All Chapters of การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน: Chapter 51 - Chapter 60

84 Chapters

บทที่ 51

เยว่เจี้ยนเวยที่ถูกจัดให้อยู่ในกรงหลังสุด “...”เจ้าเบิกตาสุนัขของเจ้าดูให้ดี ๆ หน่อยเถิด ประมุขผู้สูงส่งอย่างข้าดูไร้ประโยชน์ตรงไหน? เจ้าเชื่อไหมว่าข้าตบเจ้าให้ตายคาที่ได้เลยด้วยซ้ำ!เยว่เจี้ยนเวยส่งเสียงร้องด้วยความขุ่นเคือง พวกอสูรโง่เขลาที่อยู่รอบข้างซึ่งไม่รู้เลยว่าชะตากรรมอันแสนเศร้าในอนาคตของตนจะเป็นเช่นไร ได้ยินเยว่เจี้ยนเวยร้องเช่นนั้น ก็พากันส่งเสียงร่ำร้องตามไปด้วยผู้ดูแลกวาดตามองพวกมันด้วยสายตาเหยียดหยาม ขมวดคิ้วกล่าวว่า “อย่าส่งเสียงวุ่นวาย ระวังวันนี้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าเสียให้หมด”เยว่เจี้ยนเวย “...”คอยดูก็แล้วกัน!ผีเสื้อสีนิลบินเข้าออกกรงขังทั้งสามใบ ไม่นานนัก โม่ชางหลานก็สำรวจสภาพของอสูรทั้งสามตัวได้เกือบครบถ้วนโม่ยี่หานรู้ว่าโม่ชางหลานมีวิธีการพิเศษในการมองสิ่งต่าง ๆ จึงถามว่า “มีอสูรตัวใดที่เจ้าถูกใจบ้างหรือไม่?”โม่ชางหลานส่ายหน้า กล่าวว่า “บิดา ความจริงข้าไม่ได้อยากเลี้ยงอสูรมานานแล้ว อสูรพวกนี้ ท่านเก็บไว้ให้อวิ๋นเจ๋อเถิด”โม่ยี่หานขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาวาบขึ้นด้วยแววเวทนาเยว่เจี้ยนเวยเห็นดังนั้น ในใจก็รู้สึกปวดร้าว—อาจเป็นเพราะโม่ชางหลานไม่ยอมไว้ใจอะไรง
Read more

บทที่ 52

ฉับพลัน ร่างของแมวป่าเพลิงสายฟ้าหายวับไปในพริบตา เพียงลมหายใจเดียวก็กระโดดไปอยู่บนหลังของหมาป่าขาว แล้วตบอุ้งเท้าลงมาอย่างหนักหน่วงกลางอากาศ หมาป่าหิมะขาวถึงกับล้มลงไปบนพื้นดิน บริเวณที่ถูกอุ้งเท้าตบ ขนได้ไหม้เกรียมไปบางส่วนหมาป่าหิมะขาวส่งเสียงร้องน่าเวทนาด้วยความคับแค้นใจ ก่อนจะเดินหางจุกก้นหลบไปอย่างหมดท่าผู้อาวุโสปี้เซียวเกาเจ้าแมวป่าตัวน้อยที่กระโดดมาออดอ้อนในอ้อมอกด้วยความภูมิใจ กล่าวว่า “สมแล้วที่เป็นอสูรที่ข้าเลี้ยงดูมากับมือ ทำได้ดีมาก คืนนี้เดี๋ยวเพิ่มขาหมูให้กิน”เจ้าแมวป่าพยักหน้าด้วยความหยิ่งผยองโม่อวิ๋นเจ๋ออิจฉายิ่งนัก ก้มลงมองกระต่ายหูยาวที่จะต้องขดตัวอยู่บนขาของโม่ชางหลานเท่านั้น ก็พลันรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาเหตุใดอสูรของคนอื่นถึงเก่งกาจกันทั้งสิ้น แต่อสูรของเขากลับเป็นกระต่ายโง่งมที่มีแต่กินกับนอนเท่านั้น?“เฮ้อ ดูเข้าทีแต่ไม่มีประโยชน์สินะ นึกว่าจะเก่งกาจสักหน่อย” โม่ยี่หานก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ยังคงทำจิตใจให้แจ่มใส ตบไหล่โม่ชางหลาน กล่าวว่า “งูลายฟ้ามรกตตัวนั้นน่าจะเก่งกาจอยู่ บางทีอาจรับมือแมวป่าเพลิงสายฟ้าได้สักสองสามกระบวนท่ากระมัง”เจ้างูลายฟ้ามรกต
Read more

บทที่ 53

ผู้อาวุโสปี้เซียวย่อมเข้าใจความหมาย ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ถ้าจะเลี้ยงลูกอสูรตั้งแต่เล็กก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ลูกอสูรส่วนใหญ่ทั้งกิน ดื่ม ขับถ่ายและนอน ล้วนทำตามใจชอบ เลี้ยงแล้วค่อนข้างยุ่งยาก ที่สำคัญที่สุดคือ พวกมันต้องการการดูแลเอาใจใส่จากเจ้านาย สิ้นเปลืองพลังงานของเจ้านายเกินไป หาไม่แล้วพวกมันก็จะอาละวาด การเลี้ยงดูย่อมไม่สนิทใจ แต่หากคุณชายอยากเลี้ยง ข้าย่อมจัดหามาให้คุณชายได้ขอรับ”โม่ชางหลานหาได้สนใจไม่ กล่าวว่า “ช่างเถิด ถ้าต้องเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กจนโต ซ้ำยังต้องคอยปลอบประโลมเอาใจมันอีก นั่นข้ากำลังเลี้ยงดูอสูรหรือเลี้ยงดูบรรพบุรุษกันแน่?”โม่ยี่หานก็ผงกศีรษะ กล่าวว่า “เขาไม่เคยใส่ใจบิดาถึงเพียงนั้นด้วยซ้ำ ข้ายอมไม่ได้”โม่อวิ๋นเจ๋อก็รีบพยักหน้า กล่าวว่า “ขนาดข้าพี่ใหญ่ยังดุด่าไร้ซึ่งความอดทน กล่าวไม่เข้าหูก็จะลงโทษข้าท่าเดียว กับอสูรยิ่งต้องเป็นเช่นนั้นแน่ พวกลูกอสูรเหล่านั้นหากตกไปอยู่ในมือพี่ใหญ่ข้า คงต้องมีชีวิตที่แสนเศร้ายิ่งนัก”โม่ชางหลานยิ้มกริ่มมองไปทางโม่อวิ๋นเจ๋อ กล่าวว่า “เจ้าอยากโดนตีอีกแล้วใช่ไหม?”โม่อวิ๋นเจ๋อแลบลิ้นแผล่บ แล้วหมุนกายไปซ่อนตัวอยู่ห
Read more

บทที่ 54

โม่ยี่หานก็ตกตะลึงและแปลกใจไม่น้อย แต่ด้วยความที่เป็นคนเคยผ่านโลกมามาก จึงสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วแล้วถามว่า “อสูรตัวนี้ ผู้อาวุโสปี้เซียวเคยเห็นมาก่อนหรือไม่?”ผู้อาวุโสปี้เซียวลูบคาง พินิจพิเคราะห์เยว่เจี้ยนเวยครู่หนึ่ง ก่อนตอบ “มองดูเขาเล็ก ๆ สองข้างนั่นคล้ายเขากวาง ส่วนอื่นอาจเป็นเพราะยังเด็กอยู่จึงดูไม่ออก แต่สรุปคือ ข้าไม่เคยเห็นอสูรชนิดนี้มาก่อนขอรับ”เยว่เจี้ยนเวยพยายามตะกายขึ้นไปบนเข่าของโม่ชางหลาน แต่กลับถูกขาสองข้างขวางหน้าไว้เยว่เจี้ยนเวยเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเป็นโม่อวิ๋นเจ๋อที่มักไม่ได้เรื่องได้ราวแต่กลับสร้างความเสียหายได้มากนักผู้นั้นเองเยว่เจี้ยนเวยส่งเสียงโฮ่งอย่างไม่พอใจ ซ้ำยังยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นทำท่าจะข่วนโม่อวิ๋นเจ๋ออีกด้วยโม่อวิ๋นเจ๋อสะดุ้งเล็กน้อย กล่าวว่า “เจ้าตัวเล็กนี่ดุร้ายถึงเพียงนี้ ต้องอันตรายแน่ ไม่สู้ขังไว้ในสวนอสูรสักระยะ รอฝึกฝนอีกทีค่อยว่ากันใหม่”เยว่เจี้ยนเวย “..” ฝึกฝนบิดาเจ้าเถอะ!โม่ยี่หานเพิ่งคิดจะพยักหน้า ก็เห็นเจ้าอสูรตัวน้อยทำตัวน่าสงสาร แม้แต่หูก็ยังหุบลงแนบศีรษะ อุ้งเท้าน้อย ๆ ทั้งสองข้างไขว้กันอย่างน่าเวทนา ดวงตากลมใสจ้องมองเขาด้ว
Read more

บทที่ 55

โม่ชางหลานลูบขนเจ้าอสูรตัวน้อยตลอดทางกลับมายังเรือนชมธาราระหว่างทาง กระต่ายหูยาวพยายามจะปีนขึ้นไปบนตัวของโม่ชางหลาน แต่ทุกครั้งก็ถูกเยว่เจี้ยนเวยที่ตาไวสังเกตเห็น และเตะกลับลงไปอย่างไร้ความปรานีกระต่ายหูยาว “...”โม่อวิ๋นเจ๋ออุ้มกระต่ายของตนไว้ กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “พี่ใหญ่ อสูรตัวน้อยของท่านช่างใจแคบเสียจริง ทั้ง ๆ ที่กระต่ายของข้าแต่ก่อนสนิทกับท่านที่สุด แต่เจ้าอสูรน้อยนี่เพิ่งมาอยู่ข้างกายท่าน ก็เริ่มรังแกกระต่ายของข้าแล้ว ซ้ำท่านยังไม่ว่ามันอีก”เยว่เจี้ยนเวยส่งเสียงฮึ่มฮั่ม กลอกตาใส่โม่อวิ๋นเจ๋อ ก่อนประจบด้วยการเลียนิ้วมือของโม่ชางหลานรัว ๆโม่ชางหลานรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่มือ อดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ คิดว่าเจ้าตัวน้อยนี่ช่างติดคนเสียจริง ทั้งยังรู้จักออดอ้อนและเอาใจเขา นับว่าน่าสนใจนักโม่ชางหลานจึงกล่าวว่า “เจ้าก็บอกเองนี่ว่าเป็นกระต่ายของเจ้า ดูท่าทางลูกอสูรตัวนี้คงขี้หวงยิ่ง ต่อไปข้าจะไม่แตะต้องอสูรตัวอื่นต่อหน้ามันก็แล้วกัน”กระต่ายหูยาวแทบจะร้องไห้ด้วยความน้อยใจ มันซุกหน้าในอ้อมแขนของโม่อวิ๋นเจ๋ออย่างหมดอาลัยตายอยากบุรุษรูปงามที่มันชอบมากที่สุด กลับทิ้งมันไปเพราะเจ้
Read more

บทที่ 56

สาวใช้คนหนึ่งเห็นดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะยกมือปิดปากหัวเราะคิกพลางกล่าวว่า “เจ้าเสวี่ยหรงหรงของคุณชายนี่ ช่างเข้าใจความรู้สึกของมนุษย์เหลือเกิน ราวกับว่าเข้าใจทุกอย่างที่คุณชายกล่าวเลยนะเจ้าคะ”โม่ชางหลานลูบต้นคอของเยว่เจี้ยนเวย กล่าวว่า “ข้ากลับชอบพวกที่โง่งมหน่อย หากฉลาดเกินไป ข้าคงไม่กล้าเลี้ยงแล้ว”เยว่เจี้ยนเวยตัวแข็งทื่อทันที ตัดสินใจว่าหลังจากนี้คงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นบ่าวรับใช้ถามถึงวัสดุที่จะใช้ทำที่นอนและผ้าสำหรับปูด้านใน ก่อนรีบไปจัดเตรียมทันทีไม่นานนัก โม่ยี่หานก็มาถึงพอเข้าประตูมา เยว่เจี้ยนเวยก็รู้สึกถึงกลิ่นอายอำมหิตรุนแรงจากตัวโม่ยี่หาน ใบหน้าบึ้งตึง ราวกับจะกินคนทั้งเป็น“สิงโตหิมะเนตรม่วงตัวนั้น มีปัญหาใช่หรือไม่?” โม่ชางหลานถามอย่างเนิบช้าราวกับรู้อยู่แล้วโม่ยี่หานนั่งลงบนเก้าอี้ รินน้ำเย็นหนึ่งถ้วย ดื่มรวดเดียวเพื่อระงับความโกรธ แล้วกระแทกถ้วยลงบนโต๊ะอย่างแรง ถามว่า “เจ้าเดาได้แล้วหรือ?”โม่ชางหลานกล่าวว่า “ก็ไม่ได้ยากเย็นอันใด อสูรที่พลังเพิ่มขึ้นในพริบตา อาจเป็นเพราะการปลุกสายเลือด หรือมีตัวกระตุ้นบางอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากการกินโอสถระเบิดเพลิง
Read more

บทที่ 57

“คราวนี้พวกตระกูลตี๋ทำเกินไปจริง ๆ พวกเขาอาศัยว่าเมืองร้างยังต้องพึ่งพวกตนให้อยู่เฝ้า จึงกล้าสมคบกับพ่อค้าเร่ ส่งอสูรที่กินโอสถระเบิดเพลิงมายังแดนหิมะขาวของเรา หากไม่ใช่เพราะวันนี้เจ้าตัวน้อยนี่ตอบสนองเร็วไว บางที—”“บิดาไม่ต้องกังวลมากไป” โม่ชางหลานกล่าวเสียงเรียบด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ “วันนี้ แม้ไม่มีหรงหรง สิงโตหิมะก็ทำอะไรข้าไม่ได้ คนตระกูลตี๋คงไม่คิดจะฆ่าข้าจริง ๆ หรอก อย่างไรเสียข้าก็เป็นแค่คนพิการ จะไปมีอิทธิพลอะไรกับพวกเขา? ที่ตระกูลตี๋ทำเช่นนี้ ก็แค่ต้องการยั่วยุ หรือกล่าวอีกอย่างคือต้องการตอบโต้ เพื่อเป็นการเตือนพวกเราเท่านั้น”เยว่เจี้ยนเวยกางหูรับฟัง จดจำตระกูลตี๋ลงสู่บัญชีมรณะในใจด้วยความมุ่งมั่นประเสริฐนัก ตระกูลตี๋สร้างปัญหาให้โม่ชางหลานหลายต่อหลายครั้ง ช่างน่าตายยิ่ง!โม่ยี่หานได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็ยิ่งหม่นหมอง ก่อนแค่นหัวเราะออกมา กล่าวว่า “พวกเขาคงแค้นใจที่ตี๋หยางถูกคนปิดหน้าทำร้ายขับไล่ออกมาจากหอนางโลมหยางชุนชนิดไม่ทันได้สวมกางเกง แล้วเอาเรื่องนี้มาโทษเรา พวกเขาคงมีความสามารถเพียงเท่านี้เองสินะ”นิ้วมือของโม่ชางหลานเคาะเบา ๆ บนขาของตน แล้วกล่าว “ว่าแต่ไม่ได้ยินข่าวค
Read more

บทที่ 58

โม่ชางหลานจึงคิดว่า หากตนเองได้ไปด้วย ก็จะปล่อยผีเสื้อสีนิลออกไปสำรวจเส้นทาง หนึ่งช่วยลดอันตราย สองจะขยายขอบเขตการสำรวจให้กว้างไกล โอกาสที่จะพบเยว่ชิงหงก็ยิ่งสูงขึ้นแต่ว่าโม่ยี่หานไม่เห็นด้วย เพราะเป็นห่วงร่างกายของบุตรชายคนนี้โม่ชางหลานตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า ไม่ว่าครั้งนี้โม่ยี่หานจะเห็นด้วยหรือไม่ เขาก็จำเป็นต้องตามไปด้วยเมื่อกล่าวถึงเยว่เจี้ยนเวย โม่ชางหลานก็รู้สึกว่ายังมีเวลาอยู่ แทนที่จะรอวันอื่นไม่สู้ทำวันนี้ จึงกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าไปดูเขาบัดนี้เลยดีกว่า”โม่ยี่หานกล่าวว่า “เจ้าไปก่อนเถอะ ข้าต้องจัดคนไปตักเตือนตระกูลตี๋สักหน่อย พวกมันจะได้ไม่คิดว่าเราเป็นผู้ที่ถูกรังแกได้โดยง่าย—อ้อ จริงด้วยสิ ไม่ต้องพาอวิ๋นเจ๋อไปด้วยนะ ดูเหมือนเขากับเยว่เจี้ยนเวยจะไม่ถูกชะตากันเท่าไหร่ เขามักรังแกเจ้าเด็กนั่นอยู่เรื่อย”โม่ชางหลานยิ้ม คิดในใจว่า ใครรังแกใครก็ยังไม่แน่นักแต่เขาก็ตอบรับคำขอนั้นเยว่เจี้ยนเวยตกใจแทบแย่ แม้เขาจะแปลงร่างเป็นอสูรน้อยและเป็นร่างมนุษย์ได้ แต่เขามีเพียงตัวคนเดียว ยังห่างไกลจากการเรียนรู้วิชาแยกร่าง ไม่อาจแยกตัวเองเป็นสองคน หากโม่ชางหลานไปตอนนี้ เขาจะไม่ถูกเปิ
Read more

บทที่ 59

สิ่งแรกที่ซุนหรงทำหลังเดินได้คือไปฟ้องซุนจง ซุนจงพอได้ยินว่าพี่ชายของตนถูกเด็กหนุ่มที่เพิ่งมาถึงรังแกอย่างน่าอัปยศในสวนผัก ก็พลันโกรธจัด ถือดาบยาวพุ่งตรงไปยังสวนผักทันทีเห็นไม่มีใครกล่าว ซุนจงจึงหัวเราะเยาะเบา ๆ ฟาดฝ่ามือลงบนศีรษะคนรับใช้คนหนึ่ง เพียงฝ่ามือเดียวก็ทำให้กะโหลกแตกละเอียด เลือดไหลออกจากเจ็ดช่องทวารตายคาที่“เหวอ—” บางคนเผลอตัวร้องเสียงหลง คนงานเหล่านี้ไม่เคยเห็นการกระทำโหดร้ายเช่นนี้ ต่างพากันคุกเข่าลงกับพื้นขอความเมตตาซุนจงกล่าวอย่างเย็นชา “เยว่เจี้ยนเวยอยู่ที่ใด?”ผู้รับใช้ที่มีความกล้าคนหนึ่ง ตัวสั่นงันงก กล่าวว่า “พะ พวกเราไม่รู้จริง ๆ ขอรับ หลังทำร้ายคน เขาก็วิ่งหนีไป อาจต้องการหนีความผิด ทั้งเช้านี้ไม่เห็นเขา ดูเหมือนเขาจะไม่อยู่ในห้องด้วยขอรับ”ซุนหรงเดินออกมาจากด้านหลังพร้อมเอามือประคองเอว ใบหน้าอัปลักษณ์เต็มไปด้วยการอวดเบ่งบารมี ดวงตาจ้องมองบ่าวไพร่ที่เมื่อครู่หัวเราะเยาะเขา แล้วกล่าว “น้องพี่ คนที่อยู่กับเจ้าเด็กเลวนั่น ยังมีเด็กอีกคนหนึ่ง ข้าสั่งให้คนขังเจ้าเด็กนั่นไว้ในโรงเก็บฟืนแล้ว ข้าไม่เชื่อหรอกว่า ถ้าเราจับมันมาแขวนแล้วเฆี่ยนตี เยว่เจี้ยนเวยจะทนนั่ง
Read more

บทที่ 60

ขณะนั้น โม่ชางหลานก็เคลื่อนรถเข็นมาถึงสวนผัก โดยมีผู้ดูแลอาซีและผู้อาวุโสปี้เซียวติดตามมาด้วยโม่ชางหลานได้ยินเสียงร้องโหยหวนและเสียงเฆี่ยนตีดังมาแต่ไกล เขาเงี่ยหูฟังครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “อาซี เจ้าไปดูหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น”อาซีเดินเข้าไปในสวนผัก ก็เห็นคนเลือดท่วมตัวถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ โดนเฆี่ยนตีจนเหลือลมหายใจรวยริน เขาก้าวเท้าไปหาซุนจงด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงพลางถามว่า “อาจารย์ซุน คนผู้นี้ทำความผิดอะไรหรือ เหตุใดถึงต้องรบกวนท่านมาลงโทษด้วยตนเอง”ซุนจงเมื่อครู่เฆี่ยนตีอย่างสนุกมือ ไม่ทันสังเกตเห็นการมาของอาซี บัดนี้เมื่อเห็นอาซี ซุนจงก็ไม่ตื่นตระหนก กล่าวหน้าตาเฉยว่า “คนผู้นี้ระหว่างทำงาน ไม่เพียงขี้เกียจ ซ้ำยังกล้าโต้เถียงและลงมือทำร้ายผู้ดูแลซุนหรง ข้าทนดูไม่ได้ จึงมาลงโทษด้วยตนเองเพื่อเป็นการตักเตือน ให้บรรดาคนรับใช้เหล่านี้รู้ซึ้งถึงความร้ายกาจ”ผู้บำเพ็ญเซียนส่วนใหญ่ล้วนไม่สนใจคนสามัญ อย่าว่าแต่ทุบตีด่าทอ แม้แต่ฆ่าคนก็เป็นเรื่องปกติ ทั้งอาซีไม่ชอบคนรับใช้ที่ขี้เกียจทำงานที่สุด จึงไม่คิดยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าตนเองทราบแล้วแม้อาซีจะไม่ใช่ผู้ดูแลใหญ่
Read more
PREV
1
...
456789
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status