“เมื่อครู่หม่อมฉันเพิ่งจะผ่านอุทยานหลวงมา คนจากตำหนักเฉิงเต๋อสองสามคน ก็นั่งอยู่ในศาลานินทาหม่อมฉัน...”อวี๋ผินพร่ำบ่นไม่หยุด เล่าเรื่องที่ได้ยินในอุทยานหลวงให้เจียกุ้ยเฟยฟัง ยิ่งพูดก็ยิ่งเศร้า“หม่อมฉัน... หม่อมฉันรู้สึกคับข้องใจเหลือเกินเพคะ...”อวี๋ผินสะอื้นไห้ น้ำตาไหลพราก ปิ่นระย้าบนมวยผมนั้นสั่นไหวไปตามแรงสะอื้น“ตอนที่ถวายตัวครั้งนั้น หม่อมฉันไม่สามารถทำให้ฝ่าบาทพอพระทัยได้ก็จริง แต่นังพวกนั้นกลับโทษว่าการที่ฝ่าบาทไม่ยอมเสด็จมาวังหลัง เป็นความผิดของหม่อมฉันทั้งหมด ช่างรังแกกันเกินไปแล้ว!”ควันสีเขียวจาง ๆ ลอยขึ้นมาจากเตากระถางกำยาน เจียกุ้ยเฟยเอนกายอยู่บนเตียง ปลายนิ้วขยับลูกประคำไปมา แต่กลับนิ่งเงียบไม่พูดอะไรสักคำ น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ววัน ๆ เอาแต่มาพูดเรื่องไร้สาระหยุมหยิมพวกนี้ น้ำตาที่สะสมมาหลายปีนี่ท่วมตำหนักฉางเล่อได้แล้ว!“อันผินยังบอกว่าหม่อมฉันเป็นตัวซวยอีกนะเพคะ!”อวี๋ผินกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น เล็บที่ย้อมสีชาดแทบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือนางไม่ทันได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเจียกุ้ยเฟยเลยแม้แต่น้อย เอาแต่จมอยู่กับความอัปยศของตนเอง ร้องทุกข์กับเจียกุ้ยเฟยไม่หยุด“
Read more