ชาติก่อน ซ่งถังหนิงคือคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่สุดในเมืองเซิ่งจิง ทว่านางกลับต้องตายด้วยน้ำมือของพี่ชายแท้ ๆ และคู่หมั้นที่เติบโตมาด้วยกัน เพียงเพราะบุตรอนุภรรยาคนหนึ่ง พวกเขาพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากนาง ทำลายชีวิตของนาง เหยียบย่ำนางราวกับโคลนตมเพื่อผลักดันให้บุตรอนุภรรยาคนนั้นกลายเป็นดวงตะวันที่เจิดจรัส ส่วนนางกลับต้องเสียโฉม ขาหัก ถูกกักขังอยู่ในเรือนร้างนานหลายปี และสุดท้ายก็ถูกคนรัดคอตายทั้งเป็น เมื่อได้เกิดใหม่ ถังหนิงไม่ขอเป็นบันไดให้ใครเหยียบย่ำอีกต่อไป พี่ชายที่เย็นชาและลำเอียง นางไม่ต้องการ ลูกพี่ลูกน้องที่รักใคร่สตรีจอมเสแสร้ง นางขอตัดขาด คู่หมั้นที่โลเลสองใจ นางขอถอนหมั้น และเมื่อหน้ากากของบุตรอนุภรรยาถูกกระชากออก เหล่าพี่ชายและคู่หมั้นต่างก็คุกเข่าลงตรงหน้า อ้อนวอนขอให้นางให้อภัย ซ่งถังหนิงกล่าวอย่างเย็นชา ให้อภัยหรือ? เหอะ เผาให้เป็นเถ้าถ่านแล้วโปรยทิ้งไปเสียยังจะดีกว่า นางมีท่านพี่คนใหม่แล้ว แม้ว่าท่านพี่คนใหม่จะเป็นขันที มีชื่อเสียงไม่ดี ทั้งยังเย็นชาและโหดเหี้ยมอำมหิต แค่เอ่ยว่าท่านหัวหน้าจากไกล ๆ ก็สามารถทำให้เด็กน้อยหวาดกลัวจนร้องไห้ได้ แต่ยามที่เขาเรียกนางว่า “เสี่ยวไห่ถัง” กลับอ่อนโยนที่สุด ...... คราแรกที่เซียวเยี่ยนอยู่กับถังหนิงตามลำพัง มีคนกล่าวว่าไม่เหมาะสมตามขนบธรรมเนียม “ข้าเป็นขันที จะมีขนบธรรมเนียมอะไร?” ต่อมา ภายในห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมไออุ่น เซียวเยี่ยนกอดเด็กสาวที่เมามายจนดวงตาแดงก่ำไว้ในอ้อมแขน “เสี่ยวไห่ถัง พี่รักและเอ็นดูเจ้า” ...... [ขันทีปลอม] + [ทุกคนต้องชดใช้] + [พี่ชายต้องชดใช้] + [ไม่มีวันให้อภัย]
View More【牌神話】〜麻雀少女激闘戦記〜 通
――人はごく稀に神化するという。
ある仮説によれば全ての神々には元の姿があり、なんらかのきっかけで神へと姿を変えることがあるとか。
そして神は様々な所に現れる。それは麻雀界とて例外ではない。
この話は、麻雀の神とそれに深く関わった少女あるいは少年たちの熱い青春の物語。その大全である。
◆◇◆◇
もくじ
➖️メインストーリー➖️
第1部 麻雀少女激闘戦記
二章 闇メン
➖️表紙イラスト➖️
しろねこ。
◆◇◆◇
ごきげんよう、彼方です!
麻雀の楽しさを1人でも多くの人に伝えたくてこの物語を書いています。良いと思いましたらぜひ拡散の方をよろしくお願いします!
この小説の読み方は
────
──
これは時間の経過です。2つなら少しの、3つなら大きな時間の経過になります。思考吹き出しのイメージですね。
──
────
これは時間の遡りです。
────
これはちょっとした区切りです。
◆◇◆◇
これは視点変更か大きな区切りです。
これを意識していれば視点混乱などしないで読めると思います。
では、最後に。本編に入る前に確認しますけど。あなたは麻雀に精通してますか? してる? では次に進んで下さい。でももし、まだわからない。よく知らない。まるで無知。という方は読めない漢字があるかもしれません。それをここでざっと書いておきましょう。
まず牌(はい)の名称です。
1〜9の数字があり、スートは3種です。スート……スートって何か言い換えられないかな。色、絵柄、いや種類……かな。まあ、種族というか。そんな感じ。
で読み方は
1=いー
2=りゃん
3=さん
4=すー
5=うー
6=ろー
7=ちー
8=ぱー
9=きゅー
これが基本。
種族の読み方は
萬=まん(わんとも言うが基本はまん)
筒=ぴん
索=そー
でもこれは略してて実際は萬子筒子索子(まんずぴんずそーず)と言うもの。
漢数字が萬子
数字に丸が囲ってあるのが筒子
全角数字が索子です。
つまり二とあればこれはりゃんまんを持ってるってことで⑤ならうーぴんを持ってるってこと。OK?
ここまでが数牌(すうはい)の説明。
で、他にも字牌(じはい)というのがありまして。
まず字牌の風牌(かぜはい)から。
東=とん
南=なん
西=しゃー
北=ぺー
で、もうひとつの字牌が三元牌(さんげんぱい)。
白=はく
発=はつ
中=ちゅん
これが牌の読み方の全て。
続いてよく使われるのが『家』。これ単独では使わないけど西家とか起家とかね。これ、読み方は(いえ)じゃないんです。
麻雀の世界で家は(ちゃ)と読みます。つまり、西家なら(しゃーちゃ)。起家ならおきちゃ? いいえ、これは(ちーちゃ)と言ってこの人の親番からこのゲームは開始されたよという、最初に親番を担当した人を指す言葉。……よく考えたらあまり必要ない言葉だな。なんであるのかは不明。
あとは聴牌(てんぱい)とか
一向聴(いーしゃんてん)とか
和了(ほーら)とかかな。出てきそうな専門用語は。
テンパイってのは完成まであと1つの状態を指すもので、イーシャンテンはそれのまた1つ前。さらに前だとリャンシャンテンとかサンシャンテンとか言うんだけどそのへんはイーシャンテンわかるならわかるよね。
ホーラってのはアガリのこと。完成ってことですね。
これくらいを覚えておけばあまりつまづく事なく読めると思うんです。もし分からないことがあったらいつでも私に質問して下さい。感想欄でもメールでも方法は何でもいいです。必ず分からない系のご質問には答えますので!
長くなりましたが、それでは、元競技麻雀プロである著者が描く彼方流麻雀小説の世界をお楽しみ下さい――
สีเลือดบนใบหน้าของผู้ตรวจการเหอพลันจางหายไปในพริบตาเซียวเยี่ยนหัวเราะเยาะออกมา “ข้าทราบดีในอดีตเพื่อกวาดล้างราชสำนักแทนฝ่าบาท ข้าได้ทำให้ผลประโยชน์ของผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องสั่นคลอน และรู้ด้วยว่ามีคนบางส่วนไม่พอใจที่ข้าได้ถืออำนาจควบคุมองครักษ์เกราะดำกำราบผู้ที่มีใจคิดกบฏให้สิ้นแทนฝ่าบาท ทว่าข้ากลับไม่คาดคิดเลยสักนิดว่า คนของฝ่ายตรวจการที่ได้ชื่อว่าซื่อตรงไม่ยอมโอนอ่อนก็เป็นพวกเหลวไหลจับแต่ลมคว้าแต่เงาเหมือนกัน”“ใต้เท้าเหอไม่มีหลักฐานแม้เพียงสักนิดก็คิดจะกล่าวหาว่าร้ายข้าแล้ว มิหนำซ้ำยังหยิบยกเหตุผลน่าขบขันที่สุดมาโจมตีข้าอีก ท่านไม่พอใจที่เมื่อก่อนข้าลงมือแทนฝ่าบาท หรือไม่พอใจที่ฝ่าบาทให้ข้ารับผิดชอบตำแหน่งหัวหน้าของคณะองคมนตรี ดังนั้นถึงได้ยอมละทิ้งชื่อเสียงอันบริสุทธิ์หมดจดของผู้ตรวจการเพื่อจะได้ทำลายข้า?”สีหน้าของฮ่องเต้อันพลันเย็นเยียบลงทันใดผู้ตรวจการเหอมีเหงื่อเย็นผุดพรายเป็นสาย เข่าสองข้างอ่อนยวบทรุดลงกับพื้นทันที “ฝ่าบาทโปรดวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนเที่ยงธรรม กระหม่อมหาได้มีเจตนาเห็นแก่ตัวแม้แต่น้อย กระหม่อมเพียงแค่ปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ตรวจการอย่างเคร่งครัดก็เท่านั้นพ่ะย่ะค
ผู้ตรวจการเหอหน้าแดงก่ำ “เจ้าเล่นลิ้นเล่นสำนวน ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งคนนั้นก็แค่ไปเยี่ยมคุณหนูของนาง…”“วิธีการเยี่ยมของท่านคือการโจมตีใบหน้าอีกฝ่ายให้เสียโฉม ตีอีกฝ่ายจนสลบ หรือว่าทุบตีอีกฝ่ายจนกระอักเลือดล้มป่วยไม่ฟื้น?”ประโยคเดียวของเซียวเยี่ยนตอกหน้าจนคนผู้นั้นสะอึกไป“อย่าว่าแต่เรือนหลังนั้นข้ายังมิได้โอนมอบให้แม่นางน้อยซ่งเลยด้วยซ้ำ การที่คนสกุลซ่งบุกเข้ามาย่อมมีความผิด หรือต่อให้ข้าจะมอบเรือนให้แม่นางน้อยซ่งแล้วก็จริง ข้าในฐานะหัวหน้าสำนักองคมนตรีฝ่ายใน เห็นคนบุกเข้าเรือนผู้อื่นทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าต่อตา หนำซ้ำยังได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือมาจากในจวนแล้ว จะต้องนิ่งดูดายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอย่างนั้นหรือ?”ผู้ตรวจการเหอหน้าแดงหน้าขาว ตะคอกเสียงดังออกมาด้วยโทสะ “แบบนั้นจะไปเทียบกันได้อย่างไร ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งก็แค่สั่งสอนผู้น้อยในจวนเท่านั้น”“ที่แท้ผู้ตรวจการเหอก็สั่งสอนบุตรหลานด้วยการทุบตีหวังให้ตายคาที่อย่างนั้นเองหรือ?”“เจ้า!” ผู้ตรวจการเหอถูกตอกหน้าหงายก็ตะคอกขึ้นด้วยโทสะ “เจ้าจงใจบ่ายเบี่ยงเลี่ยงประเด็น ต่อให้ตัดประเด็นที่ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งกับแม่นางน้อยซ่งคนนั้
ภายในจวนถังที่ตรอกจีอวิ๋น ถังหนิงกำลังหลับใหลอย่างสงบ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าด้านนอกมีคนกำลังโต้เถียงกันเพราะนาง ทว่าราชสำนักในห้วงความฝันของนางบัดนี้ กลับกำลังวุ่นวายโกลาหล ราวหม้อน้ำมันเดือดภายในราชสำนักการยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจระลอกที่สองดูจะรุนแรงกว่าที่พวกซ่งหงคิดเอาไว้มาก ครั้งนี้มิเพียงหัวหน้าผู้ตรวจการแผ่นดินเฉาเต๋อเจียง แม้แต่ขุนนางระดับมุขมนตรีสามสำนักทั้งสำนักราชเลขาธิการ สำนักอัครเสนาบดี และสำนักสนองราชโองการก็ทยอยกันออกมายื่นฎีกาไม่ไว้วางใจเช่นกัน ถ้อยคำรุนแรงในท้องพระโรงนั้น ทำให้ชื่อเสียงและเกียรติยศที่สะสมมาหลายปีของซ่งหงพ่อลูกพังทลายลงเพียงชั่วข้ามคืนเพื่อให้สมน้ำสมเนื้อ เรื่องที่เซียวเยี่ยนทำร้ายร่างกายสตรีบรรดาศักดิ์เก้ามิ่งในราชสำนัก แอบอ้างสิทธิ์สำนักแพทย์หลวง ใช้อำนาจองครักษ์เกราะดำบีบบังคับหอโอสถในเมืองหลวง และทำตัวกร่างข่มเหงรังแกผู้คนในเมือง ก็ถูกลู่ฉงหยวนหัวหน้าสำนักราชเลขาธิการและพรรคพวกจับเป็นความผิดไม่ปล่อยเช่นกัน“เป็นเพราะสกุลซ่งเป็นฝ่ายกระทำความผิดก่อน บุกเข้าตรอกจีอวิ๋นมาทำร้ายร่างกายผู้อื่นก่อน…”“นั่นก็มิใช่เหตุผลสมควรให้เขาทำร้ายร่างกายสตรีบรร
พระชายาเฉิงจะไปขอความช่วยเหลือจากเขาได้อย่างไร?เซียวเยี่ยนได้ฟังถ้อยคำของจิ้นอวิ๋นก็เอ่ยด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “มีความแค้นอย่างนั้นหรือ?”“ใช่ขอรับ”เซียวเยี่ยนหัวเราะออกมาเบา ๆจิ้นอวิ๋นยืนอยู่ด้านข้างสีหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าประโยคไหนของตนเองทำให้ท่านหัวหน้าขบขันขึ้นมาได้ ขณะที่เขาถือเสื้อคลุมเดินตามหลังเซียวเยี่ยนออกไปด้านนอก ก็ถามขึ้นด้วยเสียงเบาหวิว “เช่นนั้นแล้วเรื่องของสกุลซ่งนี้พวกเราต้องออกมือด้วยหรือไม่ขอรับ?”“ไม่ต้อง”หากเรื่องแค่นี้กู้เฮ่อเหลียนยังสืบไม่ได้ ก็เสียแรงที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพไฉ่เสิ่งเอี้ยแล้วรถม้าเคลื่อนมาหยุดหน้าประตูจวนแล้ว ตอนที่เซียวเยี่ยนก้าวออกไปสายตาก็เหลือบไปมองเรือนข้าง ๆ ที่ยังคงมืดสนิทเหมือนเคย พอนึกถึงเมื่อวานตอนบ่ายที่แม่นางน้อยฟังเขาเล่าเรื่องราวน่าสนุกในราชสำนักให้ฟัง จนเผลอฟุบหลับไปบนโต๊ะแล้วยังส่งเสียงออกมาเบา ๆ เหมือนแมวน้อยแบบนั้น แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มขึ้นมา“อีกเดี๋ยวจงให้คนไปที่ตลาดเลือกคนที่ชาติกำเนิดสะอาดไร้มลทินส่งไปที่จวนถัง แล้วหาสตรีที่เรียบร้อยเชื่อฟังในเรือนของขุนนางต้องโทษมาสักสองสามคน ส่งไปปรนนิ
เจี่ยงหมอมอตื่นตระหนกตกใจ “พระชายาเพคะโปรดระงับอารมณ์อย่าคิดมากวิตกกังวลไปก่อนเลยเพคะ ท่านอ๋องอาจเพราะเกิดความเกรงกลัวในใจ ไม่แน่ว่าท่านอ๋องอาจจะกลัวว่าหากคุณหนูขัดแย้งกับสกุลซ่งมากเกินไปจะทำให้ชื่อเสียงของนางเสื่อมเสีย กลัวว่าหากสกุลซ่งก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมาแล้วคุณหนูจะถูกคนสกุลลู่รังเกียจ”“ไหนจะมีไท่เฟยผู้เฒ่าด้วยอีกคนเพคะ ไท่เฟยผู้เฒ่าเองก็ทรงขุ่นเคืองมาตลอดที่พระชายารักและสงสารคุณหนูมากเกินไป ท่านอ๋องเองก็อาจเป็นเพราะกังวลว่าพระชายาจะทำให้ไท่เฟยผู้เฒ่าไม่พอใจ กลัวว่าหากเกิดเรื่องอะไรกับสกุลซ่งขึ้นมาจริง ๆ อาจพัวพันมาถึงท่านและคุณหนูได้…”นางพยายามหาข้ออ้างอย่างสุดชีวิต เพื่อจะบอกว่าเฉิงอ๋องมิได้ตั้งใจ ทว่าพระชายาเฉิงกลับไม่ฟังแม้แต่ประโยคเดียว“พวกข้าเป็นสามีภรรยากันมาสิบกว่าปี เขาจะมีความกังวลใจใดที่มิอาจบอกข้า?”“โกหกก็คือโกหก ต่อให้เหตุผลจะมีมากแค่ไหนสุดท้ายทั้งหมดก็คือข้ออ้าง”“เรื่องอื่นข้ายังพอมองข้ามไม่คิดเล็กคิดน้อยได้ ทว่าเขารู้อยู่แก่ใจว่าสกุลซ่งรังแกถังหนิงอย่างไร รู้อยู่แก่ใจว่าเขาทำลายชื่อเสียงความรักใคร่ปรองดองของพี่หญิงและพี่เขยของข้าอย่างไร แล้วก็รู้ทั้งรู้ว่า
เฉิงอ๋องโอบกอดพระชายาไว้พลางปลอบประโลมอย่างอ่อนโยนพระชายาเฉิงเอนกายซบลงบนไหล่ของเขา “ท่านอ๋อง คนที่ท่านส่งไปที่อันโจวส่งข่าวกลับมาบ้างหรือยังเพคะ สืบเรื่องของซ่งซูหลานมาได้บ้างหรือไม่เพคะ?”เฉิงอ๋องชะงักมือไปเล็กน้อย ก่อนจะลูบแผ่นหลังของนางต่อไปอย่างแผ่วเบา “จะรวดเร็วปานนั้นได้อย่างไร ระยะห่างระหว่างอันโจวกับเมืองหลวงต้องใช้เวลาตั้งหลายวัน หลังจากไปถึงแล้วยังต้องคิดหาวิธีสืบถามอีก เรื่องราวเหล่านี้พอสืบมาได้ความตามสมควรแล้ว ต่อให้ใช้ม้าเร็วไปกลับก็ยังต้องใช้เวลากว่าครึ่งค่อนเดือนเชียว ข้าว่าเรื่องนี้เจ้าน่าจะคิดมากไปเอง”“สกุลซ่งก็มิใช่พวกเสียสติ พวกเขาจะเอาสตรีไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเข้ามาปะปนในสายเลือดของจวนกั๋วกงได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นบุตรีอนุนอกเรือนคนนั้นโฉมหน้าก็พอจะคล้ายคลึงคนสกุลซ่งอยู่บ้าง”“ถังหนิงเองก็เพราะบาดหมางกับสกุลซ่งถึงได้จิตฟุ้งซ่านคิดมากไปเอง เจ้าเองก็ปล่อยให้นางก่อเรื่องวุ่นวาย แม้ข้าจะตกปากรับคำว่าส่งคนไปสืบแล้วก็จริง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ควรเปิดเผยเป็นการใหญ่ มิเช่นนั้นหากสืบแล้วไม่พบอะไรขึ้นมา แล้วคนนอกรู้ว่าถังหนิงกล้าสอดปากสอดคำขัดแย้งกับผู้ใหญ่ในจวนขึ้นมา เกร
Comments