เจียงหวนยกมือเท้าเอวหัวเราะอย่างมีชัยในใจฮ่า ๆ เยี่ยม เยี่ยมไปเลย!ไม่เสียแรงที่นางทั้งขนตะแกรงย่างทั้งทำข้าวผัดนี่ไง เห็นผลลัพธ์ทันตาแล้วเจียงหวนแอบใช้มืออีกข้างหยิกตนเองทีหนึ่งอย่างเงียบๆ น้ำตาก็เอ่อคลอเบ้าทันที“ฮือ ๆ…หม่อมฉันไม่ระวังเองเพคะ”แม้ปากจะพูดเช่นนี้ แต่เบ้าตากลับแดงก่ำ ท่าทางน่าเวทนายิ่งแค่ดูก็รู้ว่ามีเรื่องทุกข์ใจสีหน้าฮั่วหลินเคร่งขรึมลง อากาศโดยรอบหยุดนิ่งในพริบตา“เราจะออกหน้าให้เจ้าเอง มีอะไรพูดมาได้เลย”หวังเต๋อกุ้ยก็สังเกตเห็นความผิดปกติแล้วเช่นกัน ในวังแห่งนี้ มีเรื่องสกปรกอะไรที่เขาไม่เคยพบเห็นบ้างแค่เดาก็รู้ว่าเจียงหวนถูกรังแกมาแน่ ๆ อีกทั้งคนที่รังแกเจียงหวนต้องเป็นนางสนมที่มีฐานะสูงกว่าเจียงหวนจวงฉางไจ้ปรนนิบัติฝ่าบาทจนสบายพระทัย หากเวลานี้ไม่พูด ก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้วเห็นแก่ที่จวงฉางไจ้ปรนนิบัติฝ่าบาทอย่างแข็งขัน หวังเต๋อกุ้ยยินดีเตือนนางสักหน่อยเขาเกลี้ยกล่อมด้วยอีกคน “พระสนม ท่านพูดมาเถอะ ไม่ว่าเรื่องใดก็มีฝ่าบาทอยู่พ่ะย่ะค่ะ”เจียงหวนมองฮั่วหลิน แล้วหันไปมองหวังเต๋อกุ้ย ท่าทางเหมือนเกลี้ยกล่อมสำเร็จแล้ว“หม่อม…หม่อมฉันไม่ดีเอง…”น
Baca selengkapnya