บททั้งหมดของ จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค: บทที่ 61 - บทที่ 70

102

60

โจวซื่อยี่ขมวดคิ้ว เขามองหมอที่น้องชายของตัวเองพามา และถามจิงเซียวว่า        “หมอจิง พวกคุณรู้จักกันหรือครับ”        ก่อนที่จิงเซียวจะตอบ หมอที่มาจากตระกูลจิงก็ตอบด้วยเสียงไม่เป็นมิตรว่า        “รู้สิครับ เจ้านี่คือ จิงเซียว น้องชายของผมเอง ผมชื่อจิงชิว เป็นลูกชายคนที่สองของตระกูลจิง เจ้านี่ทำตัวมีปัญหา สุดท้ายก็ถูกพ่อกับพี่จิงฉู่ตัดออกจากตระกูล ไม่รู้ว่าแอบอ้างชื่อของตระกูลจิงไปหลอกลวงใครเอาไว้บ้าง!”        จิงเซียวหันขวับ เขาพูดด้วยเสียงเฉียบขาดว่า        “จิงซิว นายอย่ามาพูดพล่อยๆที่นี่ ฉันไม่เคยหลอกลวงใคร! ฉันไม่เคยเอาชื่อตระกูลจิงมาใช้ ฉันออกจากตระกูลเพราะฉันเลือกเอง นายอย่ามาพูดว่าฉันถูกไล่ออกมา นี่มันศตวรรษที่ 21 แล้ว นายยังจะมาพูดเรื่องความยิ่งใหญ่ของตระกูลบ้าบออะไรอีก!”        จิงชิวหน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-26
อ่านเพิ่มเติม

61

คนขับรถซึ่งเป็นข้าราชการท้องถิ่น ชื่อ มู่ต้าหยง จอดรถที่หน้าโรงแรม 2 ชั้นขนาดเล็ก พวกเขาช่วยกันยกกระเป๋าและข้าวของต่างๆ ลงจากรถ และเดินเข้าไปที่โรงแรม พนักงานต้อนรับเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 24-25ปี ท่าทางเป็นมิตร เธอดีใจที่มีคนมาพัก เพราะช่วงที่อากาศเริ่มหนาวเย็น คนจะมาพักที่โรงแรมน้อยลงช่วงนี้มีสภาพอากาศแปรปรวน อากาศหนาวเย็นจัดและมีฝนตก จึงเกิดน้ำท่วม ภูเขาและโคลนถล่มปิดการจราจรหลายเส้นทาง เมื่อเป็นข่าวออกไป คนจึงเดินทางมาน้อย  เธอเช็คอินไปและคุยไปอย่างอัธยาศัยดี อาจเป็นเพราะแขกกลุ่มนี้มีอายุไม่ห่างจากเธอมากนักทั้งกลุ่มพักห้องละ 2 คน โดยจิงเซียวอยู่กับจิงซิงอี้ตามปกติ และลั่วเยี่ยนอยู่กับชุนเฉิง เพื่อให้พวกเขาได้คุยกันเรื่องวิชาต่างๆ ในมหาวิทยาลัย  ส่วนคนขับรถพักอยู่ห้องเดี่ยว        ตอนเย็น พวกเขาเดินออกไปหาข้าวเย็นกินที่ตลาดชุมชนขนาดเล็ก และเลือกกินอาหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นบะหมี่เนื้อที่ทำเส้นสดๆ ด้วยการนวดและยืดแป้งจนเป็นเส้นและลวกจนสุก ราดด้วยซุปเนื้อกับหัวไช้เท้าซอย โรยหน้าด้วยน้ำมันพริกและหัวหอม จิงซิงอี้สนใจจนไปย
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-27
อ่านเพิ่มเติม

62

หลังจากกินข้าวเช้าแล้ว จิงซิงอี้คว้าจักรยานปั่นออกไปคลินิก เขาปล่อยให้จิงเซียวและลั่วเยี่ยน หาทางจัดการกับลูกชายของเขาเอง ลั่วอี้ฉีจึงได้รับมอบหมายให้ดูแลแมวป่าที่บาดเจ็บ ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างมาก อย่างไรก็ตาม จิงซิงอี้ก็ต้องแปลกใจ เมื่อลั่วเยี่ยนพาลูกชายมาหาเขาที่คลินิกประมาณ 11 โมงกว่า เมื่อเห็นเขาตรวจคนไข้และจ่ายยาแล้ว ลั่วเยี่ยนชวนเขาไปกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารเปิดใหม่ใกล้คลินิก ซึ่งขายข้าวและกับข้าวต่างๆ ร้านนี้เปิดประมาณ 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น จึงเป็นอีกทางเลือกให้กับคนไข้ที่มารอรักษาและนักท่องเที่ยว เพราะร้านบะหมี่และซาลาเปาข้างคลินิกฉางซาน เปิดขายตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึงบ่ายสองเท่านั้นลั่วเยี่ยนบอกให้ภรรยาทำอาหารให้จิงเซียวและกินไปเลย ส่วนเขาจะพาลูกชายคนเล็กมาหา “ลูกชายคนโต” ที่คลินิก“ลูกชายคนโต” ของลั่วเยี่ยน หรือ จิงซิงอี้ หันไปชวนชุนเฉิงที่มานั่งรอตรวจคนไข้ที่คลินิก ให้ออกไปกินข้าวด้วยกัน พวกเขาสั่งอาหารมา 4-5 อย่างและลงมือกินทันที ลั่วอี้ฉีประหม่าเมื่ออยู่ใกล้จิงซิงอี้ แต่เขาพยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากกิน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-28
อ่านเพิ่มเติม

63

“ถ้าเป็นลูกคนไม่มีเงิน เขาไม่มีเวลามารอดูว่าตัวเองชอบทำอะไรหรอก ปากท้องและหนี้สินมันไม่รอใคร นายมีทางเลือก แต่สิ่งที่คนไม่มีทางเลือกต้องทำก็คือ ทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีชีวิตต่อไป ให้วันนี้มีอะไรกิน”        จิงซิงอี้ยังพูดต่อว่า“การมัวแต่รอ บางทีเสียเวลา นายยังเด็ก ยังมีเวลามาก ก็ควรจะใช้มันไปกับการทดลองทำหลายอย่างๆ ไม่ใช่การอยู่เฉย ๆ เอาแต่คิดว่าอะไรใช่ ไม่ใช่ เพราะบางครั้ง ความคิดมันก็เป็นจินตนาการที่นายคิดขึ้นมาทั้งนั้น เหมือนเรายังไม่เคยไปเที่ยวที่นี่เลย แต่เราอ่านรีวิวแล้วคนบอกว่าไม่ดี ไม่สนุก ไม่น่าไป นายก็เลยไม่ไป สมมติว่ามันดีจริงๆ นายก็เสียโอกาสได้ไปเที่ยวในที่ที่นายชอบแล้วล่ะ”        จิงซิงอี้หยุดกิน และพูดอย่างจริงจังว่า        “พ่อของนายคงเคยเล่าให้ฟังแล้วมั้งว่า ฉันเรียนแพทย์แผนจีนมาตั้งแต่ 4-5 ขวบ ฉันไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรตั้งแต่อายุแค่นั้นหรอก แต่ฉันถูกคุณตาบังคับให้เรียนต่างหาก”  
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-29
อ่านเพิ่มเติม

64

หลังจากเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง สมุนไพรที่ปลูกในแปลงเริ่มเติบโตพอจะเก็บเกี่ยวได้ เฉินหานอวี้เข้ามาตรวจสอบคุณภาพ และเมื่อจิงเซียวเริ่มต้นการเผาจื้อสมุนไพร และได้ผลิตผลสมุนไพรออกมาหลายรูปแบบ เขาส่งให้เจี่ยวู่ตรวจสอบคุณภาพและปริมาณตัวยา ในระหว่างนี้เฉินหานอวี้ได้เข้ามาช่วยวิเคราะห์สารประกอบด้วย เมื่อผลออกมา พวกเขาก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่า วิธีการเผาจื้อสมุนไพรของจิงเซียว สามารถรักษาสารประกอบที่สำคัญของยาเอาไว้ได้ และเขายังมีสูตรในการผสมและการใช้สมุนไพร ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพสมุนไพรแต่ละชนิดให้ดีมากยิ่งขึ้นด้วยเฉินหานอวี้ดีใจมาก เขาคุยกับจิงเซียวและจิงซิงอี้ว่า เขาจะทำการตลาดและเป็นตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ พร้อมแนะนำให้ใช้จุดขายของสมุนไพรที่มีความเข้มข้นของตัวยา ที่ผ่านการทดสอบจากห้องปฏิบัติการของทั้งจิงซิงอี้และจากบริษัทของเฉินหานอวี้  เพื่อเป็นการรับรองจากสองแหล่งที่เชื่อถือได้ เขามั่นใจมากว่าจะสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้มากแน่นอนจิงเซียว จิงซิงอี้ และชุนเฉิงปรึกษากัน พวกเขาเห็นด้วยที่จะให้เฉินหานอวี้เป็นผู้นำสมุนไพรไปบรรจุ จำหน่ายและทำการตลาด เ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-30
อ่านเพิ่มเติม

65

ซูเฉียวซึ่งกำลังเก็บของมีสีหน้าหวาดกลัว เขารีบวิ่งไปหาแม่ที่นอนพักอยู่บนเตียง จิงซิงอี้หันขวับไปมองตามเสียง ชายคนนี้น่าจะเป็น ซูเคอ พ่อของซูเฉียว เขาลุกขึ้นยืนและตอบอย่างไม่หวาดกลัวว่า“ภรรยาของคุณหมดสติ ผมเป็นหมอผ่านมาพอดี จึงรักษาอาการให้ชั่วคราว แต่อาการคนไข้ยังน่าเป็นห่วง ผมจะพาพวกเขาไปที่คลินิกเพื่อรักษาต่อ”ซูเคอ ซึ่งมีอาการมึนเมาเพราะดื่มเหล้าตั้งแต่เช้า ก็ตะคอกกลับเสียงดังว่า “ใครบอกให้พามันไป! มันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น สำออยไปอย่างงั้นแหละ!”จากนั้นเขาก็ถลามาที่เตียงของเฉินเหวิน และเงื้อมมือขึ้นเพื่อจะตบหน้าเธอ ซูเฉียวตะโกนร้องด้วยความหวาดกลัว เขารีบผลักแม่ออกแล้วเอาตัวเข้าขวางเอาไว้  ทุกคนได้ยินเสียงฝ่ามือของซูเคอที่ฟาดลงไปโดนไหล่ของเด็กชายเสียงดังลั่น เฉินเหวินกรีดร้องด้วยความตกใจ เด็กชายล้มลงไปตามแรงตบ ซูเคอยังไม่ยอมหยุด เขาเอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับคอของเฉินเหวินไว้เพื่อบีบคอจิงซิงอี้กระโดดเข้าไปหาซูเคอ เขาเอื้อมมือไปจับข้อมือของซูเคอไว้ และใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงไปที่จุดบนข้อมืออย่างแรง และใช้อีกมือหนึ่งคว้าคอด้านหล
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-31
อ่านเพิ่มเติม

66

เฉินเหวินจึงเป็นคนเดียวที่ทำงานเลี้ยงคนทั้งบ้าน ในขณะที่ซูเฉียวต้องย้ายมาเรียนที่นี่ ช่วงหลังมา เฉินเหวินสุขภาพทรุดโทรม จน เธอเริ่มทำงานมากไม่ได้ ซูเฉียวต้องหยุดเรียนและมาช่วยแม่ทำงาน  ตอนที่จิงซิงอี้ไปพบ พวกเขาไม่มีอาหารกินมาตั้งแต่เมื่อวาน เฉินเหวิน พยายามจะไปรับจ้างล้างจานที่ร้านอาหารในหมู่บ้าน แต่ร่างกายก็ทนไม่ไหวจนหมดสติไปเฉินเหวินเล่าไปน้ำตาก็ไหลไป เธอไม่อับอายเรื่องของตัวเอง เธอแค่อยากจะระบายกับคนที่เธอรู้สึกไว้ใจ ในขณะที่ซูเฉียวมองแม่ด้วยความห่วงใยเจี่ยวู่นิ่งฟัง พร้อมกับลูบหลังเฉินเหวินเพื่อปลอบใจ เธอรู้ว่าการเป็นแม่ที่ต้องทำงานคนเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย  และยังมีสามีเป็นภาระอีก สำหรับเจี่ยวู่แล้ว เธอหย่ากับสามีและเอาลูกมาเลี้ยงดูเอง เพราะสามีมีเมียน้อยแบบออกหน้าออกตา ตอนนั้นเจี่ยเหรินอยู่มหาวิทยาลัยปีแรก ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ตกต่ำ เจี่ยเหรินจึงหยุดเรียนและต้องมาทำงานเช่นกันจิงเซียวซึ่งกินข้าวและฟังอยู่ ก็พูดขึ้นมาว่า “มาทำงานที่นี่มั้ย ย้ายมาอยู่ที่นี่เลย”สองแม่ลูกเงยหน้าขึ้นมองจิงเซียว ชายชราพูดต่อว่า “เฉพาะ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-01
อ่านเพิ่มเติม

67

เช้าวันเสาร์ จิงซิงอี้ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินสียงเล็บข่วนมุ้งลวดอีก เขารู้ทันทีว่าจะต้องเป็นเจ้าเม่าเม่า มันหายไปทั้งวันหลังจากที่ถูกจับฉีดยาและให้กินยาถ่ายพยาธิ ชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูบ้านให้มันเข้ามา ส่วนตัวเขาเดินไปล้างหน้า และเปลี่ยนชุดวอร์มเตรียมไปออกกำลังกายตอนนี้ชื่อเสียงของจิงซิงอี้ในด้านการต่อสู้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่เด็กๆ ไปสู่คนในหมู่บ้าน ทำให้เกิดตำนานจอมยุทธ์จิงซิงอี้ขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง นอกไปจากความสามารถในการปราบสัตว์ป่าที่ลือกันมาก่อนหน้านี้        ด้วยเหตุนี้ สมาชิกออกกำลังกายกับเขาจึงมีเพิ่มขึ้น ตอนนี้ทั้งซูเฉียว ลั่วอี้ฉี และเสี่ยวหลง ช่วยกันตั้งแก๊งเด็กหมอจิงขึ้นมา ตอนเช้าพวกเขาจะมาออกกำลังกายด้วยกัน หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ถ้าพวกเขามีเวลา จะพากันปั่นจักรยานไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ในหมู่บ้าน บ่อยครั้งจะไปที่ลานกลางหมู่บ้าน และอาสาช่วยคนแก่เทำสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ เช่น สอนให้ใช้อินเทอร์เน็ต สอนใช้สื่อสังคม ถ่ายวิดีโอ และสอนวิธีการขายของออนไลน์        จิงซิงอี้พบว่า ช่วงหลั
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-02
อ่านเพิ่มเติม

68

ในเช้าวันรุ่งขึ้น อี้อวิ๋นซีเริ่มต้นเก็บข้อมูลของจิงซิงอี้ เธอและผู้ช่วยเดินขึ้นเขาไปพร้อมกับจิงซิงอี้ เพื่อดูแปลงสมุนไพร โรงงาน และสุดท้ายที่คลินิก เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยในช่วงเช้า อี้อวิ๋นซีเริ่มไลฟ์สดชีวิตในหมู่บ้าน และแนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆ เธอบอกว่า ถ้ามีโอกาส จะกลับมาที่นี่อีกครั้งในช่วงบ่าย จิงซิงอี้กลับไปที่คลินิก และรักษาคนไข้ที่มารอรักษาต่อ ในขณะที่อี้อวิ๋นซีเก็บของและเดินทางกลับ ก่อนกลับเธอบอกจิงซิงอี้ว่า โปรดิวเซอร์จะติดต่อมาเอง เท่าที่เธอคุยเมื่อคืนดูเขาจะสนใจมาก และถ้ามาถ่ายทำรายการที่นี่ อาจจะต้องขอให้ช่วยติดต่อเรื่องที่พักและอาหารการกิน ซึ่งจิงซิงอี้ก็รับปากด้วยความยินดี  ในระหว่างที่นั่งรถออกจากหมู่บ้านนั้น มู่ฝานซิงถามอี้อวิ๋นซี ที่นั่งเงียบๆ ว่า “เธอไม่เป็นไรนะ”อี้อวิ๋นซียิ้มนิดๆ เธอหันไปมองหมู่บ้านด้านหลัง และตอบเหมือนรำพึงกับตัวเองว่า “เขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่สนใจอะไรนอกจากเป้าหมายของตัวเอง อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ได้สนใจใคร ฉันก็เลยไม่เสียใจมากนัก”มู่ฝานซิงตบไหล่ปลอบใจอี้อวิ๋นซี และยุติการพูดเรื่องน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-03
อ่านเพิ่มเติม

69

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ซูเฉียวเริ่มใกล้ชิดกับจิงเซียวและจิงซิงอี้มากขึ้น หลังจากเลิกเรียนและกลับมาบ้าน เขาจะทำการบ้าน ช่วยแม่ทำงานบ้าน จากนั้นจะไปหาจิงเซียวกับจิงซิงอี้เพื่อช่วยทำงานเขาเรียนรู้การทำสมุนไพรจากจิงเซียว และช่วยจิงซิงอี้ทำธูปหอมและถุงสมุนไพร ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจอะไรมาก แต่เขาช่วยทำงานง่ายๆ เช่น ตากสมุนไพร บรรจุลงถุงเขาไม่ขอเรียนการทำสมุนไพร เพราะรู้ว่าความรู้บางอย่างเป็นความลับ และบางอย่างต้องมีค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ การไปขอเรียนง่ายๆ ดูเป็นเรื่องที่เห็นแก่ได้มากเกินไป และไม่อยากให้คนบ้านหมอจิงต้องมาลำบากใจปฏิเสธเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แม่ของเขาสอนเอง เมื่อเขาพูดกับแม่ว่าอยากเรียนกับหมอจิง เฉินเหวินจึงอธิบายให้เขาเข้าใจ และไม่ไปกดดันจิงเซียวและจิงซิงอี้ แต่เขาควรจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้มีพระคุณดีกว่าเมื่อเห็นเด็กชายมาช่วยเกือบทุกวัน จิงซิงอี้บอกว่า ไม่ต้องมาตอบแทนบุญคุณด้วยแรงงานก็ได้นะ แต่ซูเฉียวกลับตอบอย่างหนักแน่นว่า “ผมอยากทำเองครับ ผมอยากเก่งแบบหมอจิงด้วย”        เด็กชายหน้าแดงนิ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-11-04
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
56789
...
11
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status