Semua Bab อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Bab 31 - Bab 40

84 Bab

บทที่ 31

ฮั่วหลินตัดสินใจไปตำหนักจิ่นหวาอย่างกะทันหัน ขันทีน้อยจึงไปแจ้งล่วงหน้าไม่ทันตอนที่ฮั่วหลินไปถึง เจียงหวนกำลังยกกับข้าวจานสุดท้ายที่เพิ่งทำเสร็จเข้าไปในห้องเมื่อเห็นฮั่วหลิน เจียงหวนอึ้งไปชั่วขณะ ขณะที่กำลังจะโค้งคำนับ ฮั่วหลินได้ยื่นมือมาประคองแขนของนางไว้“ไม่ต้อง”สายตาอันเย็นชาของเขาละจากนาง มองไปทางกับข้าวที่นางถืออยู่อย่างแนบเนียน[ว้าว หอมจัง][ยังไม่ทันได้เริ่มกิน น้ำลายของเราก็เกือบไหลออกมาแล้ว!][จวงฉางไจ้! เจ้ารีบชวนเรากินข้าว! เราอยากกินอาหารที่เจ้าทำ!]มุมปากเจียงหวนกระตุกเบาๆ ทีหนึ่ง นิสัยฝ่าบาทยังคงเหมือนเดิมจริงๆแต่ในเมื่อฮั่วหลินมา แสดงว่าเฉินจิ้นสี่ส่งข่าวถึงแล้วชีวิตอันแสนทรหดของตนมาถึงจุดสิ้นสุดสักทีนางวางจานลงบนโต๊ะ รีบปกปิดอารมณ์ของตนเองเจียงหวนหันไปมองฮั่วหลินด้วยรอยยิ้ม พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่ทราบว่าฝ่าบาทเสวยพระกระยาหารมาหรือยังเพคะ? หากยัง จะเสวยอะไรเล็กน้อยกับหม่อมฉันก่อนหรือไม่?”“อืม” ฮั่วหลินพยักหน้า[วู้ฮู้ววว เจ๋ง กินข้าว!]ฮั่วหลินล้างมือภายใต้การปรนนิบัติของหวังเต๋อกุ้ย แล้วก็นั่งลงที่ข้างโต๊ะ เจียงหวนก็รีบไปนั่งลงตรงด้า
Baca selengkapnya

บทที่ 32

[แล้วทำไมนางยังไม่เอามาให้เราอีก?][เราอยากกิน! เราอยากกินของกินทุกอย่างที่จวงฉางไจ้ทำ!]ภายนอกฮั่วหลินไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ละสายตาจากขนมหวาน หันมาทางเจียงหวนแทนเมื่อเจียงหวนประสานสายตากับดวงตาที่ลึกล้ำคู่นั้น หัวใจดิ่งวูบทันทีไม่ นางอุตส่าห์ทนเจ็บขาเพื่อทำขนมลูกชิ้นแป้งจานนั้นเลยนะฝ่าบาทกินอาหารเที่ยงที่นางทำแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมยังจะกินอีก!นางไม่ได้เพลิดเพลินกับอาหารที่ทำเองนานมากแล้ว ครั้งนี้เหลือไว้ให้นางหน่อยเถิด เมื่อเจียงหวนนิ่งเงียบ ฮั่วหลินก็เอาแต่จ้องนาง [จวงฉางไจ้ จวงฉางไจ้! นั่นคืออะไร!][ถึงเวลาเจ้าออกโรงแล้ว! จวงฉางไจ้! รีบยกขนมขาวๆ จานนั้นมาให้เรา!]แม้จะผ่านไปแล้วเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ แต่ในใจเจียงหวนราวกับกำลังต่อสู้อยู่กับปีศาจขนมมีแค่ไม่กี่ชิ้นเอง ให้ฮั่วหลิน นางจะกินอะไร?แต่ไม่ให้ฮั่วหลิน จอมตะกละนี่ต้องโมโหแน่นอนได้ยินมาว่าอวี๋ผินถูกลดขั้นแล้ว หากวันนี้นางกินคนเดียว เกรงว่าพรุ่งนี้นางจะถูกลดขั้นแน่เลยถ้าสามารถทำให้ฮั่วหลินอารมณ์ดี ก็เป็นผลดีต่อนางเช่นกันแต่นั่นเป็นขนมลูกชิ้นแป้งของนางนะ!อ๊า! ทำไมต้องทำกับนางแบบนี้!เจียงหวนลังเลในใจครู่หน
Baca selengkapnya

บทที่ 33

หลังจากกินขนมลูกชิ้นแป้งเสร็จ ฮั่วหลินนั่งคุยกับเจียงหวนอีกครู่หนึ่ง จึงจะกลับไปหลังจากฮั่วหลินไปได้ไม่นาน เจียงหวนก็เห็นนางกำนัลแถวหนึ่งถือของต่างๆ มาที่ตำหนักฝั่งตะวันตกขันทีใหญ่ที่เดินนำหน้าสุดก็คือหวังเต๋อกุ้ยเจียงหวนกะพริบตาปริบๆ และรีบเดินออกไปต้อนรับทันที“กงกง นี่ท่าน?”เมื่อหวังเต๋อกุ้ยเห็นเจียงหวน บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้ม“ฝ่าบาทให้บ่าวมาส่งของพวกนี้พ่ะย่ะค่ะ ของพวกนี้ล้วนเป็นของที่ประทานจวงฉางไจ้โดยเฉพาะ”หลังจากเจียงหวนได้ยินก็รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก ขนมลูกชิ้นแป้งพวกนั้นไม่เสียเปล่าไม่เพียงไม่ขาดทุน นางยังได้กำไรก้อนโตไม่ขาดทุน ไม่ขาดทุนนางพยักหน้าขอบคุณ “ขอบคุณกงกง”“จวงฉางไจ้เกรงใจแล้ว บ่าวแค่ทำหน้าที่ส่งสารเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่บ่าวสมควรทำพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากหวังเต๋อกุ้ยกล่าวจบอย่างยิ้มแย้ม ก็สั่งให้คนวางของลง แล้วพูดแสดงความยินดีอีกสองสามประโยคก็จากไปหลังจากหวังเต๋อกุ้ยไปแล้ว เจียงหวนจึงจะเริ่มตรวจดูของพระราชทานต่างๆ ของที่ฮั่วหลินพระราชทานเยอะมาก มีเครื่องประดับเงิน ทอง หยก ผ้าไหมชั้นดี ยารักษาอาการเจ็บขา แต่ที่เยอะสุดยังคงเป็นวัตถุดิบในบรรดาของพระรา
Baca selengkapnya

บทที่ 34

มีนางสนมมากมายมารวมตัวกันในตำหนักของเจียกุ้ยเฟยนานแล้ว เมื่อเจียงหวนเดินเข้าไป บรรยากาศภายในตึงเครียดขึ้นมาทันทีเจียงหวนก็รู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว แต่ทำได้เพียงกัดฟัน เดินเข้าไปทำความเคารพ “ถวายพระพรพระสนมเจียงกุ้ยเฟย”เจียกุ้ยเฟยไม่ได้สั่งให้เจียงหวนลุกขึ้น แต่ยกถ้วยชาขึ้นมา ใช้ฝาถ้วยชาปาดฟองน้ำอย่างพิถีพิถัน“ข้าได้ยินมาว่า ครัวเล็กของจวงฉางไจ้ คึกคักยิ่งกว่าห้องเครื่องเสียอีก”“นั่นสิเพคะ” อวี๋ฉางไจ้จ้องเจียงหวนด้วยสายตาโกรธเคือง พลางบีบผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น “เมื่อคืนผู้ดูแลหวังให้คนส่งของมากมายไปให้จวงฉางไจ้ เสียงอึกทึกครึกโครมอยู่ตั้งนานเลยเพคะ”เจียงหวนเย็นวูบในใจ แต่บนใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้มบางๆเอาล่ะสิ นี่คือมาหาเรื่องแล้ว“พระสนมล้อเล่นแล้ว หม่อมฉันก็แค่พอมีฝีมือการทำอาหารอยู่บ้าง ฝ่าบาทจึงมีรับสั่งให้ทำเครื่องเสวยถวายพระองค์เพคะ”นางพลางกล่าว พลางเปลี่ยนท่าคุกเข่าครั้งก่อนเพิ่งคุกเข่าเสร็จ คาดว่าครั้งนี้ต้องคุกเข่าต่ออีกแล้วเฮ้อ เมื่อไรนางสนมพวกนี้ถึงจะเข้าใจสิ่งที่ตนเองแย่งชิงไม่ใช่ความโปรดปราน แต่เป็นชีวิตต่างหากสายตาเจียกุ้ยเฟยมืดมนลงเล็กน้อย วางถ้วยช
Baca selengkapnya

บทที่ 35

ก่อนหน้านี้ที่เจียงหวนบอกว่าอาหารที่จะทำให้ฮั่วหลินต้องใช้เวลาหลายชั่วยาม นั่นไม่ใช่ข้ออ้างหลังจากพูดคุยกับเสี่ยวเจาไม่กี่ประโยค เจียงหวนก็เริ่มเตรียมตัวนางเริ่มด้วยการคัดวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันจากของที่ฮั่วหลินพระราชทาน เตรียมทำอาหารใหม่ๆ สองสามอย่างนางแช่เต้าหู้สีขาวลงในน้ำเย็น แล้วใช้ใบมีดแนบกับปลายนิ้วหั่นเบาๆ เต้าหู้ที่ถูกหั่นเป็นเส้นเล็ก ๆ เหมือนเส้นผมค่อย ๆ คลี่บานในน้ำราวกับดอกเบญจมาศสีขาวเสี่ยวเจาที่ถือชามอุทานด้วยความตะลึง “ว้าว ฝีมือการใช้มีดของนายหญิงน้อยสุดยอดไปเลย!”เจียงหวนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ นี่เพิ่งจะเริ่มเองหากเอาหัวไชเท้ามาให้นาง นางยังสามารถแกะเป็นรูปมังกรได้เลย!หลังจากหั่นเต้าหู้เสร็จ เจียงหวนนำเต้าหู้ไปลวกในน้ำเดือดครู่หนึ่ง แล้วตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น ทำเช่นนี้สามารถรักษาความนุ่มลื่นของเต้าหู้เส้น หลังจากนั้นนางก็เริ่มเคี่ยวน้ำแกงครัวเล็กกำลังวุ่นวายอยู่กับการทำอาหาร ในราชสำนักก็วุ่นวายไม่แพ้กันภายในท้องพระโรงเต็มไปด้วยเสียงจอแจ เหล่าขุนนางคนนี้พูดคำคนนั้นพูดคำ เสียงดังขึ้นเป็นระลอกราวกับคลื่นทะเลยักษ์อัครมหาเสนาบดีหลี่เหวินป๋อก้าวออกมาคนแรก เขาม
Baca selengkapnya

บทที่ 36

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เจียงหวนพาเสี่ยวเจาไปห้องทรงอักษรทั้งสองยังไม่ทันถึง ก็เห็นมีคนยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทรงอักษรเป็นแถวเมื่อเดินเข้าไปใกล้ เจียงหวนจึงจะเห็นชัด คนผู้นั้นคือเจียกุ้ยเฟยกับนางกำนัลของนางหน้าผากเจียงหวนย่นทันทีช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้มีเวลาตั้งนานไม่มา ดันมาเอาตอนนี้เจียงหวนสบถในใจ แต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า“พระสนมกุ้ยเฟย” เจียงหวนถอนสายบัว น้ำเสียงราบเรียบเจียกุ้ยเฟยที่กำลังใช้ปลายนิ้วซึ่งถูกทาด้วยสีเล็บหมุนกำไลตรงข้อมือเล่น เมื่อได้ยินก็เงยหน้าขึ้นทันที“เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่ชั่วยามเอง คิดไม่ถึงว่าเจอกันอีกครั้งแล้ว ตอนนี้น้องหญิงเป็นกุ้ยเหรินแล้ว จะเห็นได้ว่าน้องหญิงเอาใจฝ่าบาทเก่งยิ่งนัก”“พระสนมล้อเล่นแล้ว หม่อมฉันแค่ทำตามหน้าที่เพคะ”เจียงหวนพลางตอบด้วยสีหน้าไม่เย่อหยิ่งแต่ก็ไม่ถ่อมตน พลางกลอกตาหนึ่งรอบ เจียกุ้ยเฟยทำตัวติดหนึบเหมือนกาวหนังหมา รับมือยากพอสมควร“ทำตามหน้าที่?”สายตาเจียกุ้ยเฟยเย็นลงเล็กน้อย กวาดมองไปที่กล่องอาหารนางจำได้ว่าตอนที่เจียงหวนไปน้อมทักทายนางเมื่อเช้า เคยพูดว่าของกินที่อยู่ในกล่องอาหารใบนี่ ต้องใช้เวลาเตรียมหลายชั่
Baca selengkapnya

บทที่ 37

เสี่ยวเจามองไปทางเจียงหวนอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีฝ่าบาทเพิ่งดีกับนายหญิงน้อยได้ไม่นานเอง ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ หากท่าทีของฝ่าบาทเปลี่ยนเร็วเหมือนพลิกหนังสือ รู้สึกรังเกียจนายหญิงน้อยขึ้นมา ถึงเวลานั้นนางสนมพวกนั้นต้องมาซ้ำเติมแน่นอน!“โอ๊ย ไม่ต้องร้องแล้ว เรื่องราวยังไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้น”เจียงหวนกล่าวพลางตบไหล่สาวใช้ตัวน้อยเบาๆ อย่างจนปัญญานางที่เป็นเจ้าทุกข์ยังไม่ร้องไห้เลย เสี่ยวเจากลับร้องไห้ซะแล้วพูดถึงก็ต้องโทษนางนั่นแหละ รู้แต่แรกว่าเจียกุ้ยเฟยไม่มีเจตนาดี กลับประมาทจนลืมระวังนางยังเป็นแค่กุ้ยเหริน ก็อิจฉาจนแทบจะเอาเป็นเอาตายแล้วเจียงหวนเกาศีรษะ ต่อไปจะไม่หนักกว่านี้หรือ!เสี่ยวเจาเช็ดน้ำตา “จะไม่แย่ได้อย่างไร หากฝ่าบาทไม่พอพระทัยนายหญิงน้อย ไม่เสด็จมาที่พวกเราอีก…ฮือๆๆ…”แค่นึกถึงต่อไปใครก็สามารถมาซ้ำเติมนายหญิงน้อยของนาง เสี่ยวเจาก็รู้สึกปวดใจแทนเจียงหวนเจียงหวนเห็นเสี่ยวเจาคิดแทนตนเองทุกอย่าง รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนักนางเตือนตนเองในใจ ต้องใจเย็นๆ แล้ววิเคราะห์สถานการณ์อย่างมีสตินางเคยทำอาหารให้ฝ่าบาทตั้งหลายครั้ง ต่อให้ไม่มีผลงานก็มีความมุมานะโบราณว่าไ
Baca selengkapnya

บทที่ 38

เจียงหวนตบหน้าผากยิ้มแห้งๆ อย่างจนปัญญาใครกันแน่ที่เป็นเด็กสามขวบแต่ไม่ว่าจะอย่างไร หากฝ่าบาทมีความขุ่นเคืองต่อนางเพราะอาหารมื้อนี้ เช่นนั้นความพยายามที่ผ่านมาของนางก็สูญเปล่าแล้วปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้“ฝ่าบาททรงอภัยด้วยเพคะ ต่อไปหม่อมฉันจะระวัง!”คราวนี้เจียงหวนเปลี่ยนเป็นคุกเข่า ก้มกราบอย่างนอบน้อม ขณะเดียวกันก็แสร้งเผยให้เห็น หลังมือที่ถูกอาหารลวกตอนหกโดยไม่ตั้งใจสามสิบหกกลยุทธ์ ใช้กลยุทธ์ทุกข์กายก่อนก็แล้วกันฮั่วหลินหรี่ตาลง สายตาอันคมกริบ จับจ้องหลังมือที่แดงเล็กน้อยของเจียงหวน แม้แผลไม่ได้ใหญ่มาก แต่เมื่ออยู่บนผิวที่ขาวเนียนกลับดูสะดุดตาเป็นพิเศษ[นี่นางโดนลวกหรือ? ทำไมจวงกุ้ยเหรินถึงซุ่มซ่ามเช่นนี้! มือของนางต้องเก็บไว้ทำอาหารให้เรากินนะ จะปล่อยให้บาดเจ็บได้อย่างไร!][เจียกุ้ยเฟยนี่ก็ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ถนนในวังกว้างใหญ่ขนาดนี้ นางมัวแต่มองอะไรอยู่?!][ที่สำคัญที่สุดคือ นางยังทำอาหารของเราหกด้วย เราควรสั่งสอนนางสักหน่อยหรือไม่?]เมื่อเจียงหวนได้ยินเสียงในใจประโยคนี้ของฮั่วหลิน ชั่วขณะนั้นไม่รู้ว่าฮั่วหลินหมายถึงเจียกุ้ยเฟยหรือนางกันแน่ขณะที่กำลังถูมือครุ่น
Baca selengkapnya

บทที่ 39

ทันใดนั้นมีความคิดวูบเข้ามาในสมองเจียงหวนรีบกล่าวกับเสี่ยวเจาทันที “ฝ่าบาททรงมีพระเมตตา แต่พวกเราก็จำเป็นต้องชดเชย ไปเถิด พวกเราลองไปดูที่ห้องเครื่อง ไม่แน่ว่าอาจสามารถทำอะไรให้ฝ่าบาทได้บ้าง”เสี่ยวเจาพยักหน้าหงึกหงัก “เรื่องคิดแผนต้องยกให้นายหญิงน้อย”หลังจากทั้งสองเดินจากไป ก็ตรงไปที่ห้องเครื่องเวลานี้พ่อครัวในห้องเครื่องกำลังยุ่งจนหัวหมุน พวกเขานอกจากต้องเตรียมเครื่องเสวยให้ฝ่าบาททุกวันแล้ว ยังต้องเตรียมให้คนในวังหลังอีกด้วยเพียงแต่มนุษย์มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ห้องเครื่องก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกันพื้นที่ทั้งแถบที่อยู่ในรั้วกำแพงล้วนถูกเรียกว่าห้องเครื่อง แต่ห้องครัวแต่ละห้องทำอาหารสำหรับคนที่ต่างกันออกไปห้องที่อยู่ตรงกลางจะทำอาหารถวายฮ่องเต้ ไทเฮา และกุ้ยเหรินทั้งหลาย พ่อครัวที่อยู่ในห้องนี้จึงจะเป็นวิเสทที่แท้จริงผู้ดูแลเกาก็คือหนึ่งในผู้ที่มีประสบการณ์มากที่สุด และได้รับความเคารพที่สุดในบรรดาวิเสทเหล่านี้เวลานี้เขากำลังตะโกนสั่งงานเสียงดัง“ทำตัวให้กระฉับกระเฉงกว่านี้หน่อย เร็วเข้า หากละเลยฝ่าบาทกับกุ้ยเหรินทั้งหลาย ก็หิ้วหัวไปรับโทษเอง!”ตอนนี้ได้เวลาอาหารแล้ว ทุกคนก
Baca selengkapnya

บทที่ 40

เจียงหวนเพียงแค่มองผู้ดูแลเกาเป็นนัยอีกครั้ง แล้วกล่าวขอบคุณโลกความจริงการแข่งขันสูง การชิงดีชิงเด่นในวังยิ่งยาก นางจึงชอบใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่ต้องดิ้นรน แต่ในด้านของการทำอาหาร นางมีต้นทุนพอที่จะมั่นใจในตนเองโอเคหรือเปล่า!ผู้ดูแลเกาทุกสายตาของนางมองจนขนลุก เขาแค่นเสียงเย็น ‘ฮึ่ม’ แม้ไม่ได้พูดอะไร แต่การแสดงออกที่รังเกียจนั้นชัดเจนมากวิเสทคนอื่นๆ ก็ดูแคลนเจียงหวนเช่นกัน ต่างพากันกระซิบกระซาบ“ข้าไม่เชื่อว่าพระสนมคนหนึ่งจะสามารถทำของอร่อยอะไรได้!”“วันนี้ข้าไม่ไปไหนแล้ว จะรอดูนางขายหน้าให้ได้!”……เจียงหวนไม่สนใจเสียงซุบซิบของคนพวกนี้ เอาแต่ยุ่งอยู่กับการทำอาหารของตนเอง“ไข่ไก่เละขนาดนี้ ยังจะกินอย่างไร? แค่เห็นฟองนั่นก็รู้สึกขยะแขยงแล้ว!”“ดูสิ ใส่น้ำตาลในฟองไข่ไก่เยอะขนาดนั้น ไม่หวานจนเจ็บคอหรือ!”“อย่าบอกนะว่าจะทำไข่ตุ๋นหวาน แต่ตั้งชื่อแปลกๆ เพื่อทำให้รู้สึกว่าอร่อย?”ทุกคนเจ็ดปากแปดลิ้น ล้วนกำลังคาดเดาว่านางจะทำอะไรกันแน่คำเหน็บแนมและประชดประชันยังคงดังไม่ขาดสายแต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนเริ่มรู้สึกผิดปกติกลิ่นหอมจากหม้อ ทำให้พวกเขาสูดดมไม่หยุด“ว้าว ทำไมหอมขนาดนี้
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1234569
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status