เจอคำถามแบบนี้แล้วรู้สึกอยากลงรายละเอียดให้ครบถ้วนเลย
ผมเป็นคนชอบสะสมไฟล์เสียงอ่านเก่า ๆ อยู่พอสมควร ฉะนั้นเมื่อพูดถึงไฟล์เสียงอ่าน '
เพชรพระอุมา' เล่ม 1 ตอนที่ 48 ระบบไฟล์ที่มักเจอได้บ่อยจะมีตั้งแต่แบบบีบอัดแบบมีการสูญเสียข้อมูล (lossy) อย่าง MP3 และ AAC/M4A ไปจนถึงแบบไม่สูญเสียข้อมูล (lossless) อย่าง FLAC หรือ WAV. MP3 มักพบในบิตเรตหลายระดับ เช่น 64 kbps (มักเป็น mono สำหรับเสียงอ่านเพื่อประหยัดพื้นที่), 128–192 kbps (คุณภาพพอใช้สำหรับเสียงพูด) และ 256–320 kbps (ใกล้เคียงคุณภาพสูง). AAC/M4A ให้คุณภาพต่อบิตที่ดีกว่า MP3 เล็กน้อยและมักใช้กับร้านขายเสียงออนไลน์บางแห่ง.
นอกจากนั้นจะพบ WAV (PCM 16-bit/44.1 kHz) เมื่อเป็นการแปลงจากแผ่นซีดีหรือไฟล์ต้นฉบับเพื่อการเก็บรักษา เพราะเป็นไฟล์ที่ไม่บีบอัดและเก็บรายละเอียดเสียงได้เต็มที่ ส่วน FLAC จะได้รับความนิยมเมื่อคนต้องการสำรองต้นฉบับแบบไม่เสียคุณภาพแต่ต้องการลดขนาดลงบ้าง เพลงหรือเสียงเล่าเรื่องบางครั้งจะถูกเก็บใน OGG Vorbis หรือ Opus สำหรับสตรีมมิ่งที่มุ่งประหยัดแบนด์วิดท์โดยรักษาคุณภาพให้ดีพอสำหรับเสียงพูด
ผมมักให้ความสำคัญกับการตั้งค่าช่องสัญญาณและบิตเรตสำหรับหนังสือเสียง: หากเป็นเสียงพูดล้วน ๆ mono ที่ 64–96 kbps ก็ถือว่าเพียงพอและขนาดไฟล์จะเบา แต่ถ้าต้องการให้เสียงมีมิติหรือมีดนตรีประกอบ ก็เลือก stereo และบิตเรตสูงขึ้นหรือแม้แต่ FLAC เพื่อเก็บรายละเอียด สำหรับคนที่ดาวน์โหลดจากบริการเชิงพาณิชย์ อาจเจอไฟล์ที่มี DRM ในรูปแบบเฉพาะ (เช่นแพ็กเกจของแพลตฟอร์มหนึ่ง ๆ) ซึ่งจะจำกัดการเล่นบนอุปกรณ์บางอย่าง สรุปคือ ถ้ามองหาความสะดวก MP3/M4A เป็นคำตอบที่พบได้บ่อย หากเน้นคุณภาพเก็บถาวร FLAC หรือ WAV จะเหมาะกว่า — ส่วนผมมักเก็บสำรองแบบ FLAC แล้วทำรุ่น MP3 ไว้ฟังบนมือถือเพื่อความคล่องตัว