ร่างสูงกำยำด้วยมัดกล้ามในชุดสูทสีดำสนิทเข้ารูปตัดกับไทด์สีเทาลายทางตามแบบฉบับของผู้ดีอังกฤษย่างกรายเข้ามายังห้องทำงานหรูชั้นระฟ้าของผู้เป็นเจ้านายตนเอง ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของโรงแรมคาสิโนสูงเสียดฟ้ากลางกรุงในประเทศอิตาลีแห่งนี้ และยังเป็นเจ้าของธุรกิจสีเทาอีกมากมายนับไม่ถ้วน
วิลล์ มือขวาคนสนิทดึงซองเอกสารสีน้ำตาลที่ภายในบรรจุเอกสารลับพร้อมรูปถ่ายหลายสิบใบออกมาจากกระเป๋าชั้นในสูทเพื่อส่งมอบให้กับบุรุษผู้มีใบหน้าสลักเสลาคมเข้มรับกับนัยน์ตาสีครามน้ำทะเลอันทรงพลังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่กำลังนั่งจับจ้องหน้าจอไอแพดในมือด้วยท่าทางเคร่งขรึมอยู่เป็นนิจ ไม่ได้มีท่าทียี่หระหรือสนใจคนที่เพิ่งผ่านบานประตูเข้ามาในห้องมากนัก
“เรียบร้อยแล้วครับนาย” วิลล์กล่าวพร้อมกับยื่นซองเอกสารที่เตรียมมาให้กับคนเป็นนาย
ได้ยินมือขวาคนสนิทเอ่ยอย่างนั้นแล้วคนเป็นนายจึงวางมือลงจากข่าวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเป็นที่สนใจจากนักธุรกิจหลายกลุ่มบนหน้าจอไอแพด พร้อมกับวางแก้วกาแฟดำที่พร่องลงไปกว่าครึ่งแก้วแล้วลงในจานรองแก้วด้านขวามือที่ประจำของตัวเองโดยไม่ได้ชำเลืองตามองเลยสักนิดด้วยความคุ้นชิน
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะของเขาล้วนแล้วแต่เป็นระเบียบไร้ที่ติ บ่งบอกถึงความเป็นคนเจ้าระเบียบและดุดันไปในตัว
ชายหนุ่มยื่นมือไปรับเอกสารนั้นมาเปิดดู ต่อเมื่อได้เห็นภาพถ่ายหลายสิบใบและเอกสารสำคัญทั้งหมดในซองนั้นแล้ว รอยหยักยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากหนาออกมาอย่างเจ้าเล่ห์เพทุบาย
หนามยอกก็ต้องเอาหนามบ่งแล้วเอาน้ำเกลือราดซ้ำมันถึงจะสาสมกัน
ไม่มีอะไรที่ โรมินิก คาสเตลีออน ทายาทคนโตสุดในบรรดาบุรุษสามพี่น้อง ทายาทตระกูลมาเฟียเชื้อสายสเปน-อิตาลีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในแถบภูมิภาคนี้อยากรู้แล้วจะไม่ได้รู้ หรือปรารถนาที่จะได้แล้วจะไม่ได้ หากว่าเขาต้องการที่จะได้มันมา
เฉกเช่นเดียวกันกับข้อมูลของ พริมพริตา หญิงสาวใบหน้าหวานจิ้มลิ้มวัย 23 ปีที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายหลายสิบใบนี้ น้องสาวเพียงคนเดียวของผู้ชายที่เกือบจะได้ชื่อว่าเป็นสามีอย่างถูกต้องทั้งทางพฤตินัยและทั้งทางนิตินัยของน้องสาวในอุปการะของเขา ทุกอิริยาบถของเธอล้วนแล้วแต่ถูกเขาจับจ้องอยู่ทั้งสิ้น
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ตัวเขาเองยังเป็นเด็ก เขาโตมาพร้อมกับ ริคคาโด น้องชายต่างมารดา ทายาทคนที่สองของตระกูลคาสเตลีออน และ เร็กซ์ตัน น้องชายคนสุดท้องของตระกูลที่เกิดจากมารดาผู้ให้กับกำเนิดคนเดียวกันกับเขา
ชีวิตของเด็กชายทั้งสามคนคงขาดสีสัน ไร้รสชาติ และไร้หัวใจไปมากกว่านี้หากไม่ได้ ริสา ลูกสาวคนเดียวของมือขวาคนสนิทของ ราฟา คาสเตลีออน พ่อของพวกเขาทั้งสามคนผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของตระกูล
พวกเขาทั้งสี่คนต่างเติบโตมาด้วยกันในคฤหาสน์ตระกูลคาสเตลีออน ทั้งโรมินิก ริคคาร์โด และเร็กซ์ตันต่างก็รักริสาเป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆของตัวเองคนหนึ่งเช่นกัน ริสามักจะเป็นคนที่มาคอยห้ามปรามเวลาเขากับริคคาร์โดมีเรื่องกันเสมอ
แต่หลังจากที่พ่อของริสามือขวาคนสนิทพลาดถูกยิงจนเป็นอัมพาตไปครึ่งซีก เขาก็เกษียรตัวเองกลับไปยังประเทศไทย บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองพร้อมกับภรรยาและลูก เด็กชายทั้งสามคนจึงไม่ได้เจอกับริสาอีกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าหลังจากนั้นพวกเขาจะยังคงมีการติดต่อกันอยู่บ้าง แต่เมื่อพวกเขายิ่งโตขึ้น พวกเขาก็ยิ่งมีภาระหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
รู้ข่าวริสาอีกทีก็ตอนที่ริสากำลังจะแต่งงานกับนักแข่งรถชาวไทยที่ชื่อพีท ทีแรกเขาก็ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะผู้ชายที่น้องสาวของเขากำลังจะแต่งงานด้วยนี้ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอะไรเลย แม้แต่ค่าสินสอดทองหมั้นทางฝั่งเจ้าสาวเองที่พอมีฐานะอยู่แล้วก็เป็นฝ่ายออกให้ เพราะแม้ว่าพ่อของริสาจะเกษียรไปนานแล้ว แต่ทางคาสเตลีออนก็ไม่เคยทอดทิ้ง ยังคงให้เงินเดือนและคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด
ฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ได้ออกเงินเลยแม้แต่สลึงเดียว ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของสินสอดหรือในส่วนของพิธีวิวาห์เองก็ตาม แต่ครั้นจะไม่ให้แต่งก็คงจะไม่ได้ เพราะน้องสาวของเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว อีกหนึ่งชีวิตที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่กำลังจะลืมตามาดูโลกนั้นทำให้ครอบครัวของริสาต้องจำใจยอมกลับดำให้เป็นขาว
และด้วยเหตุนี้เองทั้งเขาและน้องชายร่วมสายเลือดอีกสองคนจึงตัดสินใจที่จะไม่ไปร่วมงานวิวาห์ เขาไม่อยากจะให้ใครต้องอึดอัดเพราะการปรากฏตัวของตระกูลมาเฟียอย่างคาสเตลีออน โดยเฉพาะผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดรองจากมารดาของตัวเองอย่างริสา
แต่นั่นกลับกลายเป็นการตัดสินใจครั้งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเขาเอง
งานแต่งของริสาไร้เงาของเจ้าบ่าวมาร่วมพิธี มีเพียงเจ้าสาวและครอบครัวของเจ้าสาวเท่านั้นที่ออกมารับหน้าแขก ทีแรกริสาก็นึกเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับว่าที่สามีของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ได้รู้ว่าเจ้าบ่าวหนีไปพร้อมกับสินสอดเกือบสิบล้าน ทิ้งให้เธอเป็นหม้ายขันหมากท่ามกลางแขกเหรื่อนับร้อยที่มาร่วมงาน
ริสาเจ็บปวดเกินกว่าที่จะพบหน้าใครได้ แม้แต่ผู้เป็นพ่อและแม่ของตัวเอง ยิ่งเห็นท่านทั้งสองที่ทั้งช้ำใจและทั้งอับอายผู้คนที่พูดถึงเรื่องของเธอกันอย่างสนุกปาก และยังต้องมาสูญเสียเงินนับสิบล้านที่เหน็ดเหนื่อยมากว่าค่อนชีวิต และผิดหวังกับตัวเอง โกรธเกลียดตัวเองเกินกว่าจะให้อภัยได้ที่หลวมตัวไปกับผู้ชายแบบนั้น จนปล่อยให้เด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องลืมตามาดูโลกทั้งที่กำพร้าพ่อตั้งแต่อยู่ในท้องและตกเป็นที่ครหาของคนรอบข้างตั้งแต่วินาทีแรกของชีวิต
ริสาใจสลายเหมือนตายทั้งเป็น หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง แตกสลายเกินกว่าจะเก็บประกอบกลับมาใหม่ได้ ลำพังตัวเองคงไม่เท่าไหร่ แต่อาการของพ่อที่ทรุดหนักกว่าเดิมเพราะการกระทำของตัวเอง แม่ที่ไม่เคยแม้แต่จะร้องไห้ออกมาสักครั้งให้เธอเห็น และลูกน้อยที่กำลังจะเติบโตมา
ริสาไม่เคยรักใครมาก่อนในชีวิต เขาเป็นคนรักคนแรกของเธอ และคิดว่าจะเป็นคนสุดท้ายของชีวิตด้วยเช่นกัน ชีวิตของเธอกำลังพังทลายลงอย่างไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้อีก เธอรักเขามาก มากจนยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาได้ทั้งหมด โดยที่เขาไม่ได้รักเธอเลยแม้สักเศษเสี้ยวเดียว
และสุดท้ายริสาจึงตัดสินใจจบเรื่องทุกอย่างด้วยการดิ่งดาดฟ้าคอนโดตัวเอง…
โรมินิกกำหมัดแน่นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เขาสาบานกับตัวเองอย่างหนักแน่นว่าเขาจะต้องลากคอไอ้คนที่มันพรากน้องสาวเพียงคนเดียวและพรากหลานที่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับมาชดใช้ให้มากกว่าที่ควรได้รับด้วยซ้ำไป มันจะต้องได้ลิ้มรสชาติของการสูญเสียให้มากกว่าที่ริสาเคยรู้สึก
“คนของเรารายงานมาว่าไอ้พีทมันลอบหนีออกจากฝั่งชายแดนไทยไปตามช่องทางธรรมชาติออกไปทางมาเลย์ได้ 2 วันแล้วครับ มันกำลังหนีหนี้เขาไปทั่วจนหัวซุกหัวซุน”
“ไปลากคอมันกลับมาลงนรกให้ได้ จะวิธีไหนก็ได้ แต่ห้ามให้มันตาย” โรมินิกหยิบรูปถ่ายของคู่พี่น้องที่เขากำลังตามล่าตัวขึ้นมา สีหน้าของคนทั้งสองที่ปรากฏอยู่บนรูปภาพนั้นช่างเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขกันเสียเหลือเกิน ก่อนจะจุดไฟแช็คเผารูปนั้นจนมอดเกือบทั้งใบ แล้วทิ้งเศษซากที่เหลือลงในถ้วยกาแฟของตัวเอง “ความตายมันสบายสำหรับมันเกินไป”
“ครับนาย”
“แล้วผู้หญิงอยู่ที่ไหน” โรมินิกถามถึงคนเป็นน้องสาว
“พาตัวไปไว้ที่ห้องมืดของโรงแรมเรียบร้อยแล้วครับ” วิลล์ตอบก่อนจะถามต่อ “นายจะให้ผมจัดการยังไงต่อดีครับ”
โรมินิกนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะแสยะยิ้มที่มุมปากออกมา
“ไม่ต้อง…ฉันนี่แหล่ะจะเป็นคนลากมันทั้งพี่ทั้งน้องลงนรกเอง”
พริมพริตาตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงสายของอีกวัน ร่างกายเหนื่อยอ่อนเมื่อยขบไปทั้งร่าง ปวดจุกจนต้องยกมือขึ้นกุมหน้าท้องพร้อมกับขดตัวงอเป็นกุ้ง รู้สึกหนักอึ้งขยับขาทั้งสองของตัวเองไม่ได้เหมือนมีอะไรบางอย่างพาดทับไว้จนต้องหันไปมองที่มาของมัน ท่อนขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อกำลังพาดก่ายอยู่บนตัวของเจ้าหล่อนจากคนที่นอนหลับอยู่ด้านข้างดวงตากลมเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าตัวเองถูกกอดก่ายนอนหลับร่วมกับคนที่ไม่อยากจะเห็นหน้ามาแทบทั้งคืน ความทรงจำเมื่อคืนแล่นพล่านเข้ามาเป็นฉากๆ ตั้งแต่ในโซนผับด้านล่าง ในห้องน้ำ บนเตียง และข้างระเบียงหน้าต่างนั่นใบหน้าหวานร้อนเห่อแดงก่ำ จำไม่ได้ว่าทำไมตัวเองถึงยินยอมให้เขาทำอย่างนั้นไปได้ มิหนำซ้ำเธอยังเป็นคนที่ขึ้นขย่มบรรเลงเพลงสวาทให้เขาจนเกือบจะเสร็จสมอีกด้วย
มาเฟียหนุ่มอุ้มร่างอรชรออกมาจากห้องน้ำมุ่งตรงไปยังเตียงกว้างภายในห้องนอน ไม่ได้สนใจว่าหยดน้ำพราวจากเนื้อตัวของคนทั้งสองจะทำให้ห้องเปียกแฉะมากแค่ไหนโรมินิกวางร่างบอบบางลงนอนบนเตียงกว้างพร้อมกับเอาหมอนข้างมารองสะโพกมนไว้เพื่อให้โพรงสวาทเปิดอ้ารับตัวตนของเขาได้เต็มที่ ก่อนจะสวบใส่ลำกายอันใหญ่ที่ยังคงแข็งค้างอยู่อย่างนั้นเข้าไปทีเดียวจนเกือบสุดลำ“..อ๊ะ…อ๊าาา…เจ็บ…ซี้ด”เสียงหวานหลุดร้องไม่เป็นภาษา เมื่อมาเฟียหนุ่มสอดใส่อาวุธร้ายของตัวเองเข้ามาภายในคราวเดียว แม้ว่าทั้งสองเพิ่งจะผ่านการร่วมรักกันมาก่อนแล้วหนึ่งยก แต่ด้วยขนาดความคับแน่นของโพรงสวาทและขนาดลำกายใหญ่ยักษ์ก็ทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกแสบขัดอยู่ดี&nb
มาเฟียหนุ่มย่อตัวนั่งลงบนส้นเท้าของตัวเองข้างขอบอ่างด้านนอกพลางดึงรั้งร่างบางเข้ามารับรสจูบบดขยี้ด้วยริมฝีปากหนา กลิ่นหอมอ่อนของวิสกี้ยังติดตรึงอยู่ในปากของเจ้าหล่อน ลิ้นสากร้อนเกี่ยวกระหวัดไปทั่วทั้งโพรงปากชิมความหอมหวานที่ยังคงหลงเหลืออยู่ หยอกล้อกวัดไกวลิ้นเรียวเล็กที่เงอะงะไม่เป็นงานมือหนาประคองท้ายทอยของหญิงสาวไม่ให้เคลื่อนตัวหนีรสจูบดุดันของตัวเองออกไปได้ หากแต่มืออีกข้างก็ถือวิสาสะล้วงผ่านเข้าไปภายใต้กระโปรงและชั้นในตัวจิ๋วที่อยู่ใต้น้ำเย็นจัดอีกทีฝ่ามือแกร่งไล้ไปตามปลีขา หว่างขาเรียว และหยอกล้อเนินอวบอูม เฉียดกลางกายสาวไปมา จนคนตัวเล็กสะดุ้งสะท้านเพราะความวาบหวิว มือเรียวเล็กกำสาบเสื้อของอีกฝ่ายไว้แน่นจนมันยับยู่ยี่ไม่เป็นทรงเดิมเพราะต้องการระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ&
กลิ่นหอมอ่อนๆบนเนื้อกายสาวที่เอียงซบขนาบข้างกายอยู่ทำให้เขาเริ่มที่จะสกัดกั้นอารมณ์หื่นกระหายของตัวเองไม่ไหว มือสากไล้ไปตามเรียวขาอ่อน ปากก็พยายามที่จะซุกไซ้ดอมดมซอกคอเนียนระหงตามหาแหล่งที่มาของกลิ่นหอมเย้ายวนนี้เคร้ง!กระสุนปืนที่วิ่งตัดกระทบกับแก้วไวน์ทรงสูงบนโต๊ะจนมันแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆเรียกความสนใจจากคนทั้งหมดในอาณาบริเวณนั้นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนบนโต๊ะที่วิถีของกระสุนนั้นห่างไปเพียงไม่ถึงคืบเสียงหวีดร้องตกใจดังระงมไปทั่วเมื่อไม่รู้ต้นตอที่มาของเสียง หลายคนก็ต่างพากันลุกหนีออกไป กลัวจะโดนลูกหลงเข้า แต่หลายคนก็ยังอยู่ประจำที่โต๊ะขอตัวเองเงียบๆเพื่อรอดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
ผ่านไปเพียงไม่กี่วันบาดแผลที่ฝ่าเท้าของพริมพริตาก็เริ่มหายดี กลับมาสวมรองเท้าเดินเองได้ และกลับมาทำงานเป็นปกติได้ แม้ช่วงแรกๆจะส่งผลต่อการทรงตัวบนรองเท้าส้นสูงกว่าสามนิ้วอยู่บ้าง แต่ไม่นานอาการเหล่านั้นก็ทุเลาลงและเธอไม่อยากที่จะนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องเพียงอย่างเดียว อยากออกมาทำงานหาเงินใช้หนี้ให้หลุดพ้นไปจากที่นี่ไวๆเสียยังจะดีกว่ายิ่งหยุดนานก็ยิ่งเท่ากับระยะเวลาที่ต้องหายใจอยู่ภายใต้ชายคาของที่นี่ไปอีกนานเท่านั้นด้วยเช่นกันพริมพริตามาเริ่มงานที่ผับโซนปกติเป็นเวลากว่าสามวันแล้ว วันนี้เป็นวันที่สามที่เธอมาเริ่มทำงานที่นี่ในฐานะพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มต้องยอมรับว่าร
แสงแดดยามเช้าของอีกวันถัดมาส่องแสงเรืองรองมาจากระเบียงหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ผ่านผ้าม่านชั้นในสีขาวบางเข้ามาปลุกให้พริมพริตาที่นอนสลบไสลจากความเหนื่อยอ่อนมาทั้งคืนลืมตาตื่นขึ้นร่างบอบบางปวดระบมไปทุกสัดส่วน ทั้งเหนื่อยล้าจากการทำงานวันแรกและทั้งร้าวระบมเพราะความรุนแรงที่ต้องจำใจยอมรับแทบทั้งคืนหญิงสาวเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งปรือตามองไปยังหน้าต่างบานใหญ่อันเป็นที่มาของแสงยามเช้าที่ส่องผ่านเข้ามา ปกติแล้วมันจะถูกปิดทึบด้วยผ้าม่านสีเทาเข้มผืนหนาจนแสงแทบจะลอดเข้ามาไม่ได้ด้วยซ้ำ“ตื่นแล้วเหรอคะ ดิฉันมารีย์ค่ะคุณพริม”เป็นหญิงวัยกลางคนท่าทางใจ