Semua Bab อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Bab 151 - Bab 160

242 Bab

บทที่ 151

ภายในตำหนักบรรทม ปลายพู่กันของฮั่วหลินพลันชะงักเล็กน้อย คิ้วของเขาขมวดมุ่นน้ำเสียงของเจียกุ้ยเฟยดังเข้ามาอย่างชัดเจน “ก็ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าคนปากเสียสมควรตายที่ไหนมานินทาว่าร้าย กล่าวหาว่าที่น้องหญิงเจียงตกม้าในวันนี้ เป็นเพราะอยู่ที่สนามม้ากับมู่จวินอ๋องแล้วสนิทสนมเกินงาม กิริยาท่าทางไม่เหมาะสมจนทำให้ม้าตกใจ ทั้งยังบอกว่า ยังบอกว่าหลายวันนี้มานี้ น้องหญิงกับจวิ้นอ๋องพบเจอกันที่สนามม้าทุกวัน พูดคุยกันถูกคอเป็นพิเศษ...”“ถ้อยคำสกปรกโสมมเช่นนี้ เจตนาช่างชั่วร้ายนัก หม่อมฉันได้ฟังแล้วยังรู้สึกน้อยใจแทนน้องหญิงเลยเพคะ!”ทันทีที่นางพูดจบ บรรยากาศภายในตำหนักก็พลันหยุดนิ่งในทันทีมือของฮั่วหลินที่จับพู่กันสีแดงพลันกำแน่นขึ้น ข้อปลายนิ้วซีดขาวหลายวันนี้มานี้ เขาติดราชกิจจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องราวทางฝั่งเจียงหวนมากนัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาจะยอมทนให้เจียกุ้ยเฟยมาใส่ร้ายป้ายสีนางได้!เขารู้ดีว่าเจียงหวนไม่ใช่คนเช่นนั้นอย่างสิ้นเชิงหากมีข่าวลือเช่นนี้แพร่ออกไปจริง คนที่เป็นปัญหาจะต้องเป็นฮั่วถิงอย่างแน่นอนฮั่วหลินกำลังจะเอ่ยปากตำหนิ แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา กลบเสียงที่ดัดจริ
Baca selengkapnya

บทที่ 152

“ข้าเพียงแค่มีเจตนาดีทูลเตือนฝ่าบาท แต่เจ้าเป็นเพียงองค์หญิงต่างแคว้น กลับบังอาจกำเริบเสิบสานในวังหลวงเช่นนี้ ทั้งยังใส่ร้ายป้ายสีข้า!” ทั้งสองคนโต้เถียงกันอย่างดุเดือด ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นราวกับเสียงฟ้าร้อง“พอได้แล้ว!” ร่างของฮั่วหลินปรากฏขึ้นที่ประตูตำหนักบรรทม“เจียกุ้ยเฟย” เสียงของเขาไม่ดังนัก แต่ทุกถ้อยคำกลับหนักแน่นราวกับค้อนทุบลงบนหัวใจของเจียกุ้ยเฟย “ ‘ข่าวลือ’ ที่เจ้า ‘มีเจตนาดี’ นำมา ข้าได้ยินแล้ว”เจียกุ้ยเฟยดีใจขึ้นมาทันที นึกว่าฝ่าบาททรงเชื่อคำพูดของนางแล้ว กำลังจะเอ่ยปาก แต่กลับถูกขัดจังหวะอย่างไม่ไยดี“หวังเต๋อกุ้ย”หวังเต๋อกุ้ยที่ยืนรออยู่ด้านข้างมาตลอดรีบโค้งคำนับทันที “บ่าวอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”“เจียกุ้ยเฟยเป็นกังวลเรื่องราวในวังหลังมากเกินไป จนถึงขั้นคิดฟุ้งซ่าน วาจาจึงไม่เหมาะสม” สายตาของฮั่วหลินเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้กักบริเวณสามเดือน ปิดประตูสำนึกผิดอยู่ในตำหนัก”“ฝ่าบาท?!”เจียกุ้ยเฟยราวกับถูกฟ้าผ่า เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อนางคาดไม่ถึงเลยว่า แผนยุยงที่นางวางไว้อย่างดี จะนำมาซึ่งผลลัพธ์เช่นนี้เจียงหวนไปกรอกย
Baca selengkapnya

บทที่ 153

หลังจากที่อายีน่าจากไป ในที่สุดภายในตำหนักบรรทมก็กลับสู่ความเงียบสงบฮั่วหลินนั่งลงข้างเตียง สายตาจับจ้องไปยังเจียงหวนอย่างลึกซึ้ง คิ้วของเขาขมวดแน่น ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความเจ็บปวดใจนางหลับไม่สนิทนัก ขมวดคิ้วเป็นระยะ ๆ ริมฝีปากสั่นเทาเล็กน้อย ราวกับความเจ็บปวดในความฝันยังไม่จางหายไปเมื่อฮั่วหลินเห็นดังนั้น จึงยื่นมือไปกุมปลายนิ้วของนางเบา ๆ ใช้นิ้วลูบไล้หลังมือของนางสองสามครั้ง คล้ายเป็นการปลอบโยนโดยไร้คำพูด“อืม...”เจียงหวนครางออกมาเบา ๆ ขนตาสั่นไหว แล้วค่อย ๆ ลืมตาขึ้น“ตื่นแล้วหรือ?” ฮั่วหลินรีบโน้มตัวเข้าไปใกล้ทันที กดเสียงให้เบาที่สุด ราวกับกลัวจะทำให้นางตกใจ “ยังเจ็บอยู่หรือไม่?”สติของเจียงหวนยังคงเลือนราง สายตาพร่ามัวจับจ้องไปที่ใบหน้าของฮั่วหลินนางเผลอขยับตัวตามสัญชาตญาณ ผลคือความเจ็บปวดอันรุนแรงพลันแผ่กระจายออกมาจากบาดแผล เจ็บจนนางต้องสูดลมหายใจเข้าลึก น้ำตาแทบจะไหลออกมา“ซี๊ด”ใบหน้าเล็ก ๆ ของเจียงหวนบิดเบี้ยวไปหมด นิ้วมือจิกผ้าห่มแน่นสีหน้าของฮั่วหลินเปลี่ยนไปทันที เขารีบกดไหล่ของนางไว้“อย่าขยับ ขาเพิ่งจะเข้าเฝือก หากขยับมั่วซั่วอีกกระดูกจะเคลื่
Baca selengkapnya

บทที่ 154

“ว่าอย่างไร? เจ็บหรือ?”“กะ...ก็พอไหวเพคะ...” เจียงหวนตอบกลับอย่างแห้ง ๆ สายตาหลุกหลิกฮั่วหลินแค่นเสียงเบา ๆ แต่มือยังคงทำแผลต่อไป“เจ็บก็บอก อย่าฝืน”เจียงหวนพึมพำเสียงเบา “ถึงบอกไปก็ไม่ได้หายเจ็บสักหน่อย...”ฮั่วหลิน “บอกมา ข้าจะได้เบามือลง”[ไม่พูดไม่จาเลยสักคำ ข้ากลัวว่าจะทำนางเจ็บ]คำพูดแผ่วเบาเพียงประโยคเดียว ราวกับขนนกเส้นหนึ่ง ทำให้เจียงหวนรู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมาอีกครั้งท่าทีระมัดระวังราวกับกำลังดูแลของล้ำค่าเช่นนี้มันคืออะไรกันสตรีดี ๆ ที่ไหนจะทนไหวเล่า?ฮั่วหลินไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทายา พันผ้าพันแผล และสุดท้ายก็จัดเฝือกให้เข้าที่อีกครั้งการเคลื่อนไหวต่อเนื่องเป็นธรรมชาติ ชำนาญจนไม่เหมือนฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์ที่คุ้นเคยกับความสุขสบายเลยสักนิด“เสร็จแล้ว”เขายืดตัวขึ้น แล้วถือโอกาสจัดชายผ้าห่มให้เจียงหวน“หมอหลวงบอกว่ายาขี้ผึ้งนี้ช่วยระงับปวดได้ อีกสักพักก็คงจะไม่เจ็บเท่านี้แล้ว”เจียงหวนพยักหน้า เอ่ยเสียงเบา “ขอบพระทัยฝ่าบาท...”ฮั่วหลิน “อืม” คำหนึ่งเบา ๆ แล้วหันไปล้างมือเจียงหวนมองแผ่นหลังของเขา ในใจรู้สึกคันยุบยิบ แต่ก็แฝงไปด้วยความ
Baca selengkapnya

บทที่ 155

[เดี๋ยวนะ เราตื่นแล้วหรือ หรือว่ากำลังฝันไป? เมื่อครู่นางแอบจูบเราหรือ?][ขี้โกงเกินไปแล้ว เราต้องลงโทษนาง จะจูบแค่ครั้งเดียวได้อย่างไร]เสียงในใจที่ทุ้มต่ำและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์พลันดังขึ้นในหัวของเจียงหวนเจียงหวนตัวแข็งทื่อไปทั้งตัว แทบจะดีดตัวขึ้นมาจากเตียง[แกล้งหลับได้เนียนไม่เบาเลยนะ แค่ขนตาสั่นราวกับพัดอันเล็ก ๆ ]เจียงหวนแทบจะสติแตก มีเรื่องอะไรน่าอายไปกว่าการทำเรื่องไม่ดีแล้วถูกจับได้คาหนังคาเขาอีกหรือไม่?มีสิ ก็คือการคลั่งรักแล้วถูกจับได้นี่แหละ!!![แอบจูบเราแล้วก็แกล้งตายหรือ?][แต่คราวก่อนที่ข้าแอบจูบนาง ก็ดูเหมือนจะทำลับ ๆ ล่อ ๆ เช่นนี้เหมือนกัน...]เจียงหวนได้ฟังจนหน้าร้อนผ่าว อยากจะขุดหลุมแล้วมุดหนีไปให้รู้แล้วรู้รอดเดี๋ยวนะ ฮั่วหลินแอบจุมพิตนางมันเป็นเรื่องตอนไหนกัน? นางพลาดอะไรไป??อีกอย่าง การกระทำของนางนี่เรียกว่าแอบจุมพิตได้หรือ นางคือ... นั่นคือ...นั่นคือการขอบคุณ!ใช่! ขอบคุณฝ่าบาทที่ดูแลนางมาทั้งคืนในขณะที่เจียงหวนกำลังสับสนวุ่นวายใจอย่างหนักว่าจะ “ตื่นขึ้นมา” แล้วแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นดีหรือไม่ ทันใดนั้นฮั่วหลินก็ขยับตัวเจียงหวนรีบเกร็
Baca selengkapnya

บทที่ 156

“เป็นไปไม่ได้” เจียงหวนขนพองทันที แทบจะกระเด้งตัวขึ้นจากเตียง “ฝ่าบาททรงหูแว่วไปเอง!”ในที่สุดฮั่วหลินก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขายื่นมือไปกดไหล่ที่กำลังขยับไปมาของนาง“ระวังขาด้วย”[โยนความผิดใหญ่โตขนาดนี้มาให้เราหน้าตาเฉย แต่เอาเถอะ ขอแค่นางชอบ เราจะแบกรับไว้ก็แล้วกัน][พรืด ฮ่า ๆ เดิมทีก็แค่แกล้งนางเล่นเท่านั้นแหละ]เจียงหวนถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าโดนหลอกเข้าให้แล้ว โกรธจนแก้มป่อง เหมือนปลาปักเป้าที่กำลังพองขนเลวทราม! ไร้ยางอาย!นางได้แต่ต่อว่าในใจอย่างบ้าคลั่ง ฮ่องเต้ผู้สูงส่งถึงกับใช้วิธีการเช่นนี้ฮั่วหลินอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก กำลังจะแกล้งนางต่ออีกสักสองสามประโยค ทันใดนั้นเสียงของหวังเต๋อกุ้ยก็ดังมาจากนอกประตู“ฝ่าบาท? จะทรงตื่นบรรทมแล้วหรือยังพ่ะย่ะค่ะ?”ฮั่วหลินชะงักไปครู่หนึ่ง มองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่างที่สว่างจ้าแล้ว ถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าตะวันขึ้นสูงโด่งแล้วเขากระแอมเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับคืนสู่ท่าทางทรงอำนาจดังเดิม“เข้ามา”หวังเต๋อกุ้ยก้มหน้าพลางผลักประตูเข้ามา ข้างหลังตามด้วยนางกำนัลสองสามคนที่ถือเครื่องใช้สำหรับล้างหน้าฮั่วหลินเหลือบมองเจียงหวนแวบหนึ่ง ใบหน้าเล็ก ๆ ของน
Baca selengkapnya

บทที่ 157

เจียงหวนกำลังหดตัวอยู่ในผ้าห่มเพื่อสงบสติอารมณ์ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกตำหนักไม่คาดคิดว่าจะเป็นฮั่วหลินที่จากไปแล้วย้อนกลับมาอีกครั้ง ด้านหลังตามด้วยขันทีสองสามคนที่อุ้มฎีกา กองเอกสารราชการถูกนำมาวางเรียงอย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะในตำหนักบรรทมของนาง[ตรวจฎีกาน่ะ จะตรวจที่ไหนก็เหมือนกัน แบบนี้จะได้ตรวจฎีกาไปพลางมองนางไปพลาง]เสียงในใจของฮั่วหลินดังมาอย่างอารมณ์ดีเจียงหวนยันตัวขึ้นครึ่งหนึ่ง รู้สึกทั้งประหลาดใจและหวานชื่นเล็กน้อยนางมองดูฮั่วหลินจัดโต๊ะเล็ก ๆ ข้างเตียงของนาง แล้วเริ่มตรวจฎีกาอย่างจริงจังเป็นงานเป็นการ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองนางเป็นครั้งคราว สายตานั้นอ่อนโยนจนแทบจะละลาย[อา ขมวดคิ้วแล้ว เจ็บขาขึ้นมาอีกแล้วหรือ?][เฮ้อ ท่านอนแบบนั้นจะอึดอัดหรือไม่? หรือจะให้เราอุ้มนางเปลี่ยนท่าดี?]เจียงหวนโดนเสียงในใจที่ดังต่อเนื่องนี้ระดมใส่จนใบหูร้อนผ่าวนางก็แค่นอนนานเกินไปจนขาทั้งสองข้างรู้สึกชานิดหน่อยเท่านั้นเองนางเผลอขยับนิ้วเท้าโดยไม่รู้ตัว ไม่คาดคิดว่าการเคลื่อนไหวเล็กน้อยแค่นี้ จะอยู่ในสายตาของเขาด้วย“ฝ่าบาท ทรงทำเช่นนี้... ไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบกระมัง?”
Baca selengkapnya

บทที่ 158

[วันเวลาข้างหน้ายังอีกยาวไกล รอให้ขาของนางหายดีแล้ว เราจะ...]เจียงหวนได้ฟังจนใบหูแดงก่ำไปหมดถ้อยคำร้อนแรง ตัดจบเดี๋ยวนี้เลย!นางรีบเอ่ยปากขัดจังหวะ “ฝ่าบาทเพคะ”“หืม?” ฮั่วหลินเลิกคิ้ว“หากฝ่าบาทยังไม่เสด็จไปอีก ประเดี๋ยวองค์หญิงอายีน่ารอจนร้อนใจคงได้บุกเข้ามาแน่”เจียงหวนชี้ไปที่นอกประตู ดวงตากลมโตกลอกไปมาอย่างเจ้าเล่ห์ฮั่วหลินมองดูท่าทางของนาง ในใจรู้สึกคันยุบยิบ อยากจะดึงคนตรงหน้าเข้ามากอดแล้วจุมพิตให้หนำใจเสียตอนนี้แต่เพราะต้องรักษาความน่าเกรงขามของฮ่องเต้ จึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง“พักผ่อนให้ดี” เขายื่นมือไปจัดหมอนนุ่มให้เจียงหวนเรียบร้อย น้ำเสียงทุ้มต่ำ “เดี๋ยวตอนค่ำข้าจะมาหาเจ้าอีก”ฮั่วหลินหมุนตัวเดินออกไปข้างนอก แผ่นหลังตั้งตรงสง่างามดุจต้นสน มองไม่เห็นอารมณ์เสน่หาเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อยมีเพียงเจียงหวนเท่านั้นที่รู้ว่า ฮ่องเต้ที่ภายนอกดูเย็นชาสูงส่งผู้นี้ แท้จริงแล้วภายในใจกลับเหมือนเด็กหนุ่มเลือดร้อนบานประตูเปิดออกแล้วปิดลง ร่างของฮั่วหลินหายลับไปนอกประตูเจียงหวนถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ทั้งร่างอ่อนระทวยอยู่บนเตียง นิ้วมือเผลอลูบไล้ริมฝีปากของตนเองบนน
Baca selengkapnya

บทที่ 159

เจียงหวนยิ้มอย่างมีลับลมคมใน “อีกเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง”เสี่ยวเจารับคำสั่งแล้วจากไป ส่วนอายีน่าก็สั่งการให้คณะกายกรรมจัดพื้นที่ว่างตรงกลางตำหนักบรรทม“พวกเจ้าอุ่นเครื่องกันก่อน” นางสั่งการ “อีกเดี๋ยวแสดงให้ดี ๆ หากแสดงดี ข้ามีรางวัลให้อย่างงาม”บุรุษเหล่านั้นขานรับพร้อมกัน “พ่ะย่ะค่ะ!”เจียงหวนเอนกายพิงหัวเตียง มองพวกเขาเริ่มแสดงท่าทางที่ยาก ๆ ต่าง ๆ นานา บ้างก็หกสูงด้วยมือข้างเดียว บ้างก็ต่อตัวเป็นพีระมิดมนุษย์ กล้ามเนื้อเกร็งและคลายตัวตามการเคลื่อนไหว สะท้อนประกายแห่งสุขภาพดีอยู่ท่ามกลางแสงแดดเจียงหวนอุทานออกมาด้วยความชื่นชม “ว้าว ท่าหกสูงนี่ การควบคุมกล้ามเนื้อหน้าท้องกับเอวแข็งแกร่งเกินไปแล้ว”“แล้วก็พี่ชายคนนั้นอีก ไหล่ของเขาทำมาจากเหล็กหรืออย่างไร? ข้างบนมีชายฉกรรจ์ยืนอยู่ตั้งสามคน ก็ยังนิ่งไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย!”อายีน่าเชิดคางอย่างภาคภูมิใจ “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เหล่านักรบแห่งโม่เป่ยของพวกเราเติบโตมาบนหลังม้าตั้งแต่เด็ก ทุกคนสามารถปราบพยศม้าป่าได้ด้วยมือเปล่า”เจียงหวนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ใช่ ๆ ๆ องค์หญิงพูดถูกแล้ว”ไม่นานเสี่ยวเจาก็กลับมาพร้อมถาด บนนั้นมีไก่ทอดและมัน
Baca selengkapnya

บทที่ 160

ในเวลานี้ ฮั่วหลินกำลังนั่งฟังเหล่าขุนนางรายงานราชการอย่างใจลอยไม่รู้ว่าตอนนี้เจียงหวนกำลังทำอะไรอยู่ จะคิดถึงเขาบ้างหรือไม่เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างนาง นางจะรู้สึกเบื่อหรือไม่“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ? ฝ่าบาท?” เสนาบดีกรมพิธีการเอ่ยเรียกอย่างระมัดระวังสองครั้งฮั่วหลินได้สติกลับคืนมา กวาดสายตาเย็นชาไปมองเขาแวบหนึ่ง “พูดต่อ”เสนาบดีกรมพิธีการเช็ดเหงื่อ แล้วรายงานต่อไปภายนอกฮั่วหลินทำทีเป็นตั้งใจฟัง แต่ในใจกลับลอยไปถึงตำหนักเว่ยยางนานแล้วทั้งหมดเป็นความผิดของอายีน่า มิเช่นนั้นเขาคงจะได้ใช้เวลาอันแสนหวานกับเจียงหวนอีกสักพักในขณะนั้นเอง หวังเต๋อกุ้ยก็รีบเดินเข้ามา กระซิบสองสามประโยคข้างหูของฮั่วหลินสีหน้าของฮั่วหลินมืดมนลงทันที“คณะกายกรรม? แถมยังไม่สวมเสื้อผ้าท่อนบนด้วยหรือ?”น้ำเสียงของเขาถูกกดให้ต่ำอย่างยิ่ง แต่กลับแฝงไปด้วยไอเย็นยะเยือกที่น่าขนลุกเมื่อหวังเต๋อกุ้ยได้ยินดังนั้น ก็ตอบกลับอย่างระมัดระวัง “พ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าเป็นคนที่องค์หญิงอายีน่าทรงพามา”ฮั่วหลินลุกพรวดขึ้นทันที ทำเอาเสนาบดีกรมพิธีการที่กำลังรายงานอยู่ตกใจจนสะดุ้ง“ฝะ ฝ่าบาท?”ฮั่วหลินสูดหายใจเข้าลึก พยายามข
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
1415161718
...
25
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status