย่างกับอะไรดี”“จุ๊ๆ พวกเขา ‘บังเอิญเจอกัน’ ที่คอกม้าทุกวัน พระสนมจวงที่กำลังฝึกขี่ม้า จวิ้นอ๋องสนใจยิ่งกว่าองค์หญิงอีก”“พระสนมจวงไม่ได้หลบหลีกด้วย ข้าว่า พวกเขามีเรื่องส่วนตัวกันมาสักพักแล้วแน่”ข่าวลือเลื้อยเร็วราวกับงูพิษติดปีก ถ่ายทอดไปมาอยู่ภายในเงากำแพงวังผู้มีเจตนาแอบแฝงลอบเสริมเติมแต่งคำลือ ก่อนที่การคาดเดาอันชั่วร้ายเหล่านี้จะแปรเปลี่ยนและหมักหมมอย่างรวดเร็ว แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวกับไฟป่า ผ่านเสียงกระซิบกระซาบของข้ารับใช้ในวังขณะเดียวกัน ห้องทรงพระอักษรข้าราชการระดับสูงหลายคนจากกรมคลังและกรมโยธา กำลังหารือเรื่องราชการแผ่นดินกันอย่างออกรสฮั่วหลินนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ ขมวดคิ้วแน่นจนเป็นปมทันใดนั้น หวังเต๋อกุ้ยก็เดินเข้ามา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย“ฝ่าบาท แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ เกิดเรื่องแล้ว! พระสนมจวงตกม้าที่สนามแข่งพ่ะย่ะค่ะ!”“อะไรนะ?!”เสียงร้องอันตกใจนั้นราวกับเสียงฟ้าฟาด ทำเอาห้องทรงพระอักษรเงียบไปชั่วขณะฮั่วหลินกระโดดลงจากบัลลังก์มังกรอย่างกะทันหัน พู่กันสีแดงตกลงบนโ
Read more

บทที่ 149

“ข้ารู้”เสียงของฮั่วหลินเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาจับมือของเจียงหวนที่ตัวสั่นด้วยความเจ็บปวดแน่น ราวกับต้องการถ่ายทอดพลังทั้งหมดให้กับนาง“ไม่ต้องกลัว หมอหลวงใกล้มาถึงแล้ว ข้าอยู่นี่แล้ว ไม่เป็นไร จะต้องไม่เป็นไรแน่!”เขาเช็ดน้ำตาและเหงื่อเย็นออกจากใบหน้าของเจียงหวน การเคลื่อนไหวอ่อนโยนอย่างเหลือเชื่ออายีน่ายืนอยู่ด้านข้าง สงสารเจียงหวนจนใบหน้ามุ่นหมอง“แค่หัดขี่ม้าเจ้าก็ร่วงจนมีสภาพเช่นนี้ได้! ข้าเรียนขี่ม้าตั้งแต่สามขวนยังไม่เคยร่วงลงมาสักครั้ง! รอเจ้าหายดีแล้ว คอยดูว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร!”แม้คำพูดจะแข็งกร้าว แต่เสียงที่สั่นเทาเล็กน้อยและดวงตาแดงก่ำกลับทรยศนางเจียงหวนเจ็บปวดจนตามพร่าเลือน เมื่อได้ยินอายีน่าดุออกมา นางพยายามจะโต้ตอบ แต่กลับยิ่งสะอื้นหนักกว่าเดิมช่างเถอะ เทียบกับการถูกดึงตัวเข้าไปในอ้อมกอดของฮั่วถิงแล้ว การร่วงครั้งนี้ของนางคุ้มค่าแล้วทันใดนั้น หมอหลวงชราหลายท่านก็มาถึง พร้อมกับกล่องยาและท่าทางกระหืดกระหอบ“กระหม่อมคารวะ...”“ยังจะมาคารวะอะไรอยู่อีก ยังไม่รีบมารักษาอีก!”เสียงคำรามของฮั่วหลินดังก้องราวกับฟ้ากัมปนาท ทำให้เหล่
Read more

บทที่ 150

เขาพูดซ้ำๆ เสียงแหบพร่าข้างหูนาง “อดทนไว้ เราอยู่นี่ แค่อดเอาไว้ก็จะผ่านไปได้แล้ว!”อายีน่าก็รีบวิ่งไปข้างหน้า กัดฟันและปลอบโยน“เจียงหวน ลองคิดดูสิว่าเจ้ายังขี่ม้าไม่เก่งเลย! ลองคิดดูสิว่าเจ้ายังทำขนมให้เจ้าหญิงน้อยไม่พอเลย อดทนไว้นะ!”ด้วยกำลังใจจากทั้งฮั่วหลินและอายีน่า หมอหลวงฉางจึงรีบจัดกระดูก ทายาและรัดขาที่บาดเจ็บของเจียงหวนได้อย่างระมัดระวังแม้เวลาจะผ่านไปไม่นาน แต่สำหรับเจียงฮวน ราวกับไปเดินเล่นในนรกมารอบหนึ่งเมื่อความเจ็บปวดแสนสาหัสบรรเทาลง นางก็อ่อนล้าอย่างที่สุด เหงื่อเย็นไหลอาบขมับ ใบหน้าซีดเผือดราวกระดาษนางขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของฮั่วหลินอย่างอ่อนแรง สะอื้นออกมาเบาๆ“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ”ฮั่วหลินโล่งใจ เสียงแหบแห้งราวกับรอดชีวิตมาเอง ลูบหลังเจียงหวนเบาๆเขารู้สึกได้ถึงความสั่นไหวน้อยๆ ของเจียงหวน หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอย่างยิ่งหมอหลวงฉางเช็ดเหงื่อและกล่าวว่า “ฝ่าบาท บาดแผลของพระสนมได้รับการรักษาเบื้องต้นแล้ว แต่พระนางเสียพระโลหิตมากและกระดูกได้รับบาดเจ็บ พลังชีวิตได้รับความเสียหายอย่างหนัก จำเป็นต้องกลับวังเพื่อพักฟื้นทันทีพ่ะย่ะค่ะ ทั้งยังต้อ
Read more
PREV
1
...
1314151617
...
25
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status