ยามบุปผางามผลิบานทั้งใจ

ยามบุปผางามผลิบานทั้งใจ

By:  กระจ่างแจ้งUpdated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
80Chapters
19views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ชาติก่อน ซ่งถังหนิงคือคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่สุดในเมืองเซิ่งจิง ทว่านางกลับต้องตายด้วยน้ำมือของพี่ชายแท้ ๆ และคู่หมั้นที่เติบโตมาด้วยกัน เพียงเพราะบุตรอนุภรรยาคนหนึ่ง พวกเขาพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากนาง ทำลายชีวิตของนาง เหยียบย่ำนางราวกับโคลนตมเพื่อผลักดันให้บุตรอนุภรรยาคนนั้นกลายเป็นดวงตะวันที่เจิดจรัส ส่วนนางกลับต้องเสียโฉม ขาหัก ถูกกักขังอยู่ในเรือนร้างนานหลายปี และสุดท้ายก็ถูกคนรัดคอตายทั้งเป็น เมื่อได้เกิดใหม่ ถังหนิงไม่ขอเป็นบันไดให้ใครเหยียบย่ำอีกต่อไป พี่ชายที่เย็นชาและลำเอียง นางไม่ต้องการ ลูกพี่ลูกน้องที่รักใคร่สตรีจอมเสแสร้ง นางขอตัดขาด คู่หมั้นที่โลเลสองใจ นางขอถอนหมั้น และเมื่อหน้ากากของบุตรอนุภรรยาถูกกระชากออก เหล่าพี่ชายและคู่หมั้นต่างก็คุกเข่าลงตรงหน้า อ้อนวอนขอให้นางให้อภัย ซ่งถังหนิงกล่าวอย่างเย็นชา ให้อภัยหรือ? เหอะ เผาให้เป็นเถ้าถ่านแล้วโปรยทิ้งไปเสียยังจะดีกว่า นางมีท่านพี่คนใหม่แล้ว แม้ว่าท่านพี่คนใหม่จะเป็นขันที มีชื่อเสียงไม่ดี ทั้งยังเย็นชาและโหดเหี้ยมอำมหิต แค่เอ่ยว่าท่านหัวหน้าจากไกล ๆ ก็สามารถทำให้เด็กน้อยหวาดกลัวจนร้องไห้ได้ แต่ยามที่เขาเรียกนางว่า “เสี่ยวไห่ถัง” กลับอ่อนโยนที่สุด ...... คราแรกที่เซียวเยี่ยนอยู่กับถังหนิงตามลำพัง มีคนกล่าวว่าไม่เหมาะสมตามขนบธรรมเนียม “ข้าเป็นขันที จะมีขนบธรรมเนียมอะไร?” ต่อมา ภายในห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมไออุ่น เซียวเยี่ยนกอดเด็กสาวที่เมามายจนดวงตาแดงก่ำไว้ในอ้อมแขน “เสี่ยวไห่ถัง พี่รักและเอ็นดูเจ้า” ...... [ขันทีปลอม] + [ทุกคนต้องชดใช้] + [พี่ชายต้องชดใช้] + [ไม่มีวันให้อภัย]

View More

Chapter 1

บทที่ 1

【牌神話】〜麻雀少女激闘戦記〜 通

 ――人はごく稀に神化するという。

 ある仮説によれば全ての神々には元の姿があり、なんらかのきっかけで神へと姿を変えることがあるとか。

 そして神は様々な所に現れる。それは麻雀界とて例外ではない。

 この話は、麻雀の神とそれに深く関わった少女あるいは少年たちの熱い青春の物語。その大全である。

◆◇◆◇

もくじ

➖️メインストーリー➖️

第1部 麻雀少女激闘戦記

二章 闇メン

➖️表紙イラスト➖️

しろねこ。

◆◇◆◇

ごきげんよう、彼方です!

 麻雀の楽しさを1人でも多くの人に伝えたくてこの物語を書いています。良いと思いましたらぜひ拡散の方をよろしくお願いします!

この小説の読み方は

──── 

──

これは時間の経過です。2つなら少しの、3つなら大きな時間の経過になります。思考吹き出しのイメージですね。

── 

────

これは時間の遡りです。

────

これはちょっとした区切りです。

◆◇◆◇

これは視点変更か大きな区切りです。

 これを意識していれば視点混乱などしないで読めると思います。

 では、最後に。本編に入る前に確認しますけど。あなたは麻雀に精通してますか? してる? では次に進んで下さい。でももし、まだわからない。よく知らない。まるで無知。という方は読めない漢字があるかもしれません。それをここでざっと書いておきましょう。

 まず牌(はい)の名称です。

 1〜9の数字があり、スートは3種です。スート……スートって何か言い換えられないかな。色、絵柄、いや種類……かな。まあ、種族というか。そんな感じ。

で読み方は

1=いー

2=りゃん

3=さん

4=すー

5=うー

6=ろー

7=ちー

8=ぱー

9=きゅー

これが基本。

種族の読み方は

萬=まん(わんとも言うが基本はまん)

筒=ぴん

索=そー

でもこれは略してて実際は萬子筒子索子(まんずぴんずそーず)と言うもの。

漢数字が萬子

数字に丸が囲ってあるのが筒子

全角数字が索子です。

 つまり二とあればこれはりゃんまんを持ってるってことで⑤ならうーぴんを持ってるってこと。OK?

ここまでが数牌(すうはい)の説明。

で、他にも字牌(じはい)というのがありまして。

まず字牌の風牌(かぜはい)から。

東=とん

南=なん

西=しゃー

北=ぺー

で、もうひとつの字牌が三元牌(さんげんぱい)。

白=はく

発=はつ

中=ちゅん

 これが牌の読み方の全て。

 続いてよく使われるのが『家』。これ単独では使わないけど西家とか起家とかね。これ、読み方は(いえ)じゃないんです。

 麻雀の世界で家は(ちゃ)と読みます。つまり、西家なら(しゃーちゃ)。起家ならおきちゃ? いいえ、これは(ちーちゃ)と言ってこの人の親番からこのゲームは開始されたよという、最初に親番を担当した人を指す言葉。……よく考えたらあまり必要ない言葉だな。なんであるのかは不明。

 あとは聴牌(てんぱい)とか

一向聴(いーしゃんてん)とか

和了(ほーら)とかかな。出てきそうな専門用語は。

 テンパイってのは完成まであと1つの状態を指すもので、イーシャンテンはそれのまた1つ前。さらに前だとリャンシャンテンとかサンシャンテンとか言うんだけどそのへんはイーシャンテンわかるならわかるよね。

 ホーラってのはアガリのこと。完成ってことですね。

 これくらいを覚えておけばあまりつまづく事なく読めると思うんです。もし分からないことがあったらいつでも私に質問して下さい。感想欄でもメールでも方法は何でもいいです。必ず分からない系のご質問には答えますので!

 長くなりましたが、それでは、元競技麻雀プロである著者が描く彼方流麻雀小説の世界をお楽しみ下さい――

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
80 Chapters
บทที่ 1
ต้นวสันตฤดูเดือนสอง ณ ภูเขาเชวี่ย หิมะในฤดูหนาวยังไม่ละลายดี ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างกะทันหัน พัดพาเอาทั้งหมอก หิมะ และโคลนเข้าไว้ด้วยกันต้นต้วนในป่าถูกปกคลุมด้วยสีขาวโพลน สายลมและสายฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง เมื่อม้าที่คลุ้มคลั่งตัวหนึ่งบรรทุกคนพุ่งเข้ามา ก็ได้ทำลายความเงียบสงัดท่ามกลางหิมะลงซ่งถังหนิงยังคงจมอยู่กับความรู้สึกขาดอากาศหายใจจากการถูกบีบคอ พยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้ ในชั่วพริบตาต่อมา ทั้งร่างของนางก็ถูกเหวี่ยงจนลอยกระเด็นออกไปบังเหียนบาดนิ้วจนเป็นแผล ร่างกายร่วงหล่นลงไปในกองหิมะอย่างแรง ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็กลิ้งตกลงไปเบื้องล่างเรื่อย ๆ “ฟู่! ——”น่องกระแทกเข้ากับก้อนหินอย่างรุนแรง เสียงลมพัดเสียดใบหูซ่งถังหนิงเจ็บปวดจนแทบจะหมดสติไปนางโบกมือคว้าก้อนหินที่อยู่ใกล้ที่สุด แขนถูกหินขูดจนเป็นรอยเลือดยาวเหยียด รอจนกระทั่งร่างกระแทกเข้ากับพงหญ้าบนทางลาดชันหลายครั้ง จึงสามารถยึดเกาะร่องหินไว้ได้และทรงตัวไว้ได้มั่นคงถังหนิงหอบหายใจอย่างหนัก ความรู้สึกขาดอากาศหายใจก่อนตายจากการถูกบีบคอนั้น ผสมปนเปกับความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่าง นางมองกิ่งไม้ที่หักโค่นอยู่บน
Read more
บทที่ 2
ซ่งถังหนิงคาดไม่ถึงเลยว่าเซียวเยี่ยนจะเปลี่ยนท่าทีได้เร็วขนาดนี้ เมื่อครู่ยังยิ้มแย้มพูดคุยอยู่ดี ๆ ชั่วพริบตาต่อมากลับจะเอาชีวิตนางเสียแล้วเมื่อถูกกระชากแขนดึงขึ้นมา นางก็ตระหนักได้ว่าหายนะมาเยือนแล้ว ซ่งถังหนิงพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสงบสติอารมณ์ลงนางยังตายไม่ได้ นางยังไม่ได้ทำให้สกุลซ่งได้รับผลกรรมที่ก่อไว้ ยังไม่ได้ถามให้แน่ชัดว่าเหตุใดพวกเขาถึงทำกับนางเช่นนั้นนางเกาะขอบรถม้าไว้แน่น ร่างกายเจ็บปวดราวกับจะฉีกขาด“หัวหน้าเซียว ข้าไม่ได้โกหกท่าน ข้าเพิ่งจะจำท่านได้เมื่อครู่นี้เองจริง ๆ ก่อนหน้านี้ข้าเคยเห็นท่านในวังหลวงเพียงครั้งเดียว ไม่ได้คุ้นเคยกับท่าน จึงจำท่านไม่ได้ในทันที”“ข้าไม่ใช่คนเลว ข้าหลงทางจริง ๆ วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของมารดาข้า คนที่วัดหลิงอวิ๋นทุกคนเคยเห็นข้า...”เด็กสาวถูกลากออกไป พยายามเกาะพื้นดินเพื่อร้องขอชีวิตตอนแรกนางยังสามารถแก้ต่างได้อย่างใจเย็น ตะโกนบอกให้เขาไปตรวจสอบยืนยัน แต่ต่อมาเมื่อเห็นว่าเขาเป็นคนเลือดเย็น ก็ค่อย ๆ สิ้นหวังและร้องไห้โฮออกมาละอองฝนบดบังสายตา สายฝนที่สาดกระหน่ำทำให้โคลนกระเด็นไปทั่วเซียวเยี่ยนเงยหน้าขึ้นมองอย่างเฉยเ
Read more
บทที่ 3
สายฝนโปรยปรายลงมาจากภูเขา กระทบหลังคาดังเปาะแปะแสงเทียนในห้องสว่างไสว เปลวเทียนที่สั่นไหวนั้นเผยให้เห็นใบหน้าซีดขาวที่อยู่บนเตียง......“ถังหนิง เจ้าต้องยอมให้หลานเอ๋อร์บ้าง ชาติกำเนิดของนางน่าสงสาร ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เจ้าเป็นคุณหนูสูงศักดิ์มาหลายปี ต้องมีคุณสมบัติของกุลสตรี รู้จักโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น”“ถังหนิง หลานเอ๋อร์แค่ไม่เข้าใจกฎระเบียบในเมืองหลวง นางไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินเจ้า”“ถังหนิง เหตุใดเจ้าถึงไม่รู้ความเช่นนี้ หลานเอ๋อร์ยอมเจ้าแล้ว เหตุใดยังต้องบีบคั้นนางอีก?”......ซ่งจิ่นซิวปกป้องซ่งซูหลานที่ร้องไห้จนใบหน้างดงามเปียกปอนไปด้วยน้ำตา “ซ่งถังหนิง เป็นเจ้าที่หาเรื่องเองจนตกหน้าผาเสียโฉม เป็นเจ้าที่ทำผิดก่อนจนทำให้ตัวเองต้องบาดเจ็บ”“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าทำร้ายหลานเอ๋อร์ก่อน พวกเราจะจากมาด้วยความโมโหได้อย่างไร? หากเจ้ากลับไปที่วัดหลิงอวิ๋นอย่างว่าง่าย จะกลิ้งตกจากที่สูงจนตกอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร?”“สองปีมานี้ เพื่อใบหน้าของเจ้า หลานเอ๋อร์ไปเสาะหายาให้เจ้าทุกหนทุกแห่ง กรีดเอาเลือดจากหัวใจของตนเองเพื่อใช้บำรุงร่างกายให้เจ้า นางอยากจะชดใช้ให้เจ้าด้วยร่างก
Read more
บทที่ 4
ฝนตกหนักตลอดทั้งคืน พอรุ่งสางท้องฟ้าก็แจ่มใสไอหิมะที่เชิงเขาละลายหายไป ยอดอ่อนของต้นหลิ่วเริ่มผลิออกมาให้เห็น มีเสียงนกกระเต็นร้องเบา ๆ บินผ่านเป็นครั้งครา ทำลายความเงียบสงบในยามเช้าแสงแดดสายหนึ่งลอดผ่านขอบหน้าต่างตกกระทบลงบนใบหน้าของซ่งถังหนิง ปลุกนางให้ตื่นขึ้นจากภวังค์เมื่อได้กลิ่นยาอันเข้มข้น ซ่งถังหนิงเงยหน้ามองลวดลายแกะสลักรูปกิเลนคาบคัมภีร์หยกบนเพดาน มีอยู่ชั่วขณะหนึ่งที่นางไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด“ตื่นแล้วหรือ?”น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้น ราวกับก้อนหินที่ตกลงไปในผิวน้ำทะเลสาบ และยังปลุกความทรงจำก่อนที่ซ่งถังหนิงจะหมดสติให้ตื่นขึ้นมาด้วยซ่งถังหนิงลุกขึ้นนั่งทันที หันหน้าไปมองนอกฉากกั้นลายนกกระเรียนโดยไม่สนใจความเจ็บปวด เห็นเงาร่างสูงโปร่งทางนั้นกำลังวางม้วนตำราในมือลง แล้วลุกขึ้นเดินมาทางนี้เซียวเยี่ยนเห็นเด็กสาวตกใจจนหน้าซีดเผือด กอดผ้าห่มไว้แน่น ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เขาจึงหยุดยืนอยู่ข้างฉากกั้นแล้วเอ่ยว่า “ระวังมือด้วย”ซ่งถังหนิงตัวสั่นเทา “อย่าตัดมือข้า”เซียวเยี่ยน “...”พรืดแม่นางฉินที่ยกอ่างทองเหลืองเข้ามา พอได้ยินเสียงข้างในก็หลุดหัวเราะออกมาทันที นางเหลือบ
Read more
บทที่ 5
หากซ่งซูหลานไม่ใช่บุตรสาวของบิดามาตั้งแต่แรก พวกซ่งหงก็ได้โกหกนางมาโดยตลอดเช่นนั้นพวกเขาไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อเสียงอันบริสุทธิ์หลังความตายของบิดาต้องมัวหมอง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมารดาต้องแปดเปื้อน แต่ยังปล่อยให้บุตรนอกสมรสนั่นใช้ชื่อของบ้านรองมาแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่ควรจะเป็นของนางไป!!เลือดซึมออกจากริมฝีปาก ซ่งถังหนิงเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด “ข้าจะกลับไป”เซียวเยี่ยนเอ่ยขึ้น “ข้าสามารถส่งเจ้ากลับไปได้ แต่หลังจากกลับไปแล้วเจ้าคิดจะทำอย่างไร เปิดโปงฐานะของนาง หรือคาดคั้นพวกซ่งหง?”ซ่งถังหนิงอ้าปากตามสัญชาตญาณ อยากจะพูดอะไรบางอย่างเซียวเยี่ยนกล่าวเสียงเรียบ “ในมือเจ้าไม่มีหลักฐาน คาดคั้นแล้วจะได้อะไร?”“สกุลซ่งมีบรรดาศักดิ์กั๋วกง ถือตนว่าเป็นตระกูลสูงศักดิ์ ย่อมไม่มีทางทำให้สายเลือดต้องปะปนเป็นอันขาด การที่พวกเขายอมให้บุตรีอนุนอกเรือนคนนั้นอยู่ในจวน ก็แสดงว่าบนตัวนางมีสายเลือดของสกุลซ่งอยู่”พูดอีกอย่างก็คือ ซ่งซูหลานคนนั้น หากมิใช่บุตรสาวของซ่งหงคนโต ก็เป็นของซ่งถานคนที่สาม“พวกเขากล้าให้บุตรีอนุนอกเรือนคนนั้นมาสวมรอยเป็นคนของบ้านรอง ก็เพราะแน่ใจว่าเจ้าจะไม่มีทางทันสังเก
Read more
บทที่ 6
รถม้าสี่ล้อที่ปูด้วยเบาะรองนั่งหนานุ่มนั้นกว้างขวางอย่างยิ่ง ในรถยังมีโต๊ะยาวตั้งอยู่เดิมทีซ่งถังหนิงยังกังวลว่าเซียวเยี่ยนจะหาเรื่องนาง หรือเยาะเย้ยนางที่บังอาจกำเริบเสิบสาน แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากที่เขาขึ้นรถมาแล้ว ก็พิงตัวอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วงีบหลับไปเมื่อบุรุษผู้นั้นหลับตา เส้นสายบนใบหน้าก็อ่อนโยนลง ใบหน้าที่ขาวซีดเย็นชานั้นจมลงไปในแสงและเงาที่สั่นไหว ราวกับหยกเย็นที่ตกลงไปในน้ำอุ่น สลายความเยือกเย็นอันน่าเกรงขามที่บีบคั้นจิตใจผู้คนไปจนหมดสิ้นในใจของนางค่อย ๆ ผ่อนคลายลง อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปเปิดม่านข้างตัวภูเขาเชวี่ยอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง จวนของเซียวเยี่ยนก็ตั้งอยู่ที่ชานเมืองต้นวสันต์ดอกท้อยังไม่บาน ดอกเหมยก็ร่วงโรยไปแล้ว ทุ่งนาโดยรอบที่ถูกหิมะทับถมอยู่จึงไม่มีทิวทัศน์ที่งดงามเท่าใดนัก ลมเย็นที่พัดปะทะใบหน้าจนรู้สึกหนาวสะท้าน แต่สำหรับถังหนิงที่ไม่ได้เห็นโลกภายนอกมานาน กลับสูดหายใจรับเอากลิ่นอายแห่งอิสรภาพเข้าไปอย่างตะกละตะกลามเมื่อรถม้าสี่ล้อเข้าสู่ประตูเมืองตะวันออก ผู้คนรอบข้างก็เริ่มมีมากขึ้นเสียงผู้คนจอแจที่ค่อย ๆ ดังขึ้น และเสียงร้องขายของที่ดังมาเป็นครั้งคราว ล้
Read more
บทที่ 7
เซียวเยี่ยนมาเยือนสกุลเฉียนอย่างกะทันหัน ทำให้คนทั้งสกุลเฉียนราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจหัวใจของเฉียนเป่าคุนกระตุก ในวินาทีที่ได้ยินรายงาน ในหัวของเขาก็ทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่ทำไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ คิดว่าบิดา พี่น้อง บุตรชาย หรือญาติพี่น้องของตนเองได้ไปล่วงเกินเทพหายนะองค์นี้หรือไม่ หรือตัวเขาได้ไปล่วงเกินอะไรเขาในราชสำนักหรือเปล่าเขาทิ้งแขกเหรื่อในงานเลี้ยงแล้วรีบออกไปต้อนรับ เมื่อเห็นว่าข้างกายของเซียวเยี่ยนไม่มีองครักษ์เกราะดำ และได้ยินว่าเขาพาคนมาตามหาพระชายาเฉิงเฉียนเป่าคุนถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ยังดี ๆ ไม่ได้มาตรวจค้นยึดทรัพย์...ทำเอาเขาตกใจแทบแย่หลังจากเชิญเซียวเยี่ยนเข้าไปแล้ว ห้องโถงด้านหน้าที่เดิมทีคึกคักก็เงียบสงัดลงทันที หากไม่ใช่เพราะยังแขวนผ้าไหมสีแดงและติดอักษรมงคลอยู่ บรรยากาศนั้นไม่เหมือนกับกำลังจัดงานมงคลเลยแม้แต่น้อยเซียวเยี่ยนเดินไปนั่งลงบนที่นั่งประธานอย่างเป็นธรรมชาติ “วันนี้ไม่ได้มาปฏิบัติราชการ พวกท่านไม่ต้องตื่นตระหนก” ไม่ได้มาปฏิบัติราชการ?กลุ่มคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก“ได้ยินว่าในจวนของใต้เท้าเฉียนมีงานมงคล เดิมทีข้าไม่ควรจะมารบกวน
Read more
บทที่ 8
ใบหน้าของเซี่ยอิ๋นแดงก่ำจากการถูกด่าทอ ประกอบกับรอยฝ่ามือทั้งสองข้าง ยิ่งทำให้เขาทั้งอับอายทั้งโกรธจนทนไม่ไหวซ่งซูหลานเห็นดวงตาของเซี่ยอิ๋นแดงก่ำ ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นข้าง ๆ “พระชายาก็เป็นผู้สูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้เอ่ยปากพูดแต่คำว่านางสารเลวเล่า?”“อีกอย่าง พี่อาอิ๋นก็ไม่รู้ว่าน้องสาวจะเกิดเรื่อง เป็นนางที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจจนทำร้ายจิตใจท่านพี่ก่อน ท่านพี่ถึงได้ให้นางกลับไปสำนึกผิดที่วัด พระชายาจะแยกแยะผิดถูกไม่ได้แล้วลงมือตีพี่อาอิ๋นได้อย่างไร...”เพียะ!พระชายาเฉิงตบสวนกลับไป “เจ้าเป็นตัวอะไร ถึงมีสิทธิ์มาเรียกบุตรชายข้าว่าท่านพี่?”“อะไรกัน เกาะสกุลซ่งยังไม่พอ ตอนนี้ยังคิดจะมาปีนป่ายประตูจวนเฉิงอ๋องของข้าอีกหรือ?!”ในหูของซ่งซูหลานอื้ออึง ในหัวก็ดังหึ่ง ๆ เซี่ยอิ๋นรีบประคองเด็กสาวที่โซเซ แล้วยืนขวางอยู่ข้างหน้านาง“ท่านแม่ เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าเอง เป็นข้าที่ไม่รอบคอบพอจนทำให้ถังหนิงบาดเจ็บ แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับซูหลาน นางไม่เคยทำร้ายถังหนิง ทั้งยังจิตใจดีงามไม่เคยคิดแก่งแย่ง เป็นถังหนิงที่คอยหาเรื่อง...”“เจ้าหุบปากไปเสีย!”พระชายาเฉิงหัวเราะเยาะ “ถ้านางไม่คิดแก่ง
Read more
บทที่ 9
เมื่อเห็นว่าเซี่ยอิ๋นวิ่งหนีไปแล้ว ซ่งถังหนิงก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งถึงเพิ่งจะรู้สึกตัว นางด่าคนจนวิ่งหนีไปได้จริง ๆ ฝ่ามือของนางสั่นเทาเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองบุรุษที่นั่งอยู่ข้างบนโดยไม่รู้ตัว ก็เห็นเขายกมือขึ้นเท้าคางแล้วยกยิ้มมุมปาก เผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและสบาย ๆ ดวงตาสีดำคมกริบดุจกระบี่คู่นั้นเมื่อมองมาทางนี้ ราวกับแทรกซึมเข้าไปในแสงเงาที่สั่นไหวบริเวณรอบ ๆ เซียวเยี่ยนกำลังยิ้มหัวใจที่เต้นระรัวของถังหนิงพลันสงบลง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา “ท่านน้า ข้าไม่ชอบท่านพี่”พระชายาเฉิงเดิมก็เป็นคนลำเอียงอยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกว่านางทำลายหน้าตาของตนเองเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่กล่าวอย่างสงสาร“ไม่ชอบก็ไม่ชอบ ท่านพี่ของเจ้าไม่รู้จักแยกแยะว่าใครสนิทใครห่าง ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว ถูกนางสารเลวหลอกลวงไม่กี่ประโยคก็มารังแกเจ้า เขาเป็นคนไร้สมอง”“แล้วก็สกุลซ่งนั่น ซ่งหงถึงกับกล้าเอาบุตรีอนุนอกเรือนมาสวมรอยเป็นบุตรอนุภรรยาบังคับให้เจ้ายอมรับญาติ พวกเขารังแกเจ้าเช่นนี้ ข้ากับสกุลซ่งไม่จบง่าย ๆ แน่!”เมื่อเห็นว่าพระชายาเฉิงปกป้องนางอย่างไม่ลังเล ขอบตาของซ่งถังหนิงก็แดงก่ำเกือบจะร้อง
Read more
บทที่ 10
ในใจของถังหนิงพลันเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจที่ยากจะบรรยายขึ้นมาชาติที่แล้วหลังจากที่ท่านน้าจากไป นางถูกกักขังอยู่ในเรือนเล็ก ๆ แห่งนั้น เฝ้ามองใบไม้ร่วงหล่นอยู่นอกหน้าต่างทุกวัน มองดูวสันต์ผ่านไปสารทฤดูมาเยือน เป็นเวลานานแสนนานแล้วที่ไม่มีใครมาสนใจว่านางมีความสุขหรือไม่ ไม่มีใครสนใจว่านางร้องไห้หรือไม่ทุกครั้งที่นางเฝ้ารอคอยให้พวกซ่งจิ่นซิวมาหา ไม่ใช่มาเพื่อเอาของดูต่างหน้าของท่านแม่ที่เหลือเพียงน้อยนิดของนางไป ก็มาเพื่อตำหนิว่านางไม่รู้ความนางเจ็บปวด ไม่มีใครถามนางป่วยไข้ ก็ไม่มีใครสนใจถังหนิงจากที่เคยร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนด้วยความน้อยใจในตอนแรก จนกระทั่งต่อมาน้ำตาก็ไหลออกมาไม่ได้ นางร้องไห้จนตาเสียพร่ามัวมองไม่เห็นสิ่งใด แต่จนกระทั่งก่อนที่นางจะตายก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยแม้แต่คนเดียวเป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่มีใครยอมเสียเวลามาปลอบให้นางดีใจ“เหตุใดจึงร้องไห้อีกแล้ว?” พระชายาเฉิงรู้สึกสงสารเสียงของถังหนิงสั่นเครือเล็กน้อย “ท่านน้า แผลของข้าเจ็บเหลือเกิน” เจ็บจนนางหายใจไม่ออก แม้แต่ลมหายใจก็ยังเจ็บปวดราวกับหัวใจจะฉีกขาดฮูหยินเหวินซิ่นโหวที่อยู่ข้าง ๆ ตกตะลึงกับเรื่องของสก
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status