บททั้งหมดของ คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?: บทที่ 201 - บทที่ 210

221

บทที่ 201

“การที่เราจะอยู่ด้วยกันหรือไม่มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ และก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมายุ่ง เหลียงหยวนโจว ถ้าคุณรู้สึกผิดกับฉันจริง ๆ ก็อย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้วจริง ๆ”พูดจบ เธอก็หันหลังรีบเดินตรงไปยังทางเข้าตึกเหลียงหยวนโจวมองตามแผ่นหลังของเธอ สีหน้าของเขาก็มืดครึ้มลง เมื่อนึกถึงตอนที่ตัวเองยังไม่ได้เลิกกับสืออวี๋อย่างเด็ดขาด ซือเยี่ยนก็มาเฝ้าคอยจ้องตาเป็นมันอยู่ข้าง ๆ แถมยังมีเรื่องในงานเลี้ยงของสืออวี๋ครั้งนั้น คำพูดเหล่านั้นที่ซือเยี่ยนพูดกับเขา ความโกรธก็พลุ่งพล่านขึ้นมาในใจของเหลียงหยวนโจว เขาไม่มีโอกาสที่จะทำให้สืออวี๋กลับมาอยู่ข้าง ๆ เขาแล้ว แต่เขาก็จะไม่ยอมทนดูสืออวี๋กับซือเยี่ยนได้อยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน!เมื่อเดินเข้ามาในโถงลิฟต์ สืออวี๋ก็เห็นซือเยี่ยนกำลังยืนรอลิฟต์อยู่ เธอจึงชะลอฝีเท้าแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เขา“สวัสดีตอนเย็นค่ะ เพิ่งไปซื้อของกลับมาเหรอคะ”ซือเยี่ยนพยักหน้า “อืม สวัสดีตอนเย็นครับ”หลังจากทักทายกันแล้ว สายตาของซือเยี่ยนก็เอาแต่จ้องมองหน้าจอแสดงชั้นของลิฟต์ ราวกับมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจของเขาอยู่สืออวี๋เม้มริมฝีปาก ที่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 202

“ได้ค่ะ ฉันจะรีบติดต่อช่างซ่อมให้เดี๋ยวนี้เลย รบกวนรอในลิฟต์อย่างสงบนะค่ะ อย่าตกใจ”ระหว่างที่ซือเยี่ยนกำลังคุยกับเจ้าหน้าที่ สืออวี๋ก็ก้มหน้าลงมองของที่เขาเพิ่งซื้อมาซึ่งตกกระจายเกลื่อนพื้น มันฝรั่งกับมะเขือเทศกลิ้งไปทั่วทุกมุมของลิฟต์คงเป็นเพราะเมื่อครู่ตอนที่เธอหกล้มกะทันหัน เขาเลยโยนของในมือทิ้งเพื่อเข้ามาพยุงเธอเธอย่อตัวลง เก็บมันฝรั่งและมะเขือเทศที่ตกกระจายอยู่บนพื้นกลับใส่ถุงซือเยี่ยนคุยกับเจ้าหน้าที่เสร็จพอดี เขาหันมามองสืออวี๋ เห็นเธอยืนเงียบ ๆ อยู่ด้านหลัง แววตาของเขาก็พลันอบอุ่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว“ช่างซ่อมใกล้จะมาถึงแล้ว ไม่ต้องกลัว อย่างมากก็สิบกว่านาทีเราก็ได้ออกไปแล้ว”“อืม”สืออวี๋พยักหน้า “ค่ะ เมื่อกี้ขอบคุณคุณนะคะ”พอเห็นสีหน้าของเธอไม่ซีดเผือดเหมือนเมื่อครู่ ซือเยี่ยนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเล็กน้อยเขากำลังจะเอ่ยปากพูด แต่จู่ ๆ ลิฟต์ก็ขยับไหวสืออวี๋ที่ยืนไม่มั่นคงอยู่แล้ว โทรศัพท์มือถือจึงร่วงหล่นลงพื้นทันที ร่างของเธอก็เสียการทรงตัวล้มลงไปทางพื้น“อ๊ะ!”เธอพยายามเอื้อมมือไปจับที่จับด้านข้าง แต่ก็ไม่สำเร็จ ในเสี้ยววินาทีคับขันนั้น ซือเยี่ยนก็ยื่นมือไปรวบ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 203

ช่วงนี้พวกเขาทำงานล่วงเวลาค่อนข้างเยอะ ซือห่าวอวี่ถึงกับบ่นอุบทุกวัน บอกว่ารอให้พ้นช่วงยุ่ง ๆ นี้ไปก่อน สืออวี๋ต้องเลี้ยงข้าวเขามื้อใหญ่ ๆ สักมื้อ ไม่อย่างนั้นทาสอย่างเขาไม่มีแรงทำงานแล้วพอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของสืออวี๋ แววตาของซือเยี่ยนก็เคร่งขรึมลงเล็กน้อย“ดูเหมือนคุณจะชอบผู้ช่วยคนนี้ของคุณน่าดูนะ”สืออวี๋พยักหน้า “ใช่ค่ะ เขาเป็นคนมั่นคงแล้วก็ทำงานเก่ง ทุกครั้งที่ฉันทำโอที เขาก็จะอยู่ทำโอทีเป็นเพื่อน บางครั้งดึกมากเขาก็ยังขับรถมาส่งฉัน จะไปหาลูกน้องดี ๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก ฉันเลยตัดสินใจว่าเดือนหน้าจะขึ้นเงินเดือนให้เขาค่ะ”แววตาของซือเยี่ยนฉายประกายลุ่มลึกวูบหนึ่ง สมัยก่อนตอนที่ซือห่าวอวี่ยังอยู่ที่ตระกูลซือ เป็นพวกถ้าเลือกได้ก็นั่งดีกว่ายืน ถ้าเลือกได้ก็นอนดีกว่านั่งตลอดตอนนี้กลับขยันขันแข็งขนาดนี้ ก็คงไม่ใช่เพื่ออะไรอื่นนอกจากตามจีบสืออวี๋“อืม แต่แทนที่คุณจะขึ้นเงินเดือนให้เขา สู้แนะนำแฟนให้เขาสักคนดีกว่า”พอได้ยินดังนั้น สืออวี๋ก็ชะงักไปเล็กน้อย รู้สึกแปลก ๆ “หน้าตาอย่างเขา ไม่น่าจะขาดแคลนแฟนนะคะ ขึ้นเงินเดือนให้เขาน่าจะเป็นรูปธรรมกว่า”อีกอย่าง รอบตัวเธอก็มีแต่ผู้หญิงท
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 204

“คุณล้างผลไม้แล้วกัน เดี๋ยวผักผมล้างเอง”สืออวี๋มองไปที่สตรอว์เบอร์รีกับองุ่นที่อยู่ในตะกร้าข้าง ๆ “สองอย่างนี้เหรอคะ“อืม”สืออวี๋เดินไปอยู่ข้างซือเยี่ยน เปิดก๊อกน้ำแล้วเริ่มล้างสตรอว์เบอร์รี เธอตั้งใจล้างอย่างมาก สายน้ำไหลรินผ่านปลายนิ้วที่เรียวยาวขาวผ่อง งดงามราวกับภาพวาดแววตาของซือเยี่ยนไหววูบ ก่อนจะละสายตากลับมาแล้วก้มหน้าล้างผักต่อไป เมื่อล้างสตรอว์เบอร์รีเสร็จ สืออวี๋ก็เตรียมหาจานมาใส่ จึงหันไปถามซือเยี่ยน: “จานบ้านคุณเก็บไว้ที่ไหนเหรอคะ?”“อยู่ในตู้เก็บของฝั่งผมนี่ครับ เดี๋ยวผมหยิบให้”เขาวางผักในมือ เช็ดมือ แล้วเปิดตู้หยิบจานสีขาวใบหนึ่งส่งให้สืออวี๋ “มีแค่จานแบบนี้เหรอคะ?”เมื่อเห็นสืออวี๋จ้องจานในมือเขานิ่ง สีหน้าท่าทางนั้นดูเหมือนจะ… รังเกียจหน่อย ๆ?ซือเยี่ยนพยักหน้า “อืม เครื่องถ้วยชามที่บ้านผมเป็นสีขาวล้วนทั้งชุดน่ะ”สืออวี๋นึกย้อนไป ตอนที่เธอมากินข้าวครั้งก่อน ๆ จานที่ใช้ใส่กับข้าวก็ดูเหมือนจะเป็นสีขาวล้วนทั้งหมดจริง ๆ“ที่บ้านฉันมีจานใส่ผลไม้สวย ๆ อยู่ใบหนึ่ง เดี๋ยวฉันไปเอามาดีกว่า ส่วนใบนี้คุณก็เอาไว้ใส่ผักเถอะ”มือของซือเยี่ยนที่ถือจานอยู่ค่อย ๆ กระ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 205

ถ้าให้พูดแบบซ่งจื่ออินก็คือ เพราะเธอไม่เคยถูกเลือกอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะจากครอบครัวบุญธรรมหรือครอบครัวตระกูลสือ เธอจึงต้องการให้ใครสักคนเดินเข้ามาหาเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอถึงจะกล้าพอที่จะตอบรับแต่สำหรับคนที่ต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาเธอ มันคงจะเป็นเรื่องที่เหนื่อยน่าดูซือเยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองสืออวี๋แต่ไม่ได้พูดอะไรเมื่อรออยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่เห็นซือเยี่ยนพูดอะไร สืออวี๋ก็เริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วน“เมื่อกี้ที่ฉันพูดไป คุณไม่ต้องกดดันมากก็ได้นะ เรายังเป็นเพื่อนกันต่อได้”ซือเยี่ยนมองเธอแล้วพูดทีละคำชัด ๆ: “ผมไม่ค่อยเข้าใจที่คุณพูดเท่าไหร่ เมื่อกี้ผมเลยพยายามทำความเข้าใจในมุมของคุณ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมคุณถึงคิดว่าการที่รักผมไม่ได้ มันคือการถ่วงรั้งผม?”“สำหรับผมนะ ถ้าคุณให้โอกาสผมแล้ว ผมยังทำให้คุณรักผมไม่ได้อีก นั่นก็แปลได้แค่ว่าผมสู้แฟนเก่าของคุณไม่ได้ ไม่อย่างนั้น คุณคงไม่ลืมเขาไม่ลงแบบนี้”สืออวี๋นิ่งอึ้งไป ไม่นึกเลยว่าเมื่อครู่เขาจะกำลังคิดเรื่องนี้อยู่เธอนึกว่าพอเขาได้ยินที่เธอพูดแล้ว กำลังคิดหาวิธีปฏิเสธเธอแบบนุ่มนวลอยู่เสียอีกสืออวี๋เงยหน้าขึ้นมองซือเยี่ยน กำ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 206

ซือห่าวอวี่: “...”“ไปกันเถอะครับ ตรงนี้หนาวจะตาย พรุ่งนี้ค่อยเรียกบริษัทรถลากมาจัดการรถคุณแล้วกัน”“...อืม”พอขึ้นรถ ซือห่าวอวี่ก็นั่งอยู่เบาะหลัง เขามองซือเยี่ยนและสืออวี๋ที่นั่งอยู่เบาะหน้าพูดคุยกันเป็นระยะ ๆ สายตาของซือเยี่ยนที่มองเธอนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนส่วนสายตาที่สืออวี๋ใช้มองซือเยี่ยน ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เปิดเผยเหมือนตอนทานข้าวครั้งที่แล้ว แต่กลับมีความเขินอายแบบผู้หญิงที่กำลังมีความรักนี่มันเพิ่งจะกี่วันเอง พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์กันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?! ซือห่าวอวี่แผ่รังสีแห่งความคับข้องใจออกมาอย่างหนักหน่วง จนสืออวี๋ที่นั่งอยู่เบาะหน้ายังสัมผัสได้ เธอจึงหันกลับไปมองเขา“ห่าวอวี่ คุณกินข้าวเย็นหรือยัง?”ซือห่าวอวี่ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “ยังครับ แต่ผมกินอาหารหมาก็อิ่มแล้ว พี่ไม่ต้องห่วงผมหรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของสืออวี๋ก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน แสงไฟสลัว ทำให้ซือห่าวอวี่และซือเยี่ยนมองไม่เห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเธอ“คุณพูดบ้าอะไร... ใครเอาอาหารหมาให้คุณกินกัน?”“ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่า ที่นี่นอกจากผมแล้ว ก็เหลือแค่พวกคุณสอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 207

สืออวี๋ยังคงรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ “คุณต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ ๆ ฉันก็แค่เห็นเขาเป็นน้องชาย เขาก็ต้องเห็นฉันเป็นพี่สาวเหมือนกันนั่นแหละ”ซือเยี่ยนยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร ซือห่าวอวี่ไม่ใช่น้องชายของคุณเสียหน่อย แต่ในอนาคตจะเป็นหลานชายของคุณต่างหากพอกลับถึงบ้าน ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว“คืนนี้คุณขับรถมาเหนื่อยแล้ว กลับไปพักผ่อนดี ๆ นะคะ”เมื่อเห็นว่าสืออวี๋พูดจบก็ตั้งใจจะกลับ ซือเยี่ยนจึงเรียกเธอไว้“ในเมื่อคุณก็บอกว่าผมเหนื่อยแล้ว งั้นก็น่าจะให้รางวัลผมหน่อยไหม?”“...คุณอยากได้รางวัลอะไรล่ะคะ?”“ผมอยากได้รางวัลอะไร คุณก็จะให้ได้หมดเลยเหรอ?”สืออวี๋เม้มริมฝีปากล่าง ในใจพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาจะไม่ขอให้เธอจูบเขาหรอกนะ?“ก็...ก็ต้องดูก่อนว่าคุณอยากได้อะไร”ซือเยี่ยนก้มลงมองเธอ อดรู้สึกปลาบปลื้มใจขึ้นมาไม่ได้ตอนนี้เธอยืนอยู่ตรงหน้าเขา ห่างออกไปไม่ถึงสามก้าวก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่า วันหนึ่งเขาจะได้ยืนอยู่ตรงหน้าเธออย่างเปิดเผย และมีโอกาสได้ไล่ตามจีบเธอเช่นนี้“ผมขอกอดคุณหน่อยได้ไหม?”สืออวี๋ชะงักไปเล็กน้อย “แค่เนี้ยเหรอ?”เธอก็นึกว่าซือเยี่ยนจะเร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 208

“ดึกขนาดนี้แล้ว? คุณย่ามีเรื่องสำคัญอะไรเหรอคะ?”“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันค่ะ ท่านแค่สั่งให้ฉันติดต่อคุณ”สืออวี๋หลุบตาลง “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว เดี๋ยวฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” หลังจากวางสาย สืออวี๋ก็หันไปมองซือเยี่ยน“คุณย่าเรียกฉันกลับบ้านน่ะค่ะ คืนนี้อาจจะไม่ได้กลับมาค้างที่นี่ คุณพักผ่อนเร็วหน่อยนะคะ ฝันดีค่ะ”เธอพูดจบก็ทำท่าจะเดินจากไป ซือเยี่ยนรีบรั้งเธอไว้ “ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมครับ?”“ไม่ต้องหรอกค่ะ ไม่ได้ไกลมาก”“โอเค งั้นถึงบ้านแล้วบอกผมด้วยนะ”สืออวี๋พยักหน้า แล้วรีบเดินตรงไปที่ลิฟต์เมื่อมาถึงบ้านเก่าของตระกูลสือ ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้วในห้องโถงใหญ่สว่างไสว นอกจากคุณย่าสือแล้ว ยังมีสือม่าน สือหมิงฮุย และโจวฉินอยู่ด้วยพอเห็นคนเหล่านั้น แววตาของสืออวี๋ก็ไหววูบเล็กน้อย เธอเดินเข้าไปอยู่ข้างกายคุณย่าสือ “คุณย่าคะ คุณย่าเรียกหนูกลับมามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”เมื่อเห็นว่าสืออวี๋ทำราวกับมองไม่เห็นพวกเขา และไม่คิดที่จะทักทาย ทั้งโจวฉินและสือหมิงฮุยต่างก็ขมวดคิ้ว“นั่งก่อนสิ วันนี้ย่าเรียกแกมาเพราะอยากจะคุยเรื่องหุ้นของบริษัท”สิ้นเสียงของคุณย่า โจวฉินก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ:
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 209

“ในเมื่อคุณย่าไม่อยากให้หนูเข้าทำงานที่สือซื่อ หนูก็จะไปหางานใหม่เอง คุณย่าวางใจได้เลยค่ะ หนูพูดคำไหนคำนั้นแน่นอน ตอนนี้ดึกมากแล้ว คุณย่าพักผ่อนให้ดีเถอะนะคะ หนูขอตัวกลับก่อน”พูดจบ สือม่านก็หันหลังเดินจากไปทันทีสีหน้าของโจวฉินเปลี่ยนไปทันที เธอรีบลุกพรวดและวิ่งตามออกไปสือหมิงฮุยยังไม่ได้ลุกไปไหน แต่สายตาที่เขามองคุณย่าสือก็ฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจนแน่นอนว่า ที่เขาไม่พอใจนั้นไม่ใช่เพราะคุณย่าสือไม่ยอมให้สือม่านเข้าทำงานในบริษัท แต่เป็นเพราะคุณย่าสือยอมยกหุ้นทั้งหมดในนามของท่านให้กับสืออวี๋ แต่กลับไม่ยอมโอนให้เขาต่างหากทั้ง ๆ ที่เขาต่างหากที่เป็นลูกชายแท้ ๆ ของคุณย่าสือ ส่วนสืออวี๋เป็นแค่หลานสาวเท่านั้น“คุณแม่ครับ หุ้นในมือของคุณแม่ส่งผลต่ออนาคตและการพัฒนาของสือซื่อ ผมว่าคุณแม่ยังไม่ควรตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นว่าจะยกให้ใครจะดีกว่า”คุณย่าสือทำหน้าเคร่งขรึม ถ้าไม่ใช่เพราะเขาทำอะไรพึ่งพาไม่ได้ เธอก็คงไม่ตัดสินใจโอนหุ้นให้กับสืออวี๋หรอก“มีเวลามาพูดเรื่องพวกนี้ สู้เอาเวลาไปใส่ใจเรื่องในบ้านให้ดีก่อนเถอะ ขนาดเรื่องในบ้านยังจัดการให้ดีไม่ได้ แล้วจะหวังให้มาบริหารบริษัทได้ยังไง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 210

สือม่านหันไปมองโจวฉิน น้ำตาคลอเบ้า “แม่คะ ไม่ต้องแล้วค่ะ หนูจะไปหางานที่บริษัทอื่นเอง ในเมื่อคุณย่าไม่เชื่อใจหนู ถึงเข้าไปทำที่สือซื่อ ก็มีแต่จะถูกกดขี่ สู้ไปทำที่บริษัทอื่นดีกว่า อีกอย่าง หนูเชื่อว่าต่อให้ไม่พึ่งตระกูลสือ หนูก็ประสบความสำเร็จได้ค่ะ”“อืม แม่เชื่อลูก ในเมื่อลูกไม่อยากไปตระกูลสือ งั้นลองไปฝึกงานที่บริษัทของน้าชายลูกก่อนสักสองสามปีไหม พอสร้างผลงานได้แล้ว แม่ค่อยไปคุยกับพ่อให้ลูกเข้าสือซื่อ”สือม่านก้มหน้าลง พยักหน้าตอบ: “ได้ค่ะ หนูฟังการตัดสินใจของแม่ค่ะ”ทว่าแววตาของเธอกลับฉายแววเย็นชา เธอไม่คิดจะไปบริษัทของน้องชายโจวฉินเลยสักนิด! ถ้าตอนนี้ยังเข้าสือซื่อไม่ได้ ต่อไปในอนาคตก็คงไม่ต้องหวังว่าจะได้เข้าไปทำงานที่นั่นอีกแล้วดังนั้น ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เธอต้องหาทางเข้าไปในสือซื่อให้จงได้!“เอาล่ะ อย่าเศร้าไปเลย พรุ่งนี้แม่จะพาไปช้อปปิ้ง ลูกเคยบอกว่าอยากได้กระเป๋าหลายใบไม่ใช่เหรอ? แม่ซื้อให้หมดเลย!”สือม่านไปถูกใจกระเป๋ากับเสื้อผ้าพวกนั้น พอลองรวมราคาดูแล้วก็ปาไปสิบล้านกว่า ตอนแรกโจวฉินยังคิดว่ามันแพงเกินไป เลยยังไม่ได้ตกลงปลงใจว่าจะซื้อให้แต่ตอนนี้สือม่านกำลังอารมณ์ไ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
181920212223
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status