Short
หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน

หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน

By:  บุปผาเดือนเพ็ญCompleted
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
9Chapters
1views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

หลังจากนางในดวงใจในใจของเขาเสียชีวิต เจียงวั่งโจวก็เกลียดชังข้ามาสิบปี ข้าพยายามทำดีทุกวิถีทาง ทว่าเขากลับหัวเราะเย็นชา “หากเจ้าอยากเอาใจข้าจริง ก็ไปตายเสียดีกว่า” ความเจ็บปวดแล่นปราดเข้าสู่หัวใจ แต่ในขณะคานเรือนที่ลุกไหมกำลังจะหล่นทับข้า เขากลับยอมตายเพื่อช่วยชีวิตข้าไว้ ก่อนตาย เขาที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของข้า ได้ใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายปัดมือข้าที่สัมผัสตัวเขาออก “ซ่งจือเสวี่ย หากชั่วชีวิตนี้ข้าไม่เคยได้พบเจ้า จะดีเพียงใด...” ในพิธีศพ มารดาเจียงร่ำไห้จนพูดไม่เป็นคำ “วั่งโจว เป็นความผิดของแม่เอง ตอนนี้ไม่ควรบังคับให้เจ้าแต่งกับนาง หากตอนนั้นแม่ยอมตามใจเจ้า ให้เจ้าได้แต่งกับกู้หว่านเหอ จุดจบในวันนี้จะแตกต่างออกไปหรือไม่” บิดาเจียงจ้องมองข้าอย่างเคียดแค้น “วั่งโจวช่วยชีวิตเจ้าถึงสามครั้ง เหตุใดเจ้ามีแต่นำเคราะห์กรรมมาให้เขา! เหตุใดคนที่ตายจึงไม่ใช่เจ้า!” ทุกคนต่างเสียใจที่เจียงวั่งโจวแต่งงานกับข้า แม้แต่ตัวข้าเองก็เช่นกัน สุดท้าย ข้าจึงทิ้งกายจากยอดหอเด็ดดารา...แล้วหวนกลับมาเมื่อสิบปีก่อน ในครานี้ ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะตัดขาดวาสนาทั้งหมดที่มีต่อเจียงวั่งโจว เพื่อทำให้ความปรารถนาของทุกคนเป็นจริง

View More

Chapter 1

บทที่ 1

“ซ่งจือเสวี่ย เจ้าช่างเก่งกาจจริง ๆ ถึงกับทำให้พ่อแม่ของข้าเอาความตายมาบีบบังคับให้ข้าต้องแต่งงานกับเจ้า เจ้าคิดว่าแต่งงานกับข้าแล้ว จะมีความสุขหรือ?”

เสียงทุ้มต่ำเย็นชาของบุรุษหนุ่มแว่วมาข้างหู ข้าลืมตาขึ้นอย่างเลื่อนลอย มองเจียงวั่งโจวอย่างตะลึง

เขายืนอยู่เบื้องหน้าข้า สวมอาภรณ์สีแดงสดรัดรูป ขับเน้นคิ้วตาคมคายที่แฝงแววทระนง บุคลิกวาจาล้วนแตกต่างจากเจียงวั่งโจวในอีกสิบปีข้างหน้า

นี่คือเจียงวั่งโจวในวัยสิบแปดปี

ข้าย้อนกลับมาเมื่อสิบปีก่อนจริง ๆ

ข้าข่มความเจ็บปวดรวดร้าวในใจเอาไว้ แล้วจ้องมองเขาอย่างโหยหา

“ที่ท่านไม่อยากแต่งกับข้า เป็นเพราะคนที่ท่านอยากแต่งด้วย แท้จริงแล้วคือกู้หว่านเหอใช่หรือไม่?”

เจียงวั่งโจวหัวเราะเย็นชา “ใช่แล้วจะอย่างไร เจ้าจะให้ข้าสมหวังหรือ?”

ข้าตอบอย่างจริงจัง “ได้”

บิดามารดาของข้าสละชีพในสนามรบเพื่อปกป้องบ้านเมือง ฮ่องเต้จึงราชโองการประทานนสมรสให้ข้า ในราชโองการนั้นไม่ได้ระบุชื่อของผู้ใดเอาไว้ ข้าอยากจะแต่งกับใครก็ได้

เช่นเดียวกัน ข้าเองก็สามารถทูลขอพระราชทานสมรสให้แก่ผู้ใดก็ได้

เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างโมโห

“เจ้าใช้ราชโองการของฮ่องเต้มาบีบบังคับข้า ท่านพ่อท่านแม่ก็กดดันให้ข้าแต่งกับเจ้า การแต่งงานของเราเป็นเรื่องที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ แล้วตอนนี้เจ้ากลับมาบอกว่าจะทำให้ข้าสมหวัง จะทำได้อย่างไร?”

“ซ่งจือเสวี่ย ข้าไม่มีเวลามาเล่นเกมเล่นตัวกับเจ้าหรอกนะ ราชโองการนั่นเจ้าก็นำกลับเข้าวังไปเองเถอะ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่”

พูดจบ เขาก็หันหลังพิงกำแพงวัง

เมื่อได้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของเขา หัวใจของข้าก็เจ็บแปลบราวกับถูกเข็มแหลมคมทิ่มแทง

ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ ข้าก็รักเจียงวั่งโจวมานานหลายปี

เขาเคยช่วยชีวิตข้าโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดสองครั้ง ทำให้ข้าเข้าใจผิดคิดว่าเขามีใจให้ข้าเช่นกัน จึงได้ทูลขอพระราชทานสมรสจากฮ่องเต้ด้วยความยินดี และได้สมรสกับเขาในที่สุด

กระทั่งวันที่นางในดวงใจของเขาสิ้นลม ข้าจึงได้แน่ใจว่าคนในใจของเขานั้นไม่ใช่ข้า

ความรักสิบปีของข้า คือสิบปีแห่งความทุกข์ทรมานของเขา

ในชาติก่อน ข้าสร้างบุญกุศลมานับไม่ถ้วน กระทั่งยอมสละชีวิตของตนเพื่อแลกให้เจียงวั่งโจวได้มีโอกาสเกิดใหม่อีกครั้ง

ก่อนจะกลับมาเกิดใหม่ พระอาจารย์เคยชี้แนะแก่ข้าไว้ว่า “ภายในสิบสองชั่วยามหลังจากเกิดใหม่ จะต้องคลายปมในใจสามประการของเขาให้สำเร็จ หลังจากสำเร็จแล้วต้องจากไปทันที”

“นับแต่นี้แม่นางกับเขาก็จะไร้ซึ่งวาสนาต่อกัน เขาจะไม่ต้องจบชีวิตลงในวัยสามสิบปีเพราะเจ้า ชีวิตที่เหลือของพวกเจ้าต่างมีหนทางเป็นของตนเอง”

“แต่การเกิดใหม่ย่อมต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนเสมอ แม่นางโปรดไตร่ตรองให้ดี”

ขอเพียงเจียงวั่งโจวยังมีชีวิตอยู่ ข้าไม่เกรงกลัวต่อสิ่งแลกเปลี่ยนใด ๆ ทั้งสิ้น

ข้าเข้าเฝ้าฮ่องเต้ และทูลขอพระราชทานสมรสให้แก่เจียงวั่งโจวและกู้หว่านเหอ

ข้ารู้ดีกว่าใครถึงปมในใจสามประการของเจียงวั่งโจว มันถูกจดบันทึกไว้ในบันทึกส่วนตัวของเขา

“เสียใจที่ต้องแต่งกับซ่งจือเสวี่ย เสียใจที่มิอาจขัดคำสั่งของบิดามารดาได้ เสียใจที่ไม่อาจปกป้องกู้หว่านเหอไว้ได้”

บัดนี้ ปมในใจข้อแรกของเขาคงได้รับการคลี่คลายสมบูรณ์แล้วกระมัง

ข้านำราชโองการออกจากวังแล้วยื่นให้เจียงวั่งโจว

เขามองข้าด้วยสายตาดูแคลน ราวกับข้าเพิ่งใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขาจนสำเร็จ จากนั้นจึงยื่นมือต้องการจะคลี่ราชโองการออก

แต่ข้ากลับกดมือเขาไว้ พลางแย้มยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “พรุ่งนี้ค่อยดูเถอะ จะมีเรื่องให้ประหลาดใจ”

เจียงวั่งโจวเหลือบมองข้า “น่าเบื่อ จะดูวันนี้หรือพรุ่งนี้ ผลลัพธ์ก็ต้องแต่งงานกับเจ้าอยู่ดีไม่ใช่หรือ? วันนี้เจ้าเป็นอะไรไป เหตุใดจึงดูประหลาดนัก คิดว่าได้แต่งกับข้า ก็เลยดีใจจนบ้าไปแล้ว?”
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
9 Chapters
บทที่ 1
“ซ่งจือเสวี่ย เจ้าช่างเก่งกาจจริง ๆ ถึงกับทำให้พ่อแม่ของข้าเอาความตายมาบีบบังคับให้ข้าต้องแต่งงานกับเจ้า เจ้าคิดว่าแต่งงานกับข้าแล้ว จะมีความสุขหรือ?”เสียงทุ้มต่ำเย็นชาของบุรุษหนุ่มแว่วมาข้างหู ข้าลืมตาขึ้นอย่างเลื่อนลอย มองเจียงวั่งโจวอย่างตะลึงเขายืนอยู่เบื้องหน้าข้า สวมอาภรณ์สีแดงสดรัดรูป ขับเน้นคิ้วตาคมคายที่แฝงแววทระนง บุคลิกวาจาล้วนแตกต่างจากเจียงวั่งโจวในอีกสิบปีข้างหน้านี่คือเจียงวั่งโจวในวัยสิบแปดปีข้าย้อนกลับมาเมื่อสิบปีก่อนจริง ๆข้าข่มความเจ็บปวดรวดร้าวในใจเอาไว้ แล้วจ้องมองเขาอย่างโหยหา“ที่ท่านไม่อยากแต่งกับข้า เป็นเพราะคนที่ท่านอยากแต่งด้วย แท้จริงแล้วคือกู้หว่านเหอใช่หรือไม่?”เจียงวั่งโจวหัวเราะเย็นชา “ใช่แล้วจะอย่างไร เจ้าจะให้ข้าสมหวังหรือ?”ข้าตอบอย่างจริงจัง “ได้”บิดามารดาของข้าสละชีพในสนามรบเพื่อปกป้องบ้านเมือง ฮ่องเต้จึงราชโองการประทานนสมรสให้ข้า ในราชโองการนั้นไม่ได้ระบุชื่อของผู้ใดเอาไว้ ข้าอยากจะแต่งกับใครก็ได้เช่นเดียวกัน ข้าเองก็สามารถทูลขอพระราชทานสมรสให้แก่ผู้ใดก็ได้เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างโมโห“เจ้าใช้ราชโองการของฮ่องเ
Read more
บทที่ 2
ข้าดีใจจริง ๆเพราะในที่สุดข้าก็ได้พบท่านที่ยังมีชีวิตอยู่อีกครั้งข้ายิ้ม “ข้ารู้สึกว่าท่านคือคนที่ดีที่สุดในโลก คนที่ได้แต่งงานกับท่านจะมีความสุขมากกันทุกคน”“กลับจวน” เขาหัวเราะเย้ยออกมา หันหลังแล้วเดินจากไป หากไม่ใช่เพราะข้ารู้ว่าเขาไม่ชอบข้า ข้าคงคิดว่าเขากำลังเขินอายรถม้าวิ่งกลับจวน ระหว่างทางผ่านถนนดอกไม้ที่คึกคัก ข้าเลิกม่านรถขึ้น ได้ยินสตรีจำนวนไม่น้อยพูดกันว่า“คืนนี้เฒ่าจันทราจะลงมายังโลกมนุษย์ หากขึ้นไปบนหอเด็ดดาราจะสามารถมองเห็นดาวตกที่ร้อยปียากจะมีสักหน ว่ากันว่าคู่สามีภรรยาที่ได้ดูด้วยกัน จะสามารถรักและอยู่ครองคู่กันไปถึงสามชาติสามภพ!”อยู่ ๆ ก็นึกถึงชาติก่อน ข้าก็ได้ยินคำพูดเหล่านี้เช่นกัน จึงได้ไปอ้อนวอนเจียงวั่งโจวอย่างดีใจให้พาข้าไปยังหอเด็ดดาราในตอนนั้น ใบหน้าที่เย็นชาของเจียงวั่งโจวกลับเหยียดยิ้มเย้ยหยัน“พัวพันกับข้าชาติเดียวยังไม่พอ เจ้ายังจะพัวพันกับข้าไปถึงสามชาติสามภพอีกหรือ?”“คำเล่าลือเรื่องดาวตกอะไรกัน กลอุบายหลอกลวงที่ไร้สาระ เจ้าหลงเชื่อไปคนเดียวก็พอแล้ว อย่าดึงข้าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”แววตาที่เย็นชาเช่นนั้น แม้จะเป็นเรื่องราวในชาติก่อนที่ห่าง
Read more
บทที่ 3
ความห่วงใยอย่างจริงใจของท่านโหวกับฮูหยิน ทำให้ใจข้ารู้สึกขมปร่าหลังจากที่บิดามารดาสิ้นชีพในสงคราม ข้าก็กลายเป็นเด็กกำพร้า ท่านโหวและฮูหยินเลี้ยงดูข้าจนเติบใหญ่ มอบความรักและทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ข้าข้าเชื่อฟังมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ ข้ากลับต้องขัดใจพวกท่านแล้วข้ามองพวกท่าน แล้วกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ท่านโหว ฮูหยิน ข้าจะไม่แต่งงานกับซื่อจื่อแล้วเจ้าค่ะ”“วันพรุ่งนี้ข้าจะลงใต้ไปยังเจียงหนาน หลังจากนี้ข้าจะไม่ได้ปรนนิบัติท่านทั้งสองอยู่ข้างกายแล้ว ท่านทั้งสองต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ”ฮูหยินชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็ร้อนใจขึ้นมาทันที “พ่อแม่ของเจ้าตายในสนามรบ เจ้าเติบโตต่อหน้าพวกเรามาตั้งแต่เล็ก จวนโหวต่างหากที่เป็นบ้านของเจ้า หากตอนนี้เจ้าจะไป แล้วจะไปที่ไหนได้”“หรือว่าเป็นเพราะวั่งโจวรังแกเจ้าเพื่อสตรีแซ่กู้นางนั้น เจ้าถึงได้ไม่คิดจะแต่งงานกับเขาแล้ว?”“เจ้าอย่าได้คิดเช่นนั้นเด็ดขาด ในใจของเขามีเจ้าอยู่ มิฉะนั้นคงไม่เสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าไว้ถึงสองครั้ง ทุกครั้งที่ถึงวันเกิดเจ้า เขาจะเสาะหาของล้ำค่าต่าง ๆ นานาล่วงหน้าไว้นานมาก ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็ชอบวั่งโจว เจ้าเรียนทำอาหารเพื่อเขา นวด
Read more
บทที่ 4
ชาติก่อนเพราะข้าแต่งงานกับเจียงวั่งโจว กู้หว่านเหอจึงคิดสั้น หนึ่งเดือนให้หลังนางจึงดื่มพิษกู่ฆ่าตัวตาย เจียงวั่งโจวหาโลหิตที่เข้ากันมาถอนพิษให้นางไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูนางสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาด้วยเหตุนี้เขาจึงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ จนวินาทีที่เขาตายก็ยังคงเกลียดข้าแต่ในชาตินี้ ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขา เหตุใดกู้หว่านเหอถึงยังฆ่าตัวตายอีกเล่าเดิมทีข้ายังคงคิดอยู่ว่าจะทำความปรารถนาข้อที่สามของเขาให้สำเร็จได้อย่างไรตอนนี้ กลับมีคนส่งมาให้ถึงที่แล้วข้ามองเขา “เช่นนั้น ท่านมาหาข้าเพื่อเอาโลหิตไปถอนพิษกู่ใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงวั่งโจวก็ตกตะลึงไป ดูเหมือนคาดไม่ถึงว่าข้าจะพูดเช่นนี้ ทั้งยังปากด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้ารึ เจ้าทำให้หว่านเหอต้องอัปยศจนดื่มยาพิษ ก็สมควรชดใช้โทษบาปอยู่แล้ว”เขาจับข้าไปยังจวนของกู้หว่านเหอกู้หว่านเหอนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ท่านหมอหยิบกริชออกมา กรีดลงบนแขนของข้าหนึ่งครั้ง ความเจ็บปวดแล่นปราดขึ้นมาตามแขน ข้าส่งเสียงครางต่ำเบา ๆท่านหมอกล่าวอย่างยินดี “พิษกู่มีปฏิกิริยา โลหิตของแม่นางเข้ากันได้จริง ๆ”“แต่การช่วยคนจำเป็นต้
Read more
บทที่ 5
ข้าพยักหน้า “เจ้าค่ะ”อาจเป็นเพราะเห็นว่าใบหน้าข้าซีดเผือด คิ้วของเขาจึงขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลา “เมื่อวานข้าอาจพูดแรงไปบ้าง เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจเลย แต่หว่านเหอเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องระหว่างเราสองคน ไม่ควรดึงนางเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อไปอย่าไปฟ้องอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ในใจข้าก็เจ็บแปลบขึ้นมาเล็กน้อยอีกคราแต่ข้าก็ไม่ได้เอ่ยคำอธิบายอย่างน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนชาติก่อน เพียงคลี่ยิ้มบางที่มุมปาก“อืม จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว”เจียงวั่งโจวจัดผ้าห่มให้ข้า“เมื่อคืนข้าไม่ได้อยู่ชมดาวตกเป็นเพื่อนเจ้า หลังแต่งงานข้าจะกลับบ้านเดิมเป็นเพื่อนเจ้าก็แล้วกัน ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบเจียงหนาน พอถึงบ้านเดิมแล้ว เราไปเที่ยวที่นั่นกัน”ข้าชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเบา “ไม่ต้องแล้วเจ้าค่ะ”“ท่านไม่ต้องชดเชยเรื่องเมื่อคืนให้ข้าหรอก เป็นข้าที่เต็มใจช่วยแม่นางกู้เอง”เจียงวั่งโจวนิ่งไปครู่หนึ่ง ในแววตาของเขาฉายแววสับสน“ข้าเตรียมรถม้าที่จะออกนอกเมืองไว้ให้อีกห้าวันข้างหน้า รอให้เจ้าพักฟื้นจนดีขึ้น เราค่อยออกเดินทางกัน”ข้าจ้องมองเจียงวั่งโจวอย่างไม่วางตา ไม่ได้เอ่ยคำใดอีกเขาถือถ้วยไว้ในมื
Read more
บทที่ 6
เจียงวั่งโจวตกใจอย่างยิ่ง แต่ก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้ว“คงเป็นแค่คนชื่อแซ่เดียวกันกระมัง ราชโองการพระราชทานสมรสก็ลงมาแล้ว พวกเราจะไปเจียงหนานกันในอีกห้าวันข้างหน้า นางจะออกนอกเมืองในเวลานี้ได้อย่างไร”ท่านหมอเข้ามารายงาน“ซื่อจื่อ ก่อนที่นางจะจากไป แม่นางซ่งให้ข้านำคำพูดมาเรียนท่านขอรับ”“นางได้เดินทางไปเจียงหนานที่ห่างออกไปพันลี้แล้ว ขอให้ต่างคนต่างมีความสุข หวังว่าท่านจะไม่คิดถึง”เสียงของหมอที่ดังเข้ามาในหูของเจียงวั่งโจว ราวกับอสนีบาตที่ฟาดลงมาอย่างรุนแรงเจียงวั่งโจวผู้ไม่เคยเสียกิริยามาก่อน ในยามนี้กลับโซซัดโซเซจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ที่แท้คำพูดที่ซ่งจือเสวี่ยกล่าวในตอนนั้นว่าสมดังปรารถนา อายุยืนยาวร้อยปีคือการกล่าวอำลาเขานั่นเองชั้นบางสีแดงเรื่อเอ่อขึ้นมาราวสายน้ำ แผ่ซ่านขึ้นมาจนถึงกรอบดวงตา ริมฝีปากของเจียงวั่งโจวสั่นเทาพยายามข่มกลั้นอย่างสุดกำลัง“เป็นไปไม่ได้!”ซ่งจือเสวี่ยที่เขาเกือบต้องเสี่ยงชีวิตช่วยกลับมาหลายต่อหลายครั้ง จะมาตายจากไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?องครักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงปวดใจ“คนที่มารายงานกล่าวว่าเห็นรถม้าของแม่นางซ่งมุ่งหน้าไปทา
Read more
บทที่ 7
ท่านโหวชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาหม่นลงฮูหยินจวนโหวที่เงียบมาตลอดกลับหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา“วั่งโจว เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่รักนานนาน?”“หากเจ้าไม่รักนาง เหตุใดถึงต้องเสี่ยงชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อช่วยนาง?”ริมฝีปากของเจียงวั่งโจวอ้าค้าง ไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้อีกเขารัก รักจนสามารถแลกด้วยชีวิตได้เพียงแต่ พวกเขาบีบคั้นหนักเกินไป เขาแค่ไม่ต้องการจะรักตามความปรารถนาของพวกเขา เขาอยากมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตนเองเขาจึงได้ละเลยไป ว่าตนเองรักซ่งจือเสวี่ยมากเพียงใดฮูหยินจวนโหวกล่าวต่อ“เมื่อวานนานนานมาเพื่อบอกลาพวกเรา เด็กผู้มีจิตใจอ่อนโยนและน่าสงสารผู้นี้ ก่อนที่นางจะจากไป ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของนางก็คือขอให้เจ้าอายุยืนยาวร้อยปี มีความสุขสงบทุกปี”เจียงวั่งโจวพลันนึกถึงคำอำลาที่ซ่งจือเสวี่ยกล่าวเมื่อวาน สีหน้าแข็งทื่อไป นิ่งงันไปครู่หนึ่งถึงได้เปล่งเสียงออกมา“แต่ถ้านางมาเพื่อกล่าวอำลาจริง ๆ เหตุใดถึงต้องทูลขอราชโองการพระราชทานสมรสกับข้าด้วย”ฮูหยินจวนโหวถอนหายใจยาว กล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดาย“เจ้าดูให้ดี ๆ สิว่าบนราชโองการนั่นเขียนว่าอะไรกันแน่?”ในหัวของเจี
Read more
บทที่ 8
กู้หว่านเหอถูกลากตัวออกไปแต่เสียงหัวเราะของนางราวกับคมมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเจียงวั่งโจวอย่างแรง จนเขาเจ็บปวดแทบหายใจไม่ออกคนที่ใช้คำพูดร้ายกาจทำร้ายซ่งจือเสวี่ยคือเขา คนที่ต้องการเอาเลือดหัวใจของซ่งจือเสวี่ยก็คือเขาเช่นกันความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงถาโถมเข้ามา จนเขาแทบจะยืนไม่อยู่หลังจากออกจากเมืองหลวง ข้าไม่ได้ไปที่เจียงหนานข้าอยากไปดูสถานที่ที่บิดามารดาเคยสู้รบมาตลอดชีวิต เดินทางอยู่ระยะหนึ่ง ก็มาถึงหลิ่งหนานที่นี่ไม่มั่งคั่งร่ำรวยเหมือนเมืองหลวง แต่ผู้คนก็เรียบง่ายและซื่อตรงชาวประมงที่พายเรือยิ้มแล้วกล่าว“ที่หลิ่งหนานมีศัตรูจากภายนอกมารุกรานบ่อย ๆ ดูจากการแต่งกายของแม่นางแล้วไม่ใช่คนร่ำรวยก็สูงศักดิ์ เหตุใดถึงมาที่นี่หรือ?”ข้าไม่ได้เอ่ยคำใดบิดามารดาปกป้องที่นี่มาตลอดชีวิต ข้าก็อยากทำให้สถานที่ที่บิดามารดาเคยปกป้องดีขึ้นอีกสักหน่อยข้าเปิดสำนักศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งที่นี่ และใช้เงินที่หามาได้ก่อตั้งสำนักศึกษาอันจี้ขึ้น และรับอุปการะเด็กที่ไร้บ้านจากภัยสงครามพวกเขาจะไม่ถูกคนอื่นรังแกเหมือนข้าในตอนนั้นอีกอยู่ที่นี่ พวกเขาก็สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยตนเองวั
Read more
บทที่ 9
“บางทีตอนนี้ท่านอาจจะยังมองไม่เห็นความรู้สึกในใจที่มีต่อข้าอย่างชัดเจน ท่านดีเช่นนี้อาจเป็นเพราะรู้สึกผิดต่อข้าในเรื่องนั้น บางทีท่านอาจจะแค่รู้สึกว่าท่านโหวและฮูหยินชอบข้า ข้าจึงเหมาะสมที่จะเป็นพระชายาซื่อจื่อ แต่ข้าไม่ต้องการความรู้สึกผิดนี้”“พี่วั่งโจว ไม่ต้องมาตามหาข้าอีกแล้ว”ข้าผลักร่มกระดาษน้ำมันของเจียงวั่งโจวออกไป หันหลังแล้ววิ่งเข้าไปในสายฝนข้ากลัวว่าในชั่วอึดใจต่อมา จะอดไม่ได้ที่จะโผเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงวั่งโจวแล้วร้องไห้ออกมาแต่ในชาตินี้ ข้าจะเห็นแก่ตัวอีกไม่ได้แล้วหลังจากนั้น เจียงวั่งโจวก็ไม่ได้มาตามหาข้าอีก เพียงแต่ที่หน้าประตูบ้านมักจะมีของที่ข้าเคยชอบปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวเจียงวั่งโจวราวกับอยากจะตามหาตัวข้าในอดีตกลับคืนมา บางครั้งก็ส่งขนมที่ข้าชอบกินตอนอยู่ที่จวนโหวมาให้ บางครั้งก็ส่งของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่ข้าเคยอ้อนวอนให้เขาทำให้ตอนเด็ก ๆข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจียงวั่งโจวจะจำได้ทั้งหมดวันนี้ ข้ามาส่งนักเรียนในสำนักศึกษาเพื่อเดินทางไปเมืองหลวงเข้าสอบ ที่ท่าเรือออกเมือง รอบข้างพลันเกิดความโกลาหลขึ้น มีชายชุดดำสวมหน้ากากจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากในน้ำ
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status