All Chapters of การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน: Chapter 41 - Chapter 50

84 Chapters

บทที่ 41

เยว่เจี้ยนเวยกระโดดออกมา วิ่งไปที่ข้างดอกไม้นั้น เก็บเมล็ดสีดำสนิทบนพื้นขึ้นมาจำนวนหนึ่งซ่อนไว้ใต้ปีก และถือโอกาสเตะต้นดอกไม้สองทีเพื่อระบายความโกรธล้วนเป็นความผิดของพวกมันที่ไม่ยอมออกดอก ทำให้โม่ชางหลานไม่พอใจ หากเขาไม่เห็นว่าดอกไม้นี้ใกล้ตายอยู่แล้ว คงต้องถอนรากถอนโคนมันทิ้งไปแน่ผู้ใดทำให้โม่ชางหลานขุ่นเคืองใจ เขาก็จะทำให้มันผู้นั้นขุ่นเคืองใจเช่นกันเมื่อเยว่เจี้ยนเวยขโมยเมล็ดดอกไม้มาแล้ว ก็ไปที่ชั้นวางสมุนไพรวิเศษด้านข้าง ดมซ้ายดมขวา หลังแยกแยะสมุนไพรวิเศษที่เขาต้องการได้แล้วหลายชนิด ก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที รวบรวมทั้งหมดซ่อนไว้ใต้ปีกของตน ฉวยโอกาสตอนที่ยังไม่มีคนกลับมา รีบหุบปีกให้แน่นแล้ววิ่งหนีไปพริบตาเดียวก็วิ่งกลับมาถึงที่พักเวลานี้ข้างนอกแทบไม่มีคนแล้ว เยว่เจี้ยนเวยกระโดดผ่านหน้าต่างเข้าไปในห้อง กลิ้งตัวบนเตียงหนึ่งครั้ง แล้วเด็กหนุ่มเปลือยกายคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนที่นอนเยว่เจี้ยนเวยหยิบพืชศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นขึ้นมา พินิจพิเคราะห์อย่างละเอียด พลางกล่าวในใจว่า แดนหิมะขาวช่างยากจนแร้นแค้นเสียจริง สมุนไพรวิเศษที่ตระกูลโม่ใช้ มีคุณภาพเพียงพอใช้ได้เท่านั้นแต่อย่างไรมียั
Read more

บทที่ 42

เยว่เจี้ยนเวยตาไว แม้ดาวประกายพรึกยังไม่ขึ้น แต่เขาก็เห็นรอยฟกช้ำดำเขียวบนร่างเด็กหนุ่มคนนั้นได้อย่างชัดเจน รวมถึงรอยแดงที่เพียงแค่มองก็รู้ว่าเป็นร่องรอยจากอะไรด้วยว่าในชาติก่อนเยว่เจี้ยนเวยเคยผ่านโลกมาแล้ว ย่อมมองออกถึงสาเหตุเป็นธรรมดาเขาไม่คิดจริง ๆ ว่าจะเป็นเช่นนี้ชิวอวี่ตกใจ บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตา แต่เมื่อเห็นว่าคนผู้นี้คือเยว่เจี้ยนเวยจึงโล่งใจ เขาลุกขึ้นจากพื้น จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนนอนคว่ำลงบนเตียงอีกครั้ง เช็ดหน้าพลางกล่าวว่า “เหตุใดเจ้าถึงชอบใช้ความรุนแรงนัก เตะประตูข้าพัง เจ้าเรียกคนมาซ่อมเลยนะ”เยว่เจี้ยนเวยเดินเข้าไปหา พลางกล่าวว่า “ซ่อมประตูต้องใช้เงินหรือไม่?”ชิวอวี่ตอบ “ต้องใช้สิ ซ่อมครั้งหนึ่งสิบตำลึงเงินเมืองร้าง”เยว่เจี้ยนเวย “...”ตำลึงเงินเมืองร้างกับผลึกวิญญาณชั้นต่ำแลกกันประมาณหนึ่งพันตำลึงต่อผลึกหนึ่งก้อน ตามอัตราค่าจ้างที่ได้ผลึกวิญญาณชั้นต่ำเดือนละสิบก้อน เงินจำนวนสิบตำลึงเมืองร้างไม่นับว่ามาก แต่เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายของครอบครัวทั่วไปในเมืองร้าง ก็ถือว่าแพงอยู่ดีเยว่เจี้ยนเวยลูบถุงเงินที่บางเฉียบของตน อดรู้สึกเข็ดฟันไม่ได้เขาเดินไปที่ขอบ
Read more

บทที่ 43

อาฝูเบ้ปาก กล่าวว่า “ไหนเลยจะมีคนมากมายขนาดนั้น รวมเจ้าแล้วก็มีแค่ห้าคน ส่วนคนอื่น ๆ ล้วนเป็นจำนวนที่เฒ่าบัดซบซุนหรงรายงานเท็จขึ้นไป ยกเว้นตอนที่ผู้ดูแลใหญ่มาตรวจ จึงยืมคนจากข้างล่างจำนวนหนึ่งมาแสดงละครตบตา แต่นอกเหนือจากนั้น จะมีคนจริง ๆ ที่ไหนกัน?”เยว่เจี้ยนเวยอ้าปากเหวอเล็กน้อย ในใจรู้สึกพิศวงงงงวย ได้แต่คิดว่า ผู้ดูแลซุนหรงนี่หาผลประโยชน์จากช่องเล็กช่องน้อยได้เก่งนัก กล้าเอาเบี้ยเลี้ยงคนมากมายขนาดนี้ไปเข้ากระเป๋าตัวเอง คิดดูว่าทั้งสวนผักนี้ นอกจากงานขนอุจจาระรดอุจจาระ งานอื่น ๆ ก็คงโกงเบี้ยเลี้ยงเช่นเดียวกันเยว่เจี้ยนเวยกลอกตาเล็กน้อย รู้สึกไม่ค่อยพอใจนักเยว่เจี้ยนเวยเป็นคนฉลาดหลักแหลม คิดดูสักครู่ ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้ต้องมีปัจจัยสำคัญอื่นแน่นอน“อาฝู เจ้าว่าผู้ดูแลซุนหรงคนนี้ ในบรรดาผู้ดูแลมากมายในแดนหิมะขาว ก็เป็นแค่ผู้ดูแลระดับล่างสุด แล้วเขาขวัญกล้าบังอาจขนาดนี้ได้อย่างไร?” เยว่เจี้ยนเวยถามอย่างอ้อมค้อมอาฝูไม่สงสัยอะไร ตอบตามตรงว่า “นี่เจ้าคงไม่รู้สินะ น้องชายแท้ ๆ ของผู้ดูแลซุนหรงชื่อซุนจง เป็นอาจารย์สอนวรยุทธ์ของสำนักฝึกวรยุทธ์แดนหิมะขาว แดนหิมะขาวของเรา มีทหารที่เป็
Read more

บทที่ 44

ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่วันไหน เวลาเยว่เจี้ยนเวยไปทำงาน ซุนหรงผู้นั้นก็เสมือนแมลงวันตัวหนึ่งที่วนเวียนอยู่รอบกาย คอยไถ่ถามทุกข์สุขเป็นระยะ บางครั้งถึงกับยื่นมือมาเช็ดเหงื่อเช็ดหน้าให้ พยายามจะโอบกอดเขา จนเยว่เจี้ยนเวยเห็นซุนหรงเมื่อไหร่ก็ต้องเดินเลี่ยงไปทางอื่นเมื่อนั้นคนอื่น ๆ ในสวนผัก เพียงเห็นท่าทางเช่นนี้ ก็รู้ว่าซุนหรงกำลังจะเผยความต้องการชั่วร้ายอะไรซุนหรงชอบเด็กหนุ่มที่รูปร่างบอบบาง ร่างกายอ่อนนุ่มและหน้าตาดีเป็นที่สุด ไม่รู้ว่ามีคนน่าสงสารที่ไร้อำนาจวาสนาถูกเขาข่มขู่ล่อลวงไปรังแกกี่คนแล้ว ซ้ำยังมีบางคนที่ถูกเล่นงานจนตาย แต่เพราะคนรับใช้ที่มาทำงานในสวนผักล้วนเป็นเด็กจากครอบครัวยากจนแถบเชิงเขา สุดท้ายซุนหรงก็จ่ายเงินปิดปากเพื่อยุติเรื่องราวเท่านั้นแม้จะมีคนรังเกียจไม่น้อย แต่พวกเขาก็ไร้อำนาจวาสนา จึงไม่กล้าไปขัดใจซุนหรงเยว่เจี้ยนเวยอดทนไว้ชั่วคราว เขารู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา หากตอนนี้ไปมีเรื่องกับซุนหรง ถึงแม้ตนเองจะสามารถฆ่าซุนหรงได้อย่างง่ายดาย แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ถูกจังหวะพริบตาเดียวเวลาหนึ่งเดือนก็ผ่านไป เยว่เจี้ยนเวยได้รับค่าจ้างประจำเดือนของตน แต่นับดูหลายรอบ กลับมีเพี
Read more

บทที่ 45

เมื่อแอบเข้าไปได้สำเร็จ ก็เห็นโม่อวิ๋นเจ๋อกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ข้างโม่ชางหลาน เล่นกับกระต่ายหูยาวตัวนั้นบนพื้นหิมะ พลางกล่าวว่า “พี่ใหญ่ วันนี้บิดาไปพบกับคณะพ่อค้าเร่ บอกว่าพวกเขานำอสูรระดับสูงมาจากภายนอกไม่น้อย บางตัวถึงกับยังไม่ได้ฝึกหัด บิดาจึงบอกว่าพรุ่งนี้ให้พวกเราไปดูกัน”นิ้วมือของโม่ชางหลานขยับขึ้นลง ผีเสื้อพลันบินวนเวียนระหว่างนิ้วมือของเขา ราวกำลังสนุกกับการละเล่น“อสูรส่วนใหญ่ก็เหมือนกันหมด ที่ซื้อมาก็ล้วนยังไม่ผ่านการฝึก ข้าไม่ค่อยชอบอสูร” โม่ชางหลานกล่าว “ไม่ไปดูดีกว่า หากเจ้ามีตัวที่ชอบก็เอามาเลี้ยงเถอะ”โม่อวิ๋นเจ๋ออุ้มกระต่ายหูยาวขึ้นมา กล่าวว่า “ข้าอยากได้อสูรที่แข็งแกร่งกว่าหมาป่าหิมะของตี๋หยาง คราวหน้าออกไปเจอเขา จะได้ใช้อสูรของข้าทำให้เขาตกใจตายไปเลย! ฮื่อ แต่ช่างหายากจริง”โม่ชางหลานหัวเราะเบา ๆ ก่อนเอ่ย “เจ้าช่างก้าวหน้า ไม่คิดจะเพิ่มพลังตัวเองเพื่อเอาชนะเขา แต่กลับหวังพึ่งอสูรให้ช่วยสร้างชื่อแทนเจ้าหรือ?”โม่อวิ๋นเจ๋อรู้สึกอึดอัดทันที กล่าวว่า “ข้าแค่ทนเห็นท่าทางของเขาไม่ได้”โม่ชางหลานกล่าว “ผู้ใดที่เก่งกว่าเจ้า เจ้าก็ทนไม่ได้ทั้งนั้น”โม่อวิ๋นเจ๋อรู้สึกเศร
Read more

บทที่ 46

โม่ยี่หานเห็นเยว่เจี้ยนเวยเต็มสองตาแล้วโม่ยี่หานเลิกคิ้ว กล่าวว่า “ดูหน้าตาสะอาดสะอ้านจริง บนหัวยังมีขนสีแดงกระจุกหนึ่ง เปลือกตาเหมือนทาชาดไว้ บนหัวยังมีเขาเล็ก ๆ สองอัน นี่มันสัตว์อะไรกัน? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นมาก่อน?”ผู้อาวุโสจื่อชวนพินิจมองเยว่เจี้ยนเวยด้วยความจริงจังครู่หนึ่ง ก่อนส่ายหน้า กล่าวว่า “ข้าก็ไม่รู้จักเช่นกัน ในแผนภาพไม่มีตัวรูปร่างเช่นนี้”เยว่เจี้ยนเวยร้องโฮ่งโฮ่งสองครั้ง กล่าวว่า “ข้าเป็นกิเลน เป็นลูกกิเลนเชียวนะ!”น่าเสียดายที่ทั้งสองคนไม่เข้าใจภาษาสัตว์โม่ยี่หานกล่าวว่า “คงเป็นพันธุ์ผสมกระมัง พวกลูกผสมไม่มีค่าหรอก ผู้อาวุโสจื่อชวน ท่านคงตาฝาดตอนซื้อ ถูกพ่อค้าเร่หลอกเอาเสียแล้ว”ผู้อาวุโสจื่อชวนอุทาน “อ้า” คำหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยความร้าวรานใจ “ฮือ ข้าน้อยแก่แล้วใช้การไม่ได้ เจ้าตัวน้อยนี่คงเลี้ยงได้ไม่กี่วันก็ตาย ตัวเล็กแค่นี้ เนื้อย่อมมีให้กินไม่กี่คำ การค้าครั้งนี้ นับว่าพวกเราขาดทุนย่อยยับ”เยว่เจี้ยนเวย “???”อะไรกัน คนพวกนี้ไม่รู้จักของดีหรือไร เขาเป็นกิเลนตัวผู้ที่สามารถแปลงร่างได้โดยกำเนิด ซึ่งหนึ่งล้านปีจะมีเพียงตัวเดียวเท่านั้น แล้วจะไม่มีค่าได้อย่างไ
Read more

บทที่ 47

อสูรหมาป่าหิมะเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าผ่านการฝึกฝนมาแล้วเยว่เจี้ยนเวยจึงดีดตัวขึ้น กระโจนเข้าไปท่ามกลางฝูงอสูรหมาป่าหิมะอย่างไม่กลัวตายหมาป่าหิมะเหล่านี้เดิมกำลังหลับสบาย แต่กลับถูกปลุกโดยลูกอสูรขนฟูที่ตกลงมาจากฟ้า จึงอารมณ์เสียขึ้นมาทันตา พากันเห่าหอนใส่เยว่เจี้ยนเวย มีหมาป่าหิมะตัวหนึ่งถึงกับกระโจนเข้าใส่เยว่เจี้ยนเวย หมายจะกลืนกินเขาทั้งตัว หรือไม่ก็ใช้กรงเล็บฉีกร่างให้เป็นชิ้น ๆเยว่เจี้ยนเวยกระโดดได้สูงมาก เหยียบหัวหมาป่าหิมะตัวหนึ่งแล้วกระโดดไปยังหัวของอีกตัวหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวอีกครั้ง ไถลลงไปตามแผ่นหลังของหมาป่าหิมะตัวที่สาม“อ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”โฮ่งโฮ่งโฮ่งโฮ่งโฮ่ง!เยว่เจี้ยนเวยสนุกสนานยิ่งนัก แต่กลับทำให้ฝูงหมาป่าวุ่นวาย ส่งเสียงเห่าหอนดังก้องไปทั่วฟ้าเมื่อมีเสียงร้อง อสูรตัวอื่น ๆ ในสวนอสูรก็มีทั้งตกใจและรวมวงส่งเสียงร้องขานรับกันเป็นทอด ๆ ทำให้สวนอสูรเกิดความวุ่นวายขึ้นมาทันที จนผู้ดูแลสวนอสูรต้องรีบสวมเสื้อผ้า ลุกจากเตียงวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นส่วนเยว่เจี้ยนเวยก็ฉวยโอกาสหลบหนีไปในความชุลมุนปรากฏอสูรใหญ่หลายตัวที่เห็นได้ชัดว่าบรรลุขั้นมีสติปัญญาแล้ว ยืนอยู่ที่ป
Read more

บทที่ 48

ชายวัยกลางคนที่เคยทำงานขนมูลอสูรก็กล่าวสนับสนุนอย่างกระตือรือร้นว่า “ข้าน้อยว่านะ เจ้าเด็กแซ่เยว่คนนั้นมันเป็นคนหัวแข็ง ทำงานวันแรกก็กล้ามาสายแล้ว ไม่เคยเห็นท่านอยู่ในสายตา บางทีพอเห็นพวกเราไม่ไปวันนี้ อาจทำตัวเกียจคร้านตามอำเภอใจก็เป็นได้”ซุนหรงหัวเราะเยาะ ในดวงตาวาบขึ้นด้วยประกายเหี้ยมเกรียม กล่าวว่า “มันช่างกล้าดีนัก แต่เมื่อมาอยู่ที่สวนผักนี้ ก็เป็นเพียงสุนัขตัวหนึ่งใต้บัญชาของข้าซุนหรงเท่านั้น ถ้ากล้ามีความไม่พอใจแม้แต่นิด ก็แสดงว่าไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่แล้ว”กล่าวจบ ในดวงตาของซุนหรงพลันสาดประกายระยิบระยับเขาอยากหาเรื่องเยว่เจี้ยนเวยมานานแล้ว เจ้าหนุ่มคนนี้ แต่ก่อนหน้าเละ ดูน่ากลัวยิ่งกว่าผีร้าย ไม่คิดว่าพอหน้าหายดีแล้ว กลับกลายเป็นเทพบุตรน้อยที่ชวนให้หลงใหลได้ถึงเพียงนี้ที่ผ่านมาเขาส่งสัญญาณเป็นนัยไปหลายครั้ง แต่เยว่เจี้ยนเวยกลับทำเป็นไม่เข้าใจ ไม่ยอมเข้ามาหาด้วยตนเองซุนหรงจึงตั้งใจจะใช้อำนาจในมือ ให้เยว่เจี้ยนเวยได้ลิ้มรสความร้ายกาจ แล้วมาขอความเมตตาจากเขา“โอ๊ะ ข้าน้อยเห็นพวกเขาแล้วขอรับ”ซุนหรงมองไปทางนั้น เห็นเยว่เจี้ยนเวยกำลังเข็นรถเล็กสองคันมาด้วยตัวคนเดียว แทบจะถ
Read more

บทที่ 49

ซุนหรงหัวเราะเยาะคำหนึ่ง หน้าตาเคร่งขรึมกล่าวว่า “ขอบอกความจริงให้เจ้ารู้ไว้ ทั่วสวนผักนี่เป็นอาณาเขตของข้า ถึงจะตีคนตายที่นี่ ก็ไม่มีใครกล้ากล่าวอะไร— กล่าวจากันด้วยเหตุผลงั้นหรือ? วันนี้แหละข้าจะให้เจ้าได้รู้ว่า ไม่กล่าวจากันด้วยเหตุผลนั้นเป็นอย่างไร!”เยว่เจี้ยนเวยฟังแล้วก็ยกมุมปากขึ้นยิ้ม กล่าวเย้ยหยันว่า “ประเสริฐคุณชายน้อยอย่างข้าชอบยุ่งเกี่ยวกับคนที่ไม่กล่าวคุยด้วยเหตุผลที่สุด เพราะคนอย่างข้าน่ะ ก็ไม่ค่อยชอบกล่าวด้วยเหตุผลเหมือนกัน”ซุนหรง “...”ซุนหรงยังนึกไม่ออกว่าคำกล่าวของเยว่เจี้ยนเวยหมายความว่าอย่างไร ก็เห็นแส้สีเงินวาววับพุ่งออกมาจากมือของเยว่เจี้ยนเวยราวกับอสรพิษร้าย เสียงสะบัดสายแส้ดังขึ้นเฟี้ยวฟ้าว ทำให้พวกอันธพาลที่พอมีพลังแกร่งกล้าบ้างแล้วรอบตัวเขาล้มลงไปกับพื้นดินโดยทันทีหลังจากนั้น เยว่เจี้ยนเวยก็สะบัดสายแส้ ฟาดตรงไปที่ใบหน้าของซุนหรง ตำแหน่งที่แส้ฟาดลงไปกลับเป็นจุดเดียวกับรอยแผลบนใบหน้าของอาฝู ประหนึ่งหลุดมาจากพิมพ์เดียวกัน—“โอ๊ย มันจะฆ่าข้า มันก่อกบฏแล้ว มันจะฆ่าข้าแล้ว—!”ได้ยินเสียงร้องของซุนหรงดังขึ้นคล้ายหมูถูกเชือด เยว่เจี้ยนเวยยิ้มแย้มไล่ตามไปฟาดเขา
Read more

บทที่ 50

โม่ชางหลานรับประทานอาหารเช้าที่จัดทำอย่างประณีตด้วยความเอร็ดอร่อย ก่อนจะตามโม่ยี่หานและโม่อวิ๋นเจ๋อมายังสวนอสูรเพื่อเลือกสัตว์เลี้ยงระหว่างทาง โม่ยี่หานกล่าวอย่างกระตือรือร้นว่า “ในบรรดาอสูรครั้งนี้ มีสองตัวที่เก่งกาจมาก ตอนนี้เป็นอสูรระดับสามแล้ว อีกเพียงก้าวเดียวก็จะถึงขั้นมีสติปัญญา หลังได้รับการฝึกฝน ล้วนสามารถลงสนามรบคุ้มกันเจ้านาย ข้าเห็นว่าสิงโตหิมะเนตรม่วงตัวนั้นไม่เลว ทั้งองอาจทั้งดุร้าย มีแววว่าจะเก่งกาจ อีกอย่าง ได้ยินพ่อค้าเร่กล่าวว่า อสูรตัวนี้ต้องใช้ผู้ฝึกตนขอบเขตรวมปราณระดับสองถึงสิบคนล้อมโจมตี จึงจะจับมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ”โม่อวิ๋นเจ๋อตาเป็นประกาย พลันถูมือด้วยความตื่นเต้น กล่าวว่า “สิงโตหิมะเนตรม่วงเชียวนะ นี่เป็นอสูรที่หายากโดยแท้ ซ้ำยังเป็นสายพันธุ์บริสุทธิ์ บางทีอีกไม่นานอาจแปลงร่างก็เป็นได้”โม่ชางหลานไม่ได้รู้สึกสนใจ แต่ก็ไม่อยากทำลายความตื่นเต้นของคนทั้งสอง จึงยกมุมปากยิ้มกล่าวว่า “เช่นนั้น พวกเราก็ไปดูกันเถิด”มีผู้อาวุโสหลายท่านติดตามมาด้วย ไม่นานทั้งคณะก็มาถึงสวนอสูรผู้ดูแลสวนอสูรยิ้มกว้างบนใบหน้า กล่าวว่า “ข้าน้อยคารวะท่านเจ้าเมือง คุณชายใหญ่ คุณชา
Read more
PREV
1
...
34567
...
9
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status