หลายวันมานี้วันสุขอยู่แต่ห้องสีเหลี่ยมเดิม ๆ บรรยากาศอุดอู้ทำให้เธอเบื่อหน่าย อยากออกไปสูดอากาศข้างนอก แต่ก็ไม่สามารถไปได้ ตอนนี้เธอเหมือนกับสัตว์เลี้ยงที่ถูกขังในกรงเพื่อรอฟังคำสั่ง เธอกิน นั่ง นอน วนเวียนอยู่แบบนั้นจนตะวันตกดินวันแล้ววันเล่า เคยอ้อนวอนป้านางให้ปล่อยเธอออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง
“น่าเบื่อชะมัด...มันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวฉันกันแน่” อิงฟ้านอนมองเพดาน เธอพร่ำถามตัวเอง สภาพการณ์ที่ย่ำแย่แบบนี้ บางความรู้สึกวันสุขก็แทบไม่อยากจะเทียบว่าเป็นนกน้อยในกรงทอง มันเหมือนกับทาสหรือนางบำเรอเสียมากกว่า
หลายวันนับตั้งแต่วันที่วันสุขไม่สบาย เธอก็ยังไม่ได้เห็นหน้าของกวินอีกเลยจวบจนตอนนี้
“ไอ้บ้านั่นหายไปไหน?” เธอนอนบ่นพึมพำ
“ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้น...คิดถึงฉันอยู่หรือไง” เสียงที่คุ้นเคยทำให้วันสุขดีดตัวลุกนั่ง มองไปยังเจ้าของเสียงด้วยสีหน้านิ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี
“ฉันเกลียดขี้หน้านาย แล้วนี่เข้ามาทำไม?”
“ลืมหน้าที่ตัวเองแล้วหรือไง”
“ออกไปเลยนะ...ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย”
“ฉันมาทำหน้าที่สามี เธอจะไล่แบบนี้ได้ยังไง”
“ไอ้ลามก”
“วันนี้ฉันเหนื่อย อย่าเสียงดังนักเลย”
พูดจบเขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงข้างเธอ จนวันสุขดีดตัวออกห่างแทบไม่ทัน เหมือนทุกอย่างที่เป็นกวินในตอนนี้แตกต่างออกไปจากเริ่มแรกที่เธอเห็น จนทำให้เธอแทบไม่อยากจะเชื่อว่าคือคนเดียวกัน กับคนที่โหดร้ายเอาเธอเป็นเป้ายิงปืน
“นายลุกออกไปเลยนะ!”
“ซื๊ด” วันสุขใช้เท้าถีบจนกวินตกเตียง จนเขาส่งเสียงครางต่ำเพราะเจ็บปวด
“สมน้ำหน้า” เธอเย้ยหยันและหัวเราะชอบใจ
กวินไม่ได้ตอบโต้อะไร เขาหยัดตัวลุกยืน มือกุมช่วงเอวแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก น้ำสีแดงซึมทะลุเสื้อเชิ้ตสีขาว สีที่แตกต่างชัดเจนทำให้วันสุขตกใจ รีบลงจากเตียงแล้วเดินไปดูใกล้ ๆ
“นายเป็นอะไร ทำไมเลือดออกแบบนี้ล่ะ” เธอถามแต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบ
กวินเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลอย่างทุลักทุเล เขาไม่ต่อว่าด่าทอคนที่ทำให้เขาเจ็บซ้ำ เพราะไม่มีแรงมากพอจะต่อกลอนกับหญิงสาว
“ฉันขอดูแผลหน่อย”
“ไม่ต้องยุ่งน่า” เขาปัดมือเธอออก
“นายอย่าดื้อได้ไหม...เลือดออกขนาดนี้ ฉันว่าให้คนพานายไปโรงพยาบาลเถอะ” วันสุขไม่รามือ เธอพยายามดูแผลของเขาจนได้
“ไม่ไป”
บาดแผลที่เห็น เลือดที่ไหลออกมา ทำให้วันสุขไม่สบายใจ เธอไม่อยากเห็นใครต้องมาตายต่อหน้า
“เลือดออกขนาดนี้โดนอะไรมากันแน่”
“โดนยิง”
คำตอบของเขาทำให้มือที่กำลังง่วนกับการทำแผลของวันสุขชะงัก เธอเงยมองหน้าเขาชั่วครู่ แล้วจัดการทำแผลของเขาต่อ เธอไม่สงสัยแม้แต่น้อยกับการที่เขาได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ เพราะคนอย่างเขาน่าจะมีศัตรูรายล้อม หนึ่งในนั้นก่อนหน้าก็คงเป็นพ่อของเธอ ที่ถูกเขากำจัดไปแล้ว
ระหว่างที่วันสุขทำแผล เขามองเธออย่างจดจ้อง ความคิดหลากหลาย ความรู้สึกว้าวุ่นสับสนปนเปไปหมด ความในใจบางอย่างที่ยากจะเอ่ยปาก ลำดับไม่ถูกเลยว่าจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ยังไง
“วันสุข” เขาเรียกชื่อเสียงอ่อน
“หื้ม?” เธอครางเสียงต่ำตอบโต้ โดยที่มือก็ยังสารวนจัดการบาดแผล
“ถ้าผมบอกว่า...” ความในใจที่อยากเอ่ย แต่พอมองหน้าเธอแล้วปากหนักขึ้นมาทันที เหมือนถูกปิดด้วยเทปกาวจนขยับปากพูดไม่ได้
“ว่าอะไร?”
“ผม...” เขาอ้ำอึ้ง
“ประสาทหรือไง เป็นอะไรของนาย บทจะพูดดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายก็ร้ายจนฉันตั้งรับแทบไม่ไหว ไบโพล่ากินหัวนายหรือไง จะพูดอะไรก็พูดมา” ทีท่าของเขาทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิด
“ถ้าบอกว่าผมไม่ใช่คนที่ฆ่าพ่อของคุณ คุณจะเชื่อไหม?”
“ไม่เชื่อ!”
“ผมดูเป็นคนโหดร้ายไม่น่าเชื่อขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ก็ใช่น่ะสิ ไม่ใช่แค่โหดร้ายแต่นายมันโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์มนาเลยต่างหากล่ะ”
คำพูดของวันสุขมันจี้ใจจนเขาไม่กล้าถามความเห็นของเธอต่อ ในเมื่อเธอปักใจเชื่อแบบนั้น ยากแล้วที่จะเปลี่ยนความคิดของเธอที่มีต่อเขา ซึ่งเขาเข้าใจดีวันแรกที่พบหน้ากัน กวินก็ไม่ได้ทำดีกับเธอ นอกจากทำร้ายเธอทั้งร่างกายและจิตใจ ที่ทำแบบนั้นล้วนมีเหตุผลให้เขาต้องกระทำ
บ้านหลังงามสุดหรูเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยเสียง...“เฮ้ย! ชั้นวางขวดนมวางตรงนี้ก่อน มึงจะเอาไปเก็บที่อื่นทำไมวะคีย์!?”“เพราะมึงวางขวางทางเดิน! เดี๋ยวกูเหยียบลื่นล้มหัวแตก ใครจะอุ้มหลาน!?”“อุ้มหลาน? นี่ลูกกู!!”เสียงปะทะของสองคุณพ่อและคุณอาผู้เห่อหลานสนั่นไปทั้งบ้าน จนแม่บ้านต้องเดินอ้อมไปอีกทาง เพราะไม่อยากถูกลูกหลงจากสงครามของสองชายวัยสามสิบกว่า ๆวันสุขที่เพิ่งลงจากชั้นบน มาพร้อมลูกน้อยในอ้อมแขน ส่งสายตามองสองท่านผู้ใหญ่ ที่เถียงกันเรื่องขวดนมกับผ้าเช็ดตัวแบบไม่มีใครยอมใครเธอวางลูกเบา ๆ บนเบาะเด็ก แล้วกอดอกมอง แล้วเอ่ยเสียงนิ่งแต่ฟาดหัวใจ“นี่พวกคุณไม่คิดจะไปทำงานกันบ้างเหรอ?”ห้องทั้งห้องเงียบลงในพริบตา คีย์ยักไหล่ก่อนตอบเสียงเรียบ“มีลูกน้องดูแลอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่”กวินพยักหน้ารับตามทันที“ใช่ ผมเซ็นมอบอำนาจรองผู้บริหารไว้หมดแล้วครับที่รักไม่ต้องกลัวเลย มีแม็กดูแลบัญชี มีบอดี้การ์ดชุดเต็มรับมือทุกสถานการณ์”“แล้วฉันล่ะ?” วันสุขถามนิ่ง ๆ“คุณเป็นแม่ของลูกผม เป็นวีไอพีของบ้านนี้” กวินตอบพร้อมส่งยิ้มละมุนวันสุขถอนหายใจยาว “งั้นแม่ของลูกจะไปจัดตารางงานต่อ ฝากเลี้ยงลูกด้วยนะ
เสียงรถสปอร์ตหรูจอดสนิทหน้าบ้าน พร้อมกับกวินที่เดินลงจากรถในชุดลำลอง แต่ความขึงขังยังเต็มพิกัด เขาไม่ใช่แค่มาเฟียระดับโลกอีกต่อไป...แต่เป็นคุณพ่อมือใหม่ ที่เตรียมทุกอย่างไว้ละเอียดยิ่งกว่าแผนลอบสังหารศัตรูระดับประเทศ"ชุดเด็กพร้อม""เปลไฮเทคสั่งตรงจากเยอรมันติดเซ็นเซอร์ตรวจจับลมหายใจ""กล้องวงจรปิดในห้องนอนลูกมีระบบเอไอจับอารมณ์""หุ่นยนต์ป้อนนมอัตโนมัติสำรอง 2 ตัว""ยามรักษาความปลอดภัยรอบบ้านเพิ่มอีกหนึ่งทีม"คีย์ที่เดินมาด้วยถึงกับยกมือทาบอก"มึงแน่ใจนะว่านี่ลูก ไม่ใช่ผู้นำประเทศ"กวินปรายตามองเพื่อนอย่างนิ่งขรึม “ลูกกูเกิดมาทั้งที ต้องปลอดภัยที่สุดในโลก”วันสุขที่พุงโตมาก ๆ เดินออกมาช้า ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มละมุน“กวินคะ บางอย่างมันเกินไปแล้วค่ะ ขนาดตู้เสื้อผ้าเด็กยังมีระบบสแกนฝุ่น PM 2.5 ก่อนเปิด”กวินรีบเข้ามาประคองเธอทันที “อย่าเดินเร็วแบบนั้นสิครับเดี๋ยวลื่น”“จะลื่นได้ไงคะ พื้นบ้านคุณมันสะอาดกว่าห้องผ่าตัดโรงพยาบาลอีก...” เธอยิ้มขำ ๆกวินจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเธออย่างแสนรัก “ผมไม่เสี่ยงแม้แต่วินาทีเดียว คุณกับลูกคือทั้งชีวิตของผม”กลางดึกที่มีเพียงแสงจันทร์อ่อน ลอดผ่านกระจกหน้าต่างเ
เสียงล้อเครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินนานาชาติประเทศไทย พร้อมกับเสียงถอนหายใจของคีย์ ผู้ที่เป็นมือขวาคู่ใจและเพื่อนรักเพื่อนตายของกวิน ในวันนี้ไม่ได้กลับมาเพื่อเคลียร์ศัตรู ไม่ได้กลับมาเพื่อคุมธุรกิจ... แต่กลับมาเพราะจะตั้งชื่อลูกให้เพื่อน“บอส! คุณคีย์กลับมาแล้วครับ!” แม็ก คนสนิทของกวิน รายงานอย่างขึงขัง แต่พอเห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าล้อลาก และตุ๊กตาหมีสีฟ้ายักษ์ บรรยากาศก็เปลี่ยนทันที“อ้าว... พวกแกไม่ยืนตั้งแถวต้อนรับหลานฉันเหรอ!” คีย์ตะโกนลั่น“ลูก! กู! ไอ้คีย์” เสียงกวินดังมาจากด้านหลังด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ตึงเป๊ะ“เอ้า กวิน! กูรีบกลับมาเพราะเรื่องนี้เลยนะ ไหนหลานอยู่ไหน กูจะตั้งชื่อให้ว่าลีโอดีไหม หรือคาเรน ถ้าเป็นผู้หญิงชื่อนี้ความหมายดีนะ”กวินยกคิ้ว “สรุปมึงจะตั้งชื่อลูกกู?”คีย์ยักไหล่ “ก็หลานกูปะวะ”“คุณคีย์จะเห่อเกินไปแล้ว” แม็กพึมพำเบา ๆ จนวันสุขที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลุดหัวเราะ“นี่! อย่าคิดว่ากูจะไม่หาของเล่น นี่ซื้อมาครึ่งชั้นวางของในห้างแล้ว!” คีย์พูดอย่างภาคภูมิใจ พลางหยิบของเล่นเด็กอ่อนขึ้นมาโชว์เป็นชิ้น ๆวันสุขส่ายหัวพลางยิ้มกริ่ม“คุณคีย์คะ หลานยังไม่คลอดนะคะ อีก
คฤหาสน์ธาราพิพัฒน์หนึ่งเดือนหลังพิธีเปิด Phoenix Sovereign V.2ช่วงเย็นอบอุ่น แสงอาทิตย์สาดลอดผ้าม่านผืนบาง วันสุขเดินลงบันไดอย่างสบาย ๆ แต่กลับไม่เจอใครเลยในบ้าน แม้แต่แม่ของเธอก็หายตัวไปเงียบ ๆ ตั้งแต่ช่วงบ่ายสวนด้านหลังคฤหาสน์ เส้นทางไม้เรียงด้วยกลีบดอกกุหลาบ เสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาลอยมา วันสุขเดินตามกลิ่นหอมบาง ๆ ของลาเวนเดอร์ จนถึงศาลากลางสวน ที่ถูกประดับด้วยไฟระยิบระยับ ภายในศาลามีโต๊ะอาหารสำหรับสองที่ ไวน์แดง แชนเดอเลียร์คริสตัล และแม่ของเธอ ยืนยิ้มอยู่ข้างประตู “แม่?” วันสุขงงจนแทบหลุดยิ้ม แม่ของเธอยิ้มแล้วเดินมากุมมือเธอ“แม่เคยเห็นแววตาผู้ชายแบบเดียวกับพ่อของลูกครั้งหนึ่ง ในดวงตาของกวิน และวันนี้แม่อยากยืนอยู่ตรงนี้ ในฐานะแม่ของลูกสาวที่กำลังจะถูกรักตลอดไป”เสียงเท้าคนเดินเข้ามาเงียบ ๆ กวินในชุดสูทเรียบหรู ก้าวออกมาจากเงาไม้ ไม่มีบอดี้การ์ด ไม่มีปืน ไม่มีอำนาจ มีแค่แหวนในกล่องเล็ก ๆ และแววตาที่อ่อนโยน เหมือนพระจันทร์กลางคืนที่ไม่มีเมฆ“วันสุข ผมเคยสัญญากับพ่อคุณว่าจะดูแลคุณ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยากดูแลคุณเพราะสัญญาอีกแล้ว…”เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ ยื่นกล่องแหวนออกมา มือข้างหนึ
กรุงเทพฯ สำนักงาน Phoenix Sovereign แห่งใหม่วันสุขในชุดสูทสีครีมเข้ม กวินอยู่ข้างกายในลุคมาดนิ่ง และคีย์เดินตามในมาดเงียบขรึม บรรยากาศในห้องประชุมใหญ่เต็มไปด้วยพันธมิตร นักลงทุนระดับโลกและสื่อชั้นนำ“ขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้ค่ะ...” วันสุขเปิดการประชุมด้วยน้ำเสียงมั่นคงเบื้องหน้าจอขนาดใหญ่ฉายสไลด์เปิดเผยโครงการลับ D-CHAIN พร้อมภาพของ เลิศศักดิ์ ณัฐพงศ์ ที่ถูกจับกุมแล้ว สร้างเสียงฮือฮาจนดังทั่วห้อง!“ผู้ชายคนนี้เคยพยายามเปลี่ยน Phoenix ให้กลายเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจ ใช้เพื่อควบคุมระบบการเงินในโลกมืด วันนี้เขาถูกปลดจากทุกอำนาจอย่างถาวร”เสียงปรบมือเริ่มดัง แต่วันสุขยกมือขึ้นห้ามเบา ๆ“ยังไม่จบค่ะ…เพราะคนที่ร่วมมือกับเขายังมีชีวิตอยู่ และกำลังเตรียมแผนใหม่”บรัสเซลส์ ฐานลับของ Oblivion Techเซเลน่ากำแฟ้มข่าวเลิศศักดิ์แน่น หน้าเธอนิ่งสนิท...แต่นัยน์ตาแดงก่ำ“พวกเขารวมพันธมิตรแล้ว งั้นเราจะสร้างฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาเองบ้าง”เธอสั่งเปิดโปรเจกต์ใหม่ในระบบลับของบริษัทชื่อว่า Oblivion Mind AI แบบไม่ผ่านคณะกรรมการควบคุม แต่ถูกออกแบบให้ตัดสินใจได้ในระดับรัฐบาล“ถ้า Phoenix จะควบคุมโลกด้วยความสมดุล Obli
แฟรงก์เฟิร์ต เวลา 09:18 น.วันสุขเปิดโน้ตบุ๊กขึ้น หน้าจอแสดงข้อมูลชุดใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนชื่อไฟล์คือ Phoenix.Layer.2 Blackroom เอกสารภายในคือแผนขยายอิทธิพล Phoenix ที่ไม่เคยเปิดใช้พ่อของวันสุขเคยร่วมออกแบบโครงสร้างนี้ร่วมกับสามนักวิจัยเอไอระดับโลก แต่มันถูกแช่แข็งไว้ เพราะมันควบคุมได้มากเกินไปกวินเดินเข้ามา พร้อมถือถ้วยกาแฟสองใบ“คุณเปิดหมากแล้วใช่ไหม?”วันสุขหันมายิ้ม“อืม…ถึงเวลาทำให้เซเลน่ารู้ว่า ฉันไม่ได้มีแค่สิทธิ์บน Phoenix แต่มีทางเลือกใหม่ที่เธอไม่มี”เซเลน่าอยู่ตรงโถงล็อบบี้ตึกประชุมหลัก เธอได้รับอีเมลฉบับหนึ่งจาก WS.DP-Corp รหัสที่เธอจำได้ดีว่าคือวันสุข หัวข้ออีเมล:Let’s make it global. But on my terms. (เรามาทำให้มันเป็นระดับโลกกัน...แต่ต้องตามเงื่อนไขของฉัน)เธอเปิดเมล สิ่งที่แนบมาคือแผนของ Phoenix Layer 2 ที่วันสุขเป็นคนถือลิขสิทธิ์ร่วมโดยสมบูรณ์ พร้อมข้อความสั้น ๆ ว่า…“คุณเสนอ Phoenix Oblivion…ฉันเสนอ Phoenix Sovereign มาร่วมโต๊ะใหม่ ที่ฉันเป็นเจ้าภาพสิ”เซเลน่ากำแก้วกาแฟแน่นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ“เธอเริ่มเดินเกมของตัวเองแล้วสินะ…”@ห้องของวันสุ