สายลมที่พัดผ่านโคนต้นตะเคียนมักพาเสียงเรื่องเล่าจากริมแม่น้ำมาให้คนในหมู่บ้านฟังตลอดเวลา
ในฐานะคนที่โตมากับการได้ยินเรื่องเล่าจากปากยาย ผมเชื่อว่า
ตำนานนางตะเคียนมีจุดเริ่มต้นจากแถบภาคกลางของไทย โดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยอยู่ตามลำน้ำลำคลองในลุ่มเจ้าพระยาและพื้นที่ใกล้เคียง ต้นตะเคียนเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ชาวบ้านมักเห็นอยู่ริมฝั่งหรือโผล่ขึ้นในท้องนา เมื่อต้นไม้ถูกล้มเพื่อใช้สอยหรือเกิดการขุดลอกคลอง ชาวบ้านมักเล่าว่าพบร่องรอยหรือสิ่งของที่เชื่อมโยงกับวิญญาณ จึงเกิดการให้เกียรติและบูชาแบบพื้นบ้านขึ้นมา
วิถีชีวิตชาวน้ำทำให้ความเชื่อผูกพันกับต้นไม้แน่นหนา พิธีกรรมขอขมาต่อผีต้น ตลอดจนการตั้งหุ่นหรือผ้าผูกโคนไม้ กลายเป็นกิจกรรมร่วมของชุมชนเมื่อมีเหตุการณ์ที่แปลกประหลาด เกร็ดนี้ทำให้ผมเห็นว่าตำนานไม่ได้เกิดจากเรื่องสยองเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการผสมผสานระหว่างสภาพแวดล้อม ความเป็นชุมชน และความจำเป็นในการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
เมื่อลองนึกภาพชาวบ้านเรือลากซุงกลางค่ำคืน เสียงเรือ เสียงน้ำ และเงาของต้นตะเคียน มันไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไมเรื่องเล่าที่ว่ามีนางผู้อาศัยในต้นไม้ จึงฝังแน่นอยู่ในหัวใจของคนภาคกลางและแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ผ่านการอพยพและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ผมยังคงชอบภาพของชุมชนที่รวมตัวกันเล่าเรื่องใต้เงาไม้—ความอบอุ่นแบบนั้นทำให้ตำนานยังคงมีชีวิต