ฉบับแปลผลงานของวอลแตร์ที่อ่านง่ายและเชื่อถือได้มีฉบับไหนบ้าง?

2025-11-24 01:51:28 176

2 คำตอบ

Zayn
Zayn
2025-11-26 09:18:28
ในฐานะคนที่หลงใหลงานวรรณกรรมคลาสสิกยุโรป ผมมักจะแนะนำให้มองหาฉบับแปลที่มีคำอธิบายประกอบและบทบรรณาธิการที่ช่วยวางบริบทก่อนจะลงมืออ่าน ผลงานของวอลแตร์มีหลายแนวตั้งแต่สัจนิยมเสียดสีไปจนถึงงานปรัชญาเชิงสารานุกรม ดังนั้นการเลือกฉบับที่แปลให้อ่านง่ายและเชื่อถือได้มีเคล็ดลับที่ช่วยให้ไม่หลงทาง

สิ่งแรกที่ฉันดูคือว่าฉบับแปลนั้นมีบรรยายคำนำและหมายเหตุอธิบายคำศัพท์ยุคสมัยหรือบริบททางประวัติศาสตร์หรือไม่ เพราะวอลแตร์ชอบเล่นตลกร้ายกับอุดมคติทางสังคมและศาสนา การมีหมายเหตุกลับทำให้มุกตลกและแก่นคิดของเขาไม่หลุดไป เช่น ฉบับแปลที่มาพร้อมคำอธิบายเชิงประวัติศาสตร์หรือความคิดเห็นจากนักแปลมักจะช่วยให้จับใจความได้ตรงกว่า ฉันมักจะแนะนำให้อ่านงานสั้นๆ ที่เป็นตัวแทนก่อน เช่น เรื่องล้อเลียนหรือนิทานปรัชญา แล้วค่อยไปหาเล่มรวมคำอธิบายกว้างๆ

ถัดมาเป็นเรื่องของสำนักพิมพ์และประเภทหนังสือ: ฉบับของสำนักพิมพ์ทางวิชาการหรือสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงด้านแปลวรรณกรรมคลาสสิกมักมีมาตรฐานการแปลและการตรวจทานที่เข้มงวด ถ้าคุณอ่านภาษาอังกฤษได้ จะพบว่าซีรีส์เช่น 'Penguin Classics' หรือ 'Oxford World's Classics' มักมีบทนำที่ชัดเจนและหมายเหตุครบถ้วน ซึ่งช่วยให้เทียบความหมายเมื่ออ่านฉบับแปลภาษาไทยได้ง่ายขึ้น ฉันมักจะแนะนำให้หาฉบับที่เป็นฉบับสองภาษา (ต้นฉบับฝรั่งเศสกับแปล) ถ้าต้องการฝึกภาษาและเปรียบเทียบสำนวนด้วยตัวเอง

สุดท้ายอยากบอกว่าการเลือกฉบับที่อ่านง่ายไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยความแม่นยำเชิงวิชาการเสมอไป บางครั้งฉบับแปลที่เป็นมิตรกับผู้อ่านจะช่วยให้เข้าใจแก่นเรื่องและเสียดสีของวอลแตร์ก่อนแล้วค่อยขยับไปหาฉบับที่มีความเที่ยงตรงทางภาษามากขึ้นก็ได้ ผมมองว่าการมีทั้งสองแบบในชั้นหนังสือ—เล่มที่อ่านเพลินกับเล่มที่ลงลึก—จะทำให้สัมผัสวอลแตร์ได้ครบกว่าและสนุกขึ้นตามจังหวะการอ่านของแต่ละคน
Clara
Clara
2025-11-27 19:04:24
ลองมองแบบย่อๆ เป็นรายการสั้น ๆ ที่ฉันมักจะแนะนำเมื่อมีคนถามว่างานแปลของวอลแตร์ฉบับไหนอ่านง่ายและเชื่อถือได้: เลือกฉบับที่มีหมายเหตุประกอบและคำนำเชิงบริบท, หาเวอร์ชันสองภาษาถ้าคุณอยากเทียบต้นฉบับ, มองหาฉบับแปลจากสำนักพิมพ์วิชาการหรือที่มีบทบรรณาธิการยาว ๆ ซึ่งมักให้ความถูกต้องเชิงประวัติศาสตร์มากกว่า

ถ้าจะยกตัวอย่างงานของวอลแตร์ที่มักได้รับการแปลและอ่านง่ายในแนวคิดเชิงทดลองทางปรัชญา ลองเริ่มจาก 'Micromegas' ซึ่งเป็นเรื่องสั้นที่ถ่ายทอดแนวคิดโดยใช้มุมมองต่างดาว และ 'The Age of Louis XIV' ที่เป็นงานประวัติศาสตร์แนววิจารณ์เชิงอรรถ ส่วนอีกชิ้นที่อ่านสนุกแต่แฝงคมคือ 'Zaire' ซึ่งเป็นละครที่สะท้อนเรื่องศรัทธาและความขัดแย้งทางวัฒนธรรม ฉันมักจะแนะนำให้หาเวอร์ชันที่มีคำนำหรือบทวิเคราะห์สั้น ๆ ประกอบ เพื่อให้เข้าใจบริบทจังหวะภาษาและอารมณ์เสียดสีของผู้เขียนได้ชัดเจนกว่าวิธีอ่านเปล่า ๆ
ดูคำตอบทั้งหมด
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า
บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า
โดนทรมานสารพัดยังไม่เจ็บเท่าความจริงที่ไดรับรู้ก่อนตายว่าแท้จริงสหายที่รักกับสามีเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่กัน ทั้งสองลอบคบหาได้เสียกันตั้งแต่ก่อนแต่งกับนาง โดนคนที่รักและไว้ใจหักหลังไม่พอบิดายังต้องมาตายเพราะความทะเยอทะยานของสามีชั่วช้า เมื่อสวรรค์มีตามอบโอกาสให้หวนคืน นางคิดเลือกเส้นทางใหม่ แต่เหตุใดทางเลือกใหม่ของนางถึงได้กลายเป็นบุรุษรูปงามที่เอาแต่เรียกนางว่า ‘ฮูหยิน’ กันเล่า ‘นี่ข้าช่วยเหลือบุรุษเช่นใดมากันแน่’ ............................... “คือแท้จริงข้าไม่ใช่ฮูหยินของเขาเจ้าค่ะ ข้าเพียงช่วยเหลือเขาที่นอนบาดเจ็บ แต่พอเขาเห็นหน้าข้า เขาก็เอาแต่เรียกข้าเช่นนั้น ข้าจนใจไม่รู้จะทำเช่นไรเจ้าค่ะ” “เจ้าเป็นฮูหยินของพี่” “หัวเขาคงกระแทกกับโขดหินจนฟั่นเฟือน เลอะเลือน”
10
115 บท
เมียบังเอิญ (NC 18+)
เมียบังเอิญ (NC 18+)
“พี่วิน!...นี่มันอะไรกัน” รินลณีร้องออกมาอย่างตกใจ หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนมันจะหลุดออกมาจากอก ร่างกายชาไปทั้งร่าง ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะยืนไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะมาเห็นภาพแบบนี้ “พี่พัฒน์ ผมชอบพี่ ...รินณีเราเลิกกันเถอะ”นาวินก็ตกใจพอกัน ภาพที่เธอเห็นเขาคงปฏิเสธไม่ได้เพราะมันชัดเจนมากขนาดนี้...ชายหนุ่มได้แต่พูดว่า “ขอโทษ” “ไอ้เลว” รินลณีด่าออกไปทั้งน้ำตา..เธอวิ่งขึ้นรถไฟฟ้ากลับคอนโดมิเนียม โดยไม่ได้สนใจเสียงเรียกของนาวิน ส่วนระพีพัฒน์นะเหรอเขาก็ยังยืนเอามือล้วงกระเป๋าเสื้อกาวน์แบบไม่ได้สนใจอะไร นี่มันอะไรกัน มันคือโลกที่ชะนีแบบเธออยู่ยากจริง ๆ เธอกลับมาร้องไห้ต่อที่ห้อง ภาพอดีตของเธอกับนาวินไหลผ่านเข้ามาในหัวเธอไม่หยุด เพราะเขาเป็นเกย์ใช่ไหม? เธอกับเขาเลยเข้ากันได้ดี ไม่ว่าจะไปทำผม ชอปปิงเขาไม่เคยบ่น ไม่เคยว่ามันน่าเบื่อ
10
124 บท
ย้อนรักทวงแค้น
ย้อนรักทวงแค้น
[ความสัมพันธ์แบบรักเดียวใจเดียว+นิยายรักหวานแหวว+นางเอกผู้งดงามผงาดกลับมาทวงแค้น+พระเอกคลั่งรักภริยาเยี่ยงสุนัขภักดี] เมื่อชาติก่อน ซูชิงอู่พลาดท่าเชื่อใจชายชั่วกับพี่สาวต่างมารดา เมื่อถูกพวกเขาปั่นหัว นางก็เริ่มคั่งแค้นชายผู้รักนางสุดหัวใจ ต่อมาทารกที่ไม่ทันลืมตาดูโลกก็ดันตายทั้งกลม นางกลายเป็นตัวทดลองชนิดคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง ถูกคู่ชายโฉดหญิงชั่วนั่นทรมานสามปีเต็ม เพื่อช่วยนางแล้ว อ๋องพิการผู้นั้นบุกเข้ากำแพงเมืองหลวงเพียงลำพัง สุดท้ายโดนแร่เนื้อเถือหนังทั้งเป็น… ครานั้นนางถึงได้ตระหนักว่า ใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดรักนางยิ่งกว่าเขา! ซูชิงอู่ท่วมท้นไปด้วยความแค้น นำศีรษะและหัวใจของศัตรูพร้อมใจอันเปี่ยมแค้นของตนกระดดเข้ากองเพลิงลุกโชน โชคดีที่สวรรค์เมตตาให้นางได้ย้อนเวลากลับไปยังเจ็ดปีก่อนได้… นางจึงรีบหอบสินเดิมที่มีอภิเษกสมรสเข้าจวนอ๋อง โผเข้าซบอ้อมอกอ๋องพิการทันที ชาติก่อนเขารักนาง ชาตินี้แปรเปลี่ยนเป็นนางรักเขา ผู้ใดกล้ารังแกท่านอ๋องของนาง มันผู้นั้นจักต้องถูกพิษยกครัว จะไก่หรือสุนัขก็ไม่เว้น กระทั่งต้นหญ้าก็จะถอนให้เหี้ยน! จากนั้นไม่นานข่าวดีก็แพร่มาจากจวนอ๋องเสวียน พระชายาเสวียนให้กำเนิดบุตรถึงสามพระองค์ทีเดียว! 
9.9
930 บท
เซ็ตเรื่องสั้นโรมานซ์อีโรติก20+
เซ็ตเรื่องสั้นโรมานซ์อีโรติก20+
นิยาเซ็ตเรื่องสั้น สำหรับความรักของหนุ่มสาวที่มีช่องว่าระหว่างวัยเป็นตัวแปร การงอนง้อ การบอกรัก เริ่มต้นด้วยการเข้าใจผิด หรือความอยากรู้อยากลองของสาวน้อย ที่จะมาเขย่าหัวใจหนุ่มใหญ่ให้หวั่นไหว เน้นความรักความสัมพันธ์ของตัวละครเป็นหลัก หมายเหตุ เป็นนิยายสั้นหลายเรื่องลงต่อๆกัน เน้นกระชับความสัมพันธ์
คะแนนไม่เพียงพอ
57 บท
ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น
ย้อนชะตากลับมาทวงแค้น
เป็นบุตรสาวที่บิดาไม่รักเอ็นดู มารดาต้องยอมโขกศีรษะก่อนตายให้บิดาเพื่อให้เลี้ยงนางไว้ แม่เลี้ยงรังเกียจ น้องสาวรังแก กระทั่งวันนึงชีวิตต้องพลิกผันเพราะถูกวางยาปลุกกำหนัดตอนออกจวนครั้งแรก...
9.6
60 บท
ผู้หญิงขายตัว
ผู้หญิงขายตัว
ริน หรือ ภวริน ฉันคือผู้หญิงขายตัว มันหน้ารังเกียจใช่ไหม หึ...ใครๆก็บอกว่าฉันมันหน้ารังเกียจ แต่ไม่เคยมีใครถามถึงเหตุผลเลยว่าทำไมฉันถึงต้องมาขายตัวแบบนี้ โลกนี้มันชั่งไม่มีความยุติธรรม "เอาเงินไปแล้วถอดเสื้อผ้ามึงออกซะ" "แต่นี่มันห้องน้ำมหาลัยนะ" "กูไม่สน" ฉันทำท่าคิดก่อนจะหยิบเงินเอามาใส่กระเป๋าแล้วถอดเสื้อผ้าออกจนหมด "จัดการมันให้กูหน่อย" พี่ซันควักท่อนเอ็นออกมาแล้วรูดขึ้นลงตรงหน้าฉัน ฉันนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเป้าพี่ซันแล้วเอามือไปจับท่อนเอ็นของพี่ซันแล้วรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ จากนั้นก็ใช้ปลายลิ้นแตะตรงปลายหัวเห็ดสีชมอ่อนเลียวนไปมาสามสี่รอบ ก่อนที่จะอมลงไปจนมิด "อ๊า~แบบนั้นริน...ซี๊ด~" พี่ซันรวบผมฉันขึ้น
10
178 บท

คำถามที่เกี่ยวข้อง

วอลแตร์ เขียนงานชิ้นใดที่เปลี่ยนแปลงแนวคิดสังคม?

1 คำตอบ2025-11-24 12:13:08
ขอเริ่มจากงานที่โดดเด่นที่สุดของวอลแตร์ซึ่งมักถูกยกให้เป็นงานที่เปลี่ยนแนวคิดสังคม: 'Candide'. งานชิ้นนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องสั้นเสียดสีธรรมดา แต่เป็นการโจมตีความเชื่อเรื่องอุดมคติที่ว่า "ทุกสิ่งเป็นไปเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด" ผ่านการผจญภัยสุดโหดที่แสดงให้เห็นความโหดร้ายของสงคราม ความไร้เหตุผลของการลงโทษ และความ Hypocrisy ของสถาบันศาสนาและชนชั้นนำ ตอนอ่านประโยคที่ว่า 'เราต้องปลูกสวนของเรา' มันเหมือนกับการตบหน้าความคิดแบบตื้นเขินและชวนให้คนธรรมดาเริ่มคิดว่าสิ่งสำคัญคือการลงมือทำเพื่อความเป็นอยู่ ไม่ใช่เอาอุดมคติทื่อๆ มาอ้าง ความเรียบง่ายของสำนวนรวมกับความขบขันทำให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักปรัชญาสามารถเข้าถึงและตั้งคำถามต่อระเบียบสังคมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แนวคิดเสรีภาพทางความคิดแพร่หลายมากขึ้น อีกชิ้นที่มีผลทางสังคมอย่างชัดเจนคือ 'Lettres philosophiques' และ 'Traité sur la tolérance'. งานเขียนเหล่านี้ไม่ได้ผลักดันความคิดทางปรัชญาอย่างลอยๆ เท่านั้น แต่ผสมผสานข้อโต้แย้งเชิงเหตุผลกับตัวอย่างจริง เช่น กรณีคดีของ Jean Calas ซึ่งทำให้วอลแตร์ออกมาร้องเรียนต่อสังคมถึงการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน ผลงานเกี่ยวกับความอดทนและเสรีภาพทางความคิดจึงกลายเป็นเครื่องมือทางสาธารณะ ช่วยเปลี่ยนแนวโน้มความคิดจากการยอมรับอำนาจโดยไม่ตั้งคำถามเป็นการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอำนาจ และเน้นว่ากฎหมายต้องปกป้องผู้กระทำผิดเพราะเหตุผลทางอุดมการณ์ ไม่ใช่เพราะความหวาดกลัวหรืออคติ ความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ของวอลแตร์ไม่ได้อยู่ที่งานชิ้นใดชิ้นหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่คือวิธีที่ผลงานของเขาทำให้ประชาชนสามารถสนทนาเรื่องการเมือง ศีลธรรม และศาสนาได้อย่างเปิดเผย โดยไม่ต้องพึ่งศัพท์เฉพาะหรือบทบรรยายเชิงอภิปรัชญา ตัวอย่างเช่น การใช้เสียดสีใน 'Candide' ทำให้คำวิจารณ์ต่อสงครามและศาสนาเข้าไปถึงผู้อ่านวงกว้าง ส่วนงานเรียกร้องความยุติธรรมใน 'Traité sur la tolérance' มีผลทางปฏิบัติในการกระตุ้นการปฏิรูปคดีความและการตรวจสอบการใช้อำนาจของศาล ผลงานเหล่านี้จึงเป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ทำให้แนวคิดเรื่องเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และการแยกอำนาจของศาสนาออกจากรัฐเริ่มกลายเป็นเรื่องที่สาธารณชนยอมรับมากขึ้น ท้ายสุดแล้ว งานของวอลแตร์ไม่เพียงเปลี่ยนคำพูดของนักปรัชญา แต่เปลี่ยนวิธีที่คนธรรมดาพูดถึงสังคมและอำนาจ ผลงานของเขายังกระตุ้นให้คนรุ่นหลังตั้งคำถามและต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในรูปแบบที่จับต้องได้ ซึ่งนั่นทำให้ผมรู้สึกว่าวอลแตร์ยังคงเป็นนักเขียนที่มีพลังในการปลุกความคิดและสร้างการเปลี่ยนแปลง แม้เวลาในกระดาษจะผ่านไปนานแล้วก็เถอะ

คำถามยอดนิยม

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status