All Chapters of ยามบุปผางามผลิบานทั้งใจ: Chapter 61 - Chapter 70

80 Chapters

บทที่ 61

ซ่งถานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย “แต่ว่าหมอ...”“อย่างไรก็ต้องมีหมอ” ซ่งหงกล่าวเสียงเข้ม “เจ้านำเทียบเชิญของข้าไปสกุลลู่สักเที่ยว ในจวนพวกเขามีหมอประจำจวนที่รักษาคนในเรือนหลัง เจ้าไปเชิญกลับมารับมือก่อนชั่วคราว จะได้รับประกันว่าท่านแม่ไม่มีเรื่อง”“แต่สกุลลู่จะยอมเข้าแทรกแซงหรือ...”“พวกเขาไม่ยอมก็ต้องยอม เหตุการณ์ที่ภูเขาเชวี่ยลู่จื๋อเหนียนเองก็มีส่วน ถังหนิงใจร้ายกับสกุลซ่งได้ พวกเขานึกว่าลู่จื๋อเหนียนจะหนีพ้นหรือ? อีกอย่างวันนี้คนที่ลงมือคือเซียวเยี่ยน เขาลงมือทำร้ายเก้ามิ่งของราชสำนัก ทำร้ายสตรีในจวนกั๋วกง ลู่ฉงหย่วนฟังแล้วมีแต่จะดีใจ”เซียวเยี่ยนกับตระกูลขุนนางบาดหมางกันมานาน สกุลลู่อยากจะจับชนักของเขาให้ได้ ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด เซียวเยี่ยนทำร้ายสตรีที่ได้รับแต่งตั้งจากราชสำนักก็คือความผิด สกุลลู่จะพลาดโอกาสที่ดีเช่นนี้ได้อย่างไรซ่งถานเองก็เริ่มคิดได้แล้ว จึงรีบกล่าว “อย่างไรพี่ใหญ่ก็หลักแหลม ข้าจะไปสกุลลู่เดี๋ยวนี้”ซ่งหงหันมองซ่งจิ่นซิวแล้วกล่าว “เจ้าอยู่ดูแลย่าของเจ้าที่นี่ อย่าออกไปก่อเรื่อง”“แล้วท่านพ่อ...”“ข้ามีธุระต้องจัดการ”ครั้งนี้ซ่งถังหนิงต้องการแตกหักกับจวนสกุลซ่
Read more

บทที่ 62

ซ่งซูหลานนั่งอยู่ข้างกายซ่งจิ่นซิว น้ำตาเม็ดใหญ่ร่วงหล่นลงพื้น ใบหน้าขาวซีดราวกระดาษเต็มไปด้วยความผวา “แต่ท่านย่า ท่านย่ายังเป็นขนาดนี้ ถังหนิงไม่ปล่อยข้าแน่”นางจับแขนเสื้อซ่งจิ่นซิวเอาไว้ แม้แต่ปลายนิ้วยังสั่นเทา“อีกอย่างนะท่านพี่ นางว่าร้ายท่านพี่ขนาดนี้ กระทั่งท่านย่าไปขอร้องยังถูกนางตีออกมา ตอนนี้ข้างนอกนั่นคงนินทากันว่าท่านพี่จะเอาชีวิตนาง นางต้องทำลายท่านพี่แน่...”มือของซ่งจิ่นซิวใต้แขนเสื้อกำแน่น ยามขบสันกรามแน่นริมฝีปากก็ขาวซีดไปด้วย“ท่านพี่ พวกเราควรทำอย่างไรดี?”ซ่งซูหลานก้มหน้าอยู่ใต้มือซ่งจิ่นซิว ร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวอย่างมากซ่งจิ่นซิวอยากปลอบใจนาง อยากทำให้นางไม่ต้องกลัว แต่บัดนี้เมื่อนึกถึงข่าวลือข้างนอกเหล่านั้นที่เกี่ยวกับสกุลซ่ง นึกถึงสถานการณ์ของตัวเอง กลับรู้สึกว่าพูดสิ่งใดก็ไร้ประโยชน์หลังฉากกั้นฮูหยินผู้เฒ่าซ่งนอนหมดสติ ภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้กระซิกของซ่งซูหลานริมฝีปากซ่งจิ่นซิวเม้มแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เตรียมจะเอ่ยปาก จู่ ๆ ได้ยินคนตรงหน้าพูดด้วยเสียงร้องไห้ต่ำ “ท่านพี่ หากถังหนิงไม่กลับมาคงดีมาก หากนางไม่ถูกช่วยเอาไว้ แล้วอยู่ที่ภูเขาเชว
Read more

บทที่ 63

นางรู้จักพี่ชายตรงหน้าคนนี้ดีเกินไป ยึดถือตัวเองเป็นคนดี ครองตนอย่างเข้มงวด แทบอยากจะสลักคำว่ากฎระเบียบเข้าไปในกระดูก แต่ความจริงกลับเป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดเมื่อครู่วินาทีที่ใบหน้าของเขาขาวซีด รวมถึงองศาที่มือซึ่งกำแน่นอยู่บนหัวเข่าข้างนั้นสั่นเทา ล้วนแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด เขาไม่ใช่ไม่สนใจการกระทำของซ่งถังหนิงเลยเขาเพียงแค่กำลังหลอกตัวเองไม่ยอมรับความเลวร้ายในใจนางเพียงแค่เพาะเมล็ดพันธุ์ แล้วอดทนรอยคอยเมื่อใดที่ถังหนิงยังไม่กลับมา สักวันพวกเขาจะเป็นศัตรูกัน ไม่ช้าหรือเร็วซ่งจิ่นซิวจะเข้าใจ มีเพียงทำลายซ่งถังหนิงถึงจะรักษาตัวเขาและสกุลซ่งเอาไว้ได้……สุดท้ายสกุลซ่งก็เชิญหมอมาได้ ซ่งถานพาคนของสกุลลู่รีบเร่งกลับมา หมอประจำจวนคนนั้นตรวจดูอย่างละเอียดหนึ่งรอบแล้วส่ายหน้า “กระดูกมือของฮูหยินผู้เฒ่าแตกละเอียดรุนแรง อีกทั้งผู้ลงมือออกแรงอย่างแม่นยำ สะเทือนเส้นเอ็นข้อมือนางจนแหลก...”“หมายความว่าอย่างไร?”“มือข้างนี้ของฮูหยินผู้เฒ่า พิการแล้วขอรับ”สีหน้าซ่งถานย่ำแย่สุดอย่างรุนแรงซ่งจิ่นซิวเองก็สีหน้าสับสน “จะพิการได้อย่างไร ทั้งที่แค่หักเองไม่ใช่หรือ ต่อเ
Read more

บทที่ 64

พ่อบ้านรีบจากไป ซ่งจิ่นซิวที่ตามออกมาทนไม่ได้จึงกล่าว “ท่านอาสาม สกุลลู่ไม่ทำเช่นนั้นหรอก ข้ากับเส้าเจิงเป็นสหายรักกัน...”เส้าเจิงคือชื่อเล่นของลู่จื๋อเหนียนซ่งถานพูดอย่างอารมณ์เสีย “แล้วตอนที่เจ้าถูกคนนอกว่าร้าย ยามสกุลซ่งลำบาก ลู่จื๋อเหนียนเคยมาเยี่ยมเจ้าสักครั้งหรือไม่?”เมื่อเห็นหลานชายตัวเองพูดไม่ออก เขารู้สึกเหนื่อยใจอย่างที่สุด“เจ้ากับถังหนิงเป็นพี่น้องกันแท้ ๆ นางยังทนเห็นชื่อเสียงเจ้าย่อยยับ ปล่อยให้คนอื่นทำลายมือของย่าเจ้า เจ้านึกว่าลู่จื๋อเหนียนที่เป็นคนนอกคนหนึ่งจะทำอย่างไรกับเจ้า? เขาเป็นบุตรชายสกุลลู่ เป็นลูกหลานขุนนางที่เรียนรู้แต่เด็ก ว่าผลประโยชน์วงศ์ตระกูลต้องมาก่อน ซ่งจิ่นซิว เจ้าอย่าไร้เดียงสานักเลย”ซ่งถานยังเป็นห่วงฮูหยินผู้เฒ่าซ่งที่อยู่ในห้อง กลัวหมอประจำจวนสกุลลู่จะลงมือทำสิ่งอื่นเขาผลักลู่จิ่นซิวที่ยืนอยู่ตรงหน้าออกแล้วกล่าวว่า “หากเจ้าไม่มีอะไรทำก็ลองคิดดูว่าพรุ่งนี้ยามราชการเช้า จะรับมือกับการร้องเรียนของใต้เท้าเฉาอย่างไร อย่ายืนเกะกะอยู่ตรงนั้น”ซ่งถานรีบเข้าไปในห้อง ทิ้งให้ซ่งจิ่นซิวยืนขมวดคิ้วมุ่นอยู่นอกประตูคนเดียวเมื่อวานใต้เท้าเฉาเคยร้องเรี
Read more

บทที่ 65

ด้านหลังอิ่นฉวนกำลังตามมา ซ่งจิ่นซิ่วกลับเดินเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเดินก็ยิ่งเร็ว กระทั่งตอนหลังถึงกับเริ่มวิ่งเมื่อเสียงลมกรอกเข้าหู ซ่งจิ่นซิวอยากจะสลัดความคิดชั่วร้ายออกจากหัว แต่คำว่า “หากถังหนิงอยู่ที่ภูเขาเชวี่ยจะดีขนาดไหน” กลับราวกับรากไม้ที่หยั่งลึกเข้าไปฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจเขา หลังตัดกิ่งก้านออกไปแล้วก็ยังงอกเงยออกมาอย่างรวดเร็วหากถังหนิงไม่กลบัมา ชื่อเสียงของเขาคงไม่ป่นปี้หากนางตายอยู่ที่ภูเขาเชวี่ย มือของท่านย่าก็จะไม่หัก สกุลซ่งเองก็จะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ริมฝีปากซ่งจิ่นซิวขาวซีด ตัวสั่นอยากจะสลัดสิ่งที่เกิดขึ้นในใจอย่างต่อเนื่อง แต่ความมัวหมองเหล่านั้นกลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ยามเขาโซเซชนเข้ากับบันไดหน้าประตูนอกเรือน แล้วนั่งแหมะอยู่บนพื้น มองดูชุดสีขาวเปื้อนโคลนที่ไม่ได้ขาวสะอาดอีกต่อไปด้วยสีหน้าเจ็บปวด ค่อย ๆ กอดตัวเองอย่างตัวสั่นซ่งซูหลานที่ยืนอยู่ตรงเสาสี่เหลี่ยมของทางเดินที่ห่างออกไป มองดูซ่งจิ่นซิวที่น่าเวทนาใกล้แหลกสลาย ทันใดนั้นนางก็หัวเราะดูท่า นางไม่ต้องรอนานแล้ว……ถังหนิงไม่รู้เรื่องราวหลังจากที่พวกฮูหยินผู้เฒ่าซ่งกลับไปแม้แต่น้อย นางกำ
Read more

บทที่ 66

ซ่งถังหนิงหัวเราะออกมาเพราะคำพูดของพระชายาเฉิงและเซียวเยี่ยน เอ่ยพลางผุดยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็ก ๆ ข้างแก้ม “หากท่านตาเห็นท่าทางของท่านน้าเช่นนี้แล้ว ต้องมองตาขวางพ่นลมขนเครากระดิกเป็นแน่แท้”เจี่ยงหมอมอทนไม่ไหวพูดเสริมขึ้นมาจากด้านข้าง “ทว่าหากแม่ใหญ่เห็นเข้า ต้องฟาดพระชายาเป็นแน่”พระชายาเฉิงพูดไม่ออก “…”นางบุ้ยปาก “เพราะพี่หญิงกับท่านพ่อไม่อยู่แล้ว มิเช่นนั้นสกุลซ่งจะเอาความกล้าหาญมาจากที่ใดกัน”เจี่ยงหมอมอได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป สีหน้าพลันสลดลงเล็กน้อย ใช่สิ เพราะราชครูกับแม่ใหญ่ต่างไม่อยู่แล้วทั้งคู่ หากเรือนสกุลหรงยังมีคนเคียงข้าง หรือขอแค่มีนายท่านสักคนอยู่ด้วย คนสกุลซ่งไหนเลยจะกล้ามาข่มเหงสตรีเช่นนี้อากาศร้อนขึ้นช้า ๆ เตาถ่านในห้องจึงถูกเก็บออกไปแล้วถังหนิงสวมเสื้อคลุมสั้นบุใยฝ้าย ครั้นเห็นบรรยากาศพลันอึมครึมขึ้นมา พระชายาเฉิงเองก็ดูกลัดกลุ้มไม่ยินดี นางจึงยื่นมือไปเลี่ยงบริเวณที่เป็นบาดแผลแล้วโอบแขนของพระชายาเฉิงเอาไว้“ถึงท่านแม่ไม่อยู่ แต่ก็ยังมีท่านน้าอยู่นะ มีท่านน้าคอยปกป้องแบบนี้ ถังหนิงไม่ต้องกลัว”เสียงใส่แจ๋วของดรุณีน้อยนุ่มนวลเสนาะหูยิ่งนัก ทำให้พระชายาเฉิงที่
Read more

บทที่ 67

เซียวเยี่ยนเอ่ยขึ้น “สองสามวันก่อนเฉิงอ๋องก็ไปมาแล้ว”ถังหนิงได้ยินก็นิ่งไปครู่หนึ่ง กว่าจะเข้าใจความหมายที่แฝงในถ้อยคำของเขา“แม้ที่ว่าการทางนั้นจะตรวจสอบไม่ได้ว่าซ่งซูหลานใช่บุตรีของซ่งหงจริงหรือไม่ แต่สามารถตรวจสอบได้ว่าแท้จริงแล้วนางเป็นชาวอันโจวหรือไม่ หากพวกซ่งถานอยากปิดบังชาติกำเนิดของซ่งซูหลานจริง แน่นอนว่าพวกเขาต้องหาทางกันคนไม่ให้ไปที่อันโจวแน่ เฉิงอ๋องเองก็คิดได้ถึงจุดนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงไปยังที่ว่าการเมืองหลวง แล้วยังแอบนำทะเบียนราษฎร์ของซ่งซูหลานออกไปด้วย”เซียวเยี่ยนเอ่ยพลางก็เอื้อมมือไปหยิบเกาลัดมาเม็ดหนึ่ง หนีบเบา ๆ ตรงปลายนิ้ว ทันใดนั้นเปลือกของเม็ดเกาลัดก็แตกออก“วันนี้หลังจากท่านย่าของเจ้าถูกหามกลับไป ซ่งหงก็รีบรุดไปที่ว่าการเมืองหลวงทันที คงเพราะสังเกตว่าเจ้าเริ่มเคลือบแคลงสกุลซ่งขึ้นมากระมัง จึงหาทางป้องกันไม่ให้เจ้ายืมมือข้าสืบเรื่องของซ่งซูหลาน แต่ใครจะรู้พอไปถึงที่นั่นแล้วถึงได้รู้ว่าเฉิงอ๋องเข้าไปเอาทะเบียนราษฎร์ออกไปก่อนเขาก้าวหนึ่ง”ตอนนั้นซ่งหงตกใจจนหน้าซีดเผือด เกือบจะเป็นลมไปถังหนิงได้ยินดังนั้นก็เงียบไปครู่ใหญ่ “ดังนั้นซ่งซูหลาน ก็ไม่ได้มาจากอันโจ
Read more

บทที่ 68

เซียวเยี่ยนเห็นสีหน้าตื่นตะลึงของนางก็รู้สึกขบขันแม่นางน้อยผู้นี้จิตใจใสซื่อ มีอะไรนิดหน่อยในใจก็แทบจะเขียนออกมาบนใบหน้า แม้เทียบกับวันแรกที่พบหน้ากันจะเติบโตขึ้นบ้าง บางครั้งก็แสร้งทำเป็นผู้ใหญ่เจนโลกอยู่ ทว่าหากพูดกันโดยเนื้อแท้แล้วก็ยังเป็นแค่แม่นางน้อยที่ไม่เข้าใจเล่ห์เหลี่ยมของมนุษย์อยู่ดีหากเรื่องที่ชัดเจนเพียงนี้เขายังดูไม่ออก เกรงว่าคงตายไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วกระมังเพียงแต่เซียวเยี่ยนยังจำได้ว่าเมื่อคราวก่อนที่ถูกเขาเดาใจได้ถูกเผง เด็กสาวตรงหน้าร้องไห้โฮหยาดน้ำตาร่วงเผาะ เขาจึงเปลี่ยนใจ เอนกายพิงพนักไม้จันทน์พลางเอ่ยขึ้นว่า“ข้าทายเอา”ถังหนิงสงสัย “ทาย?”เซียวเยี่ยนใช้ผ้าไหมเช็ดเศษเปลือกเกาลัดที่ติดปลายนิ้วออก “ข้าไม่ใช่คนโง่เขลา”“น้าเขยของเจ้ายามอยู่นอกเรือนก็ตามใจพระชายาเฉิงสารพัด แลดูรักใคร่กลมเกลียวกันยิ่งนัก ทว่าหากเขามีใจรักและผูกพันกับพระชายาอย่างลึกซึ้งแน่นแฟ้นจริง ย่อมต้องรักแม้กระทั่งอีกาบนหลังคาเรือนของนาง ไม่ต้องทำถึงขั้นตัดขาดกับสกุลซ่งเพราะเจ้าก็ได้ ทว่าอย่างน้อยในตอนที่ซ่งจิ่นซิวบุกมาหาถึงเรือนก็ควรจะห้ามปรามสั่งสอนบ้าง มิใช่คิดแต่จะผลักไสเจ้
Read more

บทที่ 69

“มิบังอาจขอรับ ข้าน้อยน้อมส่งเสด็จพระชายา”“ไม่จำเป็น เจ้าทำหน้าที่ของเจ้าต่อไปเถิด”พระชายาเฉิงหันหลังอย่างหดหู่ก่อนจะเดินนำเจี่ยงหมอมอออกไปเอง โดยไม่คิดจะสร้างความลำบากใจให้เขาแม้แต่น้อยเจ้าหน้าที่ผู้นั้นเห็นนางออกไปจากหน้าโถงแล้วก็ถอนหายใจออกมาทันที ก่อนจะหมุนตัวและเดินมาหยุดข้างผ้าม่านพร้อมส่งเสียงเข้าไปด้านใน “ท่านใต้เท้า พระชายาเฉิงออกไปแล้วขอรับ”ผ้าม่านถูกใครบางคนแหวกออกเล็กน้อย อู๋หวยผู้ดูแลราชธานียื่นศีรษะออกมาด้านนอก ครั้นกวาดสายตามองแล้วไม่เห็นเงาของพระชายาเฉิง เขาถึงจะเปิดผ้าม่านออกเต็มที่และเดินออกมาจากด้านหลังด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มเป็นกังวล“เจ้าว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้ไม่เว้นแต่ละวันมันคืออะไรกันแน่ เฉิงอ๋องมาแล้วสกุลซ่งมาอีก พอสกุลซ่งมาแล้วพระชายาเฉิงก็มาอีก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทะเบียนราษฎร์ของคุณหนูใหญ่สกุลซ่ง แล้วคุณหนูใหญ่สกุลซ่งที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนคนนั้นเป็นใครกันแน่ นี่มันไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว…”เมื่อวานตอนที่ซ่งหงเข้ามาก็เกือบจะแตกหักกับเขา วันนี้พระชายาเฉิงก็มาอีกเขาเองตอนได้ยินรายงานจากด้านนอกเมื่อครู่ก็ร้อนใจจนเหงื่อตก รีบหนีหัวซุกหัวซุนไปซ่อนตัวทั
Read more

บทที่ 70

“เฉิงอ๋องเอาทะเบียนราษฎร์ออกไปตั้งแต่เมื่อใดกัน?” พระชายาเฉิงถาม“เมื่อสามวันก่อนขอรับ”“แล้วคนจากสกุลซ่งเล่า ได้มาบ้างหรือไม่?”“เรื่องนั้น…”เห็นแววตาของพระชายาเฉิงฉายประกายเย็นเยียบ อู๋หวยลังเลเพียงครู่ก็เอ่ยออกมาตามความเป็นจริง “เมื่อเช้าก่อนเที่ยงวันรองเสนาบดีซ่งแวะเข้ามาหนหนึ่ง คิดจะขอทะเบียนราษฎร์ของแม่นางใหญ่ซ่งคนนั้นไปด้วยเช่นกัน ทว่าหลังได้ยินว่าทะเบียนราษฎร์เล่มนั้นถูกเฉิงอ๋องนำออกไปแล้ว สีหน้าของเขาก็ย่ำแย่ลงอย่างถึงที่สุด ข้าน้อยคิดว่า ภายหลังจากรองเสนาบดีซ่งออกไปแล้วคงจะขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปยังจวนเฉิงอ๋องขอรับ”แววตาของพระชายาเฉิงเย็นเยียบยิ่งกว่าเดิม ซ่งหงหากไม่มีความผิดติดค้างในใจ จะขอทะเบียนราษฎร์ของซ่งซูหลานไปเพื่ออะไรกัน?ชาติกำเนิดของซ่งซูหลานคนนั้นมีอะไรไม่ชอบมาพากลจริงด้วย!ความคิดมากมายผ่านวาบเข้ามาในหัวของนางอย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับคำตอบที่ตนเองต้องการแล้ว พระชายาเฉิงกลับเงียบสงบใจเย็นลง นางเพียงสูดลมหายใจลึกยืดหลังตั้งตัวตรง สีหน้าฉายแววขอโทษออกมา“เรื่องวันนี้ล่วงเกินไปมาก ข้าเองก็เพราะกลัดกลุ้มเป็นกังวลว่าบุตรกำพร้าที่พี่หญิงข้าทิ้งไว้จะถูกคนอื่นรังแก
Read more
PREV
1
...
345678
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status