แทร็กเปิดของ '
จะรักหรือจะร้าย' มักจะเป็นเพลงแรกที่คนจำนำมาเล่าเมื่อพูดถึง OST ของเรื่องนี้ เพราะมันจับคาแรกเตอร์และโทนของซีรีส์ได้ทันที
แทร็กเปิดที่ผมชอบไม่ใช่แค่เพราะเมโลดี้ติดหู แต่เป็นเพราะการเรียบเรียงที่ผสมเสียงสตริงกับกีตาร์โปร่ง ทำให้ทั้งความหวังและความระแวดระวังแผ่ซ่านในเวลาเดียวกัน ส่วนตัวแล้วผมมองว่าเพลงนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคู่พระ-นาง เพราะทุกครั้งที่ฟังจะเห็นภาพซีนเปิดเรื่องในหัวตามไปด้วย เพลงเปิดแบบนี้ถูกหยิบไปคัฟเวอร์ในงานไลฟ์และคลิปสั้น ๆ บนโซเชียลบ่อยจนคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้ดูซีรีส์แต่ได้ยินเพลง ก็ยังจำได้
อีกแทร็กหนึ่งที่คนอินกันหนักคือบัลลาดช้าตอนสารภาพรัก — เสียงร้องใส ๆ ผสมกับเปียโนเรียบง่ายทำให้เนื้อร้องที่ค่อนข้างตรงถึงใจคนฟังกลายเป็นมุมน้ำตาในหลายฉาก สำหรับผมฉากที่เพลงนี้เล่นคือโมเมนต์ที่ความจริงถูกเปิดเผย ทุกอย่างเงียบลง เหลือเพียงน้ำเสียงและ
บทเพลง เพลงแบบนี้มักโดนดึงมาใช้ซ้ำในมอนทาจความทรงจำ ซึ่งทำให้ผู้ฟังเชื่อมโยงความหมายใหม่ ๆ ได้ทุกครั้งที่ได้ยิน
สุดท้ายยังมีธีมอินสตรูเมนทัลสั้น ๆ ที่ใช้ก่อนเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ เพลงแนวนี้อาจไม่โดดเด่นเมื่อฟังแยกเดี่ยว แต่เมื่อประกอบกับภาพมันกลายเป็น 'เจ้าของความรู้สึก' ของฉากนั้นไปเลย ผมมักจะเก็บธีมสั้น ๆ พวกนี้ไว้ในเพลย์ลิสต์เวลาต้องการความคิดสร้างสรรค์หรือการโฟกัส เพราะมันสื่ออารมณ์ได้โดยไม่ต้องมีคำพูด สรุปก็คือ OST ยอดนิยมของ 'จะรักหรือจะร้าย' จะเป็นชุดเพลงที่ผสมระหว่างเพลงเปิดติดหู บัลลาดชั่วขณะสะเทือนใจ และธีมสั้น ๆ ที่เติมจังหวะให้เรื่อง ทั้งสามแบบทำงานร่วมกันจนกลายเป็นเสียงจำของซีรีส์ในท้ายที่สุด