เจ้าของบ้านยืนเท้าสะเอวมองว่าที่ภรรยาตั้งแต่หัวจรดเท้า คนที่สำรวจมองจึงไม่รู้จะทำตัวยังไงได้แต่อมยิ้มแห้ง ๆ ส่งให้แล้วรีบสับขาเดินขึ้นไปชั้นบน "ราตรีสวัสดิ์ค่ะ"
หมับ!
ข้อมือของเธอถูกยึดจับแน่น พิรุณออกแรงกระชากนิดเดียว ปาลินก็เซถลาเข้ามาอยู่ในวงแขนให้เขารวบกอดได้พอดี
"ทำอะไรคะ..คือ ยังไม่ได้ปิดม่านเลยนะคะ"
"แค่กอดเองต้องปิดม่านด้วยเหรอ อ้อ...ลินอยากให้พี่ทำมากกว่านั้นใช่ไหม ได้" ว่าจบรีโมทในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ถูกล้วงออกมาแล้วจัดการกดให้ผ้าม่านรอบตัวบ้านเคลื่อนตัวปิดจนไม่เห็นสิ่งใดข้างนอกอีก
"พกรีโมทม่านตอนนอนด้วยเหรอคะ"
"เพิ่งคิดจะพกก็ตอนที่ลินเธอมาอยู่ด้วย"
"แปลกดีเนอะ เอ่อ...พี่กอดเสร็จแล้วปล่อยได้หรือยังคะ พรุ่งนี้ลินต้องทำงานนะคะ"
"พรุ่งนี้วันเสาร์นะเธอจะไปทำงานล่วงเวลาเหรอ ขยันเกินไปหน่อยไหม"
"เอ้าเหรอคะสงสัยจะหลงวันซะแล้ว"
"ไหน ๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุดคืนนี้ก็มาหาไรทำกันดีกว่า"
"เล่นเกมกันไหมคะลินเล่นเก่งมากเลยนะ"
"พี่ชอบเกมกายกรรมมากกว่า" พิรุณพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังประทับริมฝีปากลงไปยังหน้าผากมน หัวใจของปาลินเต้นตึกตักเหมือนกับจะหลุดกระเด็นออกมา มือสองข้างที่โอบกอดเอวเล็กเคลื่อนตัวเข้าไปใต้เสื้อฮู้ดสีเทาไล้ขึ้นไปตามแผ่นหลังเนียนแล้วเกี่ยวบราด้านในเสื้อให้คลายตัวออกจากกัน ปาลินกระตุกวูบยึดท่อนแขนแกร่ง "กลัวหรือเปล่า" ริมฝีปากหยักแดงกระซิบชิดพวงแก้มใสที่เห่อร้อน
"กลัวค่ะ กลัวมาก" มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นประคองดวงหน้าที่กำลังประหวั่นพรั่นพรึง นัยน์ตาเย็นชายิ้มแล้วก้มลงประกบกลีบปากเล็กบางของคนขี้กลัวที่กำลังตัวสั่น ปาลินถลึงตาโตแต่พักนึงก็ปิดลงเพราะรสแห่งความเคลิบเคลิ้มที่ริมฝีปากถูกสัมผัสอย่างนุ่มนวล พี่เรนกำลังบดจูบเธอ จูบของเขามันชวนให้หัวหมุนคว้างและปานขาดใจอยู่รอมร่อ
ชั่วครู่ที่ปากสองคู่เคล้นคลึงดูดดื่มแลกรสกัน ชิวหาร้อนที่ใคร่ค้นหาความลับในโพรงปากก็แหย่ล้วงเข้าไป ปาลินสะดุ้งมือน้อยยึดเสื้อของพิรุณไว้จากที่จิกเสื้อเขาแน่นมือที่ขยำอยู่กับแผงอกเขาก็เคลื่อนตัวไปโอบหลังคอเขาไว้แทน ชิวหาของเขารัดเกี่ยวเรียวลิ้นของเธอราวกับจะประสานรวมให้เป็นหนึ่ง บวกกับเสียงของลมหายใจที่เริ่มหอบกระชั้นจากการดูดดื่มริมฝีปากของกันและกันเริ่มขาดช่วงขาดตอน เขาถึงยอมละออกอย่างเสียดายเพื่อให้ปาลินได้หายใจให้เป็นปกติ
"ถอดออกได้ไหมครับ ลินอนุมัติหรือเปล่า" เสียงแผ่วเบาเซ็กซี่เอ่ยถามขณะที่มือแตะอยู่ที่ชายเสื้อฮู้ดของเธอ รอคอยคำอนุมัติอย่างใจเย็น
ไหน ๆ ก็จะแต่งงานกับเขาอยู่แล้ว ถ้าอยู่ก่อนแต่งคงจะไม่เป็นขี้ปากชาวบ้านเท่ากับตอนที่เธอถูกหลอกไปให้ไอ้รุ่นพี่ระยำนั่นฟันเล่นหลอก เพราะทุกวันนี้สิ่งเดียวที่เป็นตราบาปในชีวิตเธอก็คือเรื่องเลวร้ายนั่น
"พี่รู้เรื่องในอดีตของลิน รู้ทุก ๆ อย่าง วันนี้พี่ก็เลยกลับมาดึก ขอโทษด้วยนะ" ปากร้อนสาละวนอยู่แถวขมับเธอและประโยคที่พร่ำบอกมันทำให้สติของเธอพร่าเลือนไปจนหมด เขารู้เรื่องน่าอัปยศที่เคยเกิดขึ้นกับเธอแล้วงั้นเหรอ
"แม่เล่าให้ฟังเหรอคะ" ดวงตาที่สั่นระริกแวววาวหวั่นเกรงว่าเขาจะมองเธอไม่เหมือนเดิม จะคิดว่าเธอเป็นพวกปาร์ตี้ขี้ยาหรือเปล่า หลายต่อหลายปากของเพื่อนบ้านต่างก็หาว่าเธอร่านบ้างก็ว่าเป็นอีตัวชอบไปมั่วสุม สมควรแล้วที่เจอแบบนั้น ทำไมสังคมคนเราถึงได้ไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจกันถึงเพียงนี้ และหลังจากเหตุการณ์นั้นเธอก็คิดว่าความรักมันเป็นเรื่องของความคึกคะนอง
แต่เมื่อพี่เรนเข้ามาในชีวิต เขาก็ได้เปลี่ยนทัศนคติบางอย่างที่เป็นลบของเธอ ถึงตอนนี้เธอจะไม่รู้หรอกว่าระหว่าเขากับเธอจะพัฒนาเป็นความรักได้หรือไม่ ทว่าเสี้ยววินาทีนี้ใจของเธอกำลังเต้นไม่เป็นส่ำเพราะเขาขึ้นมาทีละนิด
"แล้วที่กลับดึกพี่เรนไปหา..คน ๆ นั้นมาเหรอคะ" ปาลินไม่อยากเอ่ยชื่อคนชั่วช้านั่น นึกถึงสภาพตัวเองตอนนั้นทีไรก็รู้สึกขยะแขยงทุกที
"ไม่เป็นไรพี่แค่ไปขู่มันเท่านั้นเอง เอาล่ะไปนอนเถอะ พี่จะรอวันที่ลินพร้อม"
ริมฝีปากหยักประทับลงบนแก้มอุ่นแล้วเดินขึ้นห้องนอนชั้นบนของตนไป เหลือเพียงเธอที่ยังยืนขบคิดไตร่ตรองอยู่ตรงนั้น เอาไงดีพร้อมไม่พร้อมมันหน้าตาเป็นแบบไหน รู้เพียงแต่ว่าคืนนี้เธอข่มตานอนไม่ได้อีกแล้ว เธออยากเป็นหนึ่งเดียวกับเขา อยากเป็นของเขา
ก๊อก! ก๊อก!
พิรุณที่เพิ่งถอดเสื้อล้มตัวลงนอนรีบตวัดมองไปที่หน้าประตู วินาทีที่เขาเปิดประตูออกร่างเล็กก็พุ่งเข้ามาสวมกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาไม่รู้หรอกว่าเธอจะเอาอะไรเขาทำแค่สวมกอดกลับไปอย่างที่เธอต้องการ
"เมื่อกี้ที่ถามลินว่าอนุมัติหรือเปล่า ลินจะบอกว่าอนุมัติ อนุมัติค่ะ" ปาลินหลับตาปี๋กอดตัวเขาแน่นกว่าเดิมพิรุณเหยียดยิ้มตื่นเต้นกับคำตอบที่ได้รับ การที่ลองหัดเป็นคนใจเย็นบ้างก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน
มือหนาดันคนตัวเล็กออกค่อย ๆ เลิกชายเสื้อฮู้ดตัวหนาให้พ้นจากตัวบราที่ถูกปลดออกไปเมื่อหลายนาที
แถมบราลูกไม้สีขาวยังติดกับเสื้อตัวใหญ่โคร่งลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นด้วยกัน เรียกได้ว่าถอดทีเดียวก็เปลือยล่อนจ้อน
"เอ่อ...คือ" สองมือเจ้าของร่างรีบตะปปกอดก่ายตนเองด้วยความตกใจไม่คิดว่ามันจะหลุดออกไปทั้งอย่างนั้น ทรวงอกซ่อนรูปประมาณคัพซีเบียดกระชับอยู่ภายใต้มือที่กอบกุมปิดไว้ หน้าท้องที่แบนราบเรียบมีรอยสักดอกเยอบีร่าสีดำขนาดหกเซนติเมตรประทับอยู่ข้างเอวดูเซ็กซี่จนพิรุณถึงกับต้องก้มลงไปพรมจูบเพื่อขอจับจองพื้นที่ของหน้าท้องสวยนี้ล่วงหน้า
"ทำไมถึงสักตรงนี้" ปาลินก้มมองริมฝีปากที่กำลังจูบซับวนเวียนอยู่แถวรอยสักอยู่ข้างเอว
"เคยมีคนทำให้ลินมีแผลตรงนี้ ความจริงแผลเยอะกว่านี้แต่ตรงเอวมันค่อนข้างจะอ่อนไหวสำหรับลินมาก พวกพี่สาวก็เลยพาไปสักดอกเยอบีร่าเพราะ-" มือใหญ่เอื้อมขึ้นมาอุดปากเธอแล้วดึงเธอเข้าไปกอดกระชับแน่นอีกครั้ง
"ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นพี่จะไม่ถามลินอีก" ปาลินผลักตัวเขาออกเพราะเสียงพูดของเขามันสั่นเครือ นี่เขากำลังสั่นเพราะเธออย่างนั้นเหรอ คนแบบไอ้พี่ฝนคลั่งที่อาละวาดไปทั่ว บัดนี้กำลังสั่นเพราะความเจ็บปวด
"ทำไมพี่เรนถึง...อื้อ" ปากหยักแดงประกบลงมาไม่ยอมให้คนช่างซักเปิดปากต่อประโยคใด ๆ ได้อีก
1 ปี 8 เดือน ผ่านไป (ไวเหมือนว๊าปมา)"โอ๊ย!.....อย่าดึงสิหมื่น พี่เจ็บนะ ก็บอกว่าอย่าดึงไงเล่า" พราวมนต์ยื้อยุดเส้นผมบนหัวของตนคืนจากน้องชายคนสุดท้องของบ้านที่กำลังกำทึ้งผมเธอเอาไว้เป็นกำใหญ่ ดึงไปซ้ายทีขวาทีจนพี่สาวเจ็บจนหน้าเบี้ยว"หมื่นหล้าครับปล่อยผมพี่มนต์ก่อนสิลูก พี่เจ็บจะแย่แล้ว ถือว่าแม่ขอนะครับ" ปาลินที่เพิ่งจะทำเมนูโปรดของสามแสบเสร็จปรี่เข้ามาแกะมือน้อยของลูกชายวัยหนึ่งขวบห้าเดือนออกจากหัวของลูกสาวคนโต"หม่ำหม่ำ....แฮ่!! แฮ่!!" เจ้าหนูชูมือขึ้นสูงชี้มือไปยังโต๊ะกินข้าวแล้วทำหน้าขู่เลียนแบบโอเลี้ยง"มะม๊าหมื่นขู่ทำไมคะ" พราวมนต์ที่ได้หัวคืนจากน้องชายรีบจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทาง"สงสัยจะติดมาจากหมามั้งลูก เอ้....มะม๊าก็เพิ่งจะเห็นว่าหมื่นขู่" ปาลินเกาหัวแกรก ๆ"ทุกคนปะป๊ากลับมาแล้วคร้าบบบบ แล้วปะป๊าก็ซื้อขนมมาเยอะแยะเลยด้วย" พิรุณเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับถุงขนมมากมาย ทันใดที่เห็นคุณพ่อหมื่นหล้าตัวร้ายก็ปีนลงจากโซฟารีบเดินเตาะแตะเข้าไปกอดขาของชายหนุ่มด้วยความดีใจ"ป้าป้าาาาา ปะป้าาา ปุ้งปุ้ง"แป๊ดดดดด~กลิ่นและเสียงแสนเหม็นเขียวคละคลุ้งไปทั่วทั้งบ้าน"อุแว้ก!" กลเมฆที่นั่งอ่านห
บ้านปรมะเมคินทร์ฝ่ายใต้พิรุณทำตามสัญญาของปู่พงศกรที่ต้องการให้พาลูกสาวและลูกชายฝาแฝดของเขามาประทับลายนิ้วมือเพื่อเป็นผู้นำคนใหม่ รวมทั้งเปิดรายละเอียดต่าง ๆ ให้หลานชายและหลานสะใภ้ได้รับรู้พร้อมกันว่า พราวมนต์กับกลเมฆมีสิทธิ์มีส่วนในทรัพย์สินใดของตระกูล"มาลูกนั่งตรงนี้ประทับนิ้วลงไปเลยทั้งสองคน" ทนายกริช ทนายประจำตระกูลจับนิ้วโป้งของแฝดผู้พี่ลงมาบนตลับหมึกแล้วทาบนิ้วเล็กลงไปบนแผ่นกระดาษ แล้วจึงจับนิ้วของกลเมฆลงมาประทับอีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น"เรียบร้อยครับ นายน้อยทั้งสองจะได้รับมรดกเป็นบ้านหลังนี้ บริษัทและธุรกิจทั้งหมดในเครือ PMK Group ทั้งหมด แล้วที่เหลือก็ยกให้เป็นการตัดสินใจในอนาคตอีกทีครับ เพราะตอนนี้คุณหนูแฝดยังเด็กด้วยกันทั้งคู่" ทนายรุ่นลุงกล่าว"คุณปู่ขา มนต์ไปเล่นกับหมาสีดำตัวนั้นได้ไหมคะ" พราวมนต์ชี้ไปยังลูกสุนัขลาบราดอร์สีดำวัยกำลังซุกซนที่ดาเนียหลานสาวเอามาแบ่งให้ช่วยกันเลี้ยง"ตามสบายเลยลูก เจ้าเปียกปูนมันไม่ดุหรอกใจดีมาก ๆ" ผู้เฒ่าวัยย่างเก้าสิบเอ่ยพลางลูบหัวเหลนสาว"โอเคค่า...ไปเร็วเมฆไปเล่นกับเปียกปูนกันเถอะ" แฝดผู้พี่ที่มีแววเป็นมังกรสาวที่จะกุมอำนาจของปรมะเมคินทร์
เพียงแค่ถูกเล้าโลมที่กึ่งกลางลำตัวสะโพกผายก็แอ่นร่อนบิดส่ายจนสติพร่าเลือน ไม่รู่ว่าคุณย่าดาหลา ย่าของสามีเอายาสูตรไหนมาให้เธอกับพี่เรนกิน มันถึงได้ร้อนสลับหนาวจนใจว้าวุ่นไปหมดยิ่งไปกว่านั้นพี่เรนของเธอก็ไม่มีท่าทีจะให้ค่ำคืนนี้จบลงง่าย ๆ ยังคงยืนหยัดยึดปณิธานอันแรงกล้าว่าจะปั๊มลูกคนที่สามให้สำเร็จ หรือสามีตกลงเงื่อนไขสำคัญข้อใดกับเถ้าแก่พงศกรและย่าดาหลา ถึงได้อุตสาหะและมานะต่อการสร้างผลผลิตอันน่ารักนี้ซะเหลือเกินสำหรับเธอที่ต้องทำหน้าที่แม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้างที่จะต้องแบกท้องไปอีกเก้าเดือน ทว่าเมื่อคิดถึงความรัก ความภักดี และความซื่อสัตย์ที่ตราตรึงอยู่ภายในใจ ก็ไม่มีเหตุผลใดมาหักล้างความดีของพี่เรนได้เลยสักข้อ มีแต่ความยินยอม ความเต็มใจทุ่มและเทให้เขาไปแทบทั้งสิ้น"ตัวเล็กเงียบทำไม ลินครับเป็นลมหรือเปล่า" ชายหนุ่มยอดรามือจากกลีบเนื้อที่ฉ่ำวาวแล้วลุกขึ้นประคองแผ่นหลังเล็กขึ้นมาโอบอุ้มในวงแขนกว้าง"เปล่าค่ะแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย" ยิ้มแฉ่งแล้วซุกหัวแนบกับแผงอกขาวเนียน ปลายนิ้วชี้เขี่ยไปที่ตุ่มไตสีชมพูเพื่อแหย่เล่น"อยากกินนมพี่ก็ไม่บอก""อยากกินพี่เรนทั้งตัวเลยต่างหาก" คล้องวงแขน
พิรุณยืนเป่าผมในห้องน้ำอยู่นานกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูแบบทุบรัว ๆ เหมือนกับมีเรื่องคอขาดบาดตายที่ด้านนอก เขาหยุดเป่าผมและเปิดประตูออกไป ไม่ทันไรก็ถูกกระชากเข้าไปหา ฝ่ามือนุ่มที่รุ่มร้อนพันเลื้อยสอดเข้ามาใต้กางเกงนอนรั้งบั้นท้ายแน่นให้เบียดกับเนื้อตัวที่กำลังครางอยู่ในลำคอ"อื้ม....พี่เรนขา พี่เรนหล่อจังเลย""ห๊า....จู่ ๆ ก็ชม" ชายหนุ่มเหลือบมองบริเวณรอบบ้านให้แน่ใจว่าบรรยากาศข้างนอกเงียบสงัด ไร้ผู้คนพลุกพล่านแน่ชัด เขาจะได้เสพสุขทุกซอกทุกมุมของบ้าน และทุกซอกทุกตารางนิ้วของปาลินที่โหยหามาตลอดหนึ่งเดือน"พี่เรนลินร้อนวูบวาบแปลก ๆ พี่เรนช่วยลินหน่อยสิคะ" มือไม้ที่ล้วงไปกุมซันนี่ของเขาเคลื่อนออกมาเลื่อนขึ้นมาถึงหน้าอกที่เปลือยเปล่า หรือนี่จะเป็นเพราะยาสมุนไพรจีนม้าศึกฉบับสามก๊กของคุณย่า แม่ตัวเล็กถึงได้คึกคักถึงเพียงนี้"ก็ลินกินยานั่นไปเยอะ" รวบยกบั้นท้ายนุ่มขึ้นแล้วหย่อนลงข้างอ่างล้างมือที่มีจานเลมอนสีเหลืองกับเมลอนสองลูกวางอยู่"มันคือยาอะไรเหรอคะ.....อ๊า" กระดุมเสื้อนอนถูกปลดออกจนถึงเม็ดสุดท้ายอย่างว่องไว ปากที่ไร้ความอดกลั้นก็ตะโบมดูดลงมารวดเร็วไม่แพ้กัน ยอดถันออกสีแดงเหมือนเม็ดเก
ขบวนขันหมากจัดขึ้นที่บ้านหลังใหม่เอี่ยมของพิรุณและปาลิน เจ้าบ่าวหน้าตาหลอเหลายิ้มแย้มแจ่มใสขณะที่เดินมาพร้อมกับเครือญาติของปรมะเมคินทร์เกือบสามสิบชีวิต พิรุณในชุดสูทสีครีมแบบเป็นทางการเดินถือพานธูปเทียนแพ โดยมีเจ้าสัวเทิดวิช คุณเพชรไพร พ่อแม่ของเขาที่กลับมารักกันหวานชื่นในรอบยี่สิบปีคอยเดินขนาบข้างลูกชายไปพร้อมกันด้านหลังมีลุงโทนธรรมเดินฉีกยิ้มกว้าง มาพร้อมกับลูกเขยที่ยังไม่ได้ตบแต่งเข้าบ้านของเขาอย่างสุริยะ อัครภูรินทร์เดินถือพานขันหมากเอก และมีหมอเอลวินถือขันหมากโท ตามด้วยเหล่าเพื่อน ๆ ในกลุ่มเดอะเซฟเฟอะเช่นพนาธีร์ ผอ.ทัพฟ้า และท่านชายภูวสินคอยช่วยถือพานแหวนหมั้น คู่พานสินสอด ร่วมเดินในขบวนขันหมากในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวคุณพ่อที่เป็นเจ้าบ่าวเดินเข้ามาถึงบริเวณหน้าบ้านเพื่อสู่ขอคุณแม่คนสวยของพราวมนต์กับกล พิรุณเมฆชะงักฝีเท้าในทันใดเมื่อลูกแฝดทั้งสองยืนเคียงข้างดาเนียและผิงผิงที่กำลังทำหน้าที่กั้นประตูเงินประตูทองตรงหน้าปากทางเข้าบ้านหลายร้อยเมตร เขาเห็นด่านกั้นเกือบหกเจ็ดด่านยาวไปถึงตัวบ้านด้านในสุดก็รู้สึกนึกขำขันในใจว่าเมียจ๋าคิดจะทดสอบผัวคนนี้ให้หอบรับประทานกันไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม"พ
"ฮ่าฮ่า คุณจะบอกว่าคุณเป็นคนดีงั้นสิ" นภาธรขำเสียงดังด้วยความสะใจแล้วควักปืนออกมาเล็งมาที่หน้าของพิรุณโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ลูกน้องทั้งสองฝ่ายรีบชักกระบอกปืนขึ้นมาจ่อไปยังฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่มีใครยอมใคร"ไม่มีใครอยากบอกว่าตัวเองเลวหรอกค่ะ แหม...โชคดีจังที่เธอเสนอหน้ามาร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ เพราะฉันจะได้ไม่ต้องกลับไปจัดการที่กรุงเทพ ยังไงก็ขอบคุณนะที่เธอมา" กล่าวขึ้นอย่างเยาะเย้ยแล้วกดปลายกระบอกปืนแนบกับขมับหนึ่งข้าง สาวในชุดเดรสปาดไหล่สีแดงก้าวขาขึ้นมายืนเบื้องหน้าของนภาธร"ก....แกนังปาลิน!" นภาธรชะงักตัวแข็งทื่อขณะที่กลุ่มบอดี้การ์ดสาวจากจีโพรเทคชั่นที่เถ้าแก่พงศกรยกให้หลานสะใภ้ไปดูแลในฐานะผู้บริหารคนใหม่ ต่างล้อมวงเข้ามายืนซ้อนหลังลูกน้องของนภาธรและล็อกใส่กุญแจมือด้วยความรวดเร็วจนไม่มีไหวตัวทัน"หนีไปก็เท่านั้น อีกไม่กี่นาทีตำรวจก็จะมาถึงแล้ว และครั้งนี้อย่าคิดว่าตำรวจที่นี่จะกลายเป็นคนของเธออีก อย่าคิดว่าคนอย่างเธอจะเล่นพรรคเล่นพวกได้อยู่คนเดียวนะ เพราะฉันก็ทำได้เหมือนกัน"กรี๊ด!!!"ปล่อยฉันนะนังลิน แกไอ้พวกลูกกระจ๊อกโทรหาพ่อกูสิ พวกมึงจะยืนค้างอยู่ทำไม โทรสิวะ!"เพียะ!!หลังมื