"ตอนเย็นพี่จะให้คนมารับเธอ พี่มีธุระก็เลยอาจจะมารับไม่ได้"
ปาลินชำเลืองมองหน้าของคนขับที่มีสีหน้าแววตาเคร่งขรึมและขึงขังแปลก ๆ หรือว่าเขากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรอยู่อีกแล้ว เวลาหงุดหงิดทีไรมันก็ออกทางสีหน้าอันแสนเย็นชาเหมือนน้ำแข็งของเขาทุกที
"โมโหใครมาเหรอคะ"
พิรุณกัดฟันจนเห็นสันกรามเป็นรูปเด่นชัด มือที่จับพวงมาลัยอยู่นั้นบีบแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดขึ้นมาตามหลังมือ
"หรือว่าโมโหอะไรลินหรือเปล่า ลินทำอะไรไม่ถูกใจเหรอคะ" นัยน์ตาเรียวรีบตวัดมองแล้วดันแผ่นหลังของปาลินเข้ามากอด จมูกโด่งกดแนบไว้กับซอกคอ เขาโกรธเขาเกลียดคนที่ทำกับปาลินยัยเด็กม้าดีดกะโหลกคนนี้ของเขา ถ้าเจ๊กัลยาไม่เปิดปากเล่าเขาคงไม่มีวันรู้ว่าเคยเกิดเรื่องร้ายกับปาลิน
เพราะไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรมือน้อยจึงได้ตัดสินใจเอื้อมไปโอบกอดเขาหวังปลอบโยน เปลือกตาที่หลับพริ้มซุกอยู่กับคออุ่นเปิดออกแล้วดันตัวของปาลินให้มองหน้าของเขาตรง ๆ
"โมโหคนอื่น ไม่ได้โมโหลิน เจอกันตอนมื้อค่ำพี่ขออนุญาตแม่ลินเรียบร้อยแล้ว ไปกินข้าวที่บ้านพี่นะพี่จะเตรียมของอร่อยไว้ให้" ทำไมเขาดันกลายเป็นคนอบอุ่นละมุนจนหัวใจเธอฟูฟ่องไปหมด หรือว่าผีห่าซาตานจะกลับขุมนรกไปแล้ว
ปาลินเปิดประตูลงจากรถแต่ข้อมือกลับถูกยึดกลับไปพิรุณก้มลงประทับริมฝีปากลงบนหลังมือของเธอแผ่วเบา เขาจะรู้ไหมว่าแค่สัมผัสนุ่มนวลเพียงเล็กน้อยมันก็ทำให้เธอฟุ้งซ่านไปหมดแล้ว
"ตั้งใจทำงานนะ บ๊ายบาย"
"ค่ะ บ๊ายบาย"
พนักงานสาวออฟฟิศคนใหม่โบกมือลารถซูเปอร์คาร์ที่แล่นลาลับสายตาไปไกล จู่ ๆ เธอก็รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาเหมือนกับว่าเขากำลังจะไปทำเรื่องอะไรที่อันตราย
Red rain
เพราะเขาจัดตารางงานของท่านประธานบริษัทแห่งอธิกะ คอนสตรัคชั่นไว้อย่างละเอียดยิบและงานที่เขาต้องเป็นตัวแทนเจรจาติดต่อเขาก็ทำทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว ดังนั้นวันนี้เขาจึงโทรไปลางานกับบอสและเข้ามาเช็คอินที่ผับ Red rain ของตัวเองตั้งแต่กลางวันแสก ๆ ลูกน้องทุกคนในผับแห่งนี้รู้ดีว่าถ้าคุณเรนเข้ามาร้านตั้งแต่ช่วงหัววัน นั่นแสดงว่ามีเรื่องอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น หรือบอสอารมณ์เสียมาเลยต้องเขามาอาละวาดที่เรดเรน
หลังร้านมีสนามมวยไทยและจุดซ้อมปามีดยิงธนูยิงปืนที่ให้ลูกค้ามาใช้บริการได้ระหว่างวัน แต่วันนี้เจ้าของร้านหัวร้อนตั้งแต่ยังช่วงสายทำให้พวกลูกน้องชุดดำต่างกรูกันไปยืนตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋แล้วยืนมองดูบอสเรนที่กำลังยืนต่อยกระสอบทราบตุ้บตั้บอยู่คนเดียว
กระทั่งเชส ผู้ช่วยคนสนิทลูกครึ่งไทย-อเมริกันรีบเดินเข้ามาแล้วแจ้งข่าวสารบางอย่าง เจ้านายหนุ่มที่กำลังคลั่งชกกระสอบจึงได้สงบลง "สืบมาว่าไง"
"ปกติชนะศรจะชอบไปเที่ยวร้านเบียร์ยูฟอเรียของคุณจอชอยู่เป็นประจำครับ และจะมาเวลาเดิมคือเวลาหนึ่งทุ่มของทุกวัน"
"ขอบใจมากเชส" พิรุณตบบ่าลูกน้องแสยะยิ้มตาขวาง
เมื่อถึงเวลารถซูเปอร์คาร์ก็แล่นทะยานเข้ามาเทียบจอดบริเวณลานจอดรถของร้านคนรู้จักที่สนิทมากคนหนึ่ง พิรุณเลือกที่จะมาก่อนเวลาและนั่งจิบเบียร์ไปพลางระหว่างรอเหยื่อตัวใหญ่เดินทางมาถึง แถมโต๊ะเกือบทุกตัวในร้านถูกลูกน้องของเขานั่งจับจองกันจนเกือบหมดทำให้จอช เจ้าของร้านรู้ได้ทันทีว่า คุณเรนกำลังนัดพบเป้าหมาย
ทันใดนั้นประตูร้านถูกผลักออกชายสองสามคนก็เดินเข้ามานั่งบนเก้าอี้บาร์หน้าเคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มชนิดเดิม ชายสามคนกวาดตามองบรรยากาศที่อึมครึมในร้านแล้วตวัดสายตาไปให้จอช เจ้าของร้านที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์กินน้ำแตงโมคุยสนุกอยู่กับกลุ่มลูกน้องของพิรุณ
"เฮ้ยไอ้จอชวันนี้มีคนเหมาร้านเหรอวะ" ชนะศรตะโกนถามเจ้าของร้าน จอชจึงรีบร้อนลุกเดินมายกมือไหว้ลูกค้าประจำ
"ประมาณนั้นแหละครับแต่ถ้าคุณชนะไม่สะดวกผมก็ขอโทษด้วยนะครับ"
"กูสะดวก เอาครูโซวิเซ่เหมือนเดิม" ลูกค้าหนุ่มบอกกับจอชพลางเหล่มองหน้าของพิรุณที่กำลังจิบเบียร์บราซิลราคาถูกอย่างเงียบ ๆ แต่เพราะถูกสายตาของชนะศรจิกมองอย่างดูถูกเขาจึงได้ตวัดดวงตาไปปะทะ
"มีอะไรกับกูหรือเปล่า" พิรุณกระแทกขวดเบียร์ลง
"เปล่ากูแค่อยากรู้ว่าเบียร์ถูก ๆ มันอร่อยด้วยเหรอวะ"
"จะถูกจะแพงก็มีคุณค่าทั้งนั้น แต่มึงอ่ะรู้จักคุณค่าของคนบ้างไหมไอ้ชนะศร"
"คนอย่างกูต้องของมีระดับเท่านั้น แล้วไอ้เรื่องคุณค่าคนอะไรที่มึงบอกมันไร้สาระว่ะ"
"คนอย่างปาลินก็ไร้คุณค่าด้วยงั้นสิ" ชื่อนี้ที่ชนะศรไม่ได้ยินมานานมากทำให้เขาถึงกับเหงื่อตกเพราะตอนนั้นเขาได้พ่อกับแม่ช่วยวิ่งเต้นใช้เส้นสายของตนและยัดเงินก้อนใหญ่ทำให้เรื่องราวในคืนนั้นที่เขาทำกับปาลินจบลงอย่างง่ายดาย แล้วไอ้ห่านี่เป็นใครถึงได้ขุดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก
"มึงเป็นใครจะเอาอะไร" ชนะศรหน้าซีดเผือด
"ก็จะเอาทุกอย่างที่มึงรักมาทำลายให้หมด วันนี้ที่มาแค่จะมาเตือน" พิรุณบอกแล้วดันซองสีแดงปั๊มอักษรสีเงินว่า Red rain ส่งให้ชนะศร ชายหนุ่มมือสั่นเปิดดูสิ่งของที่อยู่ด้านในแล้วพบว่ามันคือกระสุนปืนไรเฟิล ดวงตาฉายแววหวาดหวั่นตวัดมองใบหน้าขรึมเย็นยะเยือก พิรุณกระตุกยิ้มแล้วตบบ่าของชนะศรก่อนจะสวมแว่นดำแล้วเดินนำแก็งชายชุดดำที่เหลือออกไป
ลูกน้องของพิรุณขับรถไปรับปาลินที่บริษัทหลังเลิกงานแล้วพามานั่งรอที่บ้าน หญิงสาวกดรีโมททีวีรอเจ้าบ้านอยู่นานสองนานจนกระทั่งผลอยหลับไป และตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของถุงที่ดังกร๊อบแกร๊บไปมาจนน่าหงุดหงิด แล้วก็ต้องพบว่ามีพิซซ่าถาดใหญ่วางอยู่ตรงหน้า ไหนจะกุ้งถัง วางละลานตาจนน้ำลายสอ
"กินเลยสิ" เจ้าของมื้ออาหารทรุดตัวนั่งลงด้านข้างแล้วส่งน้ำอัดลมแก้วใหญ่ให้เธอ
"ขอบคุณค่ะ อ้อลินไปเอาเสื้อผ้ามาด้วยค่ะพอดีว่าแม่จะไปแสวงบุญที่พุทธคยาเป็นเดือนเลยค่ะ ส่วนพี่พุดก็กลับบ้านดึกบางทีกลับมาเช้าเลย แม่กลัวว่าลินจะไม่มีเพื่อนอยู่ก็เลยบอกให้มาอยู่กับพี่..พี่เรนค่ะ"
"พี่รู้แล้วแม่เธอบอกตั้งแต่เมื่อเช้า แล้วเธออยากนอนตรงไหนก็เลือกเอา ห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง สระว่ายน้ำอยู่ด้านหลัง"
"ค่ะขอรบกวนด้วยนะคะ"
ปาลินกับพิรุณนั่งกินพิซซ่าด้วยกันอยู่หน้าทีวีจนกระทั่งเขาบอกว่าอิ่มแล้วจึงขอตัวไปอาบน้ำ ขณะที่รอพิรุณปาลินจึงเกล้าผมขึ้นแล้วเอากิ๊บหนีบไว้เพื่อไม่ให้ผมเปียกตอนอาบน้ำโดยไม่รู้ว่ามีดวงตาเรียวกำลังจ้องมองดูอยู่ในความมืดมิดอย่างมีความสุข เพราะเตียงนอนห้องใต้หลังคากับห้องที่พิรุณแยกไปนอนอยู่เยื้องกันนิดเดียว ถ้าไม่ปิดประตูห้องเขาก็ย่อมเห็นทุกอย่างตรงหน้า
แขกสาวเข้าไปอาบน้ำราวยี่สิบนาทีแล้วก็มายืนบิดขี้เกียจอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัวด้วยชุดเสื้อยืดแขนยาวโอเวอร์ไซส์สีเทามีลายมิกกี้เมาส์อยู่กลางเสื้อและกางเกงขายาวสีเดียวกัน พิรุณที่เดินลงมาจากชั้นบนถึงกับมองมาที่เธออย่างสงสัย
"ไม่เห็นต้องมิดชิดขนาดนั้น"
จะไม่ให้เธอมิดชิดได้อย่างไรกันก็มานอนบ้านผู้ชายที่เพิ่งมีสถานะใหม่เป็นว่าที่สามีของเธอ แล้วถ้าเกิดเผลอไผลปล่อยเนื้อปล่อยตัวขึ้นมาเดี๋ยวเขาก็จะหาว่ายังไม่ทันจะตบแต่งเธอก็อ่อยเขาซะแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องเป็นกุลสตรีเข้าไว้ก่อน
1 ปี 8 เดือน ผ่านไป (ไวเหมือนว๊าปมา)"โอ๊ย!.....อย่าดึงสิหมื่น พี่เจ็บนะ ก็บอกว่าอย่าดึงไงเล่า" พราวมนต์ยื้อยุดเส้นผมบนหัวของตนคืนจากน้องชายคนสุดท้องของบ้านที่กำลังกำทึ้งผมเธอเอาไว้เป็นกำใหญ่ ดึงไปซ้ายทีขวาทีจนพี่สาวเจ็บจนหน้าเบี้ยว"หมื่นหล้าครับปล่อยผมพี่มนต์ก่อนสิลูก พี่เจ็บจะแย่แล้ว ถือว่าแม่ขอนะครับ" ปาลินที่เพิ่งจะทำเมนูโปรดของสามแสบเสร็จปรี่เข้ามาแกะมือน้อยของลูกชายวัยหนึ่งขวบห้าเดือนออกจากหัวของลูกสาวคนโต"หม่ำหม่ำ....แฮ่!! แฮ่!!" เจ้าหนูชูมือขึ้นสูงชี้มือไปยังโต๊ะกินข้าวแล้วทำหน้าขู่เลียนแบบโอเลี้ยง"มะม๊าหมื่นขู่ทำไมคะ" พราวมนต์ที่ได้หัวคืนจากน้องชายรีบจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทาง"สงสัยจะติดมาจากหมามั้งลูก เอ้....มะม๊าก็เพิ่งจะเห็นว่าหมื่นขู่" ปาลินเกาหัวแกรก ๆ"ทุกคนปะป๊ากลับมาแล้วคร้าบบบบ แล้วปะป๊าก็ซื้อขนมมาเยอะแยะเลยด้วย" พิรุณเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับถุงขนมมากมาย ทันใดที่เห็นคุณพ่อหมื่นหล้าตัวร้ายก็ปีนลงจากโซฟารีบเดินเตาะแตะเข้าไปกอดขาของชายหนุ่มด้วยความดีใจ"ป้าป้าาาาา ปะป้าาา ปุ้งปุ้ง"แป๊ดดดดด~กลิ่นและเสียงแสนเหม็นเขียวคละคลุ้งไปทั่วทั้งบ้าน"อุแว้ก!" กลเมฆที่นั่งอ่านห
บ้านปรมะเมคินทร์ฝ่ายใต้พิรุณทำตามสัญญาของปู่พงศกรที่ต้องการให้พาลูกสาวและลูกชายฝาแฝดของเขามาประทับลายนิ้วมือเพื่อเป็นผู้นำคนใหม่ รวมทั้งเปิดรายละเอียดต่าง ๆ ให้หลานชายและหลานสะใภ้ได้รับรู้พร้อมกันว่า พราวมนต์กับกลเมฆมีสิทธิ์มีส่วนในทรัพย์สินใดของตระกูล"มาลูกนั่งตรงนี้ประทับนิ้วลงไปเลยทั้งสองคน" ทนายกริช ทนายประจำตระกูลจับนิ้วโป้งของแฝดผู้พี่ลงมาบนตลับหมึกแล้วทาบนิ้วเล็กลงไปบนแผ่นกระดาษ แล้วจึงจับนิ้วของกลเมฆลงมาประทับอีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น"เรียบร้อยครับ นายน้อยทั้งสองจะได้รับมรดกเป็นบ้านหลังนี้ บริษัทและธุรกิจทั้งหมดในเครือ PMK Group ทั้งหมด แล้วที่เหลือก็ยกให้เป็นการตัดสินใจในอนาคตอีกทีครับ เพราะตอนนี้คุณหนูแฝดยังเด็กด้วยกันทั้งคู่" ทนายรุ่นลุงกล่าว"คุณปู่ขา มนต์ไปเล่นกับหมาสีดำตัวนั้นได้ไหมคะ" พราวมนต์ชี้ไปยังลูกสุนัขลาบราดอร์สีดำวัยกำลังซุกซนที่ดาเนียหลานสาวเอามาแบ่งให้ช่วยกันเลี้ยง"ตามสบายเลยลูก เจ้าเปียกปูนมันไม่ดุหรอกใจดีมาก ๆ" ผู้เฒ่าวัยย่างเก้าสิบเอ่ยพลางลูบหัวเหลนสาว"โอเคค่า...ไปเร็วเมฆไปเล่นกับเปียกปูนกันเถอะ" แฝดผู้พี่ที่มีแววเป็นมังกรสาวที่จะกุมอำนาจของปรมะเมคินทร์
เพียงแค่ถูกเล้าโลมที่กึ่งกลางลำตัวสะโพกผายก็แอ่นร่อนบิดส่ายจนสติพร่าเลือน ไม่รู่ว่าคุณย่าดาหลา ย่าของสามีเอายาสูตรไหนมาให้เธอกับพี่เรนกิน มันถึงได้ร้อนสลับหนาวจนใจว้าวุ่นไปหมดยิ่งไปกว่านั้นพี่เรนของเธอก็ไม่มีท่าทีจะให้ค่ำคืนนี้จบลงง่าย ๆ ยังคงยืนหยัดยึดปณิธานอันแรงกล้าว่าจะปั๊มลูกคนที่สามให้สำเร็จ หรือสามีตกลงเงื่อนไขสำคัญข้อใดกับเถ้าแก่พงศกรและย่าดาหลา ถึงได้อุตสาหะและมานะต่อการสร้างผลผลิตอันน่ารักนี้ซะเหลือเกินสำหรับเธอที่ต้องทำหน้าที่แม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้างที่จะต้องแบกท้องไปอีกเก้าเดือน ทว่าเมื่อคิดถึงความรัก ความภักดี และความซื่อสัตย์ที่ตราตรึงอยู่ภายในใจ ก็ไม่มีเหตุผลใดมาหักล้างความดีของพี่เรนได้เลยสักข้อ มีแต่ความยินยอม ความเต็มใจทุ่มและเทให้เขาไปแทบทั้งสิ้น"ตัวเล็กเงียบทำไม ลินครับเป็นลมหรือเปล่า" ชายหนุ่มยอดรามือจากกลีบเนื้อที่ฉ่ำวาวแล้วลุกขึ้นประคองแผ่นหลังเล็กขึ้นมาโอบอุ้มในวงแขนกว้าง"เปล่าค่ะแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย" ยิ้มแฉ่งแล้วซุกหัวแนบกับแผงอกขาวเนียน ปลายนิ้วชี้เขี่ยไปที่ตุ่มไตสีชมพูเพื่อแหย่เล่น"อยากกินนมพี่ก็ไม่บอก""อยากกินพี่เรนทั้งตัวเลยต่างหาก" คล้องวงแขน
พิรุณยืนเป่าผมในห้องน้ำอยู่นานกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูแบบทุบรัว ๆ เหมือนกับมีเรื่องคอขาดบาดตายที่ด้านนอก เขาหยุดเป่าผมและเปิดประตูออกไป ไม่ทันไรก็ถูกกระชากเข้าไปหา ฝ่ามือนุ่มที่รุ่มร้อนพันเลื้อยสอดเข้ามาใต้กางเกงนอนรั้งบั้นท้ายแน่นให้เบียดกับเนื้อตัวที่กำลังครางอยู่ในลำคอ"อื้ม....พี่เรนขา พี่เรนหล่อจังเลย""ห๊า....จู่ ๆ ก็ชม" ชายหนุ่มเหลือบมองบริเวณรอบบ้านให้แน่ใจว่าบรรยากาศข้างนอกเงียบสงัด ไร้ผู้คนพลุกพล่านแน่ชัด เขาจะได้เสพสุขทุกซอกทุกมุมของบ้าน และทุกซอกทุกตารางนิ้วของปาลินที่โหยหามาตลอดหนึ่งเดือน"พี่เรนลินร้อนวูบวาบแปลก ๆ พี่เรนช่วยลินหน่อยสิคะ" มือไม้ที่ล้วงไปกุมซันนี่ของเขาเคลื่อนออกมาเลื่อนขึ้นมาถึงหน้าอกที่เปลือยเปล่า หรือนี่จะเป็นเพราะยาสมุนไพรจีนม้าศึกฉบับสามก๊กของคุณย่า แม่ตัวเล็กถึงได้คึกคักถึงเพียงนี้"ก็ลินกินยานั่นไปเยอะ" รวบยกบั้นท้ายนุ่มขึ้นแล้วหย่อนลงข้างอ่างล้างมือที่มีจานเลมอนสีเหลืองกับเมลอนสองลูกวางอยู่"มันคือยาอะไรเหรอคะ.....อ๊า" กระดุมเสื้อนอนถูกปลดออกจนถึงเม็ดสุดท้ายอย่างว่องไว ปากที่ไร้ความอดกลั้นก็ตะโบมดูดลงมารวดเร็วไม่แพ้กัน ยอดถันออกสีแดงเหมือนเม็ดเก
ขบวนขันหมากจัดขึ้นที่บ้านหลังใหม่เอี่ยมของพิรุณและปาลิน เจ้าบ่าวหน้าตาหลอเหลายิ้มแย้มแจ่มใสขณะที่เดินมาพร้อมกับเครือญาติของปรมะเมคินทร์เกือบสามสิบชีวิต พิรุณในชุดสูทสีครีมแบบเป็นทางการเดินถือพานธูปเทียนแพ โดยมีเจ้าสัวเทิดวิช คุณเพชรไพร พ่อแม่ของเขาที่กลับมารักกันหวานชื่นในรอบยี่สิบปีคอยเดินขนาบข้างลูกชายไปพร้อมกันด้านหลังมีลุงโทนธรรมเดินฉีกยิ้มกว้าง มาพร้อมกับลูกเขยที่ยังไม่ได้ตบแต่งเข้าบ้านของเขาอย่างสุริยะ อัครภูรินทร์เดินถือพานขันหมากเอก และมีหมอเอลวินถือขันหมากโท ตามด้วยเหล่าเพื่อน ๆ ในกลุ่มเดอะเซฟเฟอะเช่นพนาธีร์ ผอ.ทัพฟ้า และท่านชายภูวสินคอยช่วยถือพานแหวนหมั้น คู่พานสินสอด ร่วมเดินในขบวนขันหมากในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวคุณพ่อที่เป็นเจ้าบ่าวเดินเข้ามาถึงบริเวณหน้าบ้านเพื่อสู่ขอคุณแม่คนสวยของพราวมนต์กับกล พิรุณเมฆชะงักฝีเท้าในทันใดเมื่อลูกแฝดทั้งสองยืนเคียงข้างดาเนียและผิงผิงที่กำลังทำหน้าที่กั้นประตูเงินประตูทองตรงหน้าปากทางเข้าบ้านหลายร้อยเมตร เขาเห็นด่านกั้นเกือบหกเจ็ดด่านยาวไปถึงตัวบ้านด้านในสุดก็รู้สึกนึกขำขันในใจว่าเมียจ๋าคิดจะทดสอบผัวคนนี้ให้หอบรับประทานกันไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม"พ
"ฮ่าฮ่า คุณจะบอกว่าคุณเป็นคนดีงั้นสิ" นภาธรขำเสียงดังด้วยความสะใจแล้วควักปืนออกมาเล็งมาที่หน้าของพิรุณโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ลูกน้องทั้งสองฝ่ายรีบชักกระบอกปืนขึ้นมาจ่อไปยังฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่มีใครยอมใคร"ไม่มีใครอยากบอกว่าตัวเองเลวหรอกค่ะ แหม...โชคดีจังที่เธอเสนอหน้ามาร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ เพราะฉันจะได้ไม่ต้องกลับไปจัดการที่กรุงเทพ ยังไงก็ขอบคุณนะที่เธอมา" กล่าวขึ้นอย่างเยาะเย้ยแล้วกดปลายกระบอกปืนแนบกับขมับหนึ่งข้าง สาวในชุดเดรสปาดไหล่สีแดงก้าวขาขึ้นมายืนเบื้องหน้าของนภาธร"ก....แกนังปาลิน!" นภาธรชะงักตัวแข็งทื่อขณะที่กลุ่มบอดี้การ์ดสาวจากจีโพรเทคชั่นที่เถ้าแก่พงศกรยกให้หลานสะใภ้ไปดูแลในฐานะผู้บริหารคนใหม่ ต่างล้อมวงเข้ามายืนซ้อนหลังลูกน้องของนภาธรและล็อกใส่กุญแจมือด้วยความรวดเร็วจนไม่มีไหวตัวทัน"หนีไปก็เท่านั้น อีกไม่กี่นาทีตำรวจก็จะมาถึงแล้ว และครั้งนี้อย่าคิดว่าตำรวจที่นี่จะกลายเป็นคนของเธออีก อย่าคิดว่าคนอย่างเธอจะเล่นพรรคเล่นพวกได้อยู่คนเดียวนะ เพราะฉันก็ทำได้เหมือนกัน"กรี๊ด!!!"ปล่อยฉันนะนังลิน แกไอ้พวกลูกกระจ๊อกโทรหาพ่อกูสิ พวกมึงจะยืนค้างอยู่ทำไม โทรสิวะ!"เพียะ!!หลังมื