Semua Bab อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Bab 41 - Bab 50

88 Bab

บทที่ 41

รสชาติยังคงแย่เหมือนเดิม!แต่ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงรายงานของเฉินจิ้นสี่“ฝ่าบาท จวงกุ้ยเหรินมาพ่ะย่ะค่ะ!”ฮั่วหลินกำลังอารมณ์เสีย พอคิดถึงเรื่องที่เจียงหวนทำอาหารหกเลอะเทอะก็ยิ่งหมดอารมณ์เขาหันหลังสะบัดเสื้อคลุมผ้าไหมอย่างแรง “เราง่วงแล้ว ไม่พบ”เฉินจิ้นสี่ไม่ได้ออกไปทันที แต่ก้มหน้าพูดอีกครั้งว่า “ฝ่าบาท จวงกุ้ยเหรินตั้งใจทำขนมมาให้พ่ะย่ะค่ะ!”อะไรนะ? มีขนม!ฮั่วหลินสนใจขึ้นมาทันที แต่สีหน้ายังคงเย็นยะเยียบเหมือนน้ำแข็ง น้ำเสียงที่ใช้เปลี่ยนไป“จวงกุ้ยเหรินอุตส่าห์ทำมา ให้เข้ามาได้”เฉินจิ้นสี่ถอยออกไป เจียงหวนถือกล่องอาหารเดินเข้ามาได้สมดังใจหมายแต่เพิ่งจะเดินเข้ามา เสียงในใจฮ่องเต้ก็ลอยออกมาราวกับข้อความที่ปรากฏขึ้นบนจอ [ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักปกป้องอาหารของเรา พอมาตอนนี้ก็ทำขนมมาเอาใจ เรามีหลักการ ไม่ให้อภัยหรอก!][หืม แต่ขนมนี่กลิ่นหอมมากเลย][เราลองชิมสักนิดดีหรือไม่? แค่นิดเดียว?]เจียงหวนยิ้มบางๆ ทำเป็นเล่นตัวไปได้คนตะกละแบบนี้ คิดว่าข้าจะเอาไม่อยู่รึ?“นี่เป็นเพ่าฝู [1] กับขนมอบไส้ไข่แดงที่หม่อมฉันทำเอง ตั้งใจมาขออภัยเพคะ”ฮั่วหลินเหลือบตามองข้ารับใช้ในตำหนัก
Baca selengkapnya

บทที่ 42

ไทเฮาโบกมืออย่างไม่ใส่ใจโดยไม่รอให้เจียงหวนพูดจบ“ข้ารับไว้เพียงน้ำใจก็พอ เจ้าเอาของวางไว้ตรงนั้นแหละ”ไทเฮาดูแคลนเจียงหวง คนที่มาจากตระกูลต่ำต้อยจะทำอาหารได้อร่อยสักเพียงใดกัน?หากไม่ใช่เพราะมีรูปโฉมงดงาม มีหรือจะได้รับความโปรดปรานจากฮั่วหลิน?ภายในใจดูแคลนเจียงหวนหนักมากขึ้นไปอีกขณะที่ทั้งสองคนนิ่งเงียบ เด็กหญิงคนหนึ่งก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา ท่านหญิงหมิงจูนั่นเอง“เสด็จย่า หม่อมฉันมาหาแล้วเพคะ”ท่านหญิงหมิงจูกระโดดเข้ามาหาไทเฮา กอดแขนไทเฮาแกว่งไปมา“โตขนาดนี้แล้วยังไม่รู้จักสำรวมอีก”แม้จะใช้ถ้อยคำตำหนิ แต่หว่างคิ้วของไทเฮากลับมีรอยยิ้ม บ่งชัดถึงความโปรดปรานที่มีต่อท่านหญิงหมิงจู“ปัดโธ่ หม่อมฉันก็เป็นเด็กในสายตาเสด็จย่าตลอดเลยนี่เพคะ…”พูดได้ครึ่งประโยค นางก็หยุดชะงักอย่างฉับพลันความสนใจถูกขนมที่วางอยู่บนโต๊ะดึงดูดไปทันที“นี่เป็นขนมจากห้องเครื่องหรือเพคะ? หน้าตาน่ากินมากเลย กลิ่นก็หอมมาก!”เจียงหวนได้ยินดังนี้ก็พูดแทรกอย่างชาญฉลาด “นี่เป็นขนมที่หม่อมฉันทำ หากท่านหญิงชอบ จะลองชิมดูหรือไม่เพคะ?”ท่านหญิงหมิงจูฟังแล้วกะพริบตานางไม่คุ้นหน้าพระสนมท่านนี้ แต่พูดจาเข้าหู ย
Baca selengkapnya

บทที่ 43

นี่มันอะไรกัน?ทั้งสองคนไม่เคยสนิทกัน แล้วเหตุใดจึงมาเล่นด้วยกันได้?ท่านหญิงหมิงจูหวาดกลัวฮั่วหลินมาตั้งแต่เด็ก แค่เห็นเขาเข้ามาก็ก้มหน้าทำความเคารพเหมือนหนูที่เจอแมว ตรงกันข้ามกับท่าทีร่าเริงสดใสไร้เดียงสาเมื่อครู่นี้โดยสิ้นเชิงฮั่วหลินไม่ได้สนใจ เพียงโบกมือให้นางลุกขึ้นได้ สายตาเหลือบไปยังขนมที่เจียงหวนพกมา[นั่นมันของอร่อยอะไรอีกแล้ว? เราเพิ่งว่าราชกิจเสร็จพอดี! กำลังหิวเลย!]เจียงหวนคิดไว้อยู่แล้วว่าฮั่วหลินจะคิดแบบนี้ ใช้สองมือประคองให้อย่างเอาใจนางยิ้มบางๆ “ฝ่าบาท นี่เป็นขนมที่หม่อมฉันเพิ่งคิดค้นเพคะ ไม่รู้ว่าจะถูกปากพระองค์หรือไม่”ฮั่วหลินรับมากินสองคำ รู้สึกว่าอร่อยจนมีแรงออกไปว่าราชกิจอีกรอบ[ตามคาด! ไม่ว่าเวลาใด อาหารฝีมือจวงกุ้ยเหรินก็อร่อยเสมอ][ไม่เสียแรงที่มาหาทันทีหลังจากว่าราชกิจเสร็จ!]ฮั่วหลินกินอย่างมีความสุข แต่ในตอนนี้เอง ไทเฮาได้ยินว่าฮ่องเต้เสด็จมาก็เดินกลับมาอีกครั้งทุกคนรีบลุกขึ้นทำความเคารพไทเฮานั่งลงแล้วขมวดคิ้วจ้องเจียงหวนอย่างไม่สบอารมณ์นางเพิ่งจะเดินมาก็เห็นเจียงหวนยื่นขนมให้ฮ่องเต้ เห็นชัดว่าเมินเฉยต่อคำตักเตือนของนางก่อนหน้านี้!“ลืม
Baca selengkapnya

บทที่ 44

เพราะคำเตือนของฮั่วหลินทำให้เจียงหวนได้อยู่อย่างสงบสุขหลายวันแต่ละวันนอกเหนือจากการนำอาหารไปถวายฮั่วหลินแล้ว นางก็ใช้เวลาอยู่ในตำหนักเล็กๆ ของตัวเองเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เจียงหวนในตอนนี้ก็เป็นเหมือนปลาเค็มที่มีคนหนุนหลังเวลานี้ เจียงหวนกำลังเอนตัวบนเก้าอี้โยกภายในลาน ครุ่นคิดว่าวันนี้จะทำอะไรให้ฮั่วหลินกินดี หลายวันมานี้นางทำแต่อาหารที่มีอยู่แล้วในยุคนี้ ลองนับดูแล้วก็น่าจะต้องเปลี่ยนรสชาติบ้างแล้วล่ะอย่างน้อยก็ต้องสร้างความแปลกใหม่เจียงหวนนอนอาบแดดบนเก้าอี้โยก โยกไปมาจนไม่อยากขยับตัวนางกวักมือเรียกเสี่ยวเจา “เสี่ยวเจา เจ้าไปดูหน่อยว่าที่ห้องเครื่องมีวัตถุดิบใหม่ๆ อะไรบ้าง แล้วก็อีกเรื่อง เครื่องปรุงของพวกเราใกล้หมดแล้ว ต้องเติมเพิ่ม” ก่อนหน้านี้ถ้าเจียงหวนอยากได้วัตถุดิบจากห้องเครื่อง นางจะต้องเตรียมของอร่อยไปติดสินบนและใช้คารมเข้าช่วยแต่นับจากที่นางทำเพ่าฝูกับขนมอบไส้ไข่แดง บรรดาพ่อครัวหลวงก็พากันเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อนาง ทุกคนต่างรอการมาเยือนเพื่อให้คำชี้แนะของเจียงหวนโดยมีหัวหน้าพ่อครัวหลวงเป็นคนนำอย่าว่าแต่ขอวัตถุดิบและเครื่องปรุงเลย ต่อให้ขอข้ารับใช้สองคนก็ยังไ
Baca selengkapnya

บทที่ 45

นางพูดขึ้นเบา ๆ “พระสนม บ่าวเห็นจวงกุ้ยเหรินนำวัตถุดิบที่นำมาจากห้องเครื่องเมื่อวานนี้มาทำอาหาร ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงห้องทรงพระอักษรแล้วเพคะ”อีกด้านหนึ่ง ที่ห้องทรงพระอักษรฮั่วหลินเพิ่งตรวจฎีกาเสร็จ เขาวางพู่กันลงแล้วนวดหว่างคิ้วที่ปวดตุบๆขณะที่รู้สึกว่าท้องเริ่มหิวก็ได้ยินเสียงรายงานของเฉินจิ้นสี่“ฝ่าบาท จวงกุ้ยเหรินมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”แววตาฮั่วหลินเปล่งประกายเล็กน้อย จากนั้นหลุบขนตาลงเขาเอ่ยเสียงเรียบ “ให้นางเข้ามาได้”เจียงหวนที่อยู่ด้านนอกได้รับอนุญาตก็ถือกล่องอาหารเดินเข้ามา แต่ยังไม่ทันจะทำความเคารพ ขันทีที่เฝ้าอยู่ด้านนอกก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อยและคุกเข่าเบื้องหน้าฮั่วหลิน“ฝ่าบาท อวี๋ฉางไจ้แจ้งว่ามีเรื่องด่วนจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ!”[อวี๋ฉางไจ้นี่มันอะไรนักหนา น่ารำคาญจริงๆ!]ฮั่วหลินขมวดคิ้วตรัสเสียงขรึม “ไม่พบ”แต่ไม่รอให้ขันทีออกไปรายงาน มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังมาจากนอกตำหนัก“ฝ่าบาท! หม่อมฉันมีเรื่องเร่งด่วน! เกี่ยวข้องกับพระชนม์ชีพพระองค์! ได้โปรดให้หม่อมฉันเข้าเฝ้าด้วย!”[อวี๋ฉางไจ้จะทำอะไรอีกแล้ว?][ร้องอย่างกับถูกผีเข้า แค่กินอาหารสักมื้อจะมีอันตรายถึงชีวิต
Baca selengkapnya

บทที่ 46

อวี๋ฉางไจ้แสยะยิ้ม “จะเป็นการใส่ร้ายหรือไม่ แค่คำพูดเจ้าอย่างเดียวมันพิสูจน์ไม่ได้หรอกนะ”นางคลานเข้าไปทางฮั่วหลินหลายก้าว “ฝ่าบาท ทุกอย่างที่หม่อมฉันพูดเป็นความจริง ขอทรงให้คนตรวจสอบด้วยเพคะ!”ฮั่วหลินไม่เชื่อนางสักนิด แต่เขาก็ทำตามที่นางต้องการเพื่อให้นางหยุดพูดเสียทีเขาส่งสายตาให้หวังเต๋อกุ้ย หวังเต๋อกุ้ยนำเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่ม นำไปจิ้มที่อาหารของเจียงหวนเบาๆบรรยากาศภายในห้องตึงเครียด สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เข็มเงินพบว่าเข็มเงินที่จุ่มลงไปในอาหารได้เปลี่ยนเป็นสีดำ!อวี๋ฉางไจ้ทั้งสะใจทั้งดีใจ ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความตื่นเต้น“หลักฐานประจักษ์ชัดแจ้ง! เจ้ายังมีอะไรจะแก้ตัวอีก!”“ข้า…”นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ฟ้าดินเป็นพยาน ผู้ใดกันที่ยืมมือนางเพื่อวางยาพิษที่พึ่งของนาง! ผู้ใดกัน?เจียงหวนไม่เคยคิดมาก่อน ว่าอาหารที่ตัวเองทำจะถูกตรวจพบว่ามีพิษแต่นางกำลังจะอธิบาย จู่ๆ ก็รู้สึกว่าโลกหมุนคว้าง ภาพตรงหน้ามืดดับเสียงรอบตัวค่อยๆ ห่างออกไป เจียงหวนยืนทรงตัวไม่ไหวอีกต่อไป ล้มหมดสติลงอวี๋ฉางไจ้ตกใจกับปฏิกิริยาของเจียงหวน แต่นางก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วนังแพศยา! คิดจะใช้แผนทำ
Baca selengkapnya

บทที่ 47

“ทูลฝ่าบาท เป็นพิษอย่างเดียวกันพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮั่วหลินดำทะมึนทันที ดวงตาที่ล้ำลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวเรื่องการวางยาพิษครั้งนี้ดูมีเงื่อนงำมากเกินไป และคำพูดของอวี๋ฉางไจ้ก็ช่างบังเอิญเหลือเกิน ยากที่จะไม่คิดมากเขากวักมือเรียกหวังเต๋อกุ้ย สั่งการอะไรบางอย่าง หวังเต๋อกุ้ยรับคำสั่งเสียงเบาแล้วจากไปตอนนี้หมอหลวงฉางฝังเข็มเสร็จแล้ว ทำการยาโอสถถอนพิษให้เจียงหวนเม็ดหนึ่งต่อเจียงหวนยังไม่ฟื้น ใบหน้าที่เคยมีเลือดฝาด บัดนี้ซีดขาว ความร่าเริงสดใสถูกบดบังไว้ใต้ดวงตาที่ปิดสนิท หน้าผากนางมีเหงื่อซึมเล็กน้อยจากการถูกยาพิษ เส้นผมที่หลุดลุ่ยทำให้ดูแล้วน่าสงสารฮั่วหลินมองแล้วรู้สึกสงสาร รับผ้าจากขันทีมาเช็ดหยาดเหงื่อบนหน้าผากนางอย่างแผ่วเบา“จวงกุ้ยเหรินจะฟื้นเมื่อไร?”หมอหลวงฉางรีบตอบ “แค่หนึ่งเค่อก็อาจจะฟื้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“พิษนี้มีผลกระทบต่อร่างกายหรือไม่ หลังจากนี้ต้องระวังอะไรเป็นพิเศษหรือไม่…”มีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหู เจียงหวนรู้สึกว่าภายในหัวสับสนไปหมดนางพยายามลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือฮั่วหลินที่นั่งอยู่ข้างเตียงดวงตาของฮ่องเต้หนุ่มหลุบลง ความเย็น
Baca selengkapnya

บทที่ 48

ความเย็นยะเยียบในดวงตาฮั่วหลินทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น รัศมีแห่งความไม่พอใจแผ่ออกมาแบบไม่ปิดบัง[ในที่สุดซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานก็ทำให้สมองของอวี๋ฉางไจ้พังจนได้][การใส่ความที่โจ่งแจ้งขนาดนี้ คิดว่าเรามองไม่ออกหรือ?]เจียงหวนได้ยินเสียงในใจฮั่วหลินก็พอจะเดาได้เช่นกันก่อนจะหมดสติ นางก็กำลังคิดอยู่ว่าการมาของอวี๋ฉางไจ้ดูเหมาะเจาะเกินไป น่าจะทำอะไรบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางลูกคิดดีดดังเป๊าะแป๊ะ! ในฝูงชนมีคนร้ายซ่อนอยู่!ถ้าวันนี้นางไม่หมดสติก่อนที่ฮั่วหลินจะกิน คิดว่าคงล้างมลทินให้ตัวเองได้ยากแม้ตัวเองจะเกือบถูกวางยาพิษตาย แต่มันก็จับพลัดจับผลูช่วยชีวิตนางไว้เช่นกันเจียงหวนลุกขึ้นนั่งแล้วลงจากเตียง ใบหน้ายังคงซีดขาว แต่รัศมีรอบกายกลับไม่อ่อนแอเลยวันนี้ปลาเค็มพลิกตัวแล้ว!นางมองลงไปที่อวี๋ฉางไจ้ “หมอหลวงตรวจสอบแล้ว พิษในอาการกับพิษที่ข้าโดนเป็นพิษตัวเดียวกัน”“หากข้าวางยาพิษฝ่าบาทจริง ข้าก็คงจะใจกล้าเกินไปแล้ว!”อวี๋ฉางไจ้เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างฮั่วหลิน หัวใจถูกความอิจฉาเข้าครอบงำนางเป็นคนช่วยฝ่าบาท ผู้ที่ยืนอยู่ข้างฝ่าบาทควรเป็นนางถึงจะถูก!เจียงหวน! เจ้ามีสิทธิ์อะ
Baca selengkapnya

บทที่ 49

นางก้มหน้าลง สายตาล่อกแล่กไปมาหลักฐานหรือ? หมายความว่าอย่างไร หรือว่าฮ่องเต้จะทรงทราบอะไรบางอย่าง?ขณะที่อวี๋ฉางไจ้กำลังร้อนรนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร หวังเต๋อกุ้ยก็เดินเข้ามาเขานำคำให้การของพ่อครัวหลวง เงินสินบน และยาพิษออกมาของแต่ละอย่างจัดวางเบื้องหน้านางเหมือนยันต์สั่งตายฮั่วหลินแค่นเสียงเย็น สายตาคมกริบพุ่งตรงไปที่นาง“ยังจะแก้ตัวอีกไหม?”อวี๋ฉางไจ้จิกนิ้วกับพื้นจนเล็บงอขึ้นโดยไม่รู้ตัวไม่ได้ นางจะยอมรับไม่ได้! ถ้าหากยอมรับ ทุกอย่างก็จบสิ้นแล้ว!“หม่อมฉันถูกใส่ความเพคะ!” อวี๋ฉางไจ้กอดขาฮั่วหลินด้วยดวงตาอ้อนวอน “ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณา จวงกุ้ยเหรินต้องใส่ร้ายหม่อมฉันเป็นแน่! หม่อมฉันไม่เคยวางพิษพระองค์นะเพคะ!”“โง่เขลาสิ้นดี!” ฮั่วหลินขมวดคิ้ว หวังเต๋อกุ้ยกลัวจนเหงื่อตก เรียกให้ข้ารับใช้เข้ามาดึงอวี๋ฉางไจ้ออก“ถูกใส่ร้ายหรือไม่ก็ไปพูดที่ตำหนักเย็นเถอะ”เขาไม่อยากเสียเวลากับหญิงโง่นางนี้อีกแล้ว เผยอปากเปล่งคำชี้ขาดสุดท้าย“ตำหนักจิ่นหวาไม่เป็นมงคล ต่อจากนี้จวงกุ้ยเหรินก็ย้ายไปอยู่ตำหนักเว่ยยาง”อะไรนะ?เจียงหวนมุดศีรษะอยู่ใต้ผ้าห่ม ตอนนี้โผล่หน้าออกมาเล็กน้อย“ฝ่า
Baca selengkapnya

บทที่ 50

เจียงหวนเลือกวันที่อากาศแจ่มใส เก็บสัมภาระในตำหนักฝั่งตะวันตกเสร็จเรียบร้อยแล้วพาคนย้ายเข้าตำหนักเว่ยยางอย่างเป็นทางการ“พระสนม หมายความว่า ทั้งตำหนักเว่ยยางเป็นของพวกเราหรือเพคะ?”เสี่ยวเจาถามเป็นครั้งที่หนึ่งร้อยหนึ่งในขณะที่มองสวนบุปผาที่สวยราวกับความฝันของตำหนักเว่ยยาง“น้ำลายจะไหลออกมาแล้วนะ”เจียงหวนยกมือขึ้นดีดหน้าผากนางอย่างเอ็นดู ก่อนจะกวาดสายตามองรอบตำหนัก“วาจาของฮ่องเต้จะเป็นเรื่องโกหกได้อย่างไร ที่ตำหนักเว่ยยางแห่งนี้ พวกเราใหญ่ที่สุด”“แต่เรื่องนี้ต้องทำเงียบๆ เรื่องที่พวกเราเป็นเจ้าครองตำหนัก มีแค่เจ้ากับข้าที่รู้ก็พอ ห้ามให้หลุดออกจากตำหนักเว่ยยาง”นางกำชับเสี่ยวเจาเพิ่มอีกสองสามประโยค บอกให้นางจับตาดูคนในตำหนัก โดยเฉพาะคนที่กรมวังฝ่ายในส่งมาใหม่ช่วงนี้นางได้อะไรมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องสงบเสงี่ยม “วางใจได้เพคะ บ่าวจะจับตาดูให้ดี ไม่ให้สร้างปัญหาแก่พระสนมเด็ดขาด” เสี่ยวเจาตบหน้าอกรับประกันกับเจียงหวนเจียงหวนค่อนข้างวางใจในการทำงานของเสี่ยวเจานางตรวจสอบข้ารับใช้ชุดนี้มาแล้วรอบหนึ่ง ภายนอกดูเป็นคนดี แต่กระนั้นก็ต้องสังเกตการณ์ต่อไปเมื่อไม่มีเรื่องกวนใจ นางก
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
34567
...
9
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status