บทที่ 1
เด็กเสิร์ฟ
บรรยากาศความวุ่นวายภายในร้านสังสรรค์เกิดขึ้นนับตั้งแต่ถึงเวลาเริ่มงานเมื่อตอนหกโมงเย็น ไม่ว่าพนักงานเสิร์ฟ เด็กโฮสต์ บาร์เทนเดอร์ หรือพนักงานครัว ต่างก็เดินวุ่นกันขวักไขว่ เนื่องจากลูกค้าแน่นเอี้ยดเต็มร้านจนบริหารการทำงานแทบไม่ไหว
นอกจากจะเป็นวันศุกร์ที่เหมาะสำหรับการดื่มกินแล้ว มันยังเป็นวันจัดงานเลี้ยงของบรรดาไฮโซที่ปิดร้านเพื่อฉลองเนื่องในวันเกิดของค่ำคืนนี้
“พี่เอ็ม ป่านมาแล้วค่ะ ขอโทษที่มาช้านะคะรถติดมากเลยค่ะ” เสียงปนหอบเอ่ยขึ้นหลังจากที่นำพาร่างกายมาถึงด้านในตัวร้านได้สำเร็จ
“ไม่เป็นไร ๆ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษที่รบกวนป่าน วันนี้ไม่ใช่วันทำงานของเราแท้ ๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์เข้ามาช่วยงาน” ผู้จัดการของร้านกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เอ็ม ป่านร้อนเงินพอดี อยู่บ้านก็ว่าง นี่พอป่านเห็นข้อความในกลุ่มป่านรีบอาบน้ำแต่งตัวมาเลยนะเนี่ย” สายป่านส่ายหน้าพลางหยิบผ้ากันเปื้อนยีนซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของร้านมาสวมใส่
เธอหยิบกระจกพกพาที่อยู่ในกระเป๋ามาส่องความเรียบร้อยของใบหน้า แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพู ลามไปถึงผมเผ้าที่ถูกเก็บรวบไว้อย่างเรียบร้อย และเพียงไม่ถึงสองนาทีก็อยู่ในสภาพพนักงานเสิร์ฟที่พร้อมทำงาน
“ไหน ให้ป่านทำโซนไหนคะพี่เอ็ม” เมื่อร่างกายพรั่งพร้อมต่อการทำงานก็ไม่ควรปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
“โซนด้านบนเลยป่าน แต่ไปดูแลโต๊ะคุณเวย์นะ โต๊ะเจ้าของวันเกิดน่ะมีคนดูแลแล้ว”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ”
“เจ้าของวันเกิดเขาเป็นคนรู้จักของคุณเวย์น่ะ แต่คุณเวย์เขานั่งดื่มแยกกับเพื่อน ยังไงพี่ฝากดูด้วย”
ใบหน้าหวานหันมองไปยังโต๊ะจุดหมายซึ่งอยู่ชั้นบน พอได้ยินผู้จัดการร้านพูดถึงก็เป็นต้องเกิดอาการกลัดเกร็ง เนื่องจากคนที่ว่านั้นคือเจ้าของร้าน และยังเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้างให้กับเธอด้วย
“พี่เอ็มอะ ให้ป่านรับศึกใหญ่ตลอดเลย ฮื่อ ทำไมถึงไม่ให้ป่านดูแลข้างล่างเล่า!” สายป่านทำหน้าง้ำงอพร้อมกับการออกปากบ่นพึมพำไม่หยุด แต่ถึงอย่างนั้นขาสองข้างก็เดินกระแทกจ้ำอ้าวไปยังโซนชั้นบนที่เต็มไปด้วยเสียงของเหล่าผู้คนมากมาย
“อ้าวป่าน วันนี้มาทำงานด้วยเหรอ นึกว่าหยุดซะอีก”
“สวัสดีค่ะคุณเวย์ ก็วันนี้ลูกค้าเยอะนี่คะ พี่เอ็มเลยตามป่านมาช่วย” สายป่านยกมือไหว้คนที่เปิดปากทักทาย ก่อนจะค้อมศีรษะลงให้กับเวย์คินผู้เป็นเจ้าของร้านและลูกค้าท่านอื่นตามหน้าที่
“ถ้าให้เดานี่ก็คงเพิ่งออกกะมาจากร้านสะดวกซื้อใช่ป้ะ” เวย์คินกวาดสายตามองไปยังหญิงสาวที่อยู่ในยูนิฟอร์มของร้านเรียบร้อย มั่นใจว่าเด็กสาวคนนี้จะต้องควบงานมากกว่าหนึ่งตลอดวันเต็มอย่างแน่นอน
“ก็แหงสิคะ ป่านร้อนเงินอะ นี่ป่านมาช่วยงานในวันหยุดด้วยนะ สงสัยคุณเวย์ต้องให้เงินสามเท่าแล้วล่ะค่ะ” เธอพูดทีเล่นทีจริง
“ถ้าอยากได้เยอะ ๆ ก็ต้องมาทำโฮสต์แล้วแหละ งานดี ไม่เหนื่อย ทิปหนัก ยินดีต้อนรับคร้าบ”
ประโยคนั้นทำให้เด็กเสิร์ฟสาวถอนหายใจออกมาหนัก ๆ พร้อมกับการสั่นหน้าหวือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยินคำเชิญชวนจากปากเจ้าของร้าน เรียกได้ว่านับสิบนับร้อยครั้งได้
แม้ว่าตำแหน่งโฮสต์จะเป็นเพียงการต้อนรับและดูแลลูกค้า ทั้งยังได้ค่าตอบแทนรวมถึงทิปมือที่คำนวณแล้วคงไม่ต่ำกว่าสามพัน แต่คนที่เอาใจลูกค้าไม่เก่ง บวกกับอาการหวงตัวคงต้องขอปฏิเสธแต่โดยดี
“แล้วพี่ไตรเมื่อไหร่จะมาวะเนี่ย โทรหาให้หน่อยพี่ ผมเตรียมเด็กให้แล้วเนี่ย” เวย์คินเปลี่ยนการสนทนามายังบุคคลที่นั่งอยู่ข้างกาย
“มันบอกใกล้ถึงแล้ว แต่ไม่รู้ถึงไหนของมัน”
บนโต๊ะนี้มีผู้ชายสองคนที่นั่งดื่มกันท่ามกลางเสียงโหวกเหวกของกลุ่มเจ้าของวันเกิดที่กำลังสนุกสนาน สายป่านไม่รู้ว่าคนที่นั่งกับเจ้าของร้านเป็นใคร แต่ถึงอย่างไรแล้วเธอก็ไม่คิดสนใจอยู่ดี
หญิงสาวหมุนตัวเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อเตรียมเครื่องดื่มให้กับโต๊ะที่ต้องดูแล ถึงจะไม่ได้รับคำสั่งแต่ก็ย่อมรู้หน้าที่ดีว่าเจ้าของร้านคนนี้ดื่มเก่งดื่มโหดเป็นไหน ๆ แล้วการที่จัดเตรียมมาวางล่วงหน้าย่อมผ่อนแรงให้ตัวเองได้ไม่น้อย
“โห เสิร์ฟไม่ทันเหรอพี่เจ มาเดี๋ยวป่านช่วย”
“ไม่ต้องหรอกป่าน แต่ป่านช่วยไปดูหลังร้านให้หน่อยสิว่าน้องพี่มันมารอหรือยัง พอดีพี่บอกให้น้องชายมาเอากุญแจบ้านน่ะ”
“อ้อ ได้เลยค่ะพี่เจ เดี๋ยวป่านไปดูให้นะ” หญิงสาวยิ้มรับพร้อมกับก้าวเท้าเดินไปยังประตูหลังร้านที่ปิดสนิท
เส้นทางหลังร้านนั้นหากเปิดประตูมาก็จะพบว่ามันเป็นทางเดินที่สามารถเดินออกไปยังถนนใหญ่ได้ พื้นที่ฝั่งข้าง ๆ ก็ล้วนแต่เป็นร้านสังสรรค์เช่นเดียวกันทั้งหมด
ร่างเล็กเดินออกไปยังด้านนอกหลังร้านพร้อมกับการกวาดสายตามองรอบ ๆ แต่สิ่งที่ทำให้สะดุดกึกก็คือบุคคลที่ยืนพิงกายสูบบุหรี่ในระยะสายตา
เธอมั่นใจว่าคนคนนี้ไม่ใช่พนักงานของที่ร้าน และไม่ใช่คนที่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนแน่นอน
“เธอเหรอที่ไอ้เวย์ส่งมา” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นหลังจากปล่อยควันบุหรี่ออกมาให้ล่องลอยเหนือศีรษะ ก่อนที่มันจะหายลับไปกับอากาศ
สายป่านหันซ้ายหันขวา พยายามหาคำตอบว่าคนแปลกหน้าคนนี้กำลังสนทนากับเธออยู่หรือไม่ แต่ก็เห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีใครนอกจากเขาและเธอเพียงสองคน
“คะ? คุณพูดกับฉันเหรอ”
“โคตรธรรมดา”
คำพูดหยันและสายตาเหยียดจรดมองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวถึงปลายเท้า สิ่งนั้นทำให้สายป่านถึงกับขมวดคิ้วมุ่นและมองอย่างไม่พอใจ
ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่มันก็คาดการณ์เป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยว่ากำลังถูกเหยียดหยามด้วยสายตาและวาจาสกปรกแบบนั้น
สายป่านระงับความกรุ่นโกรธเพราะตระหนักได้ว่าคนคนนี้อาจจะเป็นลูกค้าของร้าน เธอหมุนตัวหวังจะเดินกลับเข้าไป แต่ทว่าต้นแขนกลับถูกรั้งจนร่างกายหันไปเผชิญหน้ากับบุคคลหยาบคาย โดยมีพื้นที่เว้นว่างห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น
“อ๊ะ! นี่คุณ ทำบ้า...อื้อ!” เมื่อถูกมือใหญ่คว้าหมับ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการสะบัดตัวหนีและโวยวายออกมา หากแต่มันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะคำพูดของเธอถูกปิดทับด้วยริมฝีปากของคนตัวโตกว่า รวมถึงอารามตกใจที่กำลังเผชิญโดยไม่ทันตั้งตัว
ริมฝีปากคล้ำบดเบียดทาบทับลงมาจนรู้สึกถึงกลิ่นบุหรี่ หญิงสาวเบ้บิดใบหน้าเมื่อรู้สึกรังเกียจกับสัมผัสที่ได้รับ ในขณะที่มือสองข้างก็พยายามทุบตีและผลักไส
ครั้นรวบรวมเรี่ยวแรงได้เธอจึงผลักร่างใหญ่ออก ซึ่งมันเป็นจังหวะเดียวกับระดับสายตาของตัวเองที่กดมองเขาคนนั้นด้วยความเกลียดชัง
เพียะ!
“ไอ้สารเลว สกปรก ต่ำ!” มือเล็กฟาดลงบนแก้มสากของคนตรงหน้า ก่อนจะเปล่งคำด่าที่สมองประมวลออกมาทั้งหมด
“...”
“ฉันว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้ว ฉันเป็นพนักงานเสิร์ฟที่นี่ ไม่ได้ทำงานแบบที่คุณคิด แล้วฉันก็จะไม่ขอโทษที่ทำร้ายร่างกายคุณ นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับการที่คุณคุกคามลวนลามฉัน!”
ไม่สนับสนุนการทำร้ายร่างกายใครเพื่อใช้ตัดสินความถูกผิด แต่เหตุการณ์นี้สายป่านกลับมองว่ามันคือหนทางเดียวที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากสัมผัสกักขฬะนี้ได้
ผู้ชายคนนี้คงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ถูกส่งมาดูแล หากแต่มันไม่ใช่และไม่มีทางเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการเข้าใจผิด แต่การที่เธอฟาดหน้าเขาไปนั้นก็ถือว่าเป็นการตอบโต้กับการกระทำต่ำ ๆ ของเขาอย่างสาสมเช่นกัน
“ช่วยจำใส่หัวไว้ด้วยว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ไอ้เลว!”
สิ้นประโยคตวาดกร้าวก็รีบวิ่งกลับเข้าไปด้านในตัวร้าน ไม่คิดสนใจเลยว่าประโยคเจ็บแสบเหล่านั้นจะสามารถทำให้คนที่ถูกตอกหน้าเดือดดาลมากเพียงใด
เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้นเบา ๆ หากแต่สายตาคมเข้มกลับลุกโชนไม่ต่างจากเปลวเพลิงกองใหญ่ที่กำลังถูกสาดสุม
ตอนพิเศษใส่ไข่[ มารุต & เส้นด้าย ]งานเลี้ยงสังสรรค์ฉลองปีใหม่ถูกจัดขึ้นที่ร้านอาหารสุดหรูริมแม่น้ำ โดยผู้สนับสนุนหลักก็คือไตรพัฒน์ผู้บริหารสูงสุดเนื่องจากต้องการให้เหล่าพนักงานภายใต้การปกครองได้พักผ่อนจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมามารุตและเส้นด้ายก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้เหมือนกัน มารุตเองก็ทำงานให้ไตรพัฒน์ไม่ต่างจากเลขาคนหนึ่ง นอกจากเขาจะเก่งกาจเรื่องการต่อสู้แล้ว เรื่องเอกสารและงานบริหารเขาก็ไม่เป็นสองรองใครเลย ส่วนเส้นด้ายเองแม้ว่าจะเพิ่งเข้าทำงานที่นี่ได้ไม่ถึงครึ่งปี แต่ความสามารถของเธอก็สร้างผลงานและรายได้เข้าบริษัทมหาศาล เธอเก่งในเรื่องภาษา แถมยังมีแนวคิดใหม่ ๆ มานำเสนออยู่ตลอด ไอเดียการตลาดและการบริหารย่อมเกิดจากการตัดสินใจของเธอทั้งนั้นการทำงานอย่างดีเยี่ยมส่งผลให้บริษัทไทรอัมพ์ที่ไตรพัฒน์ถือครองนั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ในวงการธุรกิจต่างก็จับตามองและให้ความสนใจ อีกทั้งผู้ร่วมลงทุนใหม่ ๆ ก็ต่อแถวรอคอยด้วยกันทั้งนั้นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในวันนี้ไม่สามารถตอบแทนสิ่งที่ทุกคนลงมือลงแรงช่วยกันได้เลย หากแต่มันเป็นความตั้งใจเล็กน้อยของไตรพัฒน
ตอนพิเศษส่งท้ายที่แรกช่วงเข้าฤดูหนาวไตรพัฒน์ก็พาสายป่านและเด็กชายเตชน์มาเที่ยวที่ฮ่องกงเพื่อพักผ่อน หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่โหมทำงานเนื่องจากต้องการหาวันหยุดยาวให้ครอบครัวถึงแม้จะเป็นเจ้าของธุรกิจ ซ้ำยังมีเงินมหาศาลที่ใช้ทั้งปีทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด หากแต่คนที่เคยลำบากมาก่อนอย่างเขาย่อมเกลียดขยาดความรู้สึกนั้น นั่งจึงทำให้ไตรพัฒน์เลือกที่จะทำงานอยู่ตลอด เหตุผลก็เพื่อความสุขสบายของครอบครัวอันเป็นที่รักไตรพัฒน์เลือกมาที่ฮ่องกงอีกครั้งเพราะเป็นที่ที่ตัวเองคุ้นชิน เขามีภาพความทรงจำมากมายกับที่แห่งนี้ อีกทั้งตัวภรรยาอย่างสายป่านเองก็เห็นพ้องต้องกันว่าเธออยากมาที่นี่อีกครั้งเพราะตั้งใจจะมาไหว้เทพเจ้าแชกงเช่นเมื่อตั้งท้องเจ้าเตชน์ตอนนี้เด็กชายเตชน์เองก็อายุครบสองปีแล้ว อยู่ในช่วงกำลังซนกำลังมึน พูดจาฉอเลาะร่าเริง บ้างก็เผลอทำตัวเกินวัยจนคนเป็นพ่อและแม่แอบกุมขมับ“เอ...มันน่าจะอยู่แถวนี้สิ” ไตรพัฒน์เอ่ยในลำคอพลางกวาดสายตามองหาร้านอาหารที่ตั้งใจจะพาลูกเมียมากินโดยเฉพาะหลังจากออกจากโรงแรมที่พัก สถานที่แรกที่เขาอยากพาเมียและลูกมาก็คือร้านอาหารร้านเด็ดของฮ่องกง จากการเซิร์ซดูแผนที
ตอนพิเศษ 7น้องเตชน์จะเอาของเล่นหนึ่งปีผ่านไปเด็กชายเตชน์อายุได้หนึ่งขวบห้าเดือนก็เริ่มวิ่งไล่จับกับคนในบ้านแล้ว โดยผู้ถูกไล่ก็คงไม่พ้นเหล่าลูกชายหน้าโหดของไตรพัฒน์ที่มีหน้าที่เสริมก็คือการเป็นเพื่อนเล่นของนายน้อยไปโดยปริยายเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วทั้งตัวบ้าน เช่นเดียวกับเสียงฝีเท้าหนักที่วิ่งสลับขวักไขว่เพื่อหาพื้นที่หนีจากการจับกุมจากเจ้าตัวน้อย“นายน้อยทางนั้นค่ะ วิ่งเร็ว ไปจับโจรให้ได้” เสียงของแม่บ้านวัยกลางคนออกปากเชียร์พลางหัวเราะยกใหญ่ที่ได้เห็นภาพนายน้อยตัวจิ๋วของบ้านที่กำลังวิ่งไล่จับชายชุดดำหน้าโหด“จับ ๆ หยุดนะ พ้มจะจับ” เด็กชายเตชน์สับเท้าและพูดเสียงขึงขัง ตั้งหน้าวิ่งหมายไปจับโจรผู้ร้ายที่สวมบทบาท แม้คำพูดจะเจือจางไม่ชัดอยู่บ้างแต่พอจับใจความได้ว่าเจ้านายตัวน้อยนั้นกำลังพูดคำว่าอะไร“เอ้า นายน้อยจะจับพวกเอ็งแล้วนะโว้ย วิ่งหนีเร็ว” เป็นเสียงแม่บ้านอาวุโสที่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งแรงขำขันมันเป็นกิจกรรมเพียงอย่างเดียวที่เห็นมาตลอดหลายเดือน หากแต่มันกลับไม่ได้ทำให้เบื่อหน่ายเลยสักนิด หนำซ้ำยังเรียกเสียงหัวเราะและสร้างความสุขให้บ้านหลังใหญ่ได้มากขึ้นเป็นกอง“น้องเตชน์ทางนี้ครั
ตอนพิเศษ 6คุณพ่อมือโปรเวลาเพียรผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นรอบตัวและเปลี่ยนแปลง รวมถึงหนึ่งชีวิตอย่างลูกตัวน้อยของไตรพัฒน์และสายป่านก็ได้ถือกำเนิดขึ้น กลายเป็นสีสันและความรักที่เติมเต็มบ้านหลังใหญ่ให้มีความสุขมากยิ่งขึ้นก่อนที่สายป่านจะคลอดเหล่าลูกน้องและแม่บ้านต่างก็ลงพนันแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันยกใหญ่ถึงเพศเจ้าตัวน้อยที่ยังไม่ลืมตาดูโลก แบ่งสัดส่วนแล้วเพศชายสี่สิบเปอร์เซ็นต์และเพศหญิงหกสิบเปอร์เซ็นต์ การคาดการณ์เกิดขึ้นกับความต้องการทางจิตใจล้วน ๆ ไม่ได้อ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ฝ่ายที่ลงพนันลูกชายให้เหตุผลว่าหากมีนายน้อยตัวจ้อยเป็นทายาทคนแรกก็คงมีผู้สืบตระกูล และแน่นอนว่าบ้านที่เต็มไปด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ย่อมมีวิธีเล่นมากมายกับเด็กชายมากกว่าผู้หญิงในส่วนฝ่ายที่ลงเพศหญิงก็ให้เหตุผลตามมาว่าหากทายาทคนแรกเป็นผู้หญิงก็คงทำให้บ้านหลังใหญ่อ่อนหวานและสดใสขึ้น ได้ยินเสียงพูดคะพูดขา ได้รับยิ้มหวาน ๆ ที่น่าจะมาจากทางคนเป็นแม่เกินร้อย หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็คงได้เห็นภาพมาเฟียหนุ่มผู้โหดเหี้ยมอ่อนระทวยให้กับลูกสาวเป็นครั้งแรกแน่นอนว่าหลังจากที่ไตรพัฒน์และสายป่านรับรู้ว่าคนใ
ตอนพิเศษ 5เจอลูก“อะ...อื้อ! ฮื่อ...คุณไตร เดี๋ยว...อื้อ!” คำพูดขาดห้วงก่อนที่มันจะหายลับกลืนกลับลงสู่ลำคอ เมื่อริมฝีปากร้ายฉกฉวยลงมาอย่างเอาแต่ใจหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องแล้วจัดการล็อกประตูลงกลอนเสร็จสรรพไตรพัฒน์และสายป่านใช้เวลาในการเดินเล่นข้างนอกและทานอาหารร้านดังไม่กี่ชั่วโมงก็พากันกลับมาที่โรงแรม ครั้นเมื่อขาก้าวเข้ามาในห้องและประตูปิดสนิท คนที่รอคอยเวลานี้ก็รีบดันร่างกายเล็กของคนรักให้ชิดติดกับกำแพงเพื่อทวงคำสัญญาในทันทีอาจจะเรียกคำสัญญาไม่ได้เพราะสายป่านไม่ได้ตกลงกับเขา...“อ๊ะ...คุณไตรใจเย็นก่อน อะ...” เมื่อริมฝีปากเป็นอิสระก็ทำให้สายป่านพยายามเอ่ยห้ามคนเอาแต่ใจที่ตอนนี้แทบแปลงร่างเปลี่ยนเป็นคนละคนต้นคอขาวถูกลากไล้ด้วยลิ้นจากนั้นก็รู้สึกถึงแรงดูดดึงเบา ๆ ที่เธอมั่นใจว่าผิวกายของเธอจะต้องเกิดรอยแดงเด่นชัดแน่นอนรอยเก่ายังไม่ทันหายเลย...ไตรพัฒน์คลอเคลียกับต้นคอขาวก่อนจะเคลื่อนต่ำลงมายังเนินอก เขาเปิดเสื้อไหมพรมแขนยาวของสายป่านขึ้น เผยให้เห็นอกอวบขาวเนียนใต้บราเซียจนอดที่จะก้มเข้ามาขบงับและครอบครองด้วยปากไม่ได้“อื้อ...อะ...คุณไตรอย่าดูดแรง” สายป่านพยายามยกมือปิดปากตัวเองเ
ตอนพิเศษ 4ขอพรต่อเทพเจ้าณ เมืองฮ่องกงหลังจากผ่านพ้นงานวิวาห์ไปได้สองเดือน ไตรพัฒน์ก็พาสายป่านมาฮันนีมูนโดยเลือกสถานที่ใกล้ ๆ ใช้เวลาในการเดินทางไม่กี่ชั่วโมงอย่างเมืองฮ่องกง เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง เขาอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา อีกทั้งก็ยังกังวลถึงความปลอดภัย ท้ายที่สุดจึงเลือกที่แห่งนี้เป็นที่แรกสำหรับการฮันนีมูนของคู่รักเมื่อเดินทางมาถึงโรงแรมที่จองล่วงหน้า ไตรพัฒน์ก็จัดการเก็บข้าวของและรวมถึงจัดการสั่งอาหารที่ฟร้อนท์มาทานเพราะข้างนอกฝนกำลังตกหนัก จึงไม่สามารถออกไปเดินเล่นหรือแวะร้านอาหารได้ ในส่วนคุณแม่มือใหม่เองก็นอนพักเอาแรงในระหว่างที่สามีกำลังดูแลความเรียบร้อยแม้จะเป็นทริปที่เดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง และตัวเธอแทบจะไม่ได้ย่ำเดินเพราะไตรพัฒน์เรียกใช้บริการรถเข็นจากสนามบินตลอดทั้งทาง หากแต่ความเหนื่อยล้าก็ทำให้ร่างกายเธออ่อนกำลังได้เหมือนกัน“ป่าน...อาหารมาแล้ว จะกินเลยหรือเปล่าหืม” เสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยแนบชิดอย่างอ่อนโยนพานทำให้คนที่เพิ่งหลับใหลรู้สึกตัว ก่อนจะได้รับจูบหวาน ๆ ที่ประทับอยู่บนเรือนผม ทำเอาเธอแทบไม่อยากจะลืมตาหรือขยับเขยื้อนเลยสักนิด“คนดี...ตื่นแล้วแต่ทำไมไ