Semua Bab อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Bab 51 - Bab 60

88 Bab

บทที่ 51

แต่หากไร้กฎเกณฑ์ก็จะไร้ระเบียบ นางเองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมโดนเอาเปรียบบรรดาข้ารับใช้คุกเข่าลงตอบพร้อมกัน “เพคะ”ในวันแรกของการย้ายเข้ามาใหม่ เจียงหวนตัดสินใจจัดงานเลี้ยงหม้อไฟสุดหรูให้กับตัวเองนางให้เสี่ยวเจาไปหาโต๊ะกลมตัวใหญ่ เพิ่มตะเกียบหลายคู่ เรียกนางกำนัลกับขันทีที่มาใหม่ให้มากินด้วยกันเฉลิมฉลองที่นางได้ขึ้นเงินเดือน ทำงานอย่างขยันขันแข็งในวังหลังแห่งนี้เพื่อปูทางให้ตัวเองอีกขั้นท่ามกลางไอน้ำร้อนระอุกับผักที่เดือดในหม้อน้ำมันสีแดง ภายใต้การชี้นำอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจของเจียงหวน บรรดานางกำนัลก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังรู้สึกดีต่อพระสนมกุ้ยเหรินมากขึ้นเจียงหวนมองนางกำนัลที่เผ็ดจนพูดไม่ชัด คิดในใจว่าต้องหาโอกาสเลี้ยงอาหารพวกนางบ่อยๆเพราะการยั่วยวนของอาหารนั้นยิ่งใหญ่ ไม่มีอะไรที่แก้ไขด้วยอาหารไม่ได้!หากหนึ่งมื้อไม่พอก็จัดให้หลายๆ มื้อ!เรื่องที่เจียงหวนย้ายเข้าตำหนักเว่ยยางไม่ได้สร้างความวุ่นวายในวัง อาจเพราะฮ่องเต้ ไทเฮา และเจียกุ้ยเหรินไม่ได้ทำอะไร ด้วยเหตุนี้ ต่อให้คนอื่นๆ จะไม่พอใจก็ไม่กล้าแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้งวันเวลาผ่านไปอย่างสงบสุขจนกระทั่งเข้าสู่ฤดู
Baca selengkapnya

บทที่ 52

“ไทเฮาทรงล้อหม่อมฉันเล่นแล้วเพคะ ฝ่าบาทเป็นสวามีของหม่อมฉัน หม่อมฉันควรตั้งใจปรนนิบัติรับใช้ ไม่กล้าละเลยแม้เพียงน้อย”เจียงหวนกะพริบตาพูดอย่างจริงใจ เสมือนฟังความหมายในคำพูดของไทเฮาไม่ออกไทเฮาเห็นเจียงหวนวางท่าไร้เดียงสาก็วางถ้วยชาในมือลงด้านข้างอย่างแรง“จวงกุ้ยเหริน นี่เจ้ากำลังอวดดีให้ข้าดูรึ?”ตั้งใจปรนนิบัติรับใช้อะไร ไม่กล้าละเลยอะไร!นอกจากเจียงหวนแล้ว สนมคนอื่นๆ ในวังหลังไม่แม้แต่จะได้เจอหน้าฮั่วหลินเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปรนนิบัติเจียงหวนทำหน้าใสซื่อ “กราบทูลไทเฮา หม่อมฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น”ขนตาหนายาวหลุบลง นางก้มหน้าทำท่าเรียบร้อย ทว่ากลับไม่พูดถึงเรื่องตามเสด็จไปพระราชวังฤดูร้อนไทเฮาตรัสเช่นนี้ก็เพื่อให้นางเป็นฝ่ายถอนตัวไม่ใช่หรืออย่างไร?การไปพระราชวังฤดูร้อนถือเป็นโอกาสทอง ทั้งได้เพิ่มความโปรดปรานของฮ่องเต้ ทั้งได้หลีกหนีจากวังหลังที่วุ่นวายที่สำคัญที่สุดคือ เมืองหลวงที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศนี่มันร้อนจริงๆ !!!นางจะไม่ยอมพูดหรอกนะ จะทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไปตราบใดที่ฮั่วหลินยังคงเป็นฮั่วหลินคนเดิม นางก็จะได้ไปด้วยอย่างแน่นอนบรรยากาศภายในห้องตึงเครียด
Baca selengkapnya

บทที่ 53

นางขยิบตาอย่างเจ้าเล่ห์ “หม่อมฉันเลี้ยงปลาจิ่นอวี๋ตัวอ้วนขาวอยู่สองตัวด้วย”ในเวลาเดียวกันฮั่วหลินกำลังหารือเรื่องรายชื่อผู้ติดตามและสิ่งของที่จะนำไปพระราชวังฤดูร้อน“ฝ่าบาท นี่เป็นรายชื่อผู้ติดตามของวังหลังที่เจียกุ้ยเฟยส่งมาพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าเป็นการร่างร่วมกันกับไทเฮา” หวังเต๋อกุ้ยนำรายชื่อมาให้ฮั่วหลินทอดพระเนตรฮั่วหลินกวาดสายตามอง เดิมทีวังหลังของเขาก็มีแค่ไม่กี่คน จะร่างหรือไม่ร่างรายชื่อก็ไม่ได้สำคัญแต่ปีนี้แตกต่างออกไปฮั่วหลินปิดสมุดรายชื่อก่อนจะตรัสอย่างเรียบเฉย “เพิ่มจวงกุ้ยเหรินเข้าไปด้วย”กล้าดีอย่างไร! ในรายชื่อนี้ถึงไม่มีชื่อของเจียงหวน!?ต้องไปพระราชวังฤดูร้อนตั้งนาน ห้องเครื่องก็ยังเป็นชุดเดิม อาหารก็ยังคงไม่อร่อยเหมือนเดิมถ้าเจียงหวนไม่มา เช่นนั้นที่เขาไปก็คงไม่ได้เรียกว่าหนีร้อน แต่เรียกว่าไปบวชพระเลยต่างหาก!ฮั่วหลินพูดอย่างราบเรียบ ทว่ามันกลับสร้างความฮือฮา บรรดาขุนนางเบื้องล่างเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินฮั่วหลินเอ่ยปากว่าจะพาสนมไปด้วยพึงรู้ไว้ว่าฮ่องเต้ไม่ได้โปรดปรานวังหลังมานานแล้ว ทุกวันนี้ยังไม่มีพระโอรสพระธิดาแม้แต่องค์เ
Baca selengkapnya

บทที่ 54

ท่านหญิงไม่รู้ถึงความคิดของเจียงหวนสักนิด นางพูดเพียงว่า “พี่หญิงเจียง ท่านได้ฟังอยู่หรือไม่? ต้องทำให้เสด็จอาทรงเลือกท่านทุกครั้ง!”ท่านหญิงดื่มชาเย็นจนหมด จากนั้นตาเป็นประกายและรินให้ตัวเองเพิ่มอีกถ้วยนางไม่เคยคิดมาก่อนว่าชาแดงจะมีวิธีทำแบบนี้ด้วย ดื่มแล้วหวานสดชื่น เหมาะแก่การดื่มในสภาพอากาศที่ร้อนแบบนี้เมื่อคิดแบบนี้ ท่านหญิงก็ยิ่งอยากให้เจียงหวนเป็นที่โปรดปรานของฮั่วหลิน“หม่อมฉันไม่ได้หูหนวก”“แต่จะให้ถวายตัวทุกวันได้อย่างไร ร่างกายรับไม่ไหว รับไม่ไหวหรอก…”เจียงหวนพูดพลางมองไปนอกประตู ครั้นพบว่ามีเสี่ยวเจาเพียงคนเดียวก็ถอนหายใจโล่งอกมิเช่นนั้นผู้อื่นได้ยินเข้าอาจคิดได้ว่าไม่ให้เกียรติฮ่องเต้…“พี่หญิงเจียง ท่านอย่าดูแคลนตัวเอง ท่านทำอะไรเป็นตั้งหลายอย่าง ต้องคว้าพระทัยเสด็จอามาครองได้แน่นอน”เจียงหวนเหงื่อตกในใจ จบแล้ว ยิ่งพูดก็ยิ่งแปลกท่านหญิงไม่รู้ความคิดในใจเจียงหวน เอาแต่ให้กำลังใจไม่หยุดนางอยู่พูดคุยอีกสักพักก็รีบให้เจียงหวนไปเตรียมตัว จากนั้นบอกลาจากไปหลังจากท่านหญิงกลับไป เจียงหวนก็นั่งหน้ากระจกทองเหลือง มองใบหน้าที่เหมือนคนตายซากของตัวเองในฐานะหญิงสาว
Baca selengkapnya

บทที่ 55

ใบหน้าเจียงหวนร้อนผ่าว นางกัดริมฝีปากตัวเอง พยายามซ่อนอาการประหม่ากรี๊ด! จะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ทำอันใด!ตกลงกันว่าจะแค่กินอาหาร ไม่ถวายตัวมิใช่หรือ!เจียงหวนประหม่ามาก ใบหน้าหล่อเหลาของฮั่วหลินค่อยๆ ขยับเข้าใกล้ ขนตาสั่นไหว สุดท้ายก็หลับตาลงอย่างทนไม่ไหวถวายตัวก็ถวายตัวเถอะ ก่อนจะมาก็เตรียมใจมาแล้วมิใช่หรือ?ฟู่ว ขนาดคนในยุคโบราณยังรับได้ ตัวนางที่มาจากยุคอนาคตจะเขินอายทำอันใดเจียงหวนให้กำลังใจตัวเอง นางรู้สึกว่าลมหายใจของฮั่วหลินเข้ามาใกล้แค่เอื้อมแต่กลับหยุดลงมีสัมผัสอบอุ่นแตะลงบนแก้มข้างหูของนาง จากนั้นลมหายใจที่อยู่ใกล้ก็ผละห่างออกไปอย่างฉับพลัน [หืม? เราแค่เช็ดแป้งที่เลอะหน้าจวงกุ้ยเหริน นางจะหลับตาทำอันใด?][ยังไม่ทันจะถึงยามจื่อ [1] จวงกุ้ยเหรินก็ง่วงขนาดนี้แล้วหรือ?]หือ?เจียงหวนลืมตาขึ้น เห็นว่าฮั่วหลินกำลังเช็ดมือด้วยผ้าไหม ดวงตาดำขลับลุ่มลึกฉายแววสงสัยเจียงหวน “…”เอาเถอะ เมื่อครู่นี้นางคิดไปเองเมื่อถูกฮั่วหลินขัดจังหวะเช่นนี้ ความประหม่าของเจียงหวนก็มลายหายไปหมดสิ้นนางเปิดกล่องอาหาร ยกอาหารออกมาทีละอย่าง“นี่เป็นทอดมันปลาเสวี่ยอวี๋กับขนมหน้าแตกที่หม่อม
Baca selengkapnya

บทที่ 56

นิ้วมือเรียวขาวกำขวดโอสถ แผนร้ายกำลังก่อตัวขึ้นในเงามืดเช้าวันรุ่งขึ้น เจียงหวนตื่นตั้งแต่เช้าหากมีข่าวลือแพร่สะพัดออกไปว่านางนอนตื่นสายที่ตำหนักหย่างซิน ไทเฮาคงได้จับนางถลกหนังครั้นกลับถึงตำหนักเว่ยยาง เจียงหวนก็ทำการตรวจสอบของที่ต้องพกไป “ครบทุกอย่างแล้ว ยกออกไปได้เลย”เสี่ยวเจามีสีหน้าลำบากใจ มองหีบที่เต็มไปด้วยเครื่องครัวแล้วพูดอย่างลังเล “พระสนม พวกเราอุตส่าห์ไปหลบร้อนที่พระราชวังฤดูร้อนทั้งที พวกเราต้องพกของพวกนี้ไปจริงๆ หรือเพคะ?”เจียงหวนพยักหน้าอย่างจริงจัง ของพวกนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของนางทั้งนั้น“ใช่ รีบบอกให้คนมาขนขึ้นรถม้า”เสี่ยวเจาไม่พูดอะไร ได้แต่ทำตามที่เจียงหวนสั่งภายในห้องทรงพระอักษร ฮั่วหลินสวมอาภรณ์สีดำ หันหน้าเข้าชั้นหนังสือและหันหลังให้กับทุกคนในห้อง นิ้วมือเรียวยาวถือกระดาษไว้แผ่นหนึ่ง สีหน้าดูเคร่งขรึมในราชสำนักมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ต่างคนต่างมีเจตนาซ่อนเร้น จะแก่งแย่งชิงดีหรือใส่ร้ายกันเขาก็ไม่เคยสนใจแต่บัดนี้กลับมีคนกล้าคิดร้ายกับเขา?คิดจะสังหารข้า ใจกล้านักนะ!หวังเต๋อกุ้ยอยากพูดอะไรหลายครั้ง แต่เขาไม่กล้ามองพระพักตร์ที่เคร่งขรึมของฮ่องเต
Baca selengkapnya

บทที่ 57

นางกำนัลนางนั้นเข้าใจทันที เดินเข้าไปใกล้กุ้ยเฟยและส่งของบางอย่างที่อยู่ในแขนเสื้อให้แก่กันเจียงหวนอยากมองให้ชัดกว่านี้กลับถูกฝูงชนบังไว้ทุกอย่างเกิดขึ้นโดยเงียบเชียบ ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นนางกำนัลนางนั้นถอยออกไปสองก้าวเงียบๆ ไปยืนอยู่ข้างนางกำนัลของหว่านผินการตรวจสอบของพวกนี้ต้องใช้เวลาและแรงงานเยอะมาก ไม่ใช่จะทำเสร็จภายในเวลาชั่วครู่สัมภาระของหว่านผินได้รับการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อขันทีเปิดหีบของเจียงหวน สีหน้ากลับต้องแข็งทื่อและหยุดการกระทำการกระทำดังกล่าวดึงดูดความสนใจของทุกคนทันทีมีอะไรแปลกๆ!ฮั่วหลินขมวดคิ้วก่อนจะเดินเข้ามาดูพบว่าภายในหีบมีแต่หม้อ กระทะ ชาม แม้แต่เครื่องปรุงรสก็ยังครบครันมุมปากเขายกยิ้มบางๆ ฮั่วหลินไม่ได้แสดงอาการอะไรมาก เพียงส่งสัญญาณให้ตรวจสอบต่อ[สมกับเป็นคนตะกละจริงๆ][ตอนแรกเราก็หงุดหงิด ต้องขอบคุณจวงกุ้ยเหริน เราเกือบหลุดหัวเราะออกมาแล้ว]เจียงหวนค้อนในใจ กล้าว่านางว่าเป็นตะกละด้วยหรือเชอะ หากไม่ใช่เพราะต้องเลี้ยงคนบางคนไม่หยุด นางก็คงพกไปแค่สัมภาระของตัวเองหว่านผินเดินไปดูด้วยความสงสัย จากนั้นปากปิดหัวเราะ แววตาฉายแววเย้ยหยัน
Baca selengkapnya

บทที่ 58

[ถ้ายังไม่สาแก่ใจ…ก็เอาศพไปแขวนหน้าประตูเมือง จะได้เป็นเตือนไม่ให้เอาเยี่ยงอย่าง ทำเป็นเนื้อตากแห้ง!]เจียงหวนถอนหายใจโล่งอก ดึงให้เสี่ยวเจาขึ้นรถม้านางไม่สนใจว่าฮั่วหลินจะจัดการมือสังหารอย่างไร หากยังไม่ไปอีก นางคงได้กลายเป็นมันเผาไปเสียก่อน“เสี่ยวเจา เจ้าเอาขนมไปไว้บนรถม้า พวกเราจะได้กินระหว่างเดินทาง”เจียงหวนรอจนหิวแล้ว ประเดี๋ยวฮั่วหลินก็จะกินเหมือนกัน นำออมาเลยจะได้สะดวก“เพคะ”นางยืนรออยู่ข้างรถม้า ไม่ได้สังเกตเห็นหว่านผินที่เดินผ่านไปอากาศร้อนระอุ ทุกคนยืนกลางแดดมานาน ต่างคนต่างก็อยากรีบขึ้นรถม้าไปหลบแดดนางกำนัลของหว่านผินประคองหว่านผินเดินค่อนข้างเร็ว ไม่ทันได้สังเกตเจียงหวนที่ยืนอยู่ด้านข้างเช่นกันทั้งสองคนจึงชนกันโดยไม่ทันตั้งตัวเดิมทีเจียงหวนก็ร้อนจนวิงเวียนอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังหิวโซ เมื่อถูกเดินชนจึงเข่าอ่อนทรุดล้มใส่รถม้าทันทีหว่านผิงหยุดเดิน มองท่าทีที่ดูเกินจริงของเจียงหวน ทั้งรู้สึกร้อน ทั้งรู้สึกอิจฉา กล่าวเสียงเย็นว่า“จวงกุ้ยเหรินช่างบอบบางยิ่งนัก ชนแค่เบาๆ ต้องเป็นถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”เจียงหวนเกาะรถม้าเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นยืน หันกลับไปมองหว่านผิน
Baca selengkapnya

บทที่ 59

เสียงร้องไห้และตะโกนของหว่านผินลอยห่างออกไปเรื่อย ๆ จนไม่ได้ยินอีกเจียงหวนรู้สึกปวดตุบๆ ที่ขมับช่วงนี้วังหลังวุ่นวายชะมัดในจุดที่ไม่มีผู้ใดมองเห็น ม่านรถม้าของรถม้าคันหนึ่งถูกปิดลงหลังจากที่เรื่องวุ่นวายสงบลง“เสียดายโอสถขวดนั้นชะมัด”เจียกุ้ยเฟยกำหมัดแน่น นางตั้งใจว่าจะใช้โอสถขวดนั้นในการชิงความโปรดปรานผู้ใดกันที่ทำความลับรั่วไหล!นางกำนัลข้างเจียกุ้ยเฟยช่วยนวดขาให้นางเบาๆ และพูดเสียงต่ำว่า “พระสนม วันหน้ายังอีกยาวไกล ได้กำจัดหว่านผินไปหนึ่งคนก็ดีนะเพคะ”คำพูดนี้ถูกใจเจียกุ้ยเฟยมากเจียกุ้ยเฟยตอบรับว่า “อืม” ใช้มือข้างหนึ่งกุมขมับและหลับตาลงรถม้าเริ่มโคลงเคลงไปมา คณะเดินทางมุ่งหน้าสู่พระราชวังฤดูร้อนกันอย่างยิ่งใหญ่การเดินทางไปพระราชวังฤดูร้อนนั้นไกลมาก เจียงหวนนั่งรถม้าเพียงไม่นานก็รู้สึกเบื่อแล้วอยากเล่นโทรศัพท์มือถือ อยากกินขนมนางเท้าคางมองนอกหน้าต่าง สิ่งที่เห็นมีแต่สีเขียว นางเห็นแบบนี้มาหนึ่งชั่วยามแล้วต่อให้สีเขียวจะธรรมชาติมากเพียงใด แต่มองนานๆ ก็รู้สึกเบื่อพวกนางยังต้องเดินทางอีกหลายวัน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงได้เบื่อตายบนรถม้าต้องหาอะไรมาฆ่าเวลาสักหน
Baca selengkapnya

บทที่ 60

เจียงหวนเกือบหัวเราะออกมา จึงต้องแสร้งทำเป็นกระแอมไอไม่มีผู้ใดจะเห็นแก่กินขนาดนี้แล้วนางวางของกินลงบนโต๊ะอย่างเอาใจ จากนั้นยื่นไพ่ป๊อกให้ฮั่วหลิน“ฝ่าบาท นี่เป็นของเล่นที่หม่อมฉันเพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่ เรียกว่าไพ่ป๊อก เอาไว้เล่นยามเบื่อได้ทั้งคืนเลยเพคะ”[น่าสนใจ การเดินทางนี้ทั้งร้อนทั้งน่าเบื่อ เราแทบจะเบื่อตายอยู่แล้ว][จวงกุ้ยเหรินเป็นเทพธิดามาโปรดโดยแท้ ขุนนางบุ๋นบู๊ทั่วทั้งราชสำนักดีแต่ยื่นฎีกาให้เราปวดหัว มีเพียงนางที่เอาแผ่นเสวี่ยเกานี่มาแก้เบื่อให้เรา]ฮั่วหลินรับไพ่ป๊อกมาดูด้วยความสงสัย ทั้งยังเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน “สิ่งนี้มันเล่นอย่างไร?”เจียงหวนยิ้ม นี่ก็คือเสน่ห์ของการละเล่นยุคใหม่นางพยักหน้าอย่างว่าง่าย นั่งลงตรงข้ามฮั่วหลินและเริ่มอธิบายกติกาการเล่นนางสับไพ่ในมือ ฮั่วหลินมองอย่างตั้งใจ พยักหน้าเป็นครั้งคราว ไม่นานก็เข้าใจวิธีการเล่น“แต่ว่า ตอนนี้พวกเราขาดคนเล่นอีกหนึ่งคนเพคะ” เจียงหวนเกาหัว“หวังเต๋อกุ้ย” ฮั่วหลินพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย หวังเต๋อกุ้ยเข้ามาทันทีเมื่อเข้ามาก็กลายเป็นเพื่อนร่วมวงไพ่ไปโดยปริยาย ออกไปไม่ได้อีกทั้งสามคนนั่งบนรถม้า เริ่มเล่นตาแ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
456789
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status