ใบหน้าขาวที่กำลังหมกหมุ่นอยู่กับกลีบกุหลาบกลางลำตัวของปาลินรู้สึกร้อนผ่าวและซ่าบซ่านไม่ต่างกับเรือนร่างที่อ่อนไหว ทั้งที่เขามักจะเป็นฝ่ายถูกปรนเปรอจากสาวน้อยสาวใหญ่มากหน้าหลายตา แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะทำให้เขาหนาวที่หน้าขาได้เท่ากับเธอคนนี้ แต่ก่อนเขาเคยเกลียดขี้หน้าเด็กคนนี้จนแทบคลั่ง เขาโคตรไม่ชอบเลยที่เธอพยายามอ่อยผู้ที่เป็นเหมือนพี่ชายผู้มีพระคุณหนึ่งเดียวของเขา ทว่าเมื่อได้รับรู้เรื่องราวที่ทำให้เด็กสาวเป็นคนร้าย ๆ แรง ๆ นั่นก็เพราะเธอกำลังสร้างกำแพงขึ้นมาปกป้องตัวเอง แต่นับจากนี้ต่อไปเขาจะเป็นคนทุบกำแพงนั่นให้ละเอียด และไม่ว่าใครก็ตามที่หวังจะเข้ามาแตะต้องผู้หญิงคนนี้ เขาจะสนองคืนให้เป็นร้อยเท่าพันเท่า
ชิวหาแดงที่จ้วงแหย่อย่างเอาเป็นเอาตายกวาดต้อนน้ำผึ้งรสเลิศออกมาจากภายในของปาลินอย่างไม่มีหยุดพัก ขณะดวงหน้าแดงระเรื่อกำลังแหงนหงายขบเม้มข่มอารมณ์ที่สุดสยิวนี้ไว้อย่างทรมาน
"พี่เรน...อ๊า" พิรุณออกแรงดูดกลืนครั้งสุดท้ายลงไปที่ปุ่มกระสันครานั้นร่างที่ส่ายบิดเร่าก็กระตุกแอ่นเกร็งค้างนิ่ง ปาลินหลับตาพริ้มหายใจกระชั้น มุมปากกระจับของเขายกขึ้นพร้อมคร่อมตัวลงมามองดูดวงหน้าที่กำลังปรือมองเขา แก้มใสเป็นปื้นอมชมพูเพราะความเขินอายที่มีต่อเขา
"น่ารักจัง" เสียงอุ่นร้อนรดอาบลงมาบนแก้มนวลจมูกโด่งฝังลงไปบนเนื้อแก้มเกลี่ยไปมาเลื่อนจรดริมฝีปากของตนลงไปที่กลีบปากบางที่เผยอออกรอคอยเขาอย่างรู้ใจ พิรุณจูบปลอบประโลมอ้อยอิ่งมือข้างหนึ่งจับสอดอาวุธของตนถูครูดไปที่เนินเนื้อแฉะเยิ้มของปาลิน
"อ๊ะ..." ปาลินละปากบางออกตะปปท่อนแขนหนาที่คร่อมยันอยู่ข้างหัวไหล่ "มัน..มันจะเจ็บไหมคะ" ดวงตาที่คลอด้วยน้ำตาเพราะกำลังเกิดความมั่นใจกับบางสิ่งที่กำลังจ่อถูอยู่หน้าขาของเธอ
"เจ็บแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ อีกสักพักลินจะรู้สึกว่าอยากได้พี่ไปตลอดชีวิต"
คำพูดที่ชวนขนลุกของเขาทำเอาความร้อนที่อาบอยู่แถวใบหน้าเริ่มร้อนไปถึงเบื้องล่างและบางอย่างข้างในตัวเธอก็กำลังกระตุกตอดแปลก ๆ หรือนี่คืออาการของคนที่กำลังต้องการความสุขสมอย่างงั้นเหรอ
"ค่ะ" มือนุ่มสองข้างคล้องลงมาที่หลังคอ พิรุณก้มลงไปจูบเคล้ากลีบปากนำทางให้ร่างนี้ผ่อนคลายพลางชำแรกเนื้อท่อนใหญ่เข้าไปบดเบียดเสียดสีกลีบกุหลาบร้อนที่ฉ่ำชื้นด้วยน้ำใส ความไหลลื่นของช่องทางรักทำให้การเดินทางเข้าไปถึงปลายทางเป็นไปอย่างไม่ลำบากมากนัก
"อ๊า..อ๊ะเจ็บ" เสียงหวานที่ครางว่าเจ็บทำให้เขาต้องหยุดพักครู่หนึ่งแล้วก้มลงจูบที่ปากบางไปมาซ้ำ ๆ ให้ปาลินหลงลืมความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นจากนั้นเขาก็เดินหน้าต่อจนกระทั่งผ่านเยื่อบาง ๆ ในตัวของปาลินไปได้ ความบริสุทธิ์แรกแย้มนี้เป็นของเขาคนแรกและจะเป็นสิ่งสุดท้ายของเขาเช่นกัน
"อื้อ..พี่เรนหยุดก่อนค่ะ เจ็บจัง"
"ความเจ็บนี้ของลินมันกำลังบอกพี่ว่าลินเป็นคนของพี่โดยสมบูรณ์แล้ว และพี่ก็เป็นของลินคนเดียวครับ" ปาลินคงจะเป็นคนแรกและคนเดียวที่เขาสรรหาคำพูดมากล่อมหูเธอได้มากมาย ทั้งทำให้เขาพูดครับพูดแทนตัวเองว่าพี่ได้เป็นนับสิบ ๆ ครั้งโดยไม่รู้สึกอึดอัดใจ ไม่ได้รู้สึกว่าถูกบังคับให้พูด แต่เป็นเพราะเขาอยากจะพูดอะไรแบบนี้กับแค่คนพิเศษจริง ๆ เท่านั้น
เอวแกร่งที่เต็มด้วยมัดกล้ามอันแสนเซ็กซี่เคลื่อนขยับอย่างค่อยเป็นค่อยไปช้าช้า จนถึงเริ่มเร็วขึ้น สองมือหนาจับมือนุ่มสองข้างสอดประสานนิ้วทั้งสิบเพื่อยึดตัวเขาและเธอไว้ให้สอดรับประสานตามจังหวะที่กำลังถาโถมลงมา
"อ๊ะ...ฮึ้มพี่เรน พี่เรน" เสียงหวานครางทำให้เขาทิ้งน้ำหนักลงไปมากขึ้น และเร็วขึ้นเต้าอิ่มพูนล้นกระเพื่อมลงจากแรงอัดกระแทก
"ลินลืมตามองพี่ มองพี่หน่อย" ปาลินปรือมองริมขอบตามีน้ำใสเคลือบอยู่ในตอนแรกเพราะความเจ็บที่เหมือนกับจะฉีกขาด ทว่าวินาทีนี้ความเสียวที่กำลังแล่นพล่านไปทั่ว ช่างย้อนแย้งและแปลกประหลาดที่สุดรสสวาทที่ชายหญิงทั้งหลายต่างหลงใหล เมื่อได้เกิดขึ้นกับเธอเองมันจึงทำให้เธอเข้าใจ
"พี่เรนหล่อจัง" ก็เพราะว่าเธอไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากชมว่าเขามันหล่อ หล่อทั้งการกระทำที่มีต่อเธอและคำพูดที่คอยปลอบโยนเธอเสมอ บัดนี้หัวใจของเธอตึกตักสั่นไหวไปหมด มันก็เป็นเพราะผู้ชายคนนี้ทั้งสิ้น ทั้งที่เธอคิดว่าชาตินี้มันคงไม่เกิดขึ้นกับคนอย่างเธอที่เผชิญเรื่องร้ายอันน่ารังเกียจเหล่านั้นมา แต่พิรุณ ปรมะเมคินทร์ผู้มีสถานะที่แสนน่ากลัวและมีอำนาจที่ทำให้หลายคนยอมสยบ เขาผู้นี้กำลังทำให้หัวใจแข็งกระด้างของเธออ่อนนุ่มลงจนเกือบหลอมละลาย
"ขอบคุณครับ" สิ้นเสียงนุ่มเอวสอบก็กระหน่ำเข้ามาซอยถี่รัวจนปลายขาเรียวคล้องกับเอวขาวจั๊วะของเขาไว้โดยสัญาชาติญาณเพราะการทำแบบนี้จะทำให้เนินเนื้อของเธอและสรรพาวุธของเขาผสานรวมตัวเป็นหนึ่งได้แน่นแฟ้นและกระชับมากขึ้น "เก่งแล้วนี่คล้องเท้าเอาไว้นะพี่จะทำให้ลินเห็นแสงสว่างที่สวยที่สุดเอง"
ปากที่ช่างพรรนาณาโวหารของเขาก้มลงดูดเคล้าปากเล็กระหว่างที่กำลังบดตัวตนลงมาจนเกิดเสียงดังกระทบกัน เสียงครางของทั้งสองระงมไปทั่วบ้าน กึกก้องกังวานจนขับความกระสันซ่านให้ทวีคูณ
"อึ้ม...ลินของพี่อ่า" พิรุณกระแทกแรงสวาทครั้งสุดท้ายลงไปที่กลีบเนื้อฉ่ำ
"อ้าาาอ๊ะ..ฮึก" สะโพกนุ่มแอ่นรับหยัดเกร็งสองมือตะปปกอดแผ่นหลังของเขาแนบชิดร่างกายทั้งสองบดเบียดแนบแช่กันและกันเนิ่นนาน เหงื่อชุ่มโทรมกายร่างทั้งสองที่กอดกลมเกลียว พิรุณกระตุกเกร็งเป็นระลอกตามแรงอัดฉีดของน้ำจากตัวตนที่พรั่งพรูออกมาเป็นระยะ จวบจนกระทั่งมันแห้งเหือดไม่มีสิ่งใดออกมาอีกเขาจึงได้ถอนตัวตนที่อ่อนยวบสิ้นแรงออกมา แล้วประคองหลังชื้นเข้ามานั่งบนตักของเขาโอบกอดเธอไว้แน่นปาลินหายใจระทวยรดอยู่กับซอกคอของเขากระชับแผ่นหลังที่อาบเหงื่อจนเปียกชุ่มไม่ต่างกับเธอ
"พี่ก็อยากทำไปยันเช้าเลย แต่กลัวลินจะไม่ไหว วันนี้แค่เบาะ ๆ ก่อนนะตัวแสบ" เสียงเข้มกระซิบข้างหูแล้วพรมจูบที่หัวไหล่ชื้น
"นี่คือเบาะ ๆ เหรอคะ แต่ตอนนี้ลิน..ลินหิวแล้ว" พิรุณดันตัวของปาลินออกเกลี่ยเช็ดเหงื่อที่แก้มนุ่มแดง
"เดี๋ยวตอนเช้าไปตลาดแม่ลินกันไหม อยากกินอะไรล่ะ" เขาถามพลาบบีบแก้มของเธอจนยู่
"อยากกินเยอะเลยค่ะโดยเฉพาะน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋" หญิงสาวพูดออดอ้อนพิรุณอมยิ้ม คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่วันนั้นเขาลงทุนซื้อปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ให้เธอ มันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของวันนี้ วันที่เธอเป็นผู้หญิงของเขา
1 ปี 8 เดือน ผ่านไป (ไวเหมือนว๊าปมา)"โอ๊ย!.....อย่าดึงสิหมื่น พี่เจ็บนะ ก็บอกว่าอย่าดึงไงเล่า" พราวมนต์ยื้อยุดเส้นผมบนหัวของตนคืนจากน้องชายคนสุดท้องของบ้านที่กำลังกำทึ้งผมเธอเอาไว้เป็นกำใหญ่ ดึงไปซ้ายทีขวาทีจนพี่สาวเจ็บจนหน้าเบี้ยว"หมื่นหล้าครับปล่อยผมพี่มนต์ก่อนสิลูก พี่เจ็บจะแย่แล้ว ถือว่าแม่ขอนะครับ" ปาลินที่เพิ่งจะทำเมนูโปรดของสามแสบเสร็จปรี่เข้ามาแกะมือน้อยของลูกชายวัยหนึ่งขวบห้าเดือนออกจากหัวของลูกสาวคนโต"หม่ำหม่ำ....แฮ่!! แฮ่!!" เจ้าหนูชูมือขึ้นสูงชี้มือไปยังโต๊ะกินข้าวแล้วทำหน้าขู่เลียนแบบโอเลี้ยง"มะม๊าหมื่นขู่ทำไมคะ" พราวมนต์ที่ได้หัวคืนจากน้องชายรีบจัดทรงผมให้เข้าที่เข้าทาง"สงสัยจะติดมาจากหมามั้งลูก เอ้....มะม๊าก็เพิ่งจะเห็นว่าหมื่นขู่" ปาลินเกาหัวแกรก ๆ"ทุกคนปะป๊ากลับมาแล้วคร้าบบบบ แล้วปะป๊าก็ซื้อขนมมาเยอะแยะเลยด้วย" พิรุณเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับถุงขนมมากมาย ทันใดที่เห็นคุณพ่อหมื่นหล้าตัวร้ายก็ปีนลงจากโซฟารีบเดินเตาะแตะเข้าไปกอดขาของชายหนุ่มด้วยความดีใจ"ป้าป้าาาาา ปะป้าาา ปุ้งปุ้ง"แป๊ดดดดด~กลิ่นและเสียงแสนเหม็นเขียวคละคลุ้งไปทั่วทั้งบ้าน"อุแว้ก!" กลเมฆที่นั่งอ่านห
บ้านปรมะเมคินทร์ฝ่ายใต้พิรุณทำตามสัญญาของปู่พงศกรที่ต้องการให้พาลูกสาวและลูกชายฝาแฝดของเขามาประทับลายนิ้วมือเพื่อเป็นผู้นำคนใหม่ รวมทั้งเปิดรายละเอียดต่าง ๆ ให้หลานชายและหลานสะใภ้ได้รับรู้พร้อมกันว่า พราวมนต์กับกลเมฆมีสิทธิ์มีส่วนในทรัพย์สินใดของตระกูล"มาลูกนั่งตรงนี้ประทับนิ้วลงไปเลยทั้งสองคน" ทนายกริช ทนายประจำตระกูลจับนิ้วโป้งของแฝดผู้พี่ลงมาบนตลับหมึกแล้วทาบนิ้วเล็กลงไปบนแผ่นกระดาษ แล้วจึงจับนิ้วของกลเมฆลงมาประทับอีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น"เรียบร้อยครับ นายน้อยทั้งสองจะได้รับมรดกเป็นบ้านหลังนี้ บริษัทและธุรกิจทั้งหมดในเครือ PMK Group ทั้งหมด แล้วที่เหลือก็ยกให้เป็นการตัดสินใจในอนาคตอีกทีครับ เพราะตอนนี้คุณหนูแฝดยังเด็กด้วยกันทั้งคู่" ทนายรุ่นลุงกล่าว"คุณปู่ขา มนต์ไปเล่นกับหมาสีดำตัวนั้นได้ไหมคะ" พราวมนต์ชี้ไปยังลูกสุนัขลาบราดอร์สีดำวัยกำลังซุกซนที่ดาเนียหลานสาวเอามาแบ่งให้ช่วยกันเลี้ยง"ตามสบายเลยลูก เจ้าเปียกปูนมันไม่ดุหรอกใจดีมาก ๆ" ผู้เฒ่าวัยย่างเก้าสิบเอ่ยพลางลูบหัวเหลนสาว"โอเคค่า...ไปเร็วเมฆไปเล่นกับเปียกปูนกันเถอะ" แฝดผู้พี่ที่มีแววเป็นมังกรสาวที่จะกุมอำนาจของปรมะเมคินทร์
เพียงแค่ถูกเล้าโลมที่กึ่งกลางลำตัวสะโพกผายก็แอ่นร่อนบิดส่ายจนสติพร่าเลือน ไม่รู่ว่าคุณย่าดาหลา ย่าของสามีเอายาสูตรไหนมาให้เธอกับพี่เรนกิน มันถึงได้ร้อนสลับหนาวจนใจว้าวุ่นไปหมดยิ่งไปกว่านั้นพี่เรนของเธอก็ไม่มีท่าทีจะให้ค่ำคืนนี้จบลงง่าย ๆ ยังคงยืนหยัดยึดปณิธานอันแรงกล้าว่าจะปั๊มลูกคนที่สามให้สำเร็จ หรือสามีตกลงเงื่อนไขสำคัญข้อใดกับเถ้าแก่พงศกรและย่าดาหลา ถึงได้อุตสาหะและมานะต่อการสร้างผลผลิตอันน่ารักนี้ซะเหลือเกินสำหรับเธอที่ต้องทำหน้าที่แม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้างที่จะต้องแบกท้องไปอีกเก้าเดือน ทว่าเมื่อคิดถึงความรัก ความภักดี และความซื่อสัตย์ที่ตราตรึงอยู่ภายในใจ ก็ไม่มีเหตุผลใดมาหักล้างความดีของพี่เรนได้เลยสักข้อ มีแต่ความยินยอม ความเต็มใจทุ่มและเทให้เขาไปแทบทั้งสิ้น"ตัวเล็กเงียบทำไม ลินครับเป็นลมหรือเปล่า" ชายหนุ่มยอดรามือจากกลีบเนื้อที่ฉ่ำวาวแล้วลุกขึ้นประคองแผ่นหลังเล็กขึ้นมาโอบอุ้มในวงแขนกว้าง"เปล่าค่ะแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย" ยิ้มแฉ่งแล้วซุกหัวแนบกับแผงอกขาวเนียน ปลายนิ้วชี้เขี่ยไปที่ตุ่มไตสีชมพูเพื่อแหย่เล่น"อยากกินนมพี่ก็ไม่บอก""อยากกินพี่เรนทั้งตัวเลยต่างหาก" คล้องวงแขน
พิรุณยืนเป่าผมในห้องน้ำอยู่นานกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูแบบทุบรัว ๆ เหมือนกับมีเรื่องคอขาดบาดตายที่ด้านนอก เขาหยุดเป่าผมและเปิดประตูออกไป ไม่ทันไรก็ถูกกระชากเข้าไปหา ฝ่ามือนุ่มที่รุ่มร้อนพันเลื้อยสอดเข้ามาใต้กางเกงนอนรั้งบั้นท้ายแน่นให้เบียดกับเนื้อตัวที่กำลังครางอยู่ในลำคอ"อื้ม....พี่เรนขา พี่เรนหล่อจังเลย""ห๊า....จู่ ๆ ก็ชม" ชายหนุ่มเหลือบมองบริเวณรอบบ้านให้แน่ใจว่าบรรยากาศข้างนอกเงียบสงัด ไร้ผู้คนพลุกพล่านแน่ชัด เขาจะได้เสพสุขทุกซอกทุกมุมของบ้าน และทุกซอกทุกตารางนิ้วของปาลินที่โหยหามาตลอดหนึ่งเดือน"พี่เรนลินร้อนวูบวาบแปลก ๆ พี่เรนช่วยลินหน่อยสิคะ" มือไม้ที่ล้วงไปกุมซันนี่ของเขาเคลื่อนออกมาเลื่อนขึ้นมาถึงหน้าอกที่เปลือยเปล่า หรือนี่จะเป็นเพราะยาสมุนไพรจีนม้าศึกฉบับสามก๊กของคุณย่า แม่ตัวเล็กถึงได้คึกคักถึงเพียงนี้"ก็ลินกินยานั่นไปเยอะ" รวบยกบั้นท้ายนุ่มขึ้นแล้วหย่อนลงข้างอ่างล้างมือที่มีจานเลมอนสีเหลืองกับเมลอนสองลูกวางอยู่"มันคือยาอะไรเหรอคะ.....อ๊า" กระดุมเสื้อนอนถูกปลดออกจนถึงเม็ดสุดท้ายอย่างว่องไว ปากที่ไร้ความอดกลั้นก็ตะโบมดูดลงมารวดเร็วไม่แพ้กัน ยอดถันออกสีแดงเหมือนเม็ดเก
ขบวนขันหมากจัดขึ้นที่บ้านหลังใหม่เอี่ยมของพิรุณและปาลิน เจ้าบ่าวหน้าตาหลอเหลายิ้มแย้มแจ่มใสขณะที่เดินมาพร้อมกับเครือญาติของปรมะเมคินทร์เกือบสามสิบชีวิต พิรุณในชุดสูทสีครีมแบบเป็นทางการเดินถือพานธูปเทียนแพ โดยมีเจ้าสัวเทิดวิช คุณเพชรไพร พ่อแม่ของเขาที่กลับมารักกันหวานชื่นในรอบยี่สิบปีคอยเดินขนาบข้างลูกชายไปพร้อมกันด้านหลังมีลุงโทนธรรมเดินฉีกยิ้มกว้าง มาพร้อมกับลูกเขยที่ยังไม่ได้ตบแต่งเข้าบ้านของเขาอย่างสุริยะ อัครภูรินทร์เดินถือพานขันหมากเอก และมีหมอเอลวินถือขันหมากโท ตามด้วยเหล่าเพื่อน ๆ ในกลุ่มเดอะเซฟเฟอะเช่นพนาธีร์ ผอ.ทัพฟ้า และท่านชายภูวสินคอยช่วยถือพานแหวนหมั้น คู่พานสินสอด ร่วมเดินในขบวนขันหมากในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวคุณพ่อที่เป็นเจ้าบ่าวเดินเข้ามาถึงบริเวณหน้าบ้านเพื่อสู่ขอคุณแม่คนสวยของพราวมนต์กับกล พิรุณเมฆชะงักฝีเท้าในทันใดเมื่อลูกแฝดทั้งสองยืนเคียงข้างดาเนียและผิงผิงที่กำลังทำหน้าที่กั้นประตูเงินประตูทองตรงหน้าปากทางเข้าบ้านหลายร้อยเมตร เขาเห็นด่านกั้นเกือบหกเจ็ดด่านยาวไปถึงตัวบ้านด้านในสุดก็รู้สึกนึกขำขันในใจว่าเมียจ๋าคิดจะทดสอบผัวคนนี้ให้หอบรับประทานกันไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม"พ
"ฮ่าฮ่า คุณจะบอกว่าคุณเป็นคนดีงั้นสิ" นภาธรขำเสียงดังด้วยความสะใจแล้วควักปืนออกมาเล็งมาที่หน้าของพิรุณโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว ลูกน้องทั้งสองฝ่ายรีบชักกระบอกปืนขึ้นมาจ่อไปยังฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่มีใครยอมใคร"ไม่มีใครอยากบอกว่าตัวเองเลวหรอกค่ะ แหม...โชคดีจังที่เธอเสนอหน้ามาร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ เพราะฉันจะได้ไม่ต้องกลับไปจัดการที่กรุงเทพ ยังไงก็ขอบคุณนะที่เธอมา" กล่าวขึ้นอย่างเยาะเย้ยแล้วกดปลายกระบอกปืนแนบกับขมับหนึ่งข้าง สาวในชุดเดรสปาดไหล่สีแดงก้าวขาขึ้นมายืนเบื้องหน้าของนภาธร"ก....แกนังปาลิน!" นภาธรชะงักตัวแข็งทื่อขณะที่กลุ่มบอดี้การ์ดสาวจากจีโพรเทคชั่นที่เถ้าแก่พงศกรยกให้หลานสะใภ้ไปดูแลในฐานะผู้บริหารคนใหม่ ต่างล้อมวงเข้ามายืนซ้อนหลังลูกน้องของนภาธรและล็อกใส่กุญแจมือด้วยความรวดเร็วจนไม่มีไหวตัวทัน"หนีไปก็เท่านั้น อีกไม่กี่นาทีตำรวจก็จะมาถึงแล้ว และครั้งนี้อย่าคิดว่าตำรวจที่นี่จะกลายเป็นคนของเธออีก อย่าคิดว่าคนอย่างเธอจะเล่นพรรคเล่นพวกได้อยู่คนเดียวนะ เพราะฉันก็ทำได้เหมือนกัน"กรี๊ด!!!"ปล่อยฉันนะนังลิน แกไอ้พวกลูกกระจ๊อกโทรหาพ่อกูสิ พวกมึงจะยืนค้างอยู่ทำไม โทรสิวะ!"เพียะ!!หลังมื