บอกเลยว่าฉาก
หลุมอุกกาบาตในมังงะบางเรื่องมันมีพลังมากกว่าจำนวนตัวอักษรที่อยู่บนหน้ากระดาษ — มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องราวหรือสะท้อนธีมได้ชัดเจน ตัวอย่างแรกที่เด้งขึ้นมาคือ 'Dr. Stone' ซึ่งใช้ภาพการมาถึงของเหตุการณ์ระดับโลกเป็นตัวตั้งต้นให้เรื่อง คนอ่านเห็นพื้นที่ที่ถูกแช่แข็งไว้และหลุมที่ดูเหมือนจะเป็นศูนย์กลางของเหตุการณ์นั้น ๆ ภาพนั้นทำหน้าที่เป็นทั้งสัญลักษณ์และองค์ประกอบเร้าอารมณ์ สถาปัตยกรรมที่แตกสลาย, เงาที่ยาวของหินที่เรียงกัน — ทุกอย่างช่วยสร้างความรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปชั่วนิรันดร์ และฉากแบบนี้ทำให้ฉันคล้อยตามการวางโทนของเรื่องได้ทันที เพราะมันเชื่อมต่อกับประเด็นการเริ่มต้นใหม่อย่างรุนแรง
ภาพหลุมที่กลายเป็นเวทีประลองก็เป็นประเภทที่ทำให้ใจเต้นได้เช่นกัน ตัวอย่างดี ๆ คือพื้นที่ชื่อ Valley of the End ใน 'Naruto' ตรงนั้นไม่ใช่แค่หลุมใหญ่ธรรมดา แต่มีประติมากรรมยักษ์และร่องรอยของพลังที่ชนกันจนพื้นแยกจากกัน ฉากที่ Hashirama กับ
madara ต่อสู้จนสร้างรอยลึกนั้นถูกใช้อย่างชาญฉลาดเมื่อ Naruto กับ Sasuke กลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ความรู้สึกของการซ้อนทับทางประวัติศาสตร์กับการปะทะของคนรุ่นใหม่ทำให้ฉากหลุมมีน้ำหนักขึ้นมาก และในฐานะแฟน ภาพแผ่นดินที่ถูกฉีกออกเป็นสัญญะของความขัดแย้งทำให้ฉันอินกับทั้งมิติบู๊และมิติอารมณ์พร้อมกัน
มุมมองตรงกันข้ามคือหลุมที่กลายเป็นสถานที่สำคัญของการสำรวจ เช่น '
made in abyss' ที่เปลี่ยนแนวคิดหลุมอุกกาบาตให้กลายเป็นช่องทางสู่โลกใหม่ เหมือนหลุมยุบลงเป็นชั้น ๆ ของความลับและอันตราย การออกแบบชั้นทางภูมิศาสตร์ที่ลงลึกและการบรรยายรายละเอียดของสิ่งมีชีวิตหรือซากโบราณภายในชั้นล่างทำให้ผมรู้สึกว่าหลุมไม่ใช่แค่ฉากหลัง แต่มันคือหัวใจของเรื่อง ในทางฝั่งมังงะแอ็กชันอย่าง '
dragon ball' หลุมจากการระเบิดของพลังหรือคลื่นพลังงานก็ทำหน้าที่บอกขนาดของพลังนักสู้ การยิงคลื่นที่ทำให้ดินแยกจนเป็นหลุมขนาดใหญ่กลายเป็นวิธีภาพแทนพลังทำลายล้างที่ทรงพลังที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีมังงะที่ใช้หลุมหรือร่องรอยการชนเป็นสัญญะของภัยคุกคามระดับมหภาค เช่น 'Gantz' ที่ฉากการมาถึงของสิ่งต่างด้าวมักทิ้งรอยหลุมเป็นหลักฐานของความรุนแรง และ 'Knights of Sidonia' ที่ภูมิหลังการปะทะของอวกาศทำให้จุดกระทบกลายเป็นเรื่องโชคชะตาของมนุษยชาติ การเลือกใช้หลุมในแต่ละเรื่องมีความแตกต่างทั้งหน้าที่และอารมณ์ — บางเรื่องเป็นสัญลักษณ์เริ่มต้น บางเรื่องเป็นสนามรบ และบางเรื่องเป็นประตูนำไปสู่ความลึกที่น่ากลัว นี่แหละคือเสน่ห์ขององค์ประกอบเดียวกันที่ถูกนำไปใช้หลากหลายแบบ ทำให้ฉันยิ่งหลงรักการสังเกตรายละเอียดเล็ก ๆ ในหน้ากระดาษทุกครั้ง