เมื่อความจำเป็นบีบบังคับทำให้ ปารดาต้องแต่งงานเพื่อรักษาชีวิตของพ่อ ความกตัญญูที่มีพาให้เธอต้องเจอเรื่องยุ่งยากลำบากใจ แต่ก็ต้องจำ ส่วนชนาวินก็ต้องทำตามคำสั่งของพ่อ และตอบแทนบุญคุณของแม่ที่เป็นโรคหัวใจ เมื่อไม่อาจจะขัดขืนก็จำต้องทำตามหน้าที่ของแต่ละคน นอกจากความเป็นที่ต้องแต่งงาน ปารดาก็ยังมีความจำใจที่ต้องกลายมาเป็นคนงานในไร่ห่างไกลผู้คน เพียงเพราะชนาวิน คนที่ขึ้นชื่อว่า 'สามี' อยากจะกลั่นแกล้ง'ภรรยา' ที่ถูกประกาศิตให้ต้องแต่งงานกัน
view more"หายไป! หมายความว่ายังไงที่ว่าหายไป"
เสียงกึ่งตะโกนดังขึ้นทันทีพร้อมกับร่างสูงสมส่วนของพ่อเลี้ยงชนะพลผุดลุกจากที่นั่ง
เจ้าของไร่ส้มมีชื่อในจังหวัดเชียงใหม่เอ่ยเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ เขากำลังหัวเสียกับการเจรจาที่ไร้ผลเมื่ออีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยว่าลูกสาวคนโตที่หมายมั่นจะให้แต่งงานกับลูกชายของตนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
"ฉันขอโทษนะ เราพยายามหาตัวยัยปาล์มแล้ว แต่ว่ายังหาไม่เจอ" คำตอบของธีรยุทธยิ่งทำให้ชนะพลกำหมัดแน่น ทั้งโกรธทั้งเสียหน้า
"ฉันไม่สนใจหรอกนะ นายจะทำยังไงก็ได้ลูกชายฉันจะต้องมีเจ้าสาว"
"แต่ว่า..." ธีรยุทธกำมือแน่นข่มความกลัวที่มีในใจ
มันเรื่องบ้าอะไร ในเมื่อตกลงกันไว้แล้ว แต่ปารมีที่รับปากจะช่วยดันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม้จะให้คนออกตามหามาสองสามวันแล้วก็ไม่พบไม่มีใครเห็นหรือรู้เลยว่าลูกสาวของเขาหายไปไหน
คู่ควงของปารมีเองก็ยังไม่รู้ว่าปารมีหายไป เขาคิดว่าเธอแค่งอนและเงียบไปเพราะเป็นแบบนั้นบ่อย
แต่ธีรยุทธเจอจดหมายที่ทิ้งข้อความไว้ว่า 'หนูไม่มีทางแต่งงานกับไอ้บ้านนอกนั่น' แค่นั้น
"ฮึ! ในเมื่อคนโตไม่อยู่ ก็คนเล็กไง ปารดาน่ะเรียนจบพอดีไม่ใช่เหรอ ถ้าหาปารมีไม่เจอ ก็เอาตัวปารดามาแทนสิ"
น้ำเสียงเยือกเย็นของชนะพลทำให้ธีรยุทธตาเหลือกโปนเมื่อเขาเอ่ยถึงธิดาคนเล็ก ปารดานั่นหรือ ไม่ได้หรอก เธอยังเด็กเกินไปที่จะต้องมาทำอะไรแบบนั้น
"แต่ยัยป่านยังเด็กนะ คือ...คือ ฉันขอเวลา"
"ได้ ให้เวลาถึงพรุ่งนี้เที่ยง ฉันต้องได้คำตอบรู้ใช่ไหมจะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีเจ้าสาวให้ลูกฉัน ไปเกริก"
ชนะพลออกคำสั่งเสียงดังลั่งห้องอาหารที่จองเอาไว้เป็นส่วนตัว ใบหน้าเรียบขึงตั้งข้อเสนอเพื่อเป็นตัวเลือกให้อีกคน ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปพร้อมลูกน้องคนสนิทและเหล่าลูกน้องอีกสี่ห้าคน
ธีรยุทธถึงกับหน้าถอดสี มือไม้สั่นเหงื่อแตกพลั่ก จะทำยังไงดี จะทำยังไง
ในตอนแรกชนะพลเรียกร้องขอให้ส่งลูกสาวไปแต่งงานกับลูกชายของเขา เขาเลือกปารมีเพราะสวยและเก่ง นั่นทำให้ธีรยุทธจำใจต้องตกลงและพูดคุยกับลูกสาวคนโตจนรู้เรื่อ
ในคราแรก ปารมีจะไม่ยอมเพราะมีคนรักอยู่แล้ว แต่ธีรยุทธนั้นไม่ชอบว่าที่ลูกเขยอย่างธนนท์ที่ทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพายเอาแต่เที่ยวหัวราน้ำและใช้เงินไปวันๆ ก็เลยเห็นโอกาสจะจับปารมีใส่ตะกร้าล้างน้ำส่งไปเป็นเจ้าสาวของชนาวิน ลูกชายคนเดียวของชนะพลที่ใครๆต่างก็รู้ว่าร่ำรวยและมีอำนาจมากแค่ไหน
ธีรยุทธขอให้นภาภรรยาช่วยเกลี้ยกล่อมจนปารมีนั้นยอมตกลงที่จะแต่งงาน
เขาจึงโทรไปแจ้งชนะพล ได้ความว่างานแต่งงานจะเกิดขึ้นเงียบๆในอีกสามวันที่จะถึง จะไม่มีพิธีรีตองอะไรแค่สวมแหวนและจดทะเบียนกันเท่านั้น แต่แล้ว ปารมีกลับหายตัวไป และตอนนี้ปารดาคือทางเลือกเดียวที่ธีรยุทธมี
เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาในบ้าน ปารดาที่กำลังนั่งเย็บเสื้ออยู่รีบวางข้าวของเดินออกไปรับบิดาที่หน้าบ้านในทันที
"คุณพ่อ เหนื่อยไหมคะ" ปารดารับเอาเสื้อสูทและกระเป๋าเอกสารมาถือไว้ รอยยิ้มอ่อนโยนของลูกสาวคนเล็กยิ่งตอกย้ำว่าไม่ควรทำผิด แต่เขาจะทำอย่างไนได้ในเมื่อ เขาเป็นคนก่อขึ้นมาทุกอย่าง
"พ่อขอไปพักแป๊บนึงนะ ค่อยลงมาทานข้าว" ธีรยุทธบอกลูกสาวด้วยความเหนื่อยอ่อน
ร่างท้วมเดินเอื่อยๆขึ้นไปด้านบนห้องพักบนชั้นสองของบ้าน ปารดามองตามบิดาไปด้วยความคิดที่หลากหลาย วันนี้พ่อดูเหนื่อยจนทำให้เธออดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“เอาน้ำเย็นไปให้ดีกว่า พ่อจะได้สดชื่น”
เจ้าของร่างเล็กผมบางเดินตัวปลิวเข้าไปในครัว รินน้ำเย็นๆใส่แก้วแล้วเดินตามบิดาขึ้นไป
แอ๊ด.... เสียงประตูเปิดออกกว้าง พร้อมๆกับดวงตาที่เบิกโพง มือไม้เริ่มสั่นจนเกือบทิ้งถาดในมือเมื่อภาพตรงหน้าที่กำลังเห็นคือบิดาเอาปืนจ่อที่ศีรษะตัวเอง
“คุณพ่อ!” ปารดาตะโกนลั่น วางถาดลงที่โต๊ะใกล้ตัวถลาเข้าไปหาบิดาและคว้าที่แขนเอาไว้
“อย่าค่ะ อย่าทำ เกิดอะไรขึ้น คุณพ่อ บอกหนูบอกหนูสิคะ อย่าทำแบบนี้ ฮือ” ปารดาละล่ำละลักพูดออกมา ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ ไม่ต่างกันกับธีรยุทธที่หมดอาลัยน้ำตาไหลอาบแก้ม ก้มมองลูกสาวที่กอดรัดตัวเองเอาไว้พร้อมปัดปืนกระบอกนั้นออกไปให้ไกลตัว
“พ่อมันเลว พ่อไม่ดีเองลูก พ่อหมดหนทางแล้วจริงๆ” แม้ไม่มีเสียงสะอื้น แต่น้ำตาที่นองหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี ธีรยุทธในเวลานี้อ่อนแอและหมดหนทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
“ฮือ...คุณพ่อขา บอกหนูสิคะ เกิดอะไรขึ้น อย่าทำแบบนี้ แล้วหนูจะอยู่กับใคร” ปารดาสะอื้นไห้ ทั้งกอดทั้งเขย่าร่างของบิดาไปมา เธอไม่รู้หรอกพ่อมีเรื่องกลุ้มใจอะไรถึงขนาดจะปลิดชีพตัวเองแบบนี้ แต่ปารดาคิดว่าทุกปัญหามีทางออก และเธอพร้อมจะสู้ไปกับพ่อของเธอ
“ไม่ได้ หนูช่วยไม่ได้ พ่อไม่อยากดึงหนูเข้ามาเกี่ยวอย่าให้พ่อต้องรู้สึกผิดมากไปกว่านี้เลยนะ”
มือหนาที่สั่นเทาเอื้อมแตะแก้มลูกสาวเบาๆ ปารดาเป็นเหมือนแก้วตาดวงใจ เป็นความรักทั้งหมดที่ธีรยุทธมี เขาไม่อายเลยหากจะพูดว่ารักปารดามากกว่าปารมี เพราะปารดาไม่เคยทำอะไรให้เขาต้องหนักใจ เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย จนเขาไม่อาจจะดึงให้ลูกลงมาตกต่ำไปกับเขาด้วย
“คุณพ่อขา บอกหนูนะ มันเกี่ยวกับที่พี่ปาล์มหายตัวไปหรือเปล่า มันเรื่องอะไรกันเหรอ ให้หนูช่วย นะคะ ให้หนูได้ตอบแทนบุญคุณ” ปารดาถามพ่อสะอึกสะอื้นน้ำตายังไหลอาบแก้มขาว เธอไม่ค่อยรู้เรื่องบริษัทของพ่อเท่าไหร่ รู้เพียงเราทำธุรกิจส่งออกหลายอย่าง
พ่ออยากให้ปารดาเรียนบริหาร ปารดาก็ทำตามอย่างว่าง่าย จบมาหมาดๆพร้อมจะช่วยงานในบริษัท แต่พ่อบอกให้รอก่อน อยากให้ได้พักหลังเรียนจบ ปารดาไม่ขัดข้อง ที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย แต่ตอนนี้ดูเหมือนพ่อของเธอกำลังทุกข์หนัก เธอจะอยู่เฉยได้อย่างไร
“ป่านลูก” เรียกลูกสาวเสียงแผ่ว ปารดาเป็นเด็กกตัญญู เธอถูกเลี้ยงมาโดยคุณยายของเธอ เพราะแม่จากไปตั้งแต่แรกเกิด ความคิดความอ่านย่อมแปลกแตกต่างจากปารมีคนพี่ที่ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจอยากได้อะไรก็ต้องได้ ถึงจะสวยและฉลาด แต่ความเห็นแก่ตัวก็มีมากจนทำให้เกิดเรื่องบ้าๆนี่ขึ้น
“ให้หนูช่วยนะคะ อะไรที่คุณพ่อให้พี่ปาล์มทำ หนูจะทำมันเองนะคะ แค่บอกหนู หนูจะทำทุกอย่างแทนพี่ปาล์มเอง คุณพ่ออย่าคิดสั้นอีกนะคะ อย่าทำอีก” ปารดากรีดร้องอย่างน่าสงสาร ทั้งชีวิตเธอมีแค่พ่อและยายที่คอยรักคอยดูแลอย่างดี เธอเสียยายสุดที่รักไปแล้ว เธอจะไม่ยอมเสียพ่อไปอีก
“ป่านลูก หนูจะทำจริงๆเหรอ” ธีรยุทธมองลูกสาว ใจเขาไม่อยากให้ปารดาต้องมาร่วมรับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำเลยแม้แต่นิด
“หนูจะทำเองค่ะ แต่คุณพ่อต้องบอกหนูทุกอย่าง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” สีหน้าปารดามุ่งมั่นจนธีรยุทธรับรู้ได้ถึงความตั้งใจจะช่วย ที่ผ่านมาปารดาเหมือนเด็กเล็กๆที่ต้องคอยดูแล เขาไม่รู้เลยว่าลูกสาวของเขาเติบโตมาได้อย่างเข้มแข็งและพร้อมจะต่อสู้กับอุปสรรคได้มากขนาดนี้
“อื้ม พ่อจะเล่า”
...ติดตามตอนต่อไป...
ทั้งคู่มาเล่นกับหลานอยู่คู่ใหญ่ และกลับไปทำงาน ปารดาพาลูกๆเข้าบ้าน ปล่อยเด็กๆให้คลานบนเสื่อที่ปูเตรียมไว้ และมีคอกล้อมขนาดกว้างขวาง มีของเล่นที่ไม่เป็นภัยอยู่ในนั้น ทั้งสองแบ่งกันเล่น ตีกันบ้างแต่ก็ไม่หนักหนาอะไร"พี่โรมอย่ากัดน้องลูก" ปารดาหน้าเหวอที่คนพี่เริ่มจับแขนคนน้องมางับ"น้องรันอย่าดึงผมโรมพี่ค่ะ" เสียงร้องห้ามของคนเป็นแม่ดังเป็นระยะ ชนาวินที่เดินเข้ามาพร้อมป่าสนต้องอมยิ้มกับความยุ่งเหยิงของสองเสือ"วิถีลูกผู้ชายไงครับที่รัก ตีกันบ้างไม่เป็นไรหรอก" เขาเข้ามาโอบไหล่เอาไว้"พี่โรมก็งับน้องจังเลยค่ะฟันก็ไม่มี ไม่รู้คิดอะไรนะคะ สงสัยคันเหงือก" ปารดาฟ้อง"น้องก็แสบนะนั่น ดึงผมพี่แบบนั้น" ชนาวินหัวเราะออกมา"แสบทั้งคู่แหละค่ะ" ปารดาขำออกมาบ้าง"คุณหนูครับ เล่นอันนี้ไหมเอาอันนี้ไหม" คนที่ดูจะเห่อไม่น้อยไปกว่าใครก็ป่าสนนี่แหละ ตั้งแต่ที่สนามบินก็เล่นกับคุณหนูของเขาไม่หยุด นี่ก็ถึงกับปีนเข้าไปนั่งเล่นกับสองหนุ่มทำตัวเหมือนพี่เลี้ยงเด็กก็ไม่ปาน"มอบหน้าที่พี่เลี้ยงให้เลยแล้วกันนะป่าสน" เจ้านายพูดแบบนี้ป่าสนมีหรือจะไม่รับ"ได้เลยครับพ่อเลี้ยง คุณหนูครับ พี่เลี้ยงป่าสนมาแล้ว"ปารดากับชนา
ใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลไม่กี่วันปารดาก็ได้กลับบ้าน เธอกำลังให้นมแฝดคนพี่ในอ้อมแขน ขณะที่คนน้องนอนรออยู่ในเบาะ พอคนพี่อิ่ม เธอก็ส่งให้กับสามีและอุ้มคนน้องมาเข้าเต้า ชนาวินมีหน้าที่ทำให้ลูกเลอออกมา ก่อนจะมองเมียให้นมลูกด้วยความทึ่ง แล้วยังจะตอนที่ปารดาปั๊มนมไว้ให้ลูกจนเต็มตู้ไปหมด"สุดยอดคุณแม่จริงๆ" ชนาวินพูดขึ้น"แค่ให้นมลูกเองค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วย" เธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ชนาวินเดินมาหอมที่หัว เขาไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบาย เขาอยากขอบคุณผู้หญิงคนนี้ที่ยอมอุ้มท้องเจ้าแฝดมาตั้งเก้าเดือน มีเรื่องงอแงหงุดหงิดกันบ้างแต่ก็ยังอดทน ไม่ได้กินของที่ชอบ ไม่ได้ทำอะไรที่อยากทำ แล้วก็ยังต้องให้นมลูก นอนไม่เป็นเวลาจื่นกลางดึก ปารดานั้นเป็นสุดยอดคุณแม่จริงๆ"มาขอแม่อุ้มบ้าง มาหาย่านะคะพี่โรม" รังรองรับเอาคนพี่ไปอุ้มไว้"กินนมอิ่มแล้วก็หลับเลยเหรอเสือ" ชนะพลแซวหลานชาย"วัยกำลังโตครับพ่อ อย่าแซวสิ อิ่มแล้วก็นอนไง ปกติ" ชนาวินแก้ตัวแทนลูกชาย"จะเป็นลูกหมูก่อนสิ" อดที่จะแซวอีกไม่ได้"เฮียคะเรียบร้อยค่ะ" ปารดามองทุกคนแล้วยิ้มให้ ก่อนจะส่งคนน้องให้กับสามี แล้วจัดการปั๊มนมต่ออีกหลายถุง"ให้กินไปจนโตเลยนะ" รัง
เขาทบทวนมาหลายวันหลังจากทราบเรื่อง มันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ก่อนหน้านั้นชนะพลส่งคนไปเฝ้าดู ด้วยกลัวว่าอีกคนจะเจ็บแค้นจนคิดจะทำร้ายปารดาขึ้นมาหรือเปล่า แต่เท่าที่ได้รับรายงาน พาขวัญเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเธอเสียใจร้องไห้งานการไม่ทำให้ลูกจ้างเป็นคนจัดการทุกอย่างภายในร้าน เมาหัวราน้ำทุกวันชนะพลเข้าใจได้ว่าคนอกหักมักจะเสียศูนย์ แต่ผ่านมาร่วมสี่เดือน พาขวัญกลับยิ่งแย่ลง ลูกค้าเริ่มลดลง แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ ไฟไหม้ร้านขนมของเธอและเธอก็บาดเจ็บสาหัส“ผมพยายามแล้วพ่อ ผมพยายามทำให้เขาตัดใจแต่เขาดื้อมาก เขายึดมั่นว่ารักผมและไม่ยอมง่ายๆ ถึงแม้ว่าผมจะพูดไปตรงๆเขาก็ยังไม่ยอมแพ้” ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ในสวน สีหน้าเคร่งเครียดและรู้สึกผิด เขารู้ทุกอย่างเพราะพาขวัญทำตัวเอง แต่เขาก็เป็นต้นเหตุเช่นกัน“พ่อจะบอกแกให้นะ เราไปกำหนดชีวิตใครไม่ได้ แกอาจจะเป็นสาเหตุ แต่นั่นมันจบแล้ว และเรื่องหลังจากนั้นต่างหาก ที่พาขวัญไม่ยอมรับความจริง ทำตัวเองให้กลายเป็นขี้เมาแล้วทำให้ตัวเองบาดเจ็บ”“ขวัญรักษาตัวที่ไหนครับ”“รพ.จังหวัด”“ผมอยากไปดูเธอ”“วิน ที่พ่อบอกแก เพราะพ่อไม่อยากปิดบัง แต่พ่อว่าตอนนี้ไ
หลังจากรู้ว่าได้ลูกแฝด คุณพ่อขี้เห่อก็เอาใจใส่ดูแลภรรยาและลูกเป็นอย่างดี ดีจนปารดาจะเสียนิสัยและต้องคอยห้ามเอาไว้ตลอดเวลา ชนาวินทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ปารดาสบายที่สุดท้องลูกแฝดไม่เหมือนท้องปกติ ขนาดท้องที่ใหญ่โตกว่าทำให้คนตัวเล็กๆอย่างปารดามีความเสี่ยงมาก“ไหนหลานปู่ ดิ้นไหมวันนี้” ชนะพลเดินทางมาจากเชียงใหม่เดือนละครั้งเพื่อเยี่ยมลูกๆและหลานชาย ยิ่งตอนนี้เขาต้องอยู่ที่ไร่คนเดียวเพราะรังรองมาคอยดูแลคุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดที่กรุงเทพฯ มันทำให้เขาเหงาที่ต้องห่างจากลูกเมีย“ดิ้นเก่งมากค่ะ ไม่รู้คนพี่หรือคนน้อง” ปารดาท้องใหญ่เธอเอนตัวใช้มือหนึ่งลูบท้องอีกมือดันหลังไว้“พ่อเอาส้มมาฝากด้วยนะ” ชนะพลค่อยๆวางมือลงที่ท้องนูน เหมือนแฝดจะรับรู้ว่าปู่มา ยันเท้าทักทายเป็นการใหญ่“เจ้าแสบของปู่ ทักทายกันหน่อยทักทายกันหน่อย” รอยนูนเป็นรูปฝ่าเท้าเล็กๆยันขึ้นมา คนเป็นปู่ย่ายิ้มหน้าบาน“รู้จักเอาใจคนแก่แต่ในท้องเลยนะ” สุรเดชว่า เขามักจะมาเล่นกับเหลนเป็นประจำนั่นคือความสุขของเขาในวัยเกษียรแบบนี้“เจ็บท้องบ้างหรือยัง นี่จะครบกำหนดแล้วใช่ไหม” ชนะพลลูบเบาๆที่ท้องของปารดา“เริ่มมีบ้างแล้วค่ะ เหมือนเจ็บเตือน”“คล
หลังจากวันนั้นชนาวินก็เริ่มทำกายภาพบำบัด เขาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลราวสองสัปดาห์ก่อนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่ต้องมาทำกายภาพจนกว่าจะครบชั่วโมงที่หมอกำหนด"อีกนิดนะคะ" นักกายภาพกำลังช่วยหัดเดินให้กับชนาวิน คงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าเขาจะเริ่มเดินได้คล่องแคล่วเช่นเดิมปารดายืนมองชนาวินทำกายภาพด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึกทุกครั้ง เหมือนเธอยืนตรงนั้นแทนที่เขาและพยายามจะก้าวเดินออกไป เธอไม่เคยเหนื่อยที่จะช่วยเขาเลย บีบนวดขาให้เขาในทุกๆวันเพื่อให้กลับมาเดินได้อย่างรวดเร็วชนาวินเริ่มกลับมาเดินได้แต่ต้องใช้ไม้ค้ำเพื่อทรงตัว แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากจากก่อนหน้า เขาขยันทำกายภาพและฝึกเดินตลอดจนวามารถกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน แต่ยังไม่วามารถวิ่งหรือทำกิจกรรมหนักๆได้มากเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาชนาวินต้องข้ามผ่านความเจ็บปวดและจิตใจของตัวเองโดยมีลูกกับเมียเป็นเป้าหมาย เขาคิดว่าคงไม่ดีแน่หากไม่สามารถพาลูกวิ่งเล่นในสนามได้"ร่างกายคุณฟื้นตัวเร็วมากครับ ผมยินดีกับคุณด้วยนะครับคุณหายเป็นปกติแล้ว" หมอยิ้มให้อย่างยินดี"คือผมหายดีแล้วเหรอครับ""ใช่ครับ จากที่ทดสอบวันนี้ผ
"เฮียจะสงสารเขาหนูเข้าใจ แต่ทำแบบนี้เขาก็ยิ่งแทรกกลางระหว่างเรา มันก็ไม่จบสักที" ปารดายังบ่นเรื่องของพาขวัญ และชนาวินก็หมดโอดาสแก้ตัวเพราะเรื่องมันเกิดจากเขาทั้งนั้น"เฮียบอกแล้วไงคะ ขวัญเขาไม่ใช่คนไม่ดีอะไรที่เขาทำแบบนั้นเพราะเขารักพี่มากก็แค่นั้น""นี่แก้ตัวแทนเหรอ ใช่สิคะ เฮียกับคุณขวัญรู้จักกันมาก่อน รักกันมาก่อน หนูมันคนอื่น" กอดอกแน่นทำปากคว่ำ บอกให้รู้ว่าไม่พอใจ"ที่รักครับ มันไม่ใช่แบบนั้น" คนบนเตียงกอดเธอเอาไว้หลวมๆ คนน้องนั่งหันหน้าออกไปที่ประตู ชนาวินไม่รู้จะต้องพูดยังไงเพื่อให้อีกคนหายโกรธ"มันเป็นแบบนั้นแหละค่ะ เฮียเข้าข้างเขาเพราะรู้จักกันมานานทั้งที่เฮียก็เห็นว่าเขาไม่ใช่คนที่เฮียเคยรู้จัก ผู้หญิงคนนั้นดูถูกหนู ข่มขู่หนู ทำให้หนูเสียใจ แต่เฮียก็ยังเข้าข้าง ปล่อยค่ะหนูจะกลับ" ดิ้นหนีจะลงจากเตียง แต่ชนาวินไม่ยอม"ไม่เอาสิคะถ้าหนูกลับไปทั้งที่เรายังทะเลาะกันแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ" เขาพยายามพูดเสียงอ่อน เพื่อให้อีกคนเย็นลง"ถ้าเฮียยังเข้าข้างคุณขวัญ มันก็ไม่มีวันจบหรอกค่ะ" เธอพูดเสียงแข็ง ปัญหาที่ตอนนี้ยังทะเลาะกันมันเพราะชนาวินยังพูดจาปกป้องพาขวัญทั้งที่ก็เห็นว่าอีกคนทำอะไรเอ
เช้าอีกวัน พาขวัญที่คิดจะไปตั้งแต่แรกต้องวิ่งวุ่นตามพยาบาลสามสี่รอบเพื่อจัดการกับชนาวิน ชายหนุ่มมีอาการท้องเสียงจากยาที่ได้รับและนั่นทำให้พาขวัญรับไม่ได้ แต่เธอก็ยังพอจะช่วยเช็ดตัวให้ได้"พี่วินนิ่งๆสิคะ" พาขวัญเผลอดุเมื่อชนาวินปัดป้องไปมา พยาบาลบอกว่ามันเป็นการตอบโต้จากภาวะสมองเมื่อมีคนแตะตัวเขาแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมือของชนาวินปัดเอาอ่างน้ำหกเลอะเทอะและรดที่ตัวของพาขวัญด้วย"พี่วิน! ขวัญบอกให้อยู่เฉยๆไงคะ น้ำหกหมดแล้วเนี่ย" หญิงสาวตวาดลั่นอย่างลืมตัว ชนาวินชะงักไปกับท่าทีเกรี้ยวกราดนั้น พาขวัญหงุดหงิดก้มมองตัวเอง คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน"พี่ขอโทษ ขวัญพอเถอะนะ" เขาพูดออกมาเบาๆ "ขวัญไม่เหมาะที่จะดูแลคนป่วยหรอก พี่ขอโทษ ขวัญพอนะ""ช่างเถอะค่ะ ขวัญไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ"เธอไม่ฟังที่เขาพูดตอบกลับมาเสียงห้วน แล้วเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ชนาวินกดเรียกพยาบาลเข้ามา เขายินดีจ่ายให้กับแม่บ้านเพื่อทำความสะอาดพื้นที่เปียกพาขวัญออกมาก็เห็นพยาบาลกำลังจัดการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ ชนาวินนั่งอยู่บนรถเข็นเรียบร้อยแล้ว"พี่วินเรียกพวกเขาเหรอคะ" พาขวัญมองทุกคนที่กำลังทำหน้าที่ของตัวเอง"
/ถ้าเขาเดินไม่ได้ ฉันจะหย่าให้/คำพูดของปารดาแล่นเข้ามาในหัวของพาขวัญไม่หยุด ตอนนี้เธอเดินเป็นหนูติดจั่นอยู่ที่หน้าห้อง เพราะต้องการใช้ความคิด เฝ้าถามตัวเองตลอดเวลา เธอกำลังทำอะไรอยู่ เธอรักเขา เพราะงั้นเธอต้องรับให้ได้ นั่นคือที่เธอต้องทำ แต่ทำไมถึงได้รู้สึกสับสนจนเหมือนกำลังวิ่งวนในอ่างแบบนี้กันพาขวัญพาตัวเอง ออกมานั่งเงียบๆที่ร้านกาแฟด้านล่าง เธอหยิบโทรศัพท์กดหาเพื่อนเพื่อปรึกษา และแน่นอนเพื่อนบอกให้ถอยออกมาเพราะเพื่อนรู้ว่าเธอคงรับไม่ได้หากชนาวินเดินไม่ได้จริงๆใช้เวลาอยู่นาน พาขวัญตัดสินใจที่จะยืนหยัดต่อความรักที่เธอมีต่อชนาวิน และกลับไปหาเขาที่กำลังสิ้นหวังกับการเดินไม่ได้"ป่านอย่าทิ้งเฮียไปเลยนะ" เสียงชนาวินดังอยู่ก่อนแล้ว ภาพที่เห็นคือเขารั้งแขนของปารดาเอาไว้แต่เธอไม่สนใจและเดินหนีมาดื้อๆ"ออ มาพอดี ฝากเขาด้วยนะคะ เพราะฉันมีงานสำคัญต้องทำ" พูดแล้วก็เดินออกไปเลย ในขณะที่ชนาวินสีหน้าเศร้า รังรองกับชนะพลก็เครียดไม่ต่างกัน"พี่วิน ไม่เป็นไรนะคะ ขวัญจะดูแลพี่วินเอง" เธอเดินเข้ามาจับมือเขาไว้ ใช่สิตอนนี้เธอต้องอยู่กับเขา"ขอบคุณนะขวัญ ขอบคุณจริงๆ" เขาเอ่ยปากขอบคุณเบาๆ"ถ้าอย่างนั้
"ไม่มีอะไรหรอก ฮอร์โมนคนท้องน่ะลูก เดี๋ยวน้องก็มา" รังรองหัวเราะเบาๆ เข้าใจอาการของปารดาเป็นอย่างดี"ต่อไปแกจะได้รู้จักกับคำว่ามนุษย์เมีย" ชนะพลยักคิ้วให้"คืออะไรครับพ่อ" เขาเลิกคิ้วไม่เข้าใจ"อีกเดี๋ยวแกจะรู้ว่า ทาสเมียมันเป็นยังไง ฮึฮึ" คำพูดสองแง่สองง่ามของพ่อไม่ได้ทำให้ชนาวินเข้าใจมากขึ้น"พ่อเขากำลังจะบอกว่า น้องกำลังท้อง ไม่ว่าน้องต้องการอะไรให้เราครับอย่างเดียวแล้วทำตามที่น้องบอกยังไงล่ะ" รังรองเผยความกระจ่าง"คำว่าเมียเนี่ยศักดิ์สิทธิ์กว่าพระพุทธรูปอีกนะ พ่อบอกเลย แกฟังแม่ไว้เดี๋ยวดีเอง" เขาตบลงที่ไหล่หนาของลูกชาย ทำเอาชนาวินกลืนน้ำลายลงคออย่างบากลำบาก ไม่หรอกมั้ง ปารดาออกจะน่ารัก ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นไปได้หรอกชนาวินก็พอจะเข้าใจความหมายของพ่อและแม่ที่บอกว่าคนท้องให้ตามใจ เพราะตอนนี้ปารดาหน้ามุ่ยที่ถูกขัดใจ แถมไม่ยอมคุยกับเขาอีกต่างหาก"ที่รักครับ เฮียไม่ได้ว่าอะไรเลย""เฮียพูดว่าหนูอ้วน" เธอกอดอกหน้าง้ำ ตรงหน้ามีแต่ขนมเค้กเต็มไปหมดที่สำคัญ มาการองสุดที่รักเพิ่งจะถูกเปิดกล่องขึ้นมาเดี๋ยวนั้นและกินไปแค่อันเดียว ชนาวินแค่ทักว่าอย่ากินเยอะเดี๋ยวอ้วน เท่านั้นแหละเป็นเรื่องเลย"เฮีย
Mga Comments