การได้อ่าน '
ปลาบนฟ้า' ครั้งแรกทำให้ฉันตกหลุมรักวิธีที่ผู้เขียนถักทอความเรียบง่ายของชีวิตเข้ากับสัญลักษณ์อย่างปลาและท้องฟ้า ตัวละครหลักในเรื่องคือ 'ฟ้า' หญิงสาวที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ภายในเต็มไปด้วยความฝันและความกล้าหาญ กับอีกคนคือ 'ปลา' ชายหนุ่มที่มีอดีตซับซ้อนและนิสัยเงียบ ๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มจากความใกล้ชิดแบบเพื่อนบ้าน — เป็นสายสัมพันธ์ที่เติบโตผ่านเหตุการณ์เล็ก ๆ ในชุมชน การช่วยกันทำงาน งานวัด หรือการแลกเปลี่ยนความลับกลางคืน กลายเป็นสะพานให้ความไว้วางใจงอกงาม
ในมุมมองของผู้ใหญ่ที่ชอบอ่านงานวรรณกรรม ฉันชอบว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 'ฟ้า' กับ 'ปลา' ไม่ได้ถูกทำให้หวานล้ำจนเกินจริง แต่มีความลุ่มลึกที่เกิดจากการซ้อนทับของบาดแผลในอดีต ความคาดหวังจากครอบครัว และความกลัวการสูญเสีย ฉากหนึ่งที่ยังติดตาคือฉากบนดาดฟ้าเมื่อฝน
พรำ—ภาพปลาตัวเล็กที่ผู้เขียนใช้เปรียบเปรยกับความฝันของตัวละคร ทำให้บทสนทนาระหว่างสองคนมีน้ำหนักมากกว่าแค่
คำสารภาพว่ารัก มันเป็นการแลกเปลี่ยนความหวังและความกลัวมากกว่า
นอกจากความรักระหว่างคู่หลักแล้ว ตัวละครรองอย่าง 'น้องนา' เพื่อนวัยเด็กของฟ้า กับ 'อาจารย์ทิว' ผู้เป็นที่ปรึกษาของปลา ก็มีบทบาทเสริมที่สำคัญ พวกเขาไม่ได้เป็นแค่ปลายเหตุการณ์ แต่กลับเป็นกระจกสะท้อนตัวตนของฟ้าและปลา ช่วยให้เราเห็นการเติบโตทั้งสองด้าน เรื่องราวจบลงด้วยความรู้สึกพอดี ไม่ใช่การคลี่คลายทุกปม แต่เป็นการยอมรับว่าแต่ละคนต้องเดินทางต่อไปในแบบของตัวเอง และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาอบอุ่นและมีชีวิต มันเหมือนภาพปลาที่กำลังบิน ไม่ได้จำเพาะว่าจะต้องลงจอดอย่างไร แค่การได้เห็นมันพยายามก็บอกเล่าเรื่องราวมากมายแล้ว