All Chapters of สองพี่น้องหลังเขาวั้งซานกู่: Chapter 31 - Chapter 40

78 Chapters

31 ข้าคงไม่มีปัญซื้อหรอก

วันต่อมาที่ตลาดใจกลางหุบเขา ผู้คนต่างมาต่อแถวซื้อเกลือกันอย่างหนาแน่น ปีที่แล้วเกลือมีราคาหนึ่งร้อยอิแปะต่อชั่ง ปีนี้ราคาสูงถึงห้าร้อยอิแปะต่อชั่ง นั่นเป็นราคาที่สูงขึ้นจากเดิมถึงห้าเท่าอย่างเช่นปิงเหยียนบอก ถึงแม้ราคาจะแพงกว่าเดิมมากมายเพียงใดแต่เกลือก็นับเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทุกครัวเรือนต้องมีติดบ้าน หนึ่งในจำนวนคนที่เข้าต่อแถวซื้อเกลือคือปิงเหยียน นางกำเงินมาทั้งหมดห้าร้อยอิแปะ เงินห้าร้อยอิแปะในมือของนางนั้นต้องใช้เวลาขายผักอาทิตย์เต็มจึงได้มา แต่ต้องเสียไปกับเกลือแค่หนึ่งชั่ง เป็นที่น่าอนาถใจยิ่งกว่าคือไม่มีชาวบ้านคนใดลุกขึ้นมาต่อต้านพ่อค้าหัวใสรายนี้ กลับสนับสนุนให้เขาเอาเปรียบตนเองอย่างโง่เขลา ในขณะที่เกลือในกระสอบขายออกจนเริ่มร่อยหรอลง เถ้าแก่ร้านได้ปิดถุงเกลือลงกะทันหันแล้วร้องประกาศก้องเสียงดังลั่น“เกลือนี้ขายราคาห้าร้อยอิแปะไม่ได้แล้ว ขึ้นราคาเป็นชั่งละหนึ่งตำลึง ใครจะซื้อก็ซื้อ ใครไม่มีเงินซื้อก็ออกจากแถวไปได้เลย”คำพูดของเถ้าแก่ร้านบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ง้อลูกค้าเลยแม้แต่น้อย เสียงชาวบ้านเริ่มลุกฮือขึ้นใหม่ บ้างก็บ่นถึงราคาที่เพิ่มสูงขึ้นโดยไร้เหตุผล บ้างก็ด่ากราดเถ้าแก่
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

32 แกล้งทำตัวใสซื่อตามประสาเด็ก

เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ย่างเข้ายามเว่ย แม่เฒ่าหลิวเดินเอาจดหมายมายื่นให้ลูกสะใภ้หนึ่งฉบับ ปิงเหยียนรับมาแล้วแต่นางอ่านหนังสือไม่ออก รู้เพียงว่าจดหมายฉบับนี้ส่งมาจากอำเภอชิงไห่ ส่วนคนที่เอามาส่งบอกเอาไว้ว่าผู้ที่ฝากจดหมายมาคือลู่เชาถิงสามีของนางนั่นเองปกติลู่เชาถิงจะกลับวั้งซานกู่ทุก ๆ สามเดือน ครั้งนี้แปลกประหลาดนักที่เขาเพิ่งจะกลับไปทำงานที่ชิงไห่ได้เพียงเดือนเดียวก็มีจดหมายส่งกลับมาแล้ว ปิงเหยียนนำจดหมายไปเก็บไว้ในห้องนอนของตนเองรอไว้วันพรุ่งนี้จะหาคนรู้หนังสือสักคนอ่านจดหมายให้ฟัง ทว่าเมื่อฉางกังได้ทราบแล้วว่าผู้ที่ส่งจดหมายมาคือบิดาใจของเขาเริ่มอยู่ไม่สุข เด็กชายได้ย่องเข้าไปในห้องนอนแคบ ๆ ของมารดาแล้วหยิบจดหมายมาแอบอ่านอย่างถือวิสาสะเนื้อความในจดหมายบรรยายไว้ว่าเชาถิงถูกเลิกจ้างงานกะทันหัน และเงินค่าแรงที่ทำไปทั้งหมดก็ถูกผู้จ้างโกงไม่ยอมจ่าย ทำให้ตอนนี้ไม่มีเงินแม้แต่จะเป็นค่าเกวียนเดินทางกลับวั้งซานกู่เคราะห์ร้ายมักประดังประเดเข้ามาโดยไม่ได้นัดหมาย ในตอนแรกแค่คิดว่าได้มาอยู่ในครอบครัวที่ยากจน แต่ต่อไปนี้ฉางกังคงต้องเปลี่ยนความคิดนั้นใหม่ เขาไม่ใช่แค่ได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวที่ยาก
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

33 เด็กตระกูลเซียวงั้นหรือ

หลังจากออกมานอกเรือนก็เห็นน้องชายเล่นอยู่ที่ลานหน้าบ้าน ฉางเกอกำลังเล่นลูกดิ่ง (โตว๋คงจู๋) อยู่คนเดียวอย่างสนุกสนาน ลูกดิ่งสมัยโบราณนั้นทำมาจากไม้หรือไม้ไผ่ที่มีลักษณะกลวง ใช้เชือกบังคับทำให้เกิดเสียงและการเคลื่อนไหว โดยใช้ข้อมือทั้งสองข้างควบคุม แต่ดูท่าว่าคงจะยากเกินไปสำหรับเด็กเจ็ดขวบอย่างฉางเกอ ไม่ว่าจะพยายามบังคับลูกดิ่งกี่รอบก็ไม่สามารถทำให้มันเคลื่อนไหวได้ตามใจปรารถนา ของเล่นของเขาเทียวหล่นออกจากเชือกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นจนเจ้าเด็กน้อยเริ่มจะโมโห“พอเถอะน่า เลิกเล่นของแบบนั้นได้แล้ว”“ก็ข้าอยากเก่งเหมือนท่านพี่นี่ขอรับ”“เก่ง? อย่าบอกนะว่าข้าก็เคยเล่นของแบบนั้นด้วย”“อื้ม”เจ้าตัวเล็กพยักหน้าแล้วยิ้มกว้าง ในสายตาของฉางเกอนั้นพี่ชายคือคนเก่งอันดับหนึ่งหาผู้ใดทัดเทียม ฉางกังคือผู้ที่เล่นลูกดิ่งได้เก่งกาจที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา ครั้งล่าสุดเคยท้าพนันกับเด็ก ๆ ตระกูลเซียวจนฝ่ายนั้นแพ้ราบคาบ และได้ของพนันมาเป็นลูกหนังหรือที่บางคนเรียกว่าชู่จวี่ (ลักษณะเป็นลูกกลม ๆ มีทั้งแบบเรียบและแบบประดับด้วยขนไก่ วิธีการเล่นก็คล้ายกับฟุตบอลในยุคปัจจุบัน) น่าเสียดายที่สองพี่น้องเอามาเล่นได้
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

34 เจ้าเป็นใครกันแน่

พ่อบ้านหลุบตามองผลไม้ป่าในห่อเสื้อของเด็กแล้วยกยิ้มมุมปาก สิ่งที่อยู่ในห่อเสื้อเป็นเพียงผลไม้ป่ารสชาติพื้น ๆ ธรรมดา มันไม่ได้มีราคาอะไรเลยเขาจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหยามหมิ่นโดยไม่หวังถนอมน้ำใจ“ของแบบนั้นคุณชายไม่กินหรอก เอากลับไปเสียเถอะ พวกเจ้าก็กลับไปได้แล้ว คงอีกนานกว่าคุณชายจะกลับมา คุณชายจ้าวไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนเป็นของไร้ค่าพวกนี้ เอากลับไปให้พ่อแม่พวกเจ้ากินเถอะ แล้วก็ไม่ต้องมารบกวนคุณชายที่นี่อีก ไป ๆ อย่ามายืนเกะกะขวางประตู”“ท่านลุงเป็นคุณชายจ้าวหรือไงถึงได้รู้ดี” ฉางกังเถียง“เอ๊ะ เจ้าเด็กนี่! อย่ามาต่อปากต่อคำกับผู้ใหญ่ ไปเสีย! รีบไสหัวไปให้พ้นพวกเด็กเหลือขอ”พูดจบเขาก็ปิดประตูไล่ ในชีวิตของฉางกังไม่เคยถูกใครดูถูกเท่านี้มาก่อน เด็กชายกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจแต่ก็ยังไม่ยอมจากไปไหน เขาและน้องนั่งรอที่หน้าประตูจวนอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานเป็นครึ่งชั่วยามจนฉางเกอเริ่มมีอาการง่วงซึมจึงได้เผลอหลับซบลงที่ไหล่ของพี่ชายน้ำลายยืดสองพี่น้องนั่งรออยู่อย่างนั้นต่อไปเรื่อย ๆ เวลาต่อมารถม้าของจ้าวเข่อซิงก็ได้มาหยุดตรงหน้าพวกเขา คนบังคับรถม้ารีบกระโดดลงมาเพื่อไล่เด็กทั้งสองออกพ้นทาง เสียงเอะ
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

35 เจ้าก็แค่เด็กสิบขวบเอง

“…เจ้าเป็นใครกันแน่”เขาไม่ตอบแต่ละสายตามองไปยังน้องชายที่กำลังวิ่งเล่นไล่จับผีเสื้ออยู่ในสวนดอกไม้ ริมฝีปากของเขามีรอยโค้งขึ้นเล็กน้อย แววตาของลู่ฉางกังนั้นดูเหมือนจะว่างเปล่า ทว่าในบางคราก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความลึกลับซ่อนอยู่ แม้นว่าระหว่างเขาและเข่อซิงจะเคยสนิทสนมกันก็ไม่อาจบอกได้ว่าตัวตนที่แท้จริงเป็นมาอย่างไร เรื่องเหนือธรรมชาติแบบนั้นใครจะทำใจเชื่อลง ที่ทำได้ตอนนี้คือแกล้งเนียนเป็นเด็กชายวัยสิบขวบต่อไปเรื่อย ๆ“ข้าก็ลู่ฉางกังเด็กสิบขวบอย่างไรขอรับ คุณชายเห็นข้าเป็นใครหรือขอรับ”“…นั่นน่ะสินะ เจ้าก็แค่เด็กสิบขวบเอง”“ที่ข้าพูดเรื่องเกลือก็เพราะท่านแม่ของข้า…เอ่อ แม่ของข้านางไม่มีเงินพอที่จะซื้อเกลือได้เพราะราคาเกลือแพงมาก พอไม่มีเกลือก็เลยปรุงอาหารออกมาไม่อร่อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ คงไม่ดีแน่ ท่านแม่อาจจะต้องหักค่าขนมข้ากับน้องเพื่อเอาเงินไปซื้อเกลือก็เป็นได้”“…ที่แท้ก็กลัวโดนหักค่าขนมนี่เอง คงจะเป็นข้าที่คิดมากเกินไป”เข่อซิงทำเหมือนเลิกสงสัยในตัวฉางกังไปแล้ว แต่ก็มีบางจุดที่เขารู้สึกไม่กระจ่างแจ้ง เขาคิดว่าเด็กอายุแค่สิบขวบจะไปชี้จุดขุดบ่อเกลือแบบนี้จะไม่แปลกไปหน่อยหรือเ
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

36 แฝดสี่

"หยุดนะเจ้าพวกตระกูลลู่!"ในระหว่างที่เด็กสองพี่น้องกำลังเดินตามหลังกันกลับบ้านจนมาถึงครึ่งทางแล้ว เสียงร้องเรียกตามหลังของใครคนหนึ่งทำให้ฉางกังและฉางเกอหันกลับไปมอง บริเวณนั้นเป็นสนามหญ้ามีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเป็นอย่างดี เจ้าของเสียงคือเด็กผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉางกัง คนผู้นั้นยืนกอดอกเชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยเอ่ยขึ้นอีกครั้งน้ำเสียงห้าว“ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอพวกตระกูลลู่ในที่แบบนี้ ละแวกนี้มีแต่บ้านคนรวยพวกเจ้ามาทำอะไรมิทราบ”ลู่ฉางกังคว้าตัวน้องชายเข้ามาใกล้ ๆ แล้วกระซิบถาม “เขาคือใคร” “ก็เด็กตระกูลเซียวอย่างไรขอรับ ท่านพี่ลืมไปแล้วหรือ” ฉางเกอตอบเสียงเบาหวิว คนที่ยืนใต้ต้นไม้รูปร่างอ้วนท้วนจ้ำม่ำ พวงแก้มยุ้ยสองข้างแดงเหมือนสีอิงเถา สวมใส่เสื้อผ้าที่ตัดเย็บประณีตอย่างดี ทรงผมมัดรวบเป็นหางม้าผูกด้วยผ้าสีน้ำเงินเรียบร้อยมีขนาดตัวกลมใหญ่กว่าเด็กวัยเดียวกันตระกูลเซียวถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ที่ฐานะค่อนข้างดี มีร้านขายหนังวัวอยู่ในตลาดกลางหุบเขาและมีร้านขายยาอยู่หนึ่งร้าน ผู้นำตระกูลเซียวเป็นแพทย์ฝีมือดีที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวั้งซานกู่ ผู้คนมากมายต่างนับถือตระกูลนี้ยิ่งนัก“อ๋อ เพื
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

37 แต่ข้าไม่มี

ฝาแฝดตระกูลเซียวยืนเรียงแถวหน้ากระดานรูปร่างสูงใหญ่อ้วนท้วนจ้ำม่ำกันทุกคน เด็กชายทั้งสี่ล้วนอยู่ในระดับความสูงที่ฉางกังต้องแหงนหน้ามองกันทั้งนั้น คนที่รูปร่างเล็กสุดในบรรดาเด็กทั้งหมด ณ ที่นี้ก็คือฉางเกอ ถึงแม้ว่าจะมีขนาดตัวที่เล็กกว่ามากแต่หัวใจของเขาใหญ่โตยิ่งนัก ในสายตาฉางเกอถือว่าเหตุการณ์นี้คือการท้าดวลครั้งสำคัญในชีวิต ทว่าในความคิดของฉางกังกลับมองว่าลูกดิ่งมันก็แค่ของเล่นเด็ก“โทษทีนะ วันนี้ข้าไม่ได้พกลูกดิ่งมา” ชายหนุ่มในร่างเด็กบอกน้ำเสียงราบเรียบและกำลังจะเดินหนีแต่หนึ่งในฝาแฝดตระกูลเซียวที่มีชื่อว่าเซียวเสิ่นได้พูดขึ้น“ข้ามี!”“ข้าก็มี!” เซียวเหอ“ข้าก็มี!” เซียวเต๋อ“และนี่ก็ของข้า!” เซียวถังทั้งสี่ชูลูกดิ่งขึ้นมาเหนือศีรษะพลางเชิดหน้าขึ้นอย่างโอ้อวดตน ฉางกังกรอกตาขึ้นมองบนแล้วถอนหายใจแรงพูดเลี่ยงไปอีกว่า...“แต่ข้าไม่มี”“มีขอรับ อยู่นี่ไง!”เขาสะดุ้งเฮือกรีบหันขวับมาทางน้องตัวแสบ เห็นว่าฉางเกอก็ชูลูกดิ่งขึ้นมาแสดงต่อหน้าแฝดตระกูลเซียวเช่นกัน เขาฉีกยิ้มให้พี่ชายอย่างภาคภูมิใจราวกับว่าตนได้ทำภารกิจสำคัญกอบกู้หน้าตาวงศ์ตระกูลเอาไว้ โดยหารู้ไหมว่าผู้เป็นพี่ขณะนี้เริ่มจะห
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

38 ข้าแค่อิจฉา

“ถอดมาเร็วเข้า!” หนึ่งในฝาแฝดออกคำสั่งเสียงขึงขัง ฉางกังจึงยอมถอดรองเท้าออกให้แต่โดยดี ส่วนฉางเกอเมื่อเห็นพี่ถอดก็ยอมทำตามโดยไม่ขัดขืน ในเมื่อแพ้แล้วก็ไม่ควรโต้แย้งอีก พอเด็กเหล่านั้นได้รองเท้าไปเซียวถงและเซียวเสิ่นก็ได้พยายามสอดเท้าขาวอวบเข้าไปในรองเท้าฟางจนขาด เซียวเต๋อที่เห็นพี่น้องร่วมสายเลือดทำขายหน้าก็ได้ตบลงที่ศีรษะของทั้งสองคนพลางกัดฟันต่อว่า“ข้าแค่อยากแกล้งพวกเขา พวกเจ้าไม่ต้องเอาจริง ทำขายหน้าที่สุด!”“พี่สาม ข้าก็แค่อยากรู้รสชาติของการใส่รองเท้าฟางว่าเป็นอย่างไร เคยได้ยินท่านแม่บอกว่าลูกคนจนได้รับแต่ของไม่ดี” เซียวเหอตอบอย่างใสซื่อ“น้องรอง เจ้าอยากจะจนหรือไงเล่า เจ้าบ้า!” เซียวเต๋อ“ไม่นะ ๆ ข้าไม่อยากจน ใครจะอยากจนเล่า…ท่านแม่บอกว่าลูกคนจนต้องทำงานหนัก ๆ ไม่ได้กินของอร่อย ๆ และไม่มีโอกาสได้เรียนด้วย” เซียวเหอทำหน้าจ๋อยรีบเอาเท้าออกมาจากจากรองเท้าฟางที่บังคับใส่จนสภาพยับเยินแล้ว“เอาล่ะ หมดสนุกแล้ว พวกเราก็ไปกันเถอะ”เด็กทั้งสี่เดินจากไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงซากรองเท้าพัง ๆ ฉางเกอไม่มองหน้าพี่ชายและก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรเลย เขาเดินไปยังทางข้างหน้าที่สภาพพื้นถนนขรุขระ ยิ่
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

39 ห้าตำลึง

บางที…นางอาจรู้ความหมายของข้อความในจดหมายแล้วจึงแอบมานั่งร้องไห้คนเดียวเงียบ ๆ ปิงเหยียนเพิ่งนำจดหมายไปให้ผู้นำหมู่บ้านอ่านให้ฟังเมื่อไม่นานนี้เอง พอกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกสงสารสามีและเศร้าใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่นางไม่มีเจตนาจะให้ใครเห็นความอ่อนแอจึงได้มาแอบร้องไห้ในที่ลับตา เมื่อตั้งสติได้ปิงเหยียนก็ค่อย ๆ ปาดน้ำตาลุกขึ้นยืน ทันทีที่หันมาก็เจอเข้ากับร่างเล็กที่ยืนแอบด้านหลังเสา“นั่นกังเอ๋อร์ของแม่ใช่หรือไม่…ออกมานี่เถอะ”เด็กชายก้าวออกมาจากที่ซ่อนเดินเข้าหามารดา ผู้เป็นแม่ย่อตัวนั่งลงก่อนจะดึงลูกชายมาโอบกอดเอาไว้แนบแน่น ยังโชคดีที่นางไม่ทันได้สังเกตว่าที่เท้าของลูกชายไม่ได้สวมรองเท้าอยู่“เจ้าโตพอที่จะรับรู้อะไรแล้ว…แม่มีเรื่องดีจะบอก”“ขอรับ”“ท่านพ่อของเจ้าจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาแล้วเจ้าดีใจหรือไม่”นางพูดไปพลางฝืนยิ้ม แต่พอนึกถึงข้อดีในข้อเสียจึงทำให้จิตใจของนางดีขึ้นมาเล็กน้อย ถึงจะไร้งานไร้เงินแต่ก็ยังดีที่สามีจะได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้า ดังนั้นปิงเหยียนจึงเลือกที่จะใช้คำพูดดี ๆ บอกกับลูก เมื่อเห็นแม่เป็นเช่นนี้ฉางกังก็เลือกที่จะไม่ซักถามอะไรต่อให้ยืดยาว เขาวาดมือล
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more

40 บัญชีพวกนี้ผิดหมดเลยนี่

“ข้าพาเขาไปรอที่ห้องทำงานของคุณชาย ส่วนน้องชายให้ไปรอที่ห้องนั่งเล่นแล้วก็หาขนมให้แล้ว”“…อืม”เข่อซิงมีท่าทางใจเย็นไม่ได้รีบร้อนไปหาลู่กังที่นัดแนะให้มาเจอ ดังนั้นอาเฟยจึงได้ถามต่อด้วยความสงสัย“ไม่ไปเจอเด็กคนนั้นหรือขอรับ”“…ไปสิ”ว่าแล้วเข่อซิงก็เดินนำหน้าไปก่อนแล้วหยุดยืนอยู่ที่ข้างหน้าต่างห้องทำงาน เขายืนแอบเฝ้ามองทุกกิริยาบทของเด็กชายที่อยู่ในห้องเงียบ ๆ อาเฟยที่อยู่ด้านหลังเจ้านายหนุ่มบังเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกรอบจึงย้ำถามอีก“ไม่เข้าไปหรือขอรับ”“ชู่…เจ้าช่วยเบาเสียงแล้วรอดูอะไรดี ๆ ก่อนเถิด”เมื่อเข่อซิงบอกอย่างนั้นอาเฟยก็หุบปากที่กำลังจะเอ่ยถามลงทันที เขายืนเงียบ ๆ จ้องมองเข้าไปในห้องทำงาน เห็นลู่กังนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เวลาผ่านไประยะหนึ่งเด็กชายเริ่มอยู่ไม่ติดเนื่องจากว่ารอเข่อซิงนานเกินไปจึงลุกเดินสำรวจทั่วห้องไปทั่วแก้เบื่อในห้องนี้มากด้วยตำราและบัญชีร้านค้ามากมาย แต่มีอยู่เล่มหนึ่งกางหลาบนโต๊ะ ซึ่งฉางกังให้ความสนใจเป็นพิเศษ หน้าปกหนังสือเล่มนี้เขียนเอาไว้ว่าบัญชีค้าผ้าร้านฝูเหยา“นั่น! เจ้าเด็กนั่นกำลังยุ่งกับบัญชีสำคัญของคุณชายนะขอรับ จะไม่เป็นอะไรแน
last updateLast Updated : 2025-09-24
Read more
PREV
1234568
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status